1788. สัญญาที่ให้ไว้ไม่มีคำว่าเสียใจ
หวังหลินก้มหน้ามองดูอวกาศที่คุ้นเคยด้านนอกประตูทอง ขบคิดอย่างเงียบงัน
คำพูดของซวนลั่วดังกึกก้องในหูและคงอยู่ไปสักพัก คำพูดของเขาเผยให้เห็น การเตรียมการเข้าสู่แผ่นดินเซียนดาราและผลกระทบที่ตามมา หวังหลินเข้าใจ
“เกิดใหม่…” หวังหลินพึมพำ
“บางทีเพียงไม่กี่ปี บางทีอาจถึงพันปี…คนที่ต้องการออกไปจากโลกถ้ำโดยไม่มีสายโลหิตจำเป็นต้องผ่านสิ่งนี้ทั้งนั้น หลังจากนั้นต่อมาก็จะไปปรากฏตัวที่ไหนสักแห่งบนแผ่นดินเซียนดารา…”
“เมื่อเราเจอกันอีกพันปีถัดมา ข้าจะต้องปลดปล่อยความทรงจำที่ถูกผนึกของแต่ละคน…” หลังจากผ่านไปสักพัก หวังหลินจึงมองไปที่ซวนลั่วและโค้งคำนับอย่างลึกซึ้ง
หวังหลินเข้าใจว่าการต่อต้านกฏแห่งแผ่นดินเซียนดาราเช่นนี้ซวนลั่วต้องแลกกับอะไรไปอีกอย่างที่มหาศาล
“ผู้น้อยไม่รู้ว่าใครจะตัดสินใจออกไปจากโลกถ้ำและมีสักกี่คน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผู้น้อยจะไม่ลืมความเมตตาที่ผู้อาวุโสแสดงในวันนี้!”
หวังหลินโค้งคำนับเบื้องหน้าซวนลั่ว ระหว่างเขามีความสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น มันไม่สามารถอธิบายหรือเข้าใจได้แต่มันมีอยู่ตรงนั้น
“ส่วนเรื่องหวานเอ๋อร์ หากเราไม่สามารถมีชีวิตทั้งคู่ได้ ถึงแม้เราจะตายด้วยกันในประตูออกสู่โลกถ้ำ ข้าก็ไม่มีวันเสียใจ!” คำพูดของหวังหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น คำว่า “ไม่มีวันเสียใจ” ดังกึกก้องในดาราจักร
ไม่เสียใจ!
ไม่เสียใจ!!
ไม่เสียใจ!!!
สองคำนี้เผยจิตใจแห่งเต๋าของหวังหลินมากกว่าสองพันปี! คำพูดนี้เผยโชคชะตาที่เผชิญอยู่นอกทะเลปิศาจเมื่อสองพันปีก่อน
คำพูดนี้ปลดปล่อยความรู้สึกแห่งความรักของหวังหลิน ความห่วงหาและความเศร้าโศกไปพร้อมเสียงคำราม!
นอกจากแม่เขาแล้ว ไม่มีสตรีคนใดในโลกจะมาแทนที่ลี่มู่หวานได้ เขาเผชิญกับความสวยงามในโลกมานักแต่นัก แต่ไม่มีใครมาแทนนางได้!
เขายอมให้ร่างอันละเอียดอ่อนช้อยเต้นระบำไปกับเขาดุจเหล่าผีเสื้อโบยบิน แต่ไม่มีใครแทนที่นางผู้มีเสียงพิณอันไพเราะ!
นี่คือความรักที่เกี่ยวพันหวังหลินมามากกว่าสองพันปี และมันจะไม่จางหายไปจนกระทั่งวันที่หวังหลินตาย! หวังหลินคิดว่าตายเสียดีกว่าหากไม่ได้อยู่ด้วยกัน!
สองคำพูดนี้ดังเข้าไปในหูของปรมาจารย์เต๋าความฝัน ดวงตาหม่นหมองลง เขามองไปในทิศทางของแดนสวรรค์และขบคิดเงียบๆ
ซวนลั่วมองหวังหลินด้วยแววตาเปล่งประกาย เขาได้ยินคำว่า “ไม่มีวันเสียใจ” และพยักหน้า
“การร่ายวิชาก่อกำเนิดและกฎที่เหลือของแผ่นดินเซียนดาราจำเป็นต้องให้ข้าเตรียมการเล็กน้อย หนึ่งเดือนต่อจากนี้จงนำคนที่ต้องการออกไปมาหาข้า และข้าจะร่ายวิชาให้!”
“ส่วนเรื่องเจ้า…นี่คือสิ่งที่เจ้าเลือกเอง…” ซวนลั่วไม่ได้เกลี้ยกล่อม ช่วงระหว่างทดสอบหวังหลินเขาได้เรียนรู้ตัวตนของหวังหลินไปมากมาย เมื่อหวังหลินตัดสินใจแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
‘หวังหลินเหมาะสมกับความต้องการของข้าเป็นอย่างดี เขาเลือกรอพันปีและค้นหาสหายเพื่อปลุกความทรงจำ นี่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง! เขาไม่ต้องการจากไป ตัวคนเดียวแต่ต้องการจากไปพร้อมสหายทั้งหมด นี่สิถึงเป็นคนที่มีเมตตา!’
‘เขาไม่ยอมแพ้ต่อความรัก แม้จะตายไปด้วยกันก็ไม่มีวันเสียใจ!’
‘คนที่มีเมตตาและลึกซึ้งเช่นนี้ หากข้าไม่ละทิ้งเขา เขาจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องเผ่าบัญชาโบราณไปตลอดกาลเมื่อเราแสดงความเมตตาให้กับเขา!’ ดวงตาของซวนลั่วเป็นประกายแสงแวววาว และตัดสินใจขึ้นได้
หวังหลินมองซวนลั่วและโค้งคำนับสามครั้ง หันตัวกลับและจากไป ปรมาจารย์เต๋าความฝันจากไปพร้อมกัน
ส่วนต้าเสิน หลังจากกล่าวอำลาหวังหลิน เขาก็เดินไปยังสุดเส้นขอบฟ้าพร้อมกับขบคิดว่าควรจะออกไปจากโลกถ้ำดีหรือไปเกิดใหม่บนแผ่นดินเซียนดารา
ดาราจักรอันไร้ขอบเขตช่างสวยงาม แต่ในสายตาหวังหลินเขากลับบอกไม่ได้ว่ามันเป็นจริงหรือภาพมายา
ผ่านไปสักพักหวังหลินจึงถอนสายตาออกมาจากดวงดาว พุ่งทะยานผ่านไป เขาไม่ได้ออกไปจากดาราจักรทุกชั้นฟ้าแต่ไปยังที่ที่ดาวตงหลินเคยตั้งอยู่
ดาวเคราะห์ตงหลินพังทลายไปแล้ว เหลือแต่เพียงรอยแยกที่นำทางไปสู่ ดอกไม้แช่แข็งดอกที่สอง ก่อนจากไปมีบางสิ่งที่หวังหลินต้องทำ ที่ตรงนั้นมี เทพโบราณยุนนา หวังหลินสัญญาว่าจะช่วยนางหนีออกมาจากโลกแช่แข็ง
ดาวเคราะห์ตงหลินอยู่ตรงข้ามกับประตูทองในดาราจักรทุกชั้นฟ้า แม้จะอยู่ห่างไกลแต่แสงสีทองก็ยังส่องไปถึงระหว่างทาง ดาราจักรดวงดาวจึงถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทอง
รอยแยกเข้าสู่โลกน้ำแข็งเสมือนรอยแผลในดาราจักรดวงดาว มันกะพริบวาบและบางครั้งก็ปลดปล่อยพลังงานเย็นเข้าสู่ดาราจักรดวงดาวที่ถูกย้อมด้วยแสงสีทอง
ตอนนี้อวกาศด้านนอกรอยแยกเกิดการบิดเบือน หวังหลินปรากฏตัวขึ้นมาพลางมองมาที่รอยแยกและเข้าไปใกล้อีกนิด กลิ่นอายบัญชาโบราณพุ่งเข้าไปในแขน พลางคว้าจับรอยแยกและฉีกกระชากอย่างรุนแรง
ดาราจักรดวงดาวสั่นเทา เพียงหวังหลินคำราม รอยแยกก็ถูกฉีกเปิดออกไปมากกว่าเดิม พลังงานเย็นรั่วไหลออกมาจนเผยให้เห็นแผ่นดินน้ำแข็ง
ดอกไม้แช่แข็งดอกที่สองเป็นเพียงสถานที่เดียวที่ไม่โดนทำลาย แผ่นดินยังถูก แช่แข็งและถึงแม้พลังของซวนลั่วจะหายไปแล้ว น้ำแข็งก็ยังอยู่
หวังหลินยืนอยู่นอกรอยแยก ส่งข้อความผ่านสัมผัสวิญญาณเข้าไปในโลกน้ำแข็ง “ยุนนา! ข้ามารับเจ้า!”
ภายในโลกน้ำแข็ง บนแท่นหินขนาดยักษ์ ยุนนาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองน้ำแข็งที่อยู่ห่างออกไปและยิ้มขึ้น
‘เขามาแล้ว…’ นางหลับตา กลางหน้าผากมีก้อนควันโผล่ออกมา มันหายเข้าไปในน้ำแข็งเบื้องหน้าของนาง
ควันนั้นได้ออกมาจากร่างของนางและเลื่อนลอยไปหาหวังหลิน ไม่นานมันจึงปรากฏตัวตรงทางเข้าสู่ดาราจักรทุกชั้นฟ้า!
นางเห็นหวังหลิน
แต่มีม่านน้ำแข็งกั้นระหว่างทั้งสอง
“ข้าถูกอาจารย์สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องสำนักตงหลิน เพื่อตอบแทนความเมตตานี้ข้าจะทิ้งร่างเทพโบราณไว้ที่นี่และใช้พลังชีวิตเพื่อหล่อเลี้ยงสถานที่แห่งนี้เอาไว้… ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่นี่อีก…”
“ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถช่วยข้าออกไปได้และพาวิญญาณข้าไปด้วย…” ยุนนาส่งข้อความทางสัมผัสวิญญาณออกมา
หวังหลินมองวิญญาณของยุนนาในน้ำแข็งและจึงเข้าใจ ตอนนั้นที่หวังหลินเข้ามาที่นี่ครั้งแรก นางขอให้เขาช่วยแต่ไม่ได้ตัดสินใจจะแยกวิญญาณออกจากร่างกาย
นางรอจนกระทั่งหวังหลินผ่านห้าดอกไม้แปดประตูและเปิดโลกถ้ำขึ้นมาก่อนจะแยกวิญญาณออกมาจากร่าง ไม่มีสิ่งใดผิดแปลกไป อีกทั้งการแยกวิญญาณออกจากร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ นางจึงต้องระมัดระวังอยู่แล้ว
หวังหลินเป็นคนรักษาสัญญาและไม่คิดเรื่องนี้มากนัก ตรงรอยแยกจึงเปล่งพลังบัญชาโบราณเข้าไปในน้ำแข็ง
ลมหายใจของเขานั้นมองไม่เห็นแต่เมื่อสัมผัสกับน้ำแข็งจึงเกิดเสียงแตกร้าว รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมาจำนวนมาก น้ำแข็งพังทลายไปทีละชั้น
เมื่อน้ำแข็งพังทลาย วิญญาณของยุนนาจึงออกมาจากน้ำแข็งได้ทีละเล็กทีละน้อย พอน้ำแข็งพังทลายไปอย่างสมบูรณ์ วิญญาณของนางจึงก่อตัวกลายเป็นรูปร่างของนางเอง นางได้หนีผ่านรอยแตกที่หวังหลินสร้างขึ้น
นางมองดาราจักรดวงดาวด้วยสายตาสงบนิ่งไร้สิ่งใดเจือปน ผ่านไปสักพักจึงโค้งให้กับหวังหลิน
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”
หวังหลินส่งสายตาไปที่วิญญาณของยุนนางและเอ่ยขึ้น “นี่คือคำสัญญาของข้า ถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าตัดสินใจได้หรือไม่ว่าต้องการอยู่ในโลกถ้ำหรือมุ่งหน้าสู่แผ่นดินเซียนดารา! ที่นั่นมีสำนักตงหลินของจริงตั้งอยู่และยังเป็น บ้านเกิดของเจ้านายของเจ้าด้วย”
“หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ไม่มีปัญหา…แต่หากเจ้าต้องการไปยังแผ่นดินเซียนดารา เจ้าต้องทนทุกข์เพื่อรอเกิดใหม่นับพันปี!”
ยุนนาฟังคำพูดของหวังหลินอย่างสงบนิ่ง ขบคิดเล็กน้อย มองดวงดาวตรงหน้าและเอ่ยกระซิบ
“เกิดใหม่ก็ดี…พันปี…ไม่ได้นานนัก…”
หวังหลินเห็นช่วงเวลาอันขมขื่นและความสับสนในอนาคต บางทีการเลือกเกิดใหม่ คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนาง
หวังหลินไม่ได้พูดอะไรอีก เขาสะบัดแขนและเปิดฝ่ามือ ยุนนาค่อยๆ ลอยไปหาหวังหลินจนกระทั่งกลายเป็นก้อนแสงขนาดเท่ากำปั้นอยู่ในฝ่ามือ
หวังหลินเก็บแสงเข้าไปในมิติเก็บของ มองไปยังโลกน้ำแข็งที่ถูกผนึกอีกครั้งและจากไป
อวกาศทั่วทั้งโลกถ้ำเป็นสิ่งที่หวังหลินคุ้นเคย เขาไม่ได้เคลื่อนร่างรวดเร็วนักและมองไปรอบๆ ราวกับค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก่อนจะออกไปจากที่นี่
หวังหลินยังทำสัญญาเดียวกันไว้กับอีกคน นางอยู่ในส่วนลึกของทะเลเมฆา นางชื่อว่า ฟ่านชานลิ่ว
ฟ่านชานลิ่วเป็นสตรีผู้น่าสงสาร นางคือนางสนมอันดับหนึ่งและเป็นน้องสาวของฟ่านชานเมิ่ง แต่นางอยู่ในโลกถ้ำมานานเกินไปและถูกภาพลวงตาของพี่สาวสั่งการให้เอาสัจจะโลหิตของหวังหลินมา
‘นางก็เป็นคนจากแผ่นดินเซียนดารา ดังนั้นนางจึงไม่ต้องเกิดใหม่เพื่อออกไป..’ หวังหลินก้าวทะยานข้ามดาราจักรทุกชั้นฟ้าเข้าสู่ทะลเมฆา มุ่งหน้าไปส่วนลึกของ รอยแยกที่ฟ่านชานลิ่วอยู่
นอกจากการพาฟ่านชานลิ่วไปแล้วยังมีสิ่งหนึ่งที่หวังหลินเกือบลืม เดือนสุดท้ายก่อนจากไปเขาพลันนึกขึ้นได้
เขาได้สัญญากับคนคนหนึ่งไว้ว่าจะได้ร่างที่มีระดับบ่มเพาะ ดวงวิญญาณของคน ผู้นั้นอยู่ในมิติเก็บของของเขามานาน