Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1795

Cover Renegade Immortal 1

1795. ความคิดของจักรพรรดิ ต้นตอของปัญหา

หวังหลินรู้สึกตื่นเต้นในใจ เขามองดูอสูรยุงที่เหลืออยู่สิบตัวพร้อมทั้งราชายุง หวังหลินพุ่งทะยานร่อนลงไปบนศีรษะราชายุง ทั้งยังมีมังกรโลหิตอยู่รอบกาย

“อาจารย์ ขอให้เราเจอกันบนแผ่นดินเซียนดารา!” หวังหลินหันหน้ากลับไปคำนับฝ่ามือให้ซวนลั่ว ราชายุงส่งเสียงร้องดุดันและพุ่งเข้าสู่ส่วนลึกไปกับหวังหลิน

ด้านหลังมีอสูรยุงตัวยักษ์ติดตามมาดุจองครักษ์!

ซวนลั่วมองหวังหลินที่กำลังหายเข้าไปในช่องว่างของน้ำแข็ง ผ่านไปสักพักจึงหลับตาและสะบัดแขน ช่องว่างในน้ำแข็งหดลงและถูกผนึก

‘อสูรคล้ายยุงตัวนั้นหรือจะเป็นหนึ่งในเก้าอสูรที่ถือกำเนิดในกฎแห่งแผ่นดิน เซียนดาราพร้อมบรรพชนโบราณ…หากเป็นเช่นนั้นจริง อนาคตของหวังหลินก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะคาดเดาได้…เขา…อาจกลายเป็นตะวันดวงที่สิบของแผ่นดินเซียนดารา ด้วยตัวเอง!’

‘หากเขากลายเป็นมหาชั้นฟ้าคนที่สิบ เผ่าบัญชาโบราณของข้าจะคงอยู่ไป ตลอดกาล!!’ ซวนลั่วใบหน้าแดงฝาดเล็กน้อย เขาตกตะลึงเรื่องเจ้าอสูรยุงดูดซับ กฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา ตอนนี้ความคิดหลายอย่างแล่นวาบในหัว

ผ่านไปสักพักซวนลั่วจึงเดินไปตามเส้นทางมังกร รอบกายมีดวงตะวันสีโลหิตปรากฏขึ้น มันครอบคลุมรอบๆ และต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา!

แสงตะวันสีแดงโลหิตแทงทะลุออกไปจากน้ำแข็งรอบด้านและส่องสว่างขึ้น เขาใช้วิธีนี้จึงได้ต่อกรกับกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราด้วยตัวเอง!

ตรงกลางระหว่างโลกถ้ำและแผ่นดินเซียนดาราคือความว่างเปล่าไร้ขอบเขตที่มีกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราอยู่ในนั้น มันไม่ได้มีเพียงโลกถ้ำของหวังหลินแต่มีโลกถ้ำทั้งหมดบนแผ่นดินเซียนดารา

นับตั้งแต่ยุคโบราณกาลแล้วมีเหล่าอัจฉริยะของโลกถ้ำได้ค้นพบสัจธรรมนี้หลังจากไม่ยอมรับต่อโชคชะตา พวกเขาใช้กรรมวิธีหลายอย่างจนกระทั่งเข้าสู่ความว่างเปล่าด้านนอกโลกถ้ำได้ แต่ไม่มีคนใดที่เข้าสู่แผ่นดินเซียนดาราได้สำเร็จ ทั้งหมดต่างก็ตายอยู่ที่นี่ เป็นเช่นนี้มาตลอด

เช่นเดียวกัน ผู้คนทรงพลังหลายคนบนแผ่นดินเซียนดาราต่างก็พยายามเข้าสู่พื้นที่ว่างเปล่าแห่งนี้ พวกเขาต้องการทำความเข้าใจกฎที่นี่หรือกระทั่งใช้มันเข้าสู่ โลกถ้ำของสำนักอื่น

บางทีคงมีคนทำได้สำเร็จแต่ก็น้อยมากและหลงทางได้ง่าย ส่งผลให้มีคนน้อยมากที่ได้เข้าไป

บางครั้งหวังหลินก็ได้เห็นซากศพลอยมาทางเขาและพวกมันก็ลอยอยู่ที่นี่ไป ชั่วกาลนาน

‘ความว่างเปล่าแห่งนี้เหมือนท้องทะล…บางทีมันอาจเป็นทะเลที่เต็มไปด้วยกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา…’ หวังหลินนั่งอยู่บนหลังเจ้าอสูรยุง มองไปยังความว่างเปล่าไร้ขอบเขตเบื้องหน้า ไร้เสียง ไร้แสงและไร้ร่องรอยแห่งชีวิต

เป็นสถานที่อันเงียบสงัด!

ผู้คนอาจกลายเป็นบ้าไปจากความเงียบไร้เสียงเช่นนี้ ยิ่งอยู่นานความคิดก็ยิ่งเครียด! แม้คนที่มีจิตใจหนักแน่นยังสงบลงได้ยากยิ่ง

สิ่งสำคัญกว่าก็คือที่นี่หลงทางได้ง่าย เมื่อหลงทางแล้วจะไม่มีวันเจอทางออก แม้จะเห็นประตูก็แค่ประตูถ้ำไปสู่สำนักแห่งอื่น ซึ่งอาจจะไม่สามารถกลับมาได้อีกเลย

เป้าหมายของหวังหลินคือพาวิญญาณของลี่มู่หวานไปกับเขา ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองหลงทางที่นี่

ยิ่งเขาเคลื่อนไปข้างหน้ายิ่งเจอกับกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราที่รุนแรงมากขึ้น มันเป็นแรงกดดันที่มีอยู่ทุกที่ ป้องกันไม่ให้คนก้าวไปข้างหน้า

บางคนใช้พลังของแรงกดดันเพื่อกำหนดเส้นทาง แต่กฎของแผ่นดินเซียนดารามีอยู่ทุกแห่ง นอกจากการยิ่งก้าวไปยิ่งมีแรงกดดันรุนแรงแล้ว มันยังมีสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือเวลา

ยิ่งใช้เวลาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ยิ่งมีแรงกดดันมากขึ้นเท่านั้น

หวังหลินคุ้นชินกับความโดดเดี่ยวอยู่แล้ว คงไม่ต้องกล่าวถึงที่เขามีอสูรยุงมาด้วย เขาบอกตัวเองว่าไม่โดดเดี่ยว ทั้งยังมีมังกรโลหิตรอบกาย นอกจากจะช่วยลดพลังอำนาจของกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา มันยังมีหน้าที่ชี้ทางให้เขาอีก

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆเช่นนี้ เดือนแรกหวังหลินท่องทะยานผ่านไปอย่างสงบนิ่งมาก เขามองดูซากศพที่มักจะปรากฏขึ้นเป็นบางครั้ง สัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่ยินยอมจากร่างศพ

บางทีคนพวกนี้ก็คงเหมือนเขา เหล่าอัจฉริยะของโลกถ้ำ แต่ตอนนี้พวกเขาตายไปแล้วไม่รู้นานแค่ไหน

กาลเวลาผ่านไปหนึ่งปี แม้แต่หวังหลินยังรู้สึกอึดอัดกับความเงียบ เขาไม่ได้พูดมาตลอดทั้งปี ดวงตาชินชากับความมืดมิด ไม่ว่าเขาจะลืมตาหรือหลับตา มันก็เป็นความมืดไร้ที่สิ้นสุด

ตลอดทั้งปีนี้ไม่มีแม้แต่เสียงเดียวเล็ดลอดออกมา ในสถานที่อันลึกลับขนาดนี้แม้แต่เสียงทะยานอย่างรวดเร็วก็ยังไม่มีให้ได้ยิน

เขาไม่รู้ว่าผ่านมาไกลแค่ไหนแล้ว รู้แต่เพียงทิศทางน่าจะถูก มังกรโลหิตรอบตัวเขามืดมนแต่ยังชี้ทางอยู่

หวังหลินไม่รู้ว่าซวนลั่วอยู่ไหน แต่สัมผัสได้ว่าซวนลั่วอยู่ที่ไหนสักแห่งในความว่างเปล่านี้ นำพาสหายเขาไปเกิดใหม่ เขายังช่วยต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราเพื่อให้ผลกระทบไม่รู้สึกรุนแรงเกินไป

ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้หวังหลินเกิดความอบอุ่นในใจ บางครั้งเขาก็มองความว่างเปล่า สีดำด้านหลังเพราะรู้สึกว่าถึงจะเดินไปไกลแค่ไหนก็ยังมองเห็นประตูกลับบ้านเกิด

เสี้ยวพริบตานั้นคล้ายได้มองเห็นมู่ปิงเหมยกำลังถือร่มท่ามกลางสายฝน ใบหน้าใต้ร่มเผยอารมณ์ความรู้สึกที่นางไม่สามารถอธิบายออกมาได้

หวังหลินไม่ได้เกลียดมู่ปิงเหมยอีกแล้ว

หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน…ครึ่งปีได้ผ่านไป หวังหลินที่อยู่มาหนึ่งปี ความจริงก็ควรจะลืมเรื่องทุกอย่างไปแล้ว แต่เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองหลงลืม หากหลงลืมกาลเวลา ก็คงเหมือนกับคนที่พ่ายแพ้ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง

วันนี้คือวันที่ผ่านมาแล้วหนึ่งปีครึ่ง หวังหลินพึมพำ “ยังมีเวลาอีกแปดปีครึ่ง…”

น้ำเสียงแหบพร่าราวกับชายชรา มังกรโลหิตรอบตัวเขาหมองหม่น แม้จะไม่รู้สึกถึงกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารามากนัก ความเร็วของเก้าอสูรด้านหลังได้ชะลอลงเล็กน้อย

วันหนึ่งในปีที่สอง เจ้ามังกรโลหิตแทบจะมองไม่เห็นไปแล้ว มันเพียงชี้ทางอยู่อย่างเลือนลาง ทว่าความสามารถในการขัดขวางกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราได้หายไป

เวลานี้หวังหลินสัมผัสถึงแรงกดดันของกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราได้ชัดเจนเป็นครั้งแรก เขารู้สึกเหมือนภูเขากดทับใส่ร่างกาย

พลังแก่นแท้ของเขาอ่อนแอลงไปด้วยจากกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา และเขาไม่มีวิธีทางฟื้นคืนมาได้ จึงต้องใช้ในเวลาจำเป็นเท่านั้น

นี่คือหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมความว่างเปล่าแห่งนี้จึงน่ากลัว

ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน หากหลงทางหรือติดอยู่ที่นี่ สักวันหนึ่งก็ถึงวันตาย

ปีที่สอง ปีที่สาม ปีที่สี่ผ่านไปด้วยความเงียบงัน ฟังดูรวดเร็วแต่เชื่องช้ามาก

หลายปีที่ผ่านไปนั้นรวดเร็วแต่จิตใจเชื่องช้ายิ่ง สี่ปีเหมือนสี่ร้อยปีสำหรับหวังหลิน ขณะที่แรงกดดันเพิ่มขึ้น หวังหลินต้องการบ่มเพาะแต่ก็ทำไม่ได้

ในความว่างเปล่านั้นดูเหมือนจะมีพลังลึกลับบางอย่างป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตทุกอย่างบ่มเพาะฝึกฝน พวกเขาจึงทำได้เพียงนับเวลาที่ผ่านไปเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความบันเทิงเดียวที่นี่

หวังหลินไม่เจอสิ่งมีชีวิตอื่นใดช่วงสี่ปีนี้ เขาเจอแต่ซากศพของเหล่าเซียนหรือ ซากอสูรดุร้ายเท่านั้น

แม้อสูรยุงเก้าตัวด้านหลังเขาสามารถผสานเข้ากับกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราได้ แม้แต่พวกมันก็เริ่มจะทนไม่ไหวเพราะรู้สึกเหมือนทั่วทั้งดาราจักรกำลังพังทลายอยู่ บนร่างมัน ใบหน้าหวังหลินซีดเซียวไปแล้ว ร่างกายแทบถึงขีดจำกัด

อสูรยุงเก้าตัวถูกเก็บไปในมิติเก็บของของหวังหลินเพื่อช่วยพวกมันไม่ให้ทนทุกข์กับการติดตาม แต่ราชายุงใต้เท้าหวังหลินไม่แสดงทีท่าอึดอัดเลย มันยังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงขณะที่พาหวังหลินไปด้วย

พอปีที่ห้าผ่านมาถึง หวังหลินรู้สึกเหมือนร่างกายจมอยู่ในโคลน แม้กระทั่ง การยกมือขึ้นก็ทำให้เกิดความเจ็บปวด ราวกับเส้นด้ายมากมายขึงร่างกายเอาไว้ แต่เขาก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ นำโลงศพเลี่ยงสวรรค์ออกมาจากมิติเก็บของและแบกมันไว้บนหลัง

มิติเก็บของไม่ปลอดภัยอีกแล้ว การวางมันไว้บนหลังและปกป้องด้วยร่างกายของตัวเองทำให้รู้สึกสบายใจกว่า

หวังหลินเข้าใจว่าตราบใดที่เขาไม่ตาย พลังนี้จะไม่ทำร้ายสิ่งที่อยู่บนหลังของเขาเพราะได้รวบรวมพลังของตัวเองไว้นอกร่างกายให้ปกป้องลี่มู่หวาน

โชคดีที่เขามีอสูรยุงด้านล่าง มันประคองความเร็วเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หากหวังหลินพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเผชิญหน้ากับแรงกดดันและเดินทางต่อไป มันจะยิ่งยากขึ้นมากกว่านี้

ขณะที่หวังหลินพยายามไปให้ถึงแผ่นดินเซียนดารา บนแผ่นดินเซียนดาราตรง ใจกลางเผ่าบัญชาโบราณมีเมืองลอยฟ้าตั้งอยู่ ใจกลางมีตำหนักบัญชาโบราณ ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสูงศักดิ์กำลังยืนอยู่บนตำหนักที่สูงที่สุดพลางมองท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายฝนกำลังจะตก

เขาสัมผัสถึงไข่มุกที่กำลังเปล่งแสงน่ากลัว ข้างในไข่มุกเป็นภาพพร่ามัวและเห็นแต่ร่างเงาของวิญญาณสตรีคนหนึ่งหลับใหลอยู่ข้างใน

‘มหาชั้นฟ้าหายตัวไปนานแล้ว…ฮึ่ม ความจริงก็แค่ใช้เวลาไปกับเซียนในโลกถ้ำนั่น มันต้องแก่ตายไปอยู่แน่!’

‘นอกจากซวนลั่วแล้ว องครักษ์ที่ปกป้องเผ่าบัญชาโบราณได้ก็มีแต่จักรพรรดิผู้นี้เท่านั้น! ข้าอยากเห็นว่าคนที่ไอ้เฒ่านั่นพากลับมาจะเป็นคนแบบไหน…ไม่ว่ามันจะมีสถานะอะไร เมื่อได้เจอข้า มันต้องคุกเข่าคำนับข้า!’

จักรพรรดิบัญชาโบราณกำไข่มุกในมือ แม้ไข่มุกมีความทนทานแต่เพราะเขา กำมันแน่นเกินไป วิญญาณข้างในจึงสั่นเทาราวกับหวาดกลัว

ชายในชุดคลุมสูงศักดิ์ยกแขนขึ้นมามองวิญญาณที่กำลังสั่นเทาพลางพึมพำกับตัวเอง ‘วิญญาณน้อย ทำไมอาจารย์ถึงบอกว่าเจ้าจะเป็นกุญแจสำคัญให้ข้าได้ควบคุมแผ่นดินเซียนดารา…’

‘ช่างมันเถอะ ในเมื่อเจ้าสำคัญขนาดนั้น ข้าจะให้เจ้าเป็นราชินีของข้า! เย่ต้าว ลองผสานวิญญาณดวงนี้กับสตรีทั้งหมดที่เจ้าซื้อมา!’

“น้อมรับคำสั่ง!” ด้านหลังชายในชุดคลุมสูงศักดิ์ มีอากาศบิดเบือนและปรากฏเป็นชายห่อหุ้มตัวเองในสายหมอกสีดำ เขาคุกเข่าอยู่บนพื้นและรับคำสั่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!