บทที่ 571 ราชาหูสั่ว
ในทะเลความว่างเปล่ามีกลุ่มพลังกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดเกิดขึ้นอีกครา ไอพลังในฟ้าดินส่งเสียงดังเลื่อนลั่น กลิ่นอายที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้าทำให้สิ่งมีชีวิตในรัศมีหลายพันลี้หวาดกลัวจนสั่นสะท้าน
ระดับพลังที่แข็งแกร่งนั้นเหมือนกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล พลังของคนทั่วไปไม่สามารถต่อกรได้
“ทำ…ทำไมถึงตามมาทันอีกแล้ว!”
ภายในเรือหลานเหลย บรรดาลูกเรือทั้งหลายสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดที่ใกล้เข้ามาอย่างชัดเจน
ในครั้งนี้
กลิ่นอายของขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงไม่ลังเลแม้แต่น้อย ตรึงที่เป้าหมายแม่นยำกว่าครั้งก่อนหลายเท่า
วูบ~
ทะเลหมอกความว่างเปล่าในระยะใกล้ๆ โดนกะเทาะออกทีละชั้น แสงมารสีเลือดเจิดจ้าอยู่ทั่ว
ในรัศมีสิบลี้เต็มไปด้วยแสงมารสีเลือดที่มีพลังทำลายล้าง ประหนึ่งว่าย้ายร่างไปอยู่อีกสถานที่หนึ่งในพริบตา
ส่วนลึกของทะเลความว่างเปล่า เรือหลานเหลยเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง ยังเก็บซ่อนกลิ่นอาย ทำตัวกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบๆ
ตุบ ตุบ! ตุบ ตุบ!
ลูกเรือภายในเรือและโหลวหลานจื๋อสุ่ยต่างกลั้นลมหายใจ หัวใจเต้นโครมคราม
ภายในตัวเรือ
“พวกเราโดนจับจ้องแล้ว” จ้าวที่นั่งขัดสมาธิอยู่ถอนหายใจยาวแล้วชันกายลุกขึ้น
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ใจก็สั่นสะท้าน
“จ้าวเฟิง! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ด้านล่างนั่น ยังไม่ยอมออกมาให้ข้าจับแต่โดยดีอีก”
เสียงเย็นยะเยือกของบุรุษดังขึ้นจากด้านบนของทะเลความว่างเปล่า
น้ำเสียงเคืองแค้นนั้น จ้าวเฟิงกับโหลวหลานจื๋อสุ่ยต่างคุ้นหูเป็นอย่างดี
เชว้ง! สวบ สวบ…
กลิ่นอายพลังสามกลุ่มก้อนของขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดปรากฏที่ทะเลหมอกความว่างเปล่าเหนือเรือหลานเหลย
หนึ่งในผู้ที่เอ่ยคือบัณฑิตชุดสีฟ้าผู้เป็นหัวหน้าโจรสลัดหลานเหลย
ในสามคน จอมโจรสลัดหลานเหลยยืนอยู่ด้านซ้าย
ฝั่งขวาเป็นชายฉกรรจ์หน้าดำในชุดเกราะดำ กลิ่นอายพลังน่าเกรงขามสูงถึงขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงช่วงปลาย เกือบจะไปถึงขั้นสุดยอด
ส่วนผู้ที่อยู่ตรงกลางเป็น ‘ชายหัวล้านแขนขาด’ ดูเงียบขรึมเยือกเย็น ผิวหนังทั่วร่างมีเส้นพลังสีเลือดสะดุดตา ลำแสงมารสีเลือดซึ่งกระจายรัศมีกว่าสิบลี้มาจากเรือนร่างของเขา
เขาก็คือยอดผู้สูงศักดิ์ขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงผู้นั้น!
“อาศัยพลังของตัวเองเพียงคนเดียวบิดเบือนสภาพแวดล้อมธรมชาติของฟ้าและดิน…นี่คือคนในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง”
ในเวลาดังกล่าว จ้าวเฟิงปลดผนึกพลังสายเลือดของดวงตาซ้ายบางส่วน ภาพเหตุการณ์ด้านบนทะเลแห่งความว่างเปล่าจึงปรากฏขึ้นในครรลองสายตาผ่านดวงตาเทพเจ้า
อีกทั้งภาพเกี่ยวกับชายหัวล้านแขนขาดก็ปรากฏในหัวของโหลวหลานจื๋อสุ่ยด้วย
“ที่แท้ก็เป็นเขา! ผู้นำพันธมิตรสิบโจรสลัดละแวกเขาปาฮวง ราชาโจรสลัดที่ได้รับการยอมรับในเขตทะเลความว่างเปล่า… ‘ราชาหูสั่ว’!”
แล้วโหลวหลานจื๋อสุ่ยก็พูดอะไรไม่ออกอีก
ราชาหูสั่ว!
ผู้นำพันธมิตรโจรสลัดแห่งเขาปาฮวง!
บรรดาลูกเรือในเรือทะเลความว่างเปล่าทั้งใจและกายสั่นระรัว เหมือนเท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนปากเหว ตกใจจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีก
โครม!
หนึ่งในลูกเรือทรุดลงไปนั่งกับพื้น
คิ้วของจ้าวเฟิงขมวดมุ่น เหล่าลูกเรือที่เขาเลือกสรรมาล้วนแต่ใจกล้ากว่าคนธรรมดาทั่วไป
‘ราชาหูสั่ว’ ผู้นี้มีชื่อเสียงขนาดไหนกันแน่ ถึงทำให้คนในเรือของเขาแทบทุกคนหมดหวังและหมดใจสู้ได้
“เขตทะเลความว่างเปล่าเรียกได้ว่าเป็นถิ่นของ ‘ราชาหูสั่ว’ ผู้นำพันธมิตรโจรสลัดคนนี้อยู่แถวทะเลความว่างเปล่าอย่างไร้เทียมทานมาหลายร้อยปี นอกเหนือจากอิทธิพลของสำนักระดับสูงทั้งสาม ยังไม่มีคาราวานค้าขายหรือกำลังคนใดที่เข้าไม่กล้าแตะต้อง”
สีหน้าของโหลวหลานจื๋อสุ่ยตื่นตระหนก น้ำเสียงสั่นเครือน้อยๆ
ในเวลาเดียวกัน
พลังกดดันของขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงจากด้านบนทะเลยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
“เตรียมตั้งรับ!”
จ้าวเฟิงกระโดดขึ้นไปด้านบนหอสังเกตการณ์ ธงสีดำผืนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
“ยอดฝีมือขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงรึ… แม้แต่ ‘จ้าวลัทธิมารจันทราชาด’ ในกาลก่อนยังไม่ทะลวงผ่านขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงเลย”
เจ้าหอโครงกระดูกเอ่ยเสียงขมขื่น
เขาเคยเห็นพลังของ ’จ้าวลัทธิมารจันทราชาด’ ด้วยตาของตัวเองมาก่อน แรงกดดันของ ‘ราชาหูสั่ว’ ผู้นั้นเป็นรองก็เพียงแต่จ้าวลัทธิมารจันทราชาดในตอนนั้น
ด้านบนทะเลความว่างเปล่า
“ผู้นำหู ให้ข้าลงไปแล้วจัดการคนเหล่านั้นเถิด” ชายฉกรรจ์หน้าดำสวมเกราะสีดำ มือถือขวานสำริดสีดำสนิท สีหน้าฉายความอำมหิต
หากจะเอ่ยถึงพลังรบ ชายฉกรรจ์ชุดเกราะดำแข็งแกร่งกว่าจอมโจรสลัดหลานเหลย
“ไม่!”
ราชาหูสั่วเอ่ยเรียบๆ “จัดการปลิดชีพคนที่เหลือเสีย แต่จะต้องจับเป็นจ้าวเฟิงเท่านั้น! ”
เมื่อนึกถึงรางวัลนำจับของทั้งสามสำนักใหญ่ แววตาของ ‘ราชาหูสั่ว’ ผู้สุขุมเยือกเย็นมีความตื่นเต้นจนควบคุมไม่ได้ฉายออกมา
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ในเวลานี้เอง เงาสองร่างก็พุ่งออกจากน้ำ ขึ้นมายังด้านบนของทะเลความว่างเปล่า
“จ้าวเฟิง เจ้าช่างกล้าเสียจริง ออกมาต้อนรับข้าด้วยตัวเองเสียด้วย”
ราชาหูสั่วประหลาดใจไม่น้อย คนทั้งสามล้วนแต่คิดว่าจ้าวเฟิงจะหดหัวอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่า แล้วไม่กล้าออกมาต่อสู้
“ไม่เสียทีที่เป็นผู้นำพันธมิตรสิบโจรสลัด พวกเราหนีออกมาไกลถึงเพียงนี้ยังไล่ตามจนเจอได้”
จ้าวเฟิงจับธงสีดำในมือ แสร้งทำท่าทีตกใจและนับถือ
พูดกันตามความจริง พวกราชาหูสั่วตามเรือแห่งทะเลความว่างเปล่าทันได้อย่างไร…ในตอนนี้จ้าวเฟิงยังคิดไม่ออก
แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้
ทันทีที่โดนคนขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงตามทัน จ้าวเฟิงรู้สึกว่าตนยากจะหนีพ้นแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า…เจ้าหนุ่ม! ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของเรือหลานเหลย ข้ากับเรือลำนี้มีสายสัมพันธ์ระหว่างกันกว่าสองร้อยปี ข้าซ่อมแซมรักษามันด้วยตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน จึงเชื่อมโยงถึงกันและกันมานานแล้ว”
จอมโจรสลัดหลานเหลยหัวเราะอย่างได้ใจ
ราชาหูสั่วพยักศีรษะเห็นด้วย “เรือหลานเหลยมาถึงระดับหนึ่ง จะมีความรู้สึกนึกคิดขั้นต้น กับหัวหน้าเรือที่อยู่ด้วยกันมานาน ขอเพียงแค่ระยะทางไม่ห่างไกลจากกันมากนัก ทั้งสองฝ่ายจะมีสายสัมพันธ์ลึกลับระหว่างกัน”
ที่แท้เป็นเช่นนั้น!
จ้าวเฟิงเพิ่งเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงในฉับพลัน
“สำหรับหัวหน้าเรือของเรือแห่งทะเลความว่างเปล่า นี่ไม่ใช่ความลับอะไร เป็นเพียงความรู้ทั่วไปเท่านั้น!”
ชายฉกรรจ์ชุดเกราะสีดำทำหน้าดูแคลน
ความรู้ทั่วไป?
จ้าวเฟิงและเจ้าหอโครงกระดูกสบตากันแวบหนึ่ง สีหน้าไม่ปกติ
ทั้งสองเดินทางบนทะเลความว่างเปล่า ไม่มีประสบการณ์มากมายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ้าวเฟิงที่เพิ่งเข้ามายังโลกต่างแดนเป็นครั้งแรก
ที่พวกเขาเสียเปรียบเป็นเพราะขาด ‘ความรู้ทั่วไป’ นี่เอง
“จะต้องสังหาร ‘จอมโจรสลัดหลานเหลย’ ผู้นี้ให้ได้” จ้าวเฟิงก็พลันคิดได้ ไอสังหารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อเข้าใจเหตุผลชัดเจนแล้ว จ้าวเฟิงจึงไม่เกรงใจอะไรอีก มือโบกธงสีดำในมือ
พรึ่บ!
เพียงครู่เดียว หุ่นเชิดศพทั้งหกสิบร่างปรากฏขึ้นเรียงรายในกลุ่มหมอกควันสีเทาหนาแน่น
ตูม โครม วูบ~
จ้าวเฟิงโบกธงสีดำสุดแรง พลังอาฆาตของกลุ่มควันโขมง ประหนึ่งแม่น้ำสีดำสนิทไหลทะลักไปยังหัวหน้าโจรสลัดในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั้งสาม
ในพริบตาเดียว ภายในรัศมีหลายร้อยลี้ล้วนแต่โดนพลังของค่ายกลหุ่นเชิดศพกลืนกินไปหมด
“กระดูกเก้าทมิฬ!”
เจ้าหอโครงกระดูกกัดฟันอย่างรุนแรง ใช้พลังทั้งหมดกระตุ้นอาวุธชั้นพิภพ ท่อนกระดูกสีเงินล้อมรอบด้วยประกายเพลิงเผาผลาญ พร้อมเงากระดูกมรณะเป็นชั้นๆ
มันร่วมกับค่ายกลหุ่นเชิดศพของจ้าวเฟิงม้วนกลืนราชาหูสั่วและคนในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั้งหมดเข้าไป
“อ๊ะ!” ราชาหูสั่วเผยอาการตกใจเล็กน้อย
ฟิ้ว โครม พลั่ก!
ชายฉกรรจ์เกราะดำกับโจรสลัดหลานเหลยที่อยู่ข้างกายเขาเหมือนโดนจู่โจมวุ่นวายจนเสียแผน ไม่มีกะจิตกะใจจะโจมตี
พลังของ ‘ค่ายกลหุ่นเชิดศพต้องสาป’ นั้นไปไกลเกินกว่าที่คาดคิดไว้ในตอนแรก มันพยายามโจมตีทุกช่องทาง พลังทั้งหมดสามารถคุกคามผู้สูงศักดิ์ธรรมดา ทันทีที่ร่างกายเข้าไปพัวพันจะลำบากอย่างมาก
‘กระดูกเก้าทมิฬ’ ของเจ้าหอโครงกระดูกถูกกระตุ้นจนถึงขีดสูงสุด เมื่อมีพลังค่ายกลหุ่นเชิดศพเพิ่มขึ้น พลังสังหารจึงมากกว่าที่ผ่านๆ มา
“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหนุ่มนั่นจะมีวิธีการเช่นนี้…”
จอมโจรสลัดหลานเหลยที่บาดแผลสาหัสยังไม่หายดี ยังโดนพลังอาฆาตของหุ่นเชิดศพกัดกร่อน ผลกระทบที่ได้รับจึงรุนแรงอย่างมาก เลือดเนื้อและจิตวิญญาณสูญสลายไปทีละน้อย
การประมือครั้งสองครั้งเพิ่งผ่านไป จอมโจรสลัดหลานเหลยและชายฉกรรจ์สวมเกราะสีดำก็เป็นฝ่ายโดนโจมตีเสียแล้ว
‘ราชาหูสั่ว’ ผู้เป็นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงเพียงคนเดียวยืนนิ่งอยู่ที่เดิม บนร่างมีพลังของฟ้าและดินที่ยากจะเปรียบ ลำแสงสีเลือดรูปร่างมังกรล้อมรอบทั่วร่างกาย พลังคำสาปยังไม่ทันได้เข้าใกล้ ก็โดนกระแทกจนแตกกระจาย
ภาพเหตุการณ์นี้ล้วนแต่อยู่ในสายตาของจ้าวเฟิง ใจเขาหนักอึ้ง
ราชาหูสั่วยังไม่ทันลงมือก็สร้างความกดดันให้คนทั้งสองเสียแล้ว
“ให้ข้าเอง” น้ำเสียงต่ำของราชาหูสั่วดังขึ้นในทะเลหมอก
พรึ่บ พรึ่บ!
จอมโจรสลัดหลานเหลยและชายฉกรรจ์เกราะสีดำมีสีหน้ายินดี ย้ายตำแหน่งไปอีกพื้นที่หนึ่งในระหว่างประมือ
“ทำลาย!”
ราชาหูสั่วเดินไปหนึ่งก้าว วาดมือครั้งหนึ่ง
อ๊าก~
อากาศในรัศมีหลายสิบลี้อาบด้วยลำแสงมารสีเลือด ไอสวรรค์ฟ้าดินกับสภาพแวดล้อมในอากาศจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงราวพลิกแผ่นดิน
ราชาหูสั่วคนนั้นราวกับอยู่บนจุดสุดสูงของโลกนี้ ยามเขาลงมือให้ความรู้สึกดุจเปลี่ยนสุริยันและจันทราได้
ตูม โครม!
พื้นที่บนทะเลหมอกความว่างเปล่าราวกับโดนสัตว์ดุร้ายเขย่าจนสั่นสะเทือน
ในวินาทีนั้นเอง
จ้าวเฟิงและเจ้าหอโครงกระดูกในค่ายกลหุ่นเชิดศพหายใจลำบาก รู้สึกราวกับตนเป็นมดปลวกที่พยายามจะสู้กับจักรวาลที่ยิ่งใหญ่นี้
โครม บึ้ม!
พลังคำสาปอาฆาตแค้นที่หนาแน่นค่อยๆ ถูกกะเทาะออกทีละชั้น กลุ่มหมอกควันหุ่นเชิดศพที่เกิดจากค่ายกลพลันกระจัดกระจายเหมือนใกล้จะสลายไป
“เป็นการโจมตีที่น่ากลัวเหลือเกิน!”
จ้าวเฟิงโดนพลังที่หลงเหลือปะทะจนเลือดซ่านกระเซ็น
“พวกเจ้าจับตัวเจ้าหนุ่มคนนั้น ส่วนข้าจะจัดการโครงกระดูกก่อน”
ราชาหูสั่วยังลงมืออย่าง ‘ระมัดระวัง’ อยู่ส่วนหนึ่ง ด้วยเหตุผลหลักคือกังวลว่าจะทำร้ายจ้าวเฟิง
สามสำนักระดับสูงให้รางวัลนำจับจ้าวเฟิงเป็นผลประโยชน์มหาศาล ขนาดผู้นำพันธมิตรโจรสลัดยังไม่อาจต้านทานความเย้ายวนนี้ได้
“เจ้าหนุ่ม! เกรงว่าเจ้าคงยังไม่เข้าใจว่าคนที่เผชิญหน้าอยู่เป็นศัตรูประเภทใด” จอมโจรสลัดหลานเหลยทำหน้าสัพยอก
“ฮ่าฮ่า…คนหนุ่มเช่นเจ้าช่างกล้าได้กล้าเสียนัก! เจอคนในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดยังกล้าเสนอหน้ามาสู้รบด้วยอีก”
รอยยิ้มชายฉกรรจ์ชุดเกราะดำแฝงแววเยาะเย้ย
เวลานี้
ค่ายกลหุ่นเชิดศพต้องสาปเกือบจะโดน ‘ราชาหูสั่ว’ โจมตีจนพังทลาย จ้าวเฟิงจึงสูญเสียการป้องกันไปมากกว่าครึ่ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงปลาย พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงอยู่เพียงขั้นนายเหนือแท้ระดับสูง ต่อให้เขามีอาวุธชั้นพิภพก็เหมือนไร้พลัง ไม่ใช่คู่ต่อสู้แต่อย่างใด ยังดีที่ขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั้งสามเกรงว่าจะพลาดไปฆ่าจ้าวเฟิง จึงยั้งมือไว้
โครม คราม!
เสียงดังโครมครามดังมาจากอีกฟากหนึ่ง
“จ้าวเฟิง! ช่วย…ช่วยข้าด้วย!”
เจ้าหอโครงกระดูกร้องโหยหวนทรมานหลังโดนเงามังกรสีเลือดสองเส้นพัวพันรัดร่างกลางอากาศ
ฉึก ผัวะ พลั่ก~
ร่างกระดูกสีทองเงินที่ไขว้ไปมาของเจ้าหอโครงกระดูกเกิดรอยแตกร้าวขึ้น
จ้าวเฟิงหน้าตกใจจนหน้าเสีย คิดไม่ถึงว่าเจ้าหอโครงกระดูกจะพ่ายแพ้รวดเร็วแบบนี้ เพิ่งไม่เท่าไหร่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเสียแล้ว
ต้องรู้ว่า โครงกระดูกทั่วร่างของเจ้าหอโครงกระดูกหลอมรวมกับ ‘กระดูกเก้าทมิฬ’ ระดับความแข็งแรงของกระดูก รวมไปถึงพลังป้องกันเพิ่มขึ้น สามารถจะต้านทานการโจมตีของผู้สูงศักดิ์ธรรมดาได้
นี่ขนาดว่าเจ้าหอโครงกระดูกมีร่างกายแข็งแกร่งจากการหลอมด้วยศาสตร์แห่งซากศพ ถ้าเป็นผู้สูงศักดิ์ธรรมดา เลือดเนื้ออาจจะระเบิดเป็นจุณไปนานแล้ว
โครม เปรี๊ยะ!
ร่างกระดูกของเจ้าหอโครงกระดูกใกล้จะระเบิดแหลกลาญแล้ว
“ไม่อาจรั้งรอได้แล้ว…”
ทันใดนั้น จ้าวเฟิงสูดลมหายใจ
ทว่าวินาทีดังกล่าว การโจมตีพัวพันจากผู้สูงศักดิ์อีกสองคนทำให้เขายากจะรักษาตัวรอดได้
“เบิกเนตร!”
จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาซ้ายและเส้นผมกลายเป็นสีน้ำเงินในทันที