บทที่ 576 กลืนกิน
ฟุ่บ สวบ!
เรือหลานเหลยพุ่งทะลวงผ่านคลื่นเข้าไปในทะเลหมอกความว่างเปล่า ความเร็วเพิ่มขึ้นในฉับพลัน
พรึ่บ พรึ่บ สวบ…
วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าหลายตัวด้านหลัง ส่วนหัวของมันโผล่ขึ้นบนอากาศ ทว่ากลับชนโดนแต่ความว่างเปล่า
วาฬที่อยู่ใกล้ที่สุดไม่กี่จั้ง ขนาดตัวของมันสามารถกลืนเรือทั้งลำเข้าไปได้ในคำเดียว
สวบ…
เรือแห่งทะเลความว่างเปล่าพุ่งสู่ทะเลหมอก แล้วทิ้งระยะห่างกับวาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าพวกนั้นทีละน้อย
ใต้ท้องทะเลลึก วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าได้เปรียบกว่ามาก แต่เมื่อเข้าสู่ทะเลหมอกก็ไม่ใช่ถิ่นที่อยู่ของสัตว์ทะเลอีกต่อไป
วาฬกว่าสิบตัวพุ่งทะยานขึ้นมาบนทะเลหมอก แต่กลับไล่ตามเรือหลานเหลยไม่ทัน
ฟู่! บรรดาลูกเรือในเรือหลานเหลยต่างถอนหายใจยาวอย่างอดไม่ได้
“เมื่อเข้ามาในทะเลหมอกแล้ว วาฬพวกนี้คงยากจะตามทัน” เหล่าลูกเรือและโหลวหลานจื๋อสุ่ยที่ควบคุมเรือแห่งทะเลความว่างเปล่ายังคงอกสั่นขวัญแขวนกับเหตุการณ์เมื่อครู่
เจอวาฬทะเลความว่างเปล่านั่นเพียงหนึ่งหรือสองตัวก็ยังพอไหว หากจ้าวเฟิงและเจ้าหอโครงกระดูกร่วมมือกันพยายามมากหน่อยย่อมสามารถรับมือได้
แต่ถ้าหากพบกับ ‘ฝูง’ ของวาฬทะเลความว่างเปล่าคงเป็นเรื่องที่น่ากลัวเลยทีเดียว
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอ ‘วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่า’ ที่เป็นสัตว์ทะเลในตำนาน”
“ตามบันทึกว่าไว้ วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่ามีขนาดใหญ่ อายุยืนยาว ทั้งร่างกายถือเป็นของล้ำค่า แต่สิ่งที่ทรงคุณค่าที่สุดก็คือ ‘เลือดหัวใจวาฬ’ ”
“เลือดหัวใจวาฬ?” เหล่ากะลาสีถกเถียงกัน แววตาตื่นเต้นเป็นประกายมองไปที่วาฬหลายตัวด้านหลังที่ยังไล่ตามไม่เลิกรา
จ้าวเฟิงได้ยินเรื่องดังกล่าวจึงเกิดความสนใจ
หากพูดถึงเรื่องชีวิตและร่างกาย วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าที่โตเต็มวัยจะมีพลังรบพอๆ กับผู้สูงศักดิ์ ระดับขั้นชีวิตสูงส่งกว่า ‘หอคอยจิตวิญญาณพฤกษา’
คิดถึงในยามก่อน
ผลประโยชน์ที่จ้าวเฟิงได้มาจากหอคอยจิตวิญญาณพฤกษานั้นมากมายเหลือคณา จึงยากจะคาดคะเนมูลค่าบนร่างของ ‘วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่า’ นี้
“เลือดหัวใจวาฬ เป็นแก่นแท้โลหิตที่อยู่ในหัวใจและอวัยวะของ ‘วาฬทะเลความว่างเปล่า’ เลือดดังกล่าวกระจายไปทั่วร่าง มีผลในการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกาย ถึงขั้นที่สามารถเพิ่มระดับขั้นของชีวิตได้ ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลว ถ้าหากว่าคนในขั้นนายเหนือแท้ได้ใช้แล้วล่ะก็ จะส่งผลต่อชีวิตและกายา ฝึกตนเพียงเล็กน้อยแต่ผลที่ได้รวดเร็วราวติดปีกบิน”
โหลวหลานจื๋อสุ่ยหันไปอธิบายเรื่องผลที่ได้จาก ‘เลือดหัวใจวาฬ’ กับจ้าวเฟิง
เมื่อจ้าวเฟิงได้ยิน แววตาจ้องมองที่วาฬหลายตัวด้านหลังก็มีประกายลุกวาบ
ลองคิดดูว่าสัตว์ทะเลที่ใหญ่โตมโหฬารแบบวาฬแห่งทะเลความว่างเปล่า จะมีแหล่งพลังของหัวใจแข็งแกร่งมากขนาดไหน
‘เลือดหัวใจวาฬ’ คือแก่นแท้โลหิตในหัวใจและอวัยวะภายในของวาฬ มีลักษณะสำคัญเหมือน ‘แก่นแท้จิตวิญญาณพฤกษา’ ของหอคอยจิตวิญญาณพฤกษา แต่ที่ไม่เหมือนกันคือแก่นแท้จิตวิญญาณพฤกษาให้ความช่วยเหลือเฉพาะกับวิญญาณ
แต่เลือดหัวใจวาฬนี้ส่งผลต่อพลังชีวิต ร่างกาย และการฝึกตนเป็นหลัก
“พลังวิญญาณกับสำนึกรู้จิตวิญญาณของข้าแตะไปถึงขั้นผู้สูงศักดิ์แล้ว สิ่งที่ขาดไปเพียงอย่างเดียวคือระดับการฝึกตนที่ไม่เพิ่มขึ้น”
ใจของจ้าวเฟิงเต้นระรัวอย่างฉับพลัน ประโยชน์ของเลือดหัวใจวาฬช่างดึงดูดใจเขายิ่งนัก ของชิ้นนี้นับว่าเหมาะสมกับเขาจริงๆ!
“แล่นช้าลงสักหน่อย” จ้าวเฟิงตัดสินใจแล้วจึงถ่ายทอดคำสั่งลงไป
ถ้าหากว่าเรือทะเลความว่างเปล่าบินเร็วเกินไป วาฬหลายตัวด้านหลังจะช้าหรือเร็วก็โดนสลัดทิ้งอยู่ดี
“รับทราบ” โหลวหลานจื๋อสุ่ยรับคำสั่ง
นางเข้าใจความหมายของจ้าวเฟิง จึงลดความเร็วของเรือลงอย่างระมัดระวัง
ในเวลาดังกล่าว ยังมีวาฬทะเลความเปล่าอีกสี่ห้าตัวที่ตามเรือมาติดๆ
“รอสลัดทิ้งไปสักสามตัว เหลือแค่ตัวสองตัวเมื่อใดก็จะลงมือได้แล้ว” จ้าวเฟิงลองใช้ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณตรวจสอบสถานการณ์ด้านหลัง
หลังจากการเผชิญหน้ากับภยันอันตรายในครั้งก่อน ตอนนี้ขนาดจะใช้ดวงตาเทพเจ้าสอดแนมก็ยังไม่กล้าใช้โดยง่าย ส่วนมากจะใช้ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณเสียมากกว่า
ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณย่อมไม่อาจเทียบเท่ากับการสอดส่องของดวงตาเทพเจ้า แต่ว่าผู้สูงศักดิ์บางส่วนโดยมากก็เป็นเช่นนี้
เมื่อเวลาผ่านไป
สวบ!
เรือหลานเหลยบินลอยล่องในทะเลหมอก รักษาระยะห่างกับวาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าเอาไว้
ครึ่งช่วงยามหลังจากนั้น
“นายท่าน ‘วาฬแห่งทะเลความว่างเปล่า’ พวกนี้ประหนึ่งว่ามีสติปัญญา มันรักษาระยะห่างไว้ แต่ก็ไม่ทิ้งระยะไปไกล” โหลวหลานจื๋อสุ่ยเอ่ย
สีหน้าของจ้าวเฟิงแข็งกระด้าง เขาเองก็มองออกเช่นกัน
วาฬทะเลความว่างเปล่าที่โตเต็มวัยตัวหนึ่ง เขาร่วมมือกับเจ้าหอโครงกระดูกน่าจะเอาชนะได้ แต่ถ้าหากมีสองตัวน่าจะกินแรงอยู่บ้าง
หากยอดฝีมือในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดเผชิญหน้ากับวาฬทะเลความว่างเปล่าสี่ห้าตัวก็คงต้องหลบหลีกเหมือนกัน
ในเวลานี้เอง
ครืน~
ทะเลความว่างเปล่าในบริเวณใกล้ๆ มีคลื่นสาดซัดรุนแรง ก่อให้เกิดเสียงดังโครมครามสะเทือนฟ้าดิน
“เสียงอะไรกัน!” ลูกเรือภายในเรือเลือดกายปั่นป่วน จวนจะยืนมั่นคงไม่ได้แล้ว
หืม? จ้าวเฟิงใจเต้นถี่ ร่างกายหนักอึ้ง สูดหายใจลึกก็รู้สึกถึงความอันตราย
ฟุ่บ โครม…
เขาเตรียมจะใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบ ในทะเลด้านล่างก็มีคลื่นยักษ์ถาโถมขึ้นมา พร้อมหอบเอาแรงกดดันที่ไม่อาจต้านทานได้มาด้วย
“แย่แล้ว! รีบหนีเร็ว!”
ประสาทสัมผัสของจ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงเงาของวาฬสีน้ำเงินเทาภายในคลื่นยักษ์เบื้องล่าง ‘ปากขนาดใหญ่’ สีดำบนศีรษะที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำสามารถกลืนภูเขาลูกเล็กลงไปได้
ใจของเหล่าลูกเรือภายในเรือเต้นถี่ กายสั่นระรัว รู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจ
ฮู~
กลิ่นอายของสัตว์ทะเลตัวมหึมาทำให้ไอสวรรค์ในพื้นที่ละแวกใกล้ๆ ไหลวนมารวมกันเป็นพื้นที่ไร้ขอบเขต
สวบ!
เรือหลานเหลยพยายามบินขึ้น ทว่า ‘ปากขนาดใหญ่’ ของเงาสีเทาน้ำเงินด้านล่างมีแรงสูบมหาศาล จนเกิดเป็นน้ำวนขนาดกว่าครึ่งลี้
แรงดึงดูดที่น่ากลัวนี้ทำให้ความเร็วของเรือหลานเหลยลดลงไปอย่างรวดเร็ว
โครม ตูม!
เงาสีเทาน้ำเงินใหญ่ยักษ์พุ่งออกมาจากทะเล ร่างมโหฬารยาวเกือบสิบลี้ เป็นวาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าที่มีขนาด ‘ใหญ่กว่ามาก’ !
เฮือก!
เหล่าลูกเรือสูดลมหายใจเย็นเฉียบ ดวงตาของโหลวหลานจื๋อสุ่ยเบิกกว้าง ตะลึงงันไปหมด
ยามเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตเบื้องหน้า เรือหลานเหลยแทบจะไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย อีกทั้งยังโดนวาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าอ้าปากดูดกลืนเข้าไปทีละน้อย
“อ๊าก…” เหล่าคนในเรือทะเลความว่างเปล่าร้องเสียงดัง ในครรลองสายตาค่อยๆ โดนบดบังด้วยความมืดมิดอย่างหนึ่ง
พรึ่บ ตุบ สวบ…
เรือทะเลความว่างเปล่าเข้าไปภายในร่างของ ‘วาฬยักษ์’ แล้วหมุนคว้าง เหล่าคนในเรือชนกันจนล้มระเนระนาด
มีเพียงแค่จ้าวเฟิงที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สายตาเย็นชาครุ่นคิดบางอย่าง
เมื่อดูดซับกลิ่นอายของห้วงฝันบรรพกาลเข้าไป ร่างกายและสายเลือดของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมามาก หากจะพูดถึงพื้นฐานร่างกาย ตอนนี้เขาเทียบเท่ากับผู้สูงศักดิ์ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแล้ว ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ เขาจึงยังรักษาสมดุลเอาไว้ได้
“ ‘วาฬยักษ์แห่งทะเลความว่างเปล่า’ ตัวนี้ แข็งแกร่งกว่าวาฬธรรมดาที่โตเต็มวัยหลายเท่าตัว อย่างน้อยๆ น่าจะอยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิด พลังชีวิตไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่ากี่เท่าตัว เกรงว่าน่าจะใกล้ขั้นขอบเขตปราณเทวะเสียด้วยซ้ำไป”
ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณของจ้าวเฟิงตรวจสอบไปทั่ว
หากพูดถึงขนาด เจ้าวาฬยักษ์ตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าวาฬก่อนหน้านี้เป็นเท่าตัว!
“เกรงว่านี่คงเป็นจ่าฝูงของวาฬทะเลความว่างเปล่า”
โหลวหลานจื๋อสุ่ยหัวเราะอย่างขมขื่น
จ้าวเฟิงใช้เวลาตรวจสอบอยู่นาน สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้น
พลังรบของวาฬยักษ์ตัวนี้แข็งแกร่งเกินกว่าราชาหูสั่วหรือยอดผู้สูงศักดิ์ปาฮวงเสียอีก
“วาฬทะเลมีร่างกายใหญ่โต ต่อให้ใช้ ‘เนตรพิฆาตผ่านอากาศ’ ก็คงเล่นงานไม่ถึงจุดตายของมัน”
ใจของจ้าวเฟิงหนักอึ้ง
ยกตัวอย่างเช่น ในส่วนของหัวใจอาจใหญ่กว่าห้องธรรมดาห้องหนึ่งมาก น่าจะพอๆ กับหอในพระราชวังเลยทีเดียว แต่เนตรพิฆาตของจ้าวเฟิงยาวเพียงสามชุ่นเท่านั้น ถ้าหากว่าเป็นสสารหรือพลังงานที่ใหญ่มากเกินไป จ้าวเฟิงก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมิติได้
ยาวสามชุ่น!
สำหรับวาฬยักษ์แห่งทะเลความว่างเปล่าที่มีพลังชีวิตและร่างกายมหาศาล การโจมตีในระดับขั้นนี้ก็เหมือนนิ้วเป็นรอยขีดข่วนเท่านั้น
เนตรพิฆาตผ่านอากาศเป็นวิชาสายเลือดดวงตาที่แข็งแกร่งที่สุดของจ้าวเฟิง สามารถสังหารยอดฝีมือในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดจำนวนมากได้
แต่ว่าในโลกนี้ไม่มีเคล็ดวิชาที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!
ขนาดของ ‘วาฬยักษ์แห่งทะเลความว่างเปล่า’ เป็นอุปสรรคต่อการใช้ ‘เนตรพิฆาตผ่านอากาศ’ และยังไม่สามารถใช้เคล็ดวิชาโดยส่วนมากด้วย
ชั่วเวลานั้น จ้าวเฟิงตกอยู่ในภวังค์อย่างรวดเร็ว
ปุด ปุด ปุด~
เรือแห่งทะเลความว่างเปล่าหมุนคว้างหลายตลบเข้าไปภายในก้อนเมือกเหนียวหนืด
“แย่แล้ว! นั่นคือน้ำย่อยของวาฬ!” โหลวหลานจื๋อสุ่ยเอ่ยเสียงต่ำ
น้ำย่อย?
ครั้นประสาทสัมผัสของจ้าวเฟิงออกไปสำรวจ ก็สัมผัสได้ถึงพลังการย่อยสลายที่รุนแรงยิ่ง
หากว่าคนในขั้นนายเหนือแท้โดนเมือกดังกล่าวเพียงเล็กน้อยก็จะโดน ‘ย่อยสลาย’ อย่างรวดเร็ว
“สัตว์ทะเลในทะเลความว่างเปล่า ส่วนมากมักจะกลืนมนุษย์และสัตว์อสูรตัวเป็นๆ หรือแม้กระทั่งเรือเป็นลำ แล้วค่อยจัดการย่อยสลายภายในร่างกาย” ลูกเรือคนหนึ่งเอ่ย
แซ่ด แซ่ด~
ของเหลวเหนียวหนืดนั่นห่อหุ้มเรือทั้งลำไว้ โหลวหลานจื๋อสุ่ยและเหล่าลูกเรือพยายามสารพัดวิธี แต่ก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนอะไรได้ น้ำเมือกเหนียวหนืดเกาะติดตัวเรืออย่างลึกล้ำ จนกระทั่งสามารถ ‘ตรึง’ เรือเอาไว้
“นายท่าน พวกเราควรจะทำอย่างไร?” โหลวหลานจื๋อสุ่ยจนปัญญา ใบหน้าถอดสี
สีหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งขรึมลง ชูมือขึ้นนำเจ้าหอโครงกระดูกออกมา
ทุกคนร่วมกันปรึกษาและคาดการณ์
ความรู้ความเข้าใจของจ้าวเฟิงที่มีต่อทะเลความว่างเปล่าและเหล่าวาฬนับว่าขาดไปบางส่วน
“เรือจะทนไปได้อีกนานเท่าไหร่?”
ตอนดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงสอดส่องครั้งแรก พบว่าเรือหลานเหลยมีร่องรอยโดนกัดกร่อนช้าๆ
“วัสดุที่ใช้สร้างเรือหลานเหลยมาจากทะเลความว่างเปล่า ทานทนต่อการโดนกัดกร่อน ส่วนในเรื่องการป้องกันก็สามารถต้านรับกับผู้สูงศักดิ์ธรรมดาได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
“แต่ว่าน้ำย่อยของวาฬทะเลความว่างเปล่าก็ไม่ใช่ธรรรมดาเลย” เหล่าผู้คนเริ่มถกเถียงกันอีก
สุดท้ายแล้ว บรรดาผู้คนก็ลงความเห็นกันว่า “เรือหลานเหลยน่าจะทนได้มากที่สุดอยู่ที่หนึ่งเดือน”
“ถ้าหากว่ามีผลึกเริ่มต้นเพียงพอ ตั้งค่ายกลป้องกันในระยะยาว น่าจะยืดเวลาได้ยาวนานถึงสองสามเดือน” บรรดาเหล่าลูกเรือแยกไปทำหน้าที่กันอย่างแข็งขัน
ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั้นภายนอกของเรือหลานเหลยถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีฟ้า ใช้ต้านทานน้ำย่อยในอากาศ
“ท่านหัวหน้าเรือ พลังของน้ำที่เหนียวหนืดนี่แข็งแกร่งมากนัก ค่ายกลสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว เกรงว่าจะต้องเสียผลึกเริ่มต้นเป็นจำนวนมาก” โหลวหลานจื๋อสุ่ยเอ่ยบอกอย่างรีบร้อน
“วางใจเถอะ สถานการณ์คงที่แล้วค่อยว่ากัน” จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ ไม่ได้มีวี่แววของความตื่นเต้นใดๆ
เขาออกมาจากซากปรักหักพังสือเฉิงในครั้งนี้ ได้เอาทรัพยากรต่างๆ มาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงผลึกเริ่มต้นที่ล้ำค่าทั้งหลายด้วย
ปุด ปุด ตูม…
เจ้าวาฬยักษ์แห่งทะเลความว่างเปล่ามุดดิ่งลงในทะเลลึก ทุกที่ที่มันผ่านไป ปากกว้างใหญ่เหมือนหลุมดำจะกลืนกินสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมากโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด ในทะเลความว่างเปล่าแห่งนี้ วาฬยักษ์ตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
“นายท่าน ด้วยพื้นฐานของข้ามีความหวังเพียงห้าหกส่วนเท่านั้นที่จะทำลายก้อนน้ำย่อยนี้ กระทั่งจะหนีออกไปได้หรือไม่ ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลย” เจ้าหอโครงกระดูกเอ่ย
จ้าวเฟิงถอนหายใจ ร่างกายของเจ้าหอโครงกระดูกประกอบขึ้นจากกระดูก เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วยังสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนด้วย
ถ้าหากว่าเขายังไม่มีหวัง คนอื่นก็คงจะหนีรอดออกไปได้ยากยิ่งกว่า
เวลาครึ่งชั่วยามผ่านไป วาฬยักษ์แห่งทะเลความว่างเปล่าตัวนี้ก็ดำดิ่งลงสู่ห้วงมหาสมุทร
ผลัวะ ผลัวะ! โครม ตู้ม!
ในห้วงทะเลลึก คลื่นน้ำสาดซัดเสียงดังสนั่น
ในละแวกนั้นปรากฏกลิ่นอายของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่มากมาย จำนวนของวาฬทะเลความว่างเปล่าเพิ่มขึ้นไม่หยุด
สิบกว่าตัว…หลายสิบตัว…หลายร้อยตัว!
“…ดูเหมือนพวกเราจะเข้ามาอยู่ภายในฝูงวาฬแห่งทะเลความว่างเปล่าเสียแล้ว”