บทที่ 708 เนตรเพ่งมรณะ
เวินลั่วอันและราชาอินหยางย่อมไม่หยิ่งจองหอง
คิดจะเก็บจักรพรรดิปราณเทวะไว้หนึ่งคน ถึงแม้ว่าจะเป็นจักรพรรดิที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม
ใจของจักรพรรดิมู่อวิ๋นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทุกข์โศกไร้หนทางระบาย
เขาเลียริมฝีปากเล็กน้อย แล้วแย้มรอยยิ้มที่เยาะเย้ยและโหดเหี้ยม จ้องมองคนทั้งสองรวมไปถึง องครักษ์ที่เป็นเหมือนเงาดำส่วนหนึ่งบนเรือสำเภามรณะอย่างตึงเครียด
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาจึงเกิดความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนล่วงรู้ข้อมูลของคนเหล่านี้จากที่ไหนมาก่อน
“คนผู้นี้มีเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับจ้าวเฟิง จะต้องเก็บเขาเอาไว้” ราชาอินหยางและเวินลั่วอันสบตากัน
จักรพรรดิมู่อวิ๋นโดนทำร้ายจากเนตรพิฆาตผ่านอากาศของจ้าวเฟิงที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายพลังดวงตาที่แกร่งกล้า แถมยังเจือกลิ่นอายพลังมรณะด้วย
ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันแล้วตัดสินใจได้ในทันที
พรึ่บ! พรึ่บ!
คนทั้งสองล้วงเอาตราคำสั่งมรณะพิเศษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกัน
ตราคำสั่งนั้นมีกลิ่นอายโบราณลึกล้ำ ดำมืดดั่งสีหมึก บนพื้นผิวสลักตราโบราณเป็นอักษรคำว่า ‘ตาย’ ซ้ำยังสาดซัดกลิ่นอายมรณะที่ทะลวงผ่านวิญญาณออกมา
ดวงวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นสัมผัสได้เพียงความเย็นยะเยือก เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างที่อธิบายไม่ได้ ตราคำสั่งมรณะที่มืดมิดสองแผ่นกระจายพลังมรณะออกไปกักตัวจักรพรรดิมู่อวิ๋นเอาไว้
“ตราคำสั่งนี่ หรือว่าจะเป็น…”
จักรพรรดิมู่อวิ๋นเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างออก หน้าเปลี่ยนสีในทันที
ชั่วพริบตาต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตื่นตกใจ
วิ้ง~
ตรงกลางของตราคำสั่งมรณะสองแผ่น แต่ละแผ่นปรากฏนัยน์ตาดำมืดลึกล้ำหนึ่งดวง ข้างในคือน้ำวนที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง จุดแสงสีขาวที่เต้นระเร่าน้อยๆ ราวกับเชื่อมต่อกับโลกความตายไม่มีที่สิ้นสุด
“เนตรมรณะ!”
จักรพรรดิมู่อวิ๋นตกใจจนร้องเสียงหลง การคาดเดาที่เกิดขึ้นภายในใจที่ไม่สงบกลายเป็นความจริงขึ้นมา
ในวินาทีนี้ ราชาอินหยางและเวินลั่วอันใช้ตราคำสั่งมรณะทั้งสองแผ่นดึงพลังของเนตรมรณะออกมา กลิ่นอายมรณะของมันแข็งแกร่งกว่ายามปรากฏที่ซากปรักหักพังสือเฉิงหลายสิบเท่า อีกทั้งคุณลักษณะยังต่างกัน
ครั้งก่อน ตอนที่เนตรมรณะปรากฎขึ้นกลางซากปรักหักพังสือเฉิง จะเป็นพลังของตัวตราคำสั่งเองมากกว่าที่สามารถเชื่อมโยงกับ ‘เนตรมรณะ’ ของจักรพรรดิแห่งความตาย
เพราะว่าในตัวของตราคำสั่งมรณะเองก็มีพลังที่แข็งแกร่งของจักรพรรดิแห่งความตายเก็บกักไว้เป็นจำนวนมาก
และในตอนนี้ ราชาอินหยางและเวินลั่วอันใช้มันเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงข้ามระยะทางกับ ‘เนตรมรณะ’ ของจักรพรรดิแห่งความตายโดยตรง
จักรพรรดิมู่อวิ๋นใจเย็นวาบ รู้สึกประหลาดไปเองว่าไม่สามารถควบคุมความเป็นความตายได้
แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิปราณเทวะ เขาไม่ได้ถอยหนีไปแม้แต่น้อย
ตามทฤษฎีแล้ว จักรพรรดิแห่งความตายกับเขามีพลังฝึกตนพอๆ กัน เพียงแต่ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงจักรพรรดิที่เก่าแก่ในตำนาน แล้วยังเป็นผู้สืบทอดสายเลือดเนตรมรณะ
“เหอะ! จักรพรรดิแห่งความตาย! เจ้าปรากฏตัวออกมาสิ บางทีข้าอาจจะถอยให้ก็ได้ แต่ว่าเนตรมรณะของเจ้าทำได้เพียงแค่เชื่อมต่อข้ามระยะทางกับที่แห่งนี้เท่านั้น”
จักรพรรดิมู่อวิ๋นหัวเราะเสียงเย็น พลังของดวงวิญญาณเกือบจะเผาไหม้จนเกิดเป็นพลังที่มีอานุภาพแข็งแกร่ง
ราชาอินหยางและเวินลั่วอันที่อยู่อีกฟากล้วนแต่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ดวงวิญญาณสั่นระริก
ยังดีที่ตราคำสั่งมรณะในมือให้ความมั่นใจกับพวกเขาว่ายังมีโล่คุ้มครองจากจิตวิญญาณอยู่
กึก เคร้ง!
ตราคำสั่งมรณะสองแผ่นนั้นแตกกระจายในทันที
จากนั้นสองเนตรมรณะที่ลึกล้ำมืดสนิทประหนึ่งหุบเหวลึกแห่งความตาย ก็ขยายใหญ่ออกเป็นพันเป็นหมื่นเท่าในทันที เหมือนกับดวงตาข้ามระยะทางของจ้าวเฟิง
“เนตรเพ่งมรณะ!” เสียงคลุมเครือดังก้องไปถึงในชั้นดวงวิญญาณ
‘เนตรมรณะ’ ที่ข้ามผ่านระยะทางมาเย็นเฉียบไร้ความรู้สึก เพ่งมองไปที่จักรพรรดิมู่อวิ๋นอย่างเงียบเชียบ
“เป็นไปได้อย่างไรกัน…” จักรพรรดิมู่อวิ๋นรู้สึกว่าดวงวิญญาณเหมือนถูกกักขังเอาไว้จนควบคุมตัวเองไม่ได้
พละกำลังทั่วร่างกายของเขาคล้ายถูกผนึกเอาไว้ ยากจะขยับเขยื้อนได้
‘เนตรมรณะ’ ขนาดใหญ่ทั้งสองดวงบนฟ้าเหนือศีรษะ ด้านในมีน้ำวนลึกทะมึนหมุนวนขยายออกไป
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” จักรพรรดิมู่อวิ๋นพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ร้องคำรามด้วยความตกใจ
แต่ทว่าการต่อสู้ที่ครั้งใหญ่ผ่านมา ทำให้โลกมิติส่วนตัวแตกละเอียด ไอสวรรค์ได้รับบาดเจ็บหนัก เขามีกำลังรบในระดับสุดยอดเพียงห้าหกสิบส่วนเท่านั้น
การต่อสู้ดิ้นรนของเขา เห็นได้ชัดว่ากำลังใจสวนทางกับกำลังกาย
กายจิตวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นค่อยๆ ใหญ่โตขึ้นจนคล้ายพระพุทธรูป ในระหว่างการดิ้นรนก็ถูกพลังที่ไร้รูปร่างดึงออกมาจากร่างกาย
นั่นก็คือดวงวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋น
พรึ่บ!
วิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นถูก ‘เนตรมรณะ’ ที่ข้ามระยะทางมาดูดกลืนเข้าไปในน้ำวนมืดทะมึนไร้ก้นบึ้ง
“เนตรเพ่งมรณะ! นี่เป็นท่าไม้ตายชื่อดังในสายเลือดดวงตาของท่านอาจารย์ ด้วยพลังดวงวิญญาณระดับสูง ดวงวิญญาณของเป้าหมายที่ด้อยกว่าผู้ใช้วิชาจะถูกพรากเอาดวงวิญญาณไป”
ในแววตาของเวินลั่วอันฉายแววเคารพยำเกรง
วิชาดวงตาวิญญาณอย่างเนตรเพ่งมรณะประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นวิชาต้องห้าม เป็นดั่งตัวแทนของเทพแห่งความตาย
แต่ว่าหากจะพูดอีกแง่ จักรพรรดิแห่งความตายก็คือตัวแทนของ ‘เทพแห่งความตาย’ นี่เอง
เพราะว่าผู้เป็นนายของเนตรมรณะก็คือเทพแห่งความตาย
แต่ว่านั่นคือบรรพบุรุษผู้ครอบครองเนตรมรณะ มีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แทบไม่เคยปรากฏในชางไห่มาก่อนด้วยซ้ำ
เหนือศีรษะขึ้นไป รูปร่างสมจริงของเนตรมรณะขนาดใหญ่ชะงักไปหนึ่งถึงสองช่วงลมหายใจ อับแสงลงไปจนถึงขีดสุด แล้วจึงหายวับไปกับตา
“แสดง ‘เนตรเพ่งมรณะ’ ข้ามผ่านกลุ่มดินแดนหลายแห่ง เป้าหมายก็ยังเป็นถึงราชันปราณเทวะ ค่าตอบแทนที่เสียไปนั้นเกรงว่าจะ…” ราชาอินหยางย่นหัวคิ้วเล็กน้อย
ผ่านไปได้สักพักใหญ่
วิ้ง!
ในมือเวินลั่วอันปรากฏตราคำสั่งมรณะที่ใช้ติดต่อสื่อสารขึ้นแผ่นหนึ่ง
“ร่องรอยของจ้าวเฟิงนั่นอยู่ที่หุบเขาสิบแปดยอด มรดกดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัด…”
เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูอ่อนแอลอยออกมาจากภายในตราคำสั่ง
หุบเขาสิบแปดยอด? มรดกจักรพรรดิราชาโจรสลัด!
เวินลั่วอันและราชาอินหยางดวงตาเป็นประกาย ดูเหมือนหลังจากจักรพรรดิแห่งความตายเอาวิญญาณของ ‘จักรพรรดิมู่อวิ๋น’ ไปได้แล้วจะสอบถามเพื่อค้นหาเบาะแสของจ้าวเฟิง
แต่ว่าเพื่อสิ่งนี้แล้ว จักรพรรดิแห่งความตายเองก็จ่ายค่าชดเชยไปเป็นจำนวนมาก
ถึงแม้จะมีตราคำสั่งมรณะพิเศษสองแผ่นเป็นตัวนำ แต่ระยะทางที่เนตรมรณะก้าวข้ามมาไกลอย่างยิ่ง จุดมุ่งหมายก็คือจักรพรรดิปราณเทวะที่มีระดับพลังเดียวกัน ทำให้สิ้นเปลืองพลังไปมหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ ‘เนตรเพ่งมรณะ’ ได้สำเร็จลงแล้ว จักรพรรดิแห่งความตายก็ยังต้องซักถามดวงวิญญาณของจักรพรรดิมู่อวิ๋นอีก
“สภาพจิตใจกับพลังดวงตาของข้าสิ้นเปลืองแรงไปมากมาย จะต้องพักฟื้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน พวกเจ้าคอยจับตาดูเป้าหมายไปก่อน…”
เสียงของจักรพรรดิแห่งความตายค่อยๆ รางเลือนหายไป
เวินลั่วอันและราชาอินหยางสบตากัน แล้วเกิดความรู้สึกสงสัยเกิดขึ้นในใจ
เพราะเหตุใดจักรพรรดิแห่งความตายถึงยืนกรานต้องการตามฆ่าจ้าวเฟิง แล้วยังอยากให้มีร่างศพหลงเหลืออยู่
เพื่อตามฆ่าจ้าวเฟิงแล้ว จักรพรรดิแห่งความตายยอมลงแรงและกำลังคนไปมากมาย ซึ่งมีต้นทุนแพงมหาศาล
ทั้งหมดนี้มันคุ้มค่าแล้วหรือ?
ณ หุบเขาสิบแปดยอด ใจกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด
หลังจากโศกนาฏกรรมการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ ราชาโจรสลัดมากมายได้รับบาดเจ็บ ต่างรู้สึกโชคดีที่ตนผ่านวิกฤตความตายมาได้
หลังการต่อสู้ในครั้งนี้ ราชาโจรสลัดเหล่านั้นมองจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ไม่มีใครสงสัย จ้าวเฟิงมีคุณสมบัติในการจะแย่งชิงบัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัดกับราชาฉลามยักษ์ และราชาเหมันต์จันทรา
ขนาดเด็กน้อยครึ่งเซียนที่อยู่ข้างกายจ้าวเฟิงก็ยังสามารถทำให้คนเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ตราคำสั่งโจรสลัดกว่าสิบแผ่นลอยขึ้นกลางอากาศของมหาสมุทรความว่างเปล่า
ตามกฎมรดกจักรพรรดิโจรสลัด มีตราคำสั่งโจรสลัดเก้าแผ่นจะสามารถเปิดมรดกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดได้
แต่ในตอนนี้ จำนวนของตราคำสั่งโจรสลัดเกินเงื่อนไขต่ำที่สุดมามากแล้ว
ตราคำสั่งโจรสลัดหนึ่งในนั้นกับจ้าวเฟิงและเรือหุ่นเชิดศพก็เชื่อมต่อกันอย่างแนบแน่น
ทุกๆ ตราคำสั่งโจรสลัดหนึ่งแผ่น ล้วนปักหลักบนเรือโจรสลัดในตำนานหนึ่งลำ
ตัวของเรือหุ่นเชิดศพเดิมถูกออกแบบมาให้เป็นเรือโจรสลัดและมีชีวิตจิตใจ ดังนั้นจึงได้รับการยอมรับจากตราคำสั่งราชาโจรสลัด
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเรือ จ้าวเฟิงจึงกลายเป็นหนึ่งในราชาโจรสลัด
เปรี้ยง!
ในมหาสมุทรความว่างเปล่า เกิดความรู้สึกสะเทือนจากการที่พื้นผิวโลกสั่นไหว
ความรู้สึกสะเทือนนั้นมาจากพื้นที่หุบเขาสิบแปดยอดอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด
ด้วยพลังมหาศาลระดับนั้น ขนาดขอบเขตปราณเทวะก็ยังรู้สึกได้บ้างเล็กน้อย
“แผนการที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นเพียงมรดกของจักรพรรดิปราณเทวะผู้หนึ่งจริงๆ หรือ?”
สำนึกรู้และประสาทสัมผัสของจ้าวเฟิงกลายเป็นของเล็กจ้อยไม่สำคัญ
เมี้ยว เมี้ยว~
ไม่รู้ตอนไหนที่เจ้าแมวขโมยตัวน้อยปรากฏขึ้นบนไหล่ ดวงตาสองข้างเปล่งประกาย
“ ‘มรดกจักรพรรดิโจรสลัด’ นี่ไม่ธรรมดาเลย”
เด็กน้อยครึ่งเซียนครุ่นคิด
ความรู้สึกสั่นสะเทือนต่อเนื่องเป็นเวลาสิบแปดช่วงลมหายใจทีเดียว
ในเวลาเดียวกัน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด อาณาเขตเล็กๆ ของหุบเขาสิบแปดยอดปะทุแสงเขียวเข้มทะลวงขึ้นฟ้าพร้อมกัน ราวกับจะฝืนชะตาฟ้า ราวกับอยู่เหนือสรรพสิ่งใดๆ ในจักรวาลนี้
และแน่นอนว่ามีแต่ต้องมองลงจากเบื้องบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอดที่กว้างใหญ่ไพศาล มิฉะนั้นก็ยากที่จะสัมผัสถึงอานุภาพที่รุนแรงนี้
“ปรากฏออกมาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ
โครม โครม เปรี้ยง!
ใจกลางของมหาสมุทรความว่างเปล่าเกิดน้ำวนลูกใหญ่สูงพันจั้ง ใจกลางน้ำวนค่อยๆ ปรากฏแสงสว่างสีเขียวเข้มออกมา สาดกระจายกลิ่นอายที่เก่าแก่ประหนึ่งพุ่งผ่านอีกฟากฝั่งของดวงดาว
“ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งยิ่ง หรือนี่จะเป็นทางเข้าของมรดกโจรสลัด?” เด็กน้อยครึ่งเซียนหรี่ตาลงเล็กน้อย
ในใจกลางคลื่นใหญ่สูงพันจั้ง วังน้ำวนลึกลับเหมือนกับมีพลังบางอย่างที่คงอยู่เป็นนิรันดร์
“ทางเข้านี้…เกรงว่าต่อให้เป็นจักรพรรดิปราณเทวะก็ต้องโดนตัดร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย” จ้าวเฟิงตกใจจนพูดไม่ออก
อีกทั้งลำแสงสีเขียวเข้มที่อยู่ใจกลางน้ำวนยักษ์นี้ ชวนให้รู้สึกเหมือนเคยประสบพบเจอมาก่อน ซึ่งคล้ายคลึงกับกลิ่นอายในความทรงจำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงต่างกันอยู่
“ทุกคนออกเดินทาง!”
เรือรบลำใหญ่ของราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์ออกนำไปก่อน ตรงดิ่งไปที่น้ำวนของใจกลางคลื่นยักษ์นั่น
ที่น่าแปลกใจก็คือเรือรบของพวกเขามีโล่พลังลี้ลับ พลังที่น่ากลัวของน้ำวนลูกยักษ์ไม่อาจสร้างความเสียหายให้ได้แม้แต่น้อย
“น่าสนใจยิ่งนัก” จ้าวเฟิงมองออกว่าเป็นประโชน์จากตราคำสั่งโจรสลัดที่ซึ่งมีกลิ่นอายผสานรวมกับเรือ
เรือหุ่นเชิดศพเองก็มีระลอกของกลิ่นอายที่คล้ายมีคล้ายไม่มี แต่หลังจากที่เข้าใกล้น้ำวนลูกยักษ์แล้วก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
นี่ยังเกี่ยวโยงกับโครงสร้างทั้งหมดทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดเช่นกัน
จ้าวเฟิงยิ่งประหลาดใจ เพียงแค่กำลังของจักรพรรดิโจรสลัดผู้หนึ่งก็สามารถวางหมากที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ได้เลยหรือ?
สวบ!
เรือหุ่นเชิดศพทะลวงเข้าไปยังใจกลางของน้ำวนลูกยักษ์พร้อมกันกับเรือโจรสลัดในตำนานพวกนั้น
เรือที่เข้าไปในน้ำวนลูกยักษ์นั้นได้มีเพียงเรือที่มีตราคำสั่งโจรสลัดที่สามารถเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิ รวมไปถึงเรือที่ได้รับการยอมรับเท่านั้น
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ในขณะเดียวกัน ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ตราคำสั่งโจรสลัดแผ่นอื่นๆ อีกหลายแผ่นที่กระจายอยู่ทั่วก็หมุนวนเข้าไปน้ำวนลูกยักษ์นั่นด้วยพลังของฟ้าและดิน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของมรดกจักรพรรดิโจรสลัด ทุกครั้งหลังจากที่เปิดออกแล้ว ตราคำสั่งราชาโจรสลัดสิบแปดแผ่นก็จะถูกจัดสรรใหม่อีกครั้ง
จ้าวเฟิงผ่อนลมหายใจออกมา
ราชาเหมันต์จันทราไม่ได้หลอกตน เมื่อเป็นเช่นนี้ อิสระของเรือหุ่นเชิดศพก็จะไม่โดนจำกัดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดอีกต่อไป
ในขณะที่เรือหุ่นเชิดศพเข้าไปในน้ำวนลูกยักษ์ เจ้าแมวขโมยน้อย เด็กน้อยครึ่งเซียน และเจ้าหอโครงกระดูกก็ไม่โดนต่อต้านหรือได้รับผลกระทบใด
แต่เดิมพวกเขาถือเป็นส่วนหนึ่งของเรือทะเล จึงถูกนับว่าเป็นลูกเรือโจรสลัด
สุดท้ายแล้วเรือที่เข้ามาในน้ำวนลูกยักษ์ได้สำเร็จมีเพียงสิบสองลำ
ส่วนเรือที่เหลือไม่ว่าจะมีวัสดุแข็งแรงแค่ไหน ค่ายกลป้องกันแข็งแกร่งเท่าไหร่ ล้วนแต่โดนน้ำวนลูกยักษ์ซัดให้แตกกระจายย่อยยับไปในพริบตาเดียว
ต่อให้เป็นจักรพรรดิปราณเทวะก็ไม่อาจทะลวงผ่านน้ำวนลูกยักษ์ไปได้ เกรงว่าถึงดันทุรังเข้าไปได้ หากว่าไม่มีหัวใจของความเป็นโจรสลัด ก็ยากที่จะได้รับโอกาสช่วงชิงเอามรดกมา
นี่เป็นมรดกของโจรสลัดเท่านั้น!
ตูม!
น้ำวนลูกยักษ์นั่นกลายเป็นใจกลางของพลังฟ้าดินในหุบเขาสิบแปดยอด หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศของมหาสมุทรความว่างเปล่า
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
เรือสำเภามรณะสีทองลำหนึ่งลอยละลิ่วมาตามคลื่นลม หยุดอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับน้ำวนลูกยักษ์