บทที่ 729 แก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์
สนามรบสำนักสองดาวแห่งนี้ เป็นดินแดนเกาะแห่งหนึ่งที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งในกลุ่มดินแดนมังกรสีชาด
ดินแดนเกาะดังกล่าว ไม่ว่าจะจำนวนประชากรหรือว่าสำนักต่างๆ ล้วนแต่มากกว่าสองเท่าของทวีปบุปผาคราม
ขั้วอำนาจสำคัญในการสู้รบครั้งนี้คือสำนักสองดาวสามแห่ง รวมไปถึงสำนักหนึ่งดาวสิบแปดแห่งที่ถูกลากเข้ามาด้วย
สถานการณ์ของกลุ่มดินแดนมังกรสีชาดคล้ายคลึงกับดินแดนเกาะเทียนหลู
หนึ่งในสำนักสองดาวสามแห่งนั้นแตะไปถึงระดับสองดาวครึ่ง มีนามว่า ‘สำนักมารเทียนซิง’ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับสำนักสองดาวที่เหลือ
ในเวลานี้เอง บริเวณอากาศเหนือสนามรบ
ฟากของสำนักมารเทียนซิงมีราชันปราณเทวะสองคน
หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สวมชุดคลุมสีดำ บริเวณหว่างคิ้วมีสัญลักษณ์รูปดาวสีดำเข้มเปล่งประกายวิบวับ ร่างอยู่ท่ามกลางชั้นพลังสีนิล
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำใช้พลังของตนเองเพียงคนเดียวปะทะกับราชันในขอบเขตปราณเทวะอีกสองคนด้วยท่าทีสบายๆ
“พลังฝึกตนของ ‘เจ้าลัทธิมารเทียนซิง’ ผู้นี้ผ่านขอบเขตปราณเทวะช่วงปลายไปแล้ว พลังไม่น่าจะต่างจากราชันในระดับสุดยอดเท่าไหร่”
ราชันทั้งสองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังตกที่นั่งลำบาก ผู้หนึ่งเป็นผู้เฒ่าผมสีขาว ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นโฉมสะคราญในชุดขาว
เจ้าลัทธิมารเทียนซิงเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักมารเทียนซิง แล้วยังเป็นยอดฝีมือในขอบเขตปราณเทวะที่โดดเด่นของกลุ่มดินแดนมังกรสีชาด
“เขตแดนดารามาร!”
เห็นเพียงแขนเสื้อคลุมของเจ้าลัทธิมารเทียนซิงโบกสะบัดไหวๆ แล้วอากาศว่างเปล่าด้านหน้าก็โดนเขตแดนดารามารที่มืดมิดปกคลุมไปหมด
โครม! เพี๊ยะ เพี๊ยะ——
ในเขตแดนมิติปรากฏดวงดาราสีดำมืดมิดดวงหนึ่ง มันเปล่งลำแสงเพลิงดารามารออกมาเป็นเส้นสายเพื่อกดดันผู้เฒ่าผมขาวและโฉมสะคราญชุดขาว
นอกจากนี้
ในฟากฟ้าของดินแดนภายใน ยังมีสตรีสวมชุดนางกำนัลผู้มีใบหน้างดงามอย่างยิ่งของสำนักมารเทียนซิง ชั้นไอสีดำมืดหมุนวนรอบกายนาง พลังสายมารที่ยิ่งใหญ่ตรงดิ่งไปยังราชานักกระบี่ผู้หนึ่ง
“ราชากระบี่เทียนหลิว!”
สตรีชุดนางกำนัลจากสำนักมารยิ้มกว้างจนเห็นฟัน “ ‘กลุ่มพลังไร้อำพราง’ ของข้าถนัดการยืมแรงศัตรูโจมตีศัตรู การโจมตีของเจ้าถึงจะสูงส่งกว่านี้สามส่วนก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ครึ่งวันต่อจากนี้ เจ้าจะไม่มีกำลังสำรองต่อแน่ หรือบางทีอาจไม่ต้องรอนานขนาดนั้น ทางฟากของเจ้าสำนักน่าจะจัดการปัญหาทางนั้นได้”
“เช่นนั้นก็ลองดู!”
ราชากระบี่ไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดดังกล่าว วิถีกระบี่ของเขาหนักแน่นราวหินผา ลำแสงกระบี่ที่ไหลเย็นราวกับทางช้างเผือกทะลวงผ่านท้องฟ้า อานุภาพรุนแรงเกินจะเปรียบ
โครม โครม!
‘กลุ่มพลังไร้อำพราง’ ของสตรีลัทธิมารไม่มั่นคงไปชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าของนางจึงเปลี่ยนสีไป
ที่แท้จริงแล้ว ราชากระบี่เทียนหลิวผู้นี้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของกลุ่มดินแดนมังกรสีชาด เป็นราชันเพียงผู้เดียวที่ฝึกฝนศาสตร์แห่งกระบี่
โครม โครม โครม——
บนพื้นดินของดินแดนภายใน กองทัพหลักในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดต่อสู้จนผืนดินแหลกละเอียด พายุหมุนรุนแรงปรากฏขึ้นทั่วสารทิศ ฝุ่นธุลีลอยคละคลุ้ง
ในดินแดนเกาะธรรมดา ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดคือผู้สูงศักดิ์ไร้เทียมทานซึ่งอยู่ในจุดสูงสุด
ราชันจำนวนหนึ่งปะทะกันกลางอากาศ กลิ่นอายทรงพลังจนทำให้เหล่าผู้สูงศักดิ์ต้องใจสั่นระรัว ไม่กล้าจะเข้าใกล้
ในวินาทีเดียวกัน
ณ ทะเลความว่างเปล่าภายนอกดินแดนมีเสียงแหวกอากาศลอยมา
สวบ!
เรือหุ่นเชิดศพลำหนึ่งเข้าไปยังเขตชายแดนสนามรบของสำนักสองดาว
เขตชายแดนตรงภายนอกดินแดนมียอดฝีมือในระดับยอดผู้สูงศักดิ์ที่ยังสู้รบกันอยู่ รวมไปถึงเรือขนส่งทรัพยากรส่วนหนึ่งด้วย
“ใครกัน!” การมาถึงของเรือหุ่นเชิดศพดึงดูดความสนใจของสำนักสองดาวแห่งหนึ่ง
เมี้ยว เมี้ยว!
บนเรือหุ่นเชิดศพ มีแมวตัวน้อยสีเทาตัวหนึ่งปักธงโครงกระดูกผืนใหญ่ขึ้นมา
“เรือโจรสลัดงั้นหรือ?”
เหล่ายอดฝีมือที่กำลังประมือกันในพื้นที่แห่งนี้มีสีหน้าตื่นตกใจและแปลกประหลาด
กองกำลังโจรสลัดทั่วไปเมื่อเจอสำนักสองดาวจะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อเจอสนามรบของสำนักสองดาว ยอดฝีมือทั่วไปล้วนหลบหนีไม่ทัน
เหตุการณ์ในวันนี้กลับทำลายกรอบความคิดของพวกเขาลง
เมื่อเจอสนามรบสำนักสองดาว เรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพลำนั้นไม่เพียงแต่ไม่หลบหนีไปไกล แต่ว่ายังกระตือรือร้นจะบุกเข้ามา
“ขัดขวางเรือโจรสลัดลำนั้นเอาไว้!”
ยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงผู้หนึ่งนำกำลังคนประมาณสิบกว่าคนตรงดิ่งมาทางเรือโจรสลัด พลังฝึกตนต่ำสุดอยู่ในขั้นนายเหนือแท้ระดับสูง
พู่ วิ้ง!
บนเรือหุ่นเชิดศพ หมอกเพลิงปีศาจที่หนาแน่นทะลักออกมา ด้านในยังปรากฏดวงตาสีแดงก่ำดูดุร้ายนับร้อยคู่ มันปลดปล่อยพลังอาฆาตจิตวิญญาณที่น่ากลัวออกมาโจมตี
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก…”
ยอดฝีมือในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้ จิตวิญญาณของแต่ละคนก็สูญสลาย กระทั่งดวงวิญญาณยังกระจัดกระจายออกไป
เรือหุ่นเชิดศพจึงไร้ผู้ขัดขวาง!
กองกำลังกลุ่มนี้กลายเป็นกองเลือดในพริบตาเดียว จิตและวิญญาณภายในนั้นโดนค่ายกลร้อยศพดูดซับไป
เมี้ยว เมี้ยว!
มองเห็นเพียงแมวขโมยตัวหนึ่งและเด็กน้อยครึ่งเซียนผู้หนึ่ง ทะยานผ่านอากาศไปเก็บเกี่ยวทรัพย์สมบัติบางส่วนอย่างว่องไว
แน่นอนว่ามีเพียงอาวุธจากคู่ต่อสู้ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดเท่านั้น เด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยตัวน้อยจึงจะลงมือเก็บมา
ภายในห้องหัวหน้าเรือ
จ้าวเฟิงนั่งสังเกตเหตุการณ์ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ พลางดื่มเหล้าที่เซียนบ่มไว้จากห้องบ่มสุราครึ่งเซียน
“คนทั้งหมด มอบอาวุธมา ข้าอาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้า” เด็กน้อยครึ่งเซียนร้องตะโกน
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยโบกธงโครงกระดูกพลางตะโกนลั่น
ทั้งสองลอยอยู่เหนืออากาศบนหมอกเพลิงหุ่นเชิดศพ ค่ายกลร้อยศพไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งสองแม้แต่น้อย
“มีแบบนี้ที่ไหนกัน! เป็นแค่โจรสลัดผู้หนึ่งแต่กลับจะปล้นพวกเราสำนักมารเทียนซิง”
คนในกองทัพสำนักมารพุ่งเข้ามาอย่างกราดเกรี้ยว
ผู้นำเป็นยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงสองคน ที่เหลือเป็นผู้สูงศักดิ์ธรรมดาเจ็ดแปดคน
ค่ายกลที่จัดกระบวนเช่นนี้สามารถทำลายสำนักหนึ่งดาวที่แข็งแกร่งพินาศได้อย่างสบายๆ
แต่ทว่า
นัยน์ตาสีแดงก่ำอำมหิตจำนวนร้อยคู่ภายในเพลิงหมอกควันหุ่นเชิดศพ ทันทีที่จ้องมองก็ทำให้ไอวิญญาณของบรรดายอดฝีมือสำนักมารแต่ละคนแหลกสลาย ตกใจจนดวงวิญญาณแตกกระเจิง
ในเมื่อไม่มีแรงจะต้านทาน กองทัพนี้จึงกลายมาเป็นอาหารของค่ายกลหุ่นเชิดศพ
“ฮ่าฮ่า…สนามรบสำนักสองดาวแห่งนี้เป็นสนามอาหารบำรุงที่ดีเยี่ยมเหลือเกิน” เจ้าหอโครงกระดูกยิ้มเจ้าเล่ห์
ต่อจากนั้น ในทุกแห่งที่เรือหุ่นเชิดศพผ่านไป ยอดฝีมือในสำนักหนึ่งดาวสองดาวเพียงแค่ได้ยินเสียงก็ต้องอกสั่นขวัญหาย
เรือหุ่นเชิดศพนั้นก็ว่องไวเกินจะเปรียบ ยอดฝีมือในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหลบหนีไม่ได้แม้แต่น้อย
“มอบอาวุธมา แล้วจะไว้ชีวิตเจ้า!” เด็กน้อยครึ่งเซียนตะเบ็งเสียง
“นายท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเรายอมแล้ว…”
ผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหลายคนตกใจจนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ทรุดลงคุกเข่าบนพื้น แล้วจึงมอบสิ่งของ รวมไปถึงสมบัติมีค่าและอาวุธศักดิ์สิทธิ์บนร่างให้อย่างว่านอนสอนง่าย
สายตาของเด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยตัวน้อยฉับไว ยอดฝีมือเหล่านั้นซ่อนของใดๆ ไม่ได้เลย
ผลสุดท้าย
ผู้สูงศักดิ์ที่ยินยอมส่งมอบอาวุธจึงสามารถเอาชีวิตรอดไปได้
ส่วนคนที่ขัดขืนไม่มีใครรอด ต้องตกเป็นอาหารบำรุงของค่ายกลร้อยศพทั้งหมด
ในเวลานั้น
สนามรบของดินแดนภายในเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น
ทุกที่ที่เรือหุ่นเชิดศพแล่นผ่านจะเกิดความโกลาหลไปหมด มนุษย์ทุกผู้ล้วนแต่รับรู้ได้ว่าตนเองตกอยู่ในอันตราย
ยังดีที่จุดมุ่งหมายของเรือหุ่นเชิดศพคือการฉกชิงสิ่งของ ไม่ได้ต้องการปลิดชีพผู้ใด เพียงแค่มอบสิ่งของให้ก็จะรอดชีวิตไปได้
ในตอนแรก เรือหุ่นเชิดศพแค่คอยเสาะหาทรัพย์สมบัติอยู่ภายนอกสนามรบ
หลังจากที่แล่นเรือไปมาตรงรอบนอกสนามรบแล้ว เรือหุ่นเชิดศพจึงมุ่งเข้าไปสู่ใจกลางสนามรบของดินแดนภายในที่เปลี่ยนจุดไปมา
“เรือโจรสลัดจากที่ไหนกัน ใจกล้าเสียเหลือเกิน!”
บนอากาศนอกดินแดน ราชันในขอบเขตปราณเทวะหลายคนที่กำลังสู้รบกันอยู่สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
เห็นเพียงเรือหุ่นเชิดศพลำนั้นที่ไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย ไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม ฉกชิงสมบัติมาตลอดทาง
ราชันในขอบเขตปราณเทวะหลายคน เดิมทีนึกว่าเรือโจรสลัดลำนั้นเพียงแค่ฉวยโอกาสปล้นแถววงนอกของสนามรบเท่านั้น
แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เมื่อเรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพปล้นชิงสมบัติที่วงนอกเสร็จสิ้น ก็ยังขยับเข้ามาในใจกลางของสนามรบ เหมือนว่าอยากจะปล้นชิงทั่วทั้งพื้นที่
“เป็นโจรสลัดของฝ่ายใดกันแน่ ยังไม่รีบไปจับมันอีก!”
ในใจกลางสนามรบ ครึ่งก้าวสู่ราชันผู้หนึ่งกับยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหลายคนพุ่งตรงมาหมายจะสังหาร
ยอดฝีมือหลายคนมาจากกองทัพของสำนักต่างๆ
เห็นได้ชัดว่าการกระทำของเรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพทำให้เกิด ‘ความไม่พอใจในคนหมู่มาก’ จึงทำให้ทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมช่วยกันรับมือกับเรือโจรสลัด
“ทิ้งอาวุธเสีย แล้วข้าจะไว้ชีวิต” สีหน้าของเด็กน้อยครึ่งเซียนเคร่งขรึมเย็นชา
“เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!”
ครึ่งก้าวสู่ราชันที่เป็นผู้นำไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ พลังของครึ่งก้าวสู่ราชันตรงดิ่งข้ามอากาศมา
พู่ว พรึ่บ!
หมอกเพลิงหุ่นเชิดศพที่หนาแน่นกลายเป็นพายุหมุนรุนแรง กลืนกินกองทัพนี้ในพริบตาเดียว
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก…”
เสียงร้องโหยหวนรวมกองกำลังของครึ่งก้าวสู่ราชันเข้าไปด้วย ทั้งหมดกลายเป็นอาหารจนสิ้น
ภาพเช่นนี้ทำให้คนทั้งสนามรบตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
ใจกลางสนามรบของสำนักสองดาวสับสนอลหม่านและหวาดกลัวไปกันหมด
เรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพปล้นของจากบรรดายอดฝีมือด้วยพละกำลังไร้เทียมทาน
ยอดฝีมือขอบเขตแก่นก่อกำเนิดส่วนหนึ่งมอบทรัพยากรทั้งหมดให้อย่างว่าง่ายเพื่อจะเอาชีวิตรอด
เมื่อมีตัวอย่างแล้ว ยอดฝีมืออีกมากมายจึงยอมจำนนมอบให้แต่โดยดี
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยยิ้มแย้มเบิกบานใจ เก็บทรัพย์สมบัติที่ได้มาหลังชนะไม่หยุด
แน่นอนว่ามียอดฝีมือส่วนน้อยพยายามลองสังหารมัน ทว่าก็ถูกฆ่าอย่างรวดเร็วโดยไม่มียกเว้น
ในนั้นรวมไปด้วยครึ่งก้าวสู่ราชันผู้หนึ่ง ยอดผู้สูงศักดิ์ในช่วงสุดยอดสองคน
หลังจากเชือดไก่ให้ลิงดู เหล่ายอดฝีมือที่เหลือตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ละคนสูดหายใจเย็นเข้าลึกๆ
ราชันในขอบเขตปราณเทวะหลายคนที่กำลังปะทะกันอยู่กลางอากาศ ในที่สุดก็หยุดการต่อสู้ลง
“เรือโจรสลัดลำนี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่!”
ราชันในขอบเขตปราณเทวะที่อยู่ในสนามรบสำนักสองดาวมองหน้ากัน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
บนเรือหุ่นเชิดศพมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง เด็กน้อยคนหนึ่ง แมวตัวหนึ่ง โครงกระดูกร่างหนึ่ง กลุ่มแบบนี้ทำให้ผู้คนไม่อาจมองได้ทะลุปรุโปร่ง
แต่ว่ากลุ่มที่แปลกประหลาดนี้กลับสามารถช่วงชิงของในสนามรบได้จนสำเร็จ
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เว้นเรือโจรสลัดลำนี้ไว้”
ดวงดาวสีดำเข้มบริเวณหว่างคิ้วของเจ้าลัทธิมารเทียนซิงเต้นระรัวและกะพริบวิบวับ
ถ้าหากให้เรือโจรสลัดลำนี้ถอยหนีไปโดยไร้รอยขีดข่วน สำหรับทั่วทั้งกลุ่มดินแดนมังกรสีชาดแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง
ราชันปราณเทวะทั้งห้าร่วมมือกันเป็นการชั่วคราว โดยส่ง ‘ราชากระบี่เทียนหลิว’ และ ‘สตรีสำนักมาร’ ไปจัดการโจรสลัดที่เบื้องล่าง
สวบ! สวบ!
ราชันปราณเทวะทั้งสองคนโผทะยานลงมาจากฟากฟ้า พลังมหาศาลของราชันทำให้ไอสวรรค์ในอากาศนิ่งชะงักไป
“เหอะ เหอะ มีคนมามอบของให้อีกแล้ว”
เด็กน้อยครึ่งเซียนไม่ตกใจแต่กลับยินดี
เมื่อเห็นการมาเยือนของราชันทั้งสองคน แสงสีทองสว่างเจิดจ้าบนร่างของเด็กน้อยครึ่งเซียน จนดูราวกับเป็นรูปปั้นพระพุทธที่เปล่งแสงเรืองรอง พลังมหาศาลของราชันและแก่นแท้กายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวกระจายไปทั่วบริเวณ
จนมาถึงวินาทีนี้ เด็กน้อยครึ่งเซียนเพิ่งจะเผยพลังฝึกตนในขั้นราชันออกมา
โครม!
ราชากระบี่เทียนหลิวและสตรีสำนักมารร่างกายสั่นสะท้านคล้ายโดนภูเขาลูกใหญ่กดทับลงมา
ทั้งสองพากันแค่นเสียงในลำคอ เกือบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
“แย่แล้ว! ”
“รีบไปช่วยเร็ว!”
บนฟากฟ้า พวกของเจ้าลัทธิมารเทียนซิงหลายคนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง
พลังที่เด็กน้อยครึ่งเซียนผู้นั้นสำแดงออกมาเทียบเท่าราชันในช่วงสุดยอด ราชากระบี่เทียนหลิวและสตรีสำนักมารไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ต่อให้เป็นเจ้าลัทธิมารเทียนซิงก็ยังไม่มีกำลังรบของราชันในช่วงสุดยอดเลยด้วยซ้ำไป
“เปรี้ยง เปรี้ยง! โครม”
อากาศด้านล่างมีเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นลอยมา ภูเขาลำธารในรัศมีพันลี้แหลกสลายไปจนหมด
“คุกเข่าเสีย!”
ร่างกายเล็กๆ ของเด็กน้อยครึ่งเซียนระเบิดแก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง มือขนาดใหญ่สองข้างเปล่งลำแสงสีทองสว่างแล้วฟาดลงมาในอากาศ กดราชากระบี่เทียนหลิวและสตรีสำนักมารแนบลงไปกับพื้น
อึก!
ราชันทั้งสองคนกระอักเลือดออกมาพร้อมกัน ใบหน้าซีดเผือด
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยลอยมาฉกชิงเอาสิ่งของของราชันทั้งสองไป
นัยน์ตาของสตรีสำนักมารมีแต่ความอำมหิต กระบี่ของราชากระบี่เทียนหลิวส่งเสียงครึกโครมราวต้องการจะโต้กลับ
เด็กน้อยครึ่งเซียนหัวเราะเสียงเย็น
เคร้ง เคร้ง!
ฝ่ามือแก่นแท้พลังสองข้างนั้นกดลงไปอย่างรนุแรง บดขยี้ราชันทั้งสองจนกลายเป็นธารเลือดกองหนึ่ง ก่อนจะถูกหมอกเพลิงหุ่นเชิดศพปกคลุมในทันที
กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทองของเด็กน้อยครึ่งเซียนเข้าสู่ขั้นที่ห้า หากพึ่งพาเพียงแค่แก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์จะสามารถจัดการราชันในขอบเขตปราณเทวะ ถ้าหากฝึกขั้นที่ห้าสมบูรณ์แล้ว กายศักดิ์สิทธิ์จะรับมือกับจักรพรรดิได้