บทที่ 745 คำสั่งล่าสังหาร (8)
“ท่านอาจารย์ ศึกครั้งถัดไปนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ตัดสินชะตาชีวิต ไม่ว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ หลินเอ๋อร์ยากจะให้ความช่วยเหลือได้อีก เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อชะตาชีวิต”
เด็กหญิงนัยน์ตาขาวโพลนกัดริมฝีปาก
นางช่วยเหลือจักรพรรดิแห่งความตายมาโดยตลอด เมื่อมาถึงขั้นนี้นับว่าถึงขีดจำกัดแล้ว
เมื่อเอ่ยจบ เด็กหญิงนัยน์ตาขาวโพลนค้อมกายลงต่ำแล้วเอ่ยขอตัวลากับจักรพรรดิแห่งความตาย
“ถ้าหากข้าอยู่เคียงข้างท่านอาจารย์ เกรงแต่ว่าจะเป็นตัวถ่วง หนำซ้ำชีวิตของข้าไม่ได้อยู่ที่ชังไห่ แต่เป็นดินแดนทวีปที่ไกลแสนไกล”
เด็กหญิงนัยน์ตาขาวโพลนอธิบายเหตุผล
ในดวงตาสีขาวโพลนลี้ลับของนางปรากฏแววประหลาด จ้องมองไปทางดินแดนทวีปในตำนาน
“ได้ ข้าจะไม่บังคับเจ้า”
จักรพรรดิแห่งความตายมองนางอย่างลึกล้ำครู่หนึ่ง
ถ้าหากไม่ได้ความช่วยเหลือจากป๋ายหลิน เขาก็ไม่มีทางหาจ้าวเฟิงในชังไห่ที่กว้างใหญ่นี้เจอ
หนำซ้ำป๋ายหลินใช้พลังสูงสุดทำนายเรื่องในอนาคตเอาไว้ให้เขา
ทั้งหมดนี้ทำให้จักรพรรดิแห่งความตายคว้าโอกาสสำคัญไว้ได้แล้ว
“ก่อนจากไป ศิษย์มีอะไรจะเอ่ยไว้” จู่ๆ ป๋ายหลินก็เอ่ย
“เจ้าว่ามา” จักรพรรดิแห่งความตายเอ่ยทันทีโดยไม่ต้องคิด
“ผู้ครอบครองเนตรเทพเจ้าเป็นลิขิตสวรรค์ ยากจะแย่งชิงเอามา แล้วเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าเหมือนว่าจะพิเศษยิ่งกว่า หวังว่าอาจารย์จะไม่ยึดมั่นถือมั่นจนเกินไป…” ป๋ายหลินเอ่ยอย่างสุขุม
ไม่ว่าจะป๋ายหลินหรือว่าจะจักรพรรดิแห่งความตายล้วนเป็นทายาทของสายเลือดเนตรเทพเจ้า
เนตรทำนายกับเนตรเทพทำนาย ต่างกันเพียงแค่ตัวอักษรเดียว ฝ่ายแรกเท่ากับคนรุ่นหลัง ฝ่ายหลังกลับเป็นบรรพบุรุษดวงตาแต่เพียงผู้เดียว
เนตรมรณะก็เป็นเช่นเดียวกัน
เนตรมรณะของจักรพรรดิแห่งความตาย หากคิดจะกลายมาเป็นเนตรเทพมรณะ จะต้องฝึกตนจนถึงขั้นสูงสุด และสังหาร ‘เทพแห่งความตาย’ เพื่อให้เนตรมรณะของตนย้อนกลับคืนไปเป็นเนตรเทพเจ้าที่ดั้งเดิมที่สุด
เพียงเพราะว่าเนตรเทพเจ้ามีแค่หนึ่งเดียว และเกี่ยวโยงกับกฎของฟ้าดิน
แต่วิธีนี้เป็นเพียงแค่หลักการเท่านั้น อีกทั้งยังยากเกินกว่าจะทำให้เป็นจริงได้
คำพูดเหล่านี้ที่ป๋ายหลินเอ่ยเป็นเพียงแค่การแนะนำอาจารย์เท่านั้น บางเรื่องจะบังคับมากเกินไปก็ไม่ได้
“ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า”
จักรพรรดิแห่งความตายชะงักงันไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยอย่างร้อนรนเล็กน้อย “แต่ว่าเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้ายังไม่ตื่นจากหลับใหล เจ้านายของเนตรดังกล่าวก็ยังไม่เติบโตขึ้นมา นี่เป็นโอกาสได้ครอบครองเนตรที่ง่ายดายที่สุดแล้ว ถ้าหากพลาดไป ข้าจะเสียใจไปตลอดชีวิต”
เมื่อเทียบกับการแย่งชิงแล้วเข้าแทนที่เนตรเทพเจ้าดวงอื่น โอกาสครั้งนี้เรียกได้ว่าหายากในรอบหลายร้อยล้านปี
ถึงแม้ว่าความยากในการลงมือสังหารจ้าวเฟิงในตอนนี้จะเพิ่มมากขึ้นทุกที แต่ต่อให้มีความหวังเพียงเศษเสี้ยวเดียว จักรพรรดิแห่งความตายย่อมไม่มีทางจะถอดใจ
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้จักรพรรดิแห่งความตายได้เปรียบกว่ามาก
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอด
ลำแสงมืดดั่งเงาเส้นหนึ่งทะยานผ่านทะเลหมอกความว่างเปล่า ไอเย็นแห่งความตายที่ทะลักออกมาอย่างมืดฟ้ามัวดินทำให้สัตว์ทะเลมหาศาลสั่นเทาและตกลงสู่ความเงียบงัน
“เป็นจักรพรรดิแห่งความตาย!”
เหล่ายอดฝีมือโจรสลัดส่วนหนึ่งระหว่างทางผ่านตกใจตื่นกลัว
ไม่นานเท่าไหร่นัก
จักรพรรดิเหมันต์จันทราและจ้าวเฟิงรวมไปถึงคนอื่นภายในพื้นที่หุบเขาเวิ้งว้างก็ได้รับข่าวนี้
จักรพรรดิเหมันต์จันทราสั่งให้คนระดับสูงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดทั้งหมดเตรียมตัวระวังให้ดี เพื่อจะรับมือกับจักรพรรดิแห่งความตาย
“จะถึงแล้ว!” จ้าวเฟิงกลายเป็นเงาวายุอัสนีสายหนึ่งข้ามผ่านทะเลหมอกความว่างเปล่าไป
จักรพรรดิเหมันต์จันทรา เด็กน้อยครึ่งเซียน ราชาฉลามยักษ์ ราชาเกล็ดปีศาจ ไล่ตามมาตามลำดับ
ผ่านไปสักพัก
อากาศฟากหนึ่งตกลงสู่ความมืดมิดในทันใด สะท้อนให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ที่ลึกล้ำเก่าแก่
“จักรพรรดิแห่งความตาย!” จักรพรรดิเหมันต์จันทราและสองคนที่เหลือหวาดหวั่น แล้วเตรียมตัวป้องกัน
ฝ่ายที่มาเยือนเป็นถึงจักรพรรดิในตำนานที่เก่าแก่ที่สุดในพื้นที่ชังไห่ ทั้งยังมีสมญานามว่าฝันร้ายแห่งความตายอีกด้วย
“จักรพรรดิที่เพิ่งเลื่อนขั้นขึ้นมาได้ไม่นาน ราชันระดับสุดยอดสองคน จ้าวเฟิง เจ้าจะพึ่งพาคนพวกนี้รุมสังหารข้างั้นหรือ?”
น้ำเสียงของจักรพรรดิแห่งความตายออกจะเยาะเย้ยและเย็นชา
สถานการณ์ตรงหน้านี้ เขารับรู้ผ่าน ‘เนตรทำนาย’ ของป๋ายหลินนานแล้ว จึงเตรียมตัวรับมือมาพอสมควร
จ้าวเฟิงและคนอื่นๆ มองสบตากัน
จักรพรรดิแห่งความตายเผชิญกับสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีท่าทีประหลาดใจแม้แต่น้อย ถึงขั้นว่ามีท่าทางรู้ตัวดีเสียด้วยซ้ำไป
“จักรพรรดิแห่งความตาย!” จ้าวเฟิงยิ้มแย้มออกมา “ลูกน้องของเจ้าเกือบโดนข้าสังหารจนสิ้น เวินลั่วอันที่เป็นลูกศิษย์เจ้ายังระเบิดตนเองต่อหน้าต่อตา เรื่องเหล่านี้ทำให้เจ้ามีความมั่นใจอย่างนั้นหรือ?”
ทันทีที่เอ่ยจบ จักรพรรดิแห่งความตายสีหน้าหนักอึ้ง
แรงกดดันทางจิตใจที่เขาสร้างขึ้นเมื่อครู่แตกกระจายหายไปในฉับพลัน
“สังหารเจ้าถึงจะล้างแค้นคืนให้พวกเขาได้! และข้าจะหา ’เนตรสังสารวัฏ’ ให้เจอเพื่อชดใช้ให้พวกเขา แต่เจ้าจะต้องไม่ตายดีตลอดไปในทุกชาติภพ”
รอยยิ้มบนใบหน้าจักรพรรดิแห่งความตายดูโหดเหี้ยมทมิฬไปทุกที
จักรพรรดิเหมันต์จันทราและพวกอดจะตัวสั่นไม่ได้
จักรพรรดิแห่งความตายไม่ได้อำมหิตแค่ธรรมดา
ไม่เพียงแต่ต้องการสังหารจ้าวเฟิง แต่ยังจะทำให้เขาตายทั้งเป็นในทุกชาติไป
บรรยากาศของทั้งสองฝ่ายหยุดชะงักถึงขีดสุด
จักรพรรดิแห่งความตายพลันกางมือออกทั้งสองข้าง มิติมรณะมืดมิดทับซ้อนในอากาศ มันเยือกเย็นไร้ขอบเขตและเต็มไปด้วยไอมรณะ
“โลกมิติส่วนตัว!” จักรพรรดิเหมันต์จันทราและคนอื่นสัมผัสได้ถึงพลังโลกมิติส่วนตัวที่ไม่อาจรับมือได้
โลกมิติมรณะที่มืดมิดไร้ขอบเขตกลืนกินไอสวรรค์รอบบริเวณอย่างบ้าคลั่ง ฉุดดึงสรรพชีวิตทั้งหมด และส่งผลกับดวงวิญญาณ
เด็กน้อยครึ่งเซียนและราชันในระดับสุดยอดสองคน จิตใจกับร่างกายพลันหนักอึ้ง รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล
ระลอกพลังมรณะขยายใหญ่เรื่อยๆ ไม่หยุด ราวกับพยายามจะเหวี่ยงแหจับปลาทั้งหมด
ในครรลองสายตา โลกมิติมรณะเกาะกลุ่มรวมตัวไม่หยุดจนเหมือนหลุมใหญ่ดำมืด ในทันทีที่ถูกดูดเข้าไปภายใน ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นไม่อาจคาดเดาได้เลย
“เช่นนั้นก็ทำลายโลกมิติของเจ้าแล้วกัน!”
จักรพรรดิเหมันต์จันทราสีหน้าเย็นชา ฟาดฟันดาบในมือลงไป อากาศบนฟ้าถูกคมดาบและกระบี่แสงจันทร์ที่เย็นเยียบราวน้ำค้างแข็งตัดขาดออกจากกัน
ดาบกระบี่คมสีรุ้งที่หนาวเหน็บและแสบตาแหวกอากาศมืดมิดออกเป็นร่องหุบเหวขนาดยักษ์
โลกมิติมรณะถูกทำลายจนเป็นรอยแยกสายหนึ่งที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง
แสงสายรุ้งที่เกี่ยวกระหวัดกันของดาบและกระบี่สาดซัดออกไปทั้งสี่ทิศ แล้วจึงบิดเบี้ยวไปมา เกิดเป็นแรงทำลายล้าง ทำให้โลกมิติมรณะเริ่มไม่มั่นคง
จักรพรรดิแห่งความตายหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่านี่จะเป็นจักรพรรดิสายดาบผู้ชำนาญในการรุกโจมตี
ยามจักรพรรดิเหมันต์จันทราอยู่ในขั้นราชัน การโจมตีที่รุนแรงไร้เทียมทานนั้นเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด
ถึงแม้ว่านางไม่อาจสร้างโลกมิติส่วนตัวได้สำเร็จ แต่เขตแดนมิติสมจริงยิ่งนัก เมื่อย่อส่วนรวมไปในการโจมตีของดาบและกระบี่ ในทุกคมดาบและคมกระบี่ล้วนทำให้รู้สึกว่างเปล่าเย็นยะเยียบ และตัดผ่านขีดจำกัดของฟ้าดิน
หากเอ่ยเรื่องการโจมตี จักรพรรดิเหมันต์จันทราแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิธรรมดาไม่น้อย
“ลงมือพร้อมกัน!
ราชาฉลามยักษ์และราชาเกล็ดปีศาจกระตุ้นพลังสายเลือด ใช้พลังถึงขีดสุดของราชันระดับสุดยอดโจมตีทำลายโลกมิติมรณะ
“ฤทธิ์กายศักดิ์สิทธิ์!”
ทั่วร่างของเด็กน้อยครึ่งเซียนสาดแสงสีทองสว่างไสว ร่างของเด็กน้อยขยายออกจนเท่าผู้ใหญ่ แก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งปรากฏเป็นเงาสีทองเจิดจ้ากลางอากาศ อานุภาพซึ่งอยู่เหนือสิ่งใดระเบิดกดดันจักรพรรดิแห่งความตายรวมไปถึงโลกมิติของเขาด้วย
โครม ตูม ตูม!
ในเวลานี้ โลกมิติของจักรพรรดิแห่งความตายสั่นไหวเล็กน้อย แล้วจึงเกิดเป็นรอยโหว่จำนวนมากมาย
ร่างกายของตัวเขาหนักขึ้นเมื่อได้รับแรงกดดันจาก ‘ฤทธิ์กายศักดิ์สิทธิ์’
จักรพรรดิแห่งความตายดูแคลนจักรพรรดิเหมันต์จันทราและราชันระดับสุดยอดทั้งสองมากเกินไป และคาดการณ์การพัฒนาของพลังเด็กน้อยครึ่งเซียนผิดไปด้วย
เด็กน้อยครึ่งเซียนเพิ่มระดับขึ้นเป็นขอบเขตปราณเทวะช่วงกลาง กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทองไปจนถึงระดับขั้นที่ห้าเบื้องต้น บวกกับสำนึกรู้ที่แตกต่างออกไป การรับมือกับจักรพรรดิในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าผู้เป็นถึงครึ่งเซียนเกิดใหม่จะกลายเป็นข้ารับใช้ของเด็กนี่!”
จักรพรรดิแห่งความตายมองเด็กน้อยครึ่งเซียนปราดหนึ่ง
อิริยาบถของเด็กน้อยครึ่งเซียนชะงักไปเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ลังเล ยังคงโจมตีโลกมิติมรณะต่อไปเรื่อยๆ
ในเวลาดังกล่าว
จ้าวเฟิงยังไม่ได้เข้าร่วมการโจมตี โลกมิติมรณะของจักรพรรดิแห่งความตายก็สั่นสะเทือนน้อยๆ เสียแล้ว
แต่ทว่า โลกมิติมรณะมีความพิเศษอย่างยิ่ง มันดูดซึมไอสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง สรรพชีวิตในมหาสมุทรใกล้เคียงก็ล้วนกลายเป็นเพียงโครงกระดูก
พลังโจมตีจากภายนอกโดนโลกมิติมรณะกลืนกินเข้าไประดับหนึ่ง และเปลี่ยนให้กลายมาเป็นพลังของตนเอง เพื่อจะโจมตีกลับหรือไม่ก็ฟื้นฟู นี่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเสวียนอ้าวตามหลักการของพลังมรณะ
ต่อให้จักรพรรดิหลายคนร่วมมือกันโจมตี ก็ไม่อาจทำลายโลกมิติให้แตกสลายไปภายในระยะเวลาสั้นๆ
“จักรพรรดิแห่งความตายไม่เหมือนในยามก่อนอีกแล้ว ชิงลงมือโจมตีก่อน แต่สำแดงโลกมิติมรณะ เขากำลังจะทำอะไรกันแน่”
จ้าวเฟิงไม่ได้เข้าร่วมบุกโจมตี
เขาต้องยั้งมือเอาไว้ เพื่อรับมือกับกระบวนท่าต่างๆ ในภายหลังของจักรพรรดิแห่งความตาย
โลกมิติมรณะใช้เพื่อป้องกันและช่วยเหลือ การโจมตีกลับธรรมดา
“วิญญาณพยาบาท!”
‘เนตรมรณะ’ ของจักรพรรดิแห่งความตายสำแดงเส้นทางวกวนที่มืดมิดไร้ก้นบึ้งออกมา
ในวินาทีต่อมา
กลิ่นอายหนาวเหน็บน่ากลัวหลายกลุ่มสาดกระจายออกจากเส้นทางที่หมุนวนนั้น
วู้~
เสียงกรีดร้องโหยหวนยามเผชิญกับความหวาดกลัวดังมาจากในโลกมิติมรณะ
สวบ สวบ สวบ!
เนตรมรณะส่งดวงวิญญาณอาฆาตที่เป็นรูปธรรมสามตนออกมา แต่ละตนมีขนาดถึงร้อยจั้งเป็นอย่างน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงวิญญาณร้ายตรงกลาง กลิ่นอายรุนแรงที่สาดซัดออกมาเทียบเท่าจักรพรรดิปราณเทวะเลยทีเดียว
“ดวงวิญญาณอาฆาตในระดับจักรพรรดิ…”
ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงมองทะลุไปเห็นส่งบ่งชี้เหล่านั้น
เมื่อมองให้ละเอียดแล้ว วิญญาณอาฆาตของจักรพรรดิตัวนั้นมีรูปร่างคล้ายคลึงกับจักรพรรดิมู่อวิ๋นอยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เหมือนว่ายังหลอมรวมกลิ่นอายดวงวิญญาณของจักรพรรดิคนอื่นเข้าไปด้วย
วิญญาณอาฆาตสองตนที่เหลือก็ปลดปล่อยระลอกพลังดวงวิญญาณได้เทียบเท่ากับราชันระดับสุดยอด
ขณะส่งเสียงกรีดร้องเขย่าขวัญ ดวงวิญญาณอาฆาตทั้งสามทะยานออกจากโลกมิติมรณะ แล้วตรงดิ่งไปหาจักรพรรดิเหมันต์จันทราและคนอื่น
จักรพรรดิเหมันต์จันทราและพวกใจชาวาบ ชั้นดวงวิญญาณโดนทิ่มแทงจนเจ็บปวด สีหน้าคล้ำเครียดกระวนกระวาย
ดวงวิญญาณอาฆาตเหล่านั้น แต่ละตนเกิดจากการรวมตัวของเศษเสี้ยววิญญาณราชัน หรือไม่ก็จักรพรรดิสองสามคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน
จักรพรรดิเหมันต์จันทร์ ราชาฉลามยักษ์ ราชาเกล็ดปีศาจ โดนจู่โจมจนถอยร่นไปติดๆ กัน
ดวงวิญญาณทั้งสามดวงนั้นไม่เหมือนวิญญาณอาฆาตธรรมดาๆ พวกมันมีพลังโจมตีวิญญาณของราชันหรือจักรพรรดิ หนำซ้ำยังมีพลังโจมตีร่างกายอยู่กึ่งหนึ่งด้วย
ชั้นดวงวิญญาณของจักรพรรดิเหมันต์จันทราไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ จึงโดนวิญญาณอาฆาตของจักรพรรดิกดดันเอาไว้
ราชาฉลามยักษ์และราชาเกล็ดปีศาจ แต่ละคนล้วนแต่โดนวิญญาณจักรพรรดิอาฆาตรุกโจมตีจนต้องถอยร่นติดต่อกัน สภาพจิตใจใกล้จะพังทลาย
“เหอะ เป็นดวงวิญญาณอาฆาตแท้ๆ ให้ข้าสังหารราชันทั้งสองคนก่อนแล้วกัน…” จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น
“หนามจิตวิญญาณ!”
ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงปล่อยหนามจิตวิญญาณแหลมคมสีม่วงออกมา บริเวณพื้นผิวยังล้อมรอบด้วยลวดลายอัสนีมืดทะมึนลึกลับด้วย
โครม บึ้ม!
หนึ่งในวิญญาณอาฆาตในระดับราชันถูกหนามจิตวิญญาณแทงทะลุผ่าน วิญญาณจึงแตกกระเซ็นและระเบิดพินาศไปทันที
จะต้องรู้ว่าภายในหนามจิตวิญญาณของจ้าวเฟิงยังแฝงไปด้วยพลังอัสนีเทวะ ซึ่งมีคุณสมบัติในการโจมตีทำลายดวงวิญญาณ
มันตรงดิ่งไปสังหารดวงวิญญาณราชันอาฆาตในระดับสุดยอดเช่นนี้ คนทั้งหมดให้ที่ดังกล่าวต่างตกตะลึงพรึงเพริด
จ้าวเฟิงเพิ่งจะมีท่าทีได้ใจ แต่กลับสัมผัสได้ถึงบางอย่าง หน้าจึงเปลี่ยนสีในทันทีทันใด
“นายท่าน ช่วยด้วย…” เด็กน้อยครึ่งเซียนตะโกนอย่างตื่นตกใจ
“เนตรเพ่งมรณะ!”
จักรพรรดิแห่งความตายอยู่ภายในโลกมิติส่วนตัว เนตรมรณะมืดมิดคู่หนึ่งจับจ้องไปที่เด็กน้อยครึ่งเซียน
สีหน้าของเด็กน้อยครึ่งเซียนดิ้นรนทรมาน ร่างวิญญาณดั้งเดิมสีทองสว่างเกือบจะหลุดลอยออกจากร่าง
ที่แท้ในขณะที่จ้าวเฟิงปล่อยหนามจิตวิญญาณโจมตีดวงวิญญาณอาฆาต จักรพรรดิแห่งความตายก็สำแดง ‘เนตรเพ่งมรณะ’ ออกมา
“เป้าหมายของเขาคือเด็กน้อยครึ่งเซียน!”
จ้าวเฟิงหัวใจหนักอึ้ง เขาเพิ่งจะค้นพบว่าตนเองตกหลุมพรางของจักรพรรดิแห่งความตาย แผนการปล่อยดวงวิญญาณอาฆาตออกมาทำไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขา
ถึงแม้ว่าระดับสำนึกรู้ของเด็กน้อยครึ่งเซียนจะสูงส่ง แต่ดวงวิญญาณยังอยู่ในขั้นราชัน เพียงแค่พลังของร่างกายแข็งแกร่งก็เท่านั้น ทางที่เขาเลือกเดินคือการฝึกร่างกาย ต่อให้เป็นในชาติก่อน ศาสตร์วิญญาณก็คือจุดอ่อนของเขาอยู่ดี