Skip to content

King of Gods 816

King Of Gods

บทที่ 816 พวกเราหนีต่ออีกหน่อยเถอะ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายฝนที่หมุนวนทั่วฟ้า

สีหน้าของจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งล้วนแต่เปลี่ยนไป

คนต่ำกว่าขั้นราชันคงจะทนได้ไม่นานนักเมื่ออยู่กลางสายฝนหนาวเย็นที่กัดกร่อน แต่ฝนมหาศาลเหมือนจะเกิดขึ้นโดยความสามารถในการสร้างเขตแดนจากพรสวรรค์ระหว่างการโบยบินของ ‘เว่ยจิ้ง’ ที่เป็นอัจฉริยะต่างเผ่าพันธุ์

“นี่คือพลังพรสวรรค์ที่เรียกเมฆเรียกฝน…”

จ้าวเฟิงทอดถอนใจ จ้องเขม็ง

ชายต่างเผ่าพันธุ์ผู้ที่ร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดคนนั้น บนศีรษะมีเขาสีฟ้า ร่างกายคล้ายคลึงกับเผ่าพันธุ์ ‘มังกรวารี’ อยู่หลายส่วน

ในสายเลือดเผ่าพันธุ์ต่างๆ ชายหนุ่มต่างต่างเผ่าพันธุ์ ‘เว่ยจิ้ง’ บางทีอาจมีจุดเหมือนกันกับมังกรวารีล้างโลกาในยามก่อน

ขวับ ขวับ!

สายฝนเบาบางสีฟ้ามีอาณาเขตกว้างใหญ่ มีส่วนหนึ่งเคลื่อนมายังพื้นที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว

“หลบไปก่อน”

จ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งซ่อนตัวอยู่ภายในแสงสีม่วงเงิน และบินหนีไปทิศทางที่ตรงกันข้าม

ยามนั้น คนทั้งสองไม่สนใจจะแกะรอยของมังกรวารีล้างโลกาแล้ว

ชายหนุ่มต่างเผ่าพันธุ์ ‘เว่ยจิ้ง’ พลังฝึกตนของเขาไปแตะขั้นราชันระดับสุดยอด!

เป็นอัจฉริยะที่มีพลังฝึกตนสูงสุดที่พวกจ้าวเฟิงเจอในมิติเทพลวงตาแห่งนี้

จะต้องรู้ว่า ในช่วงที่จ้าวเฟิงมีพลังฝึกตนสูงสุดตอนอยู่ชังไห่ ก็ยังมีพลังฝึกตนเพียงแค่ขอบเขตปราณเทวะช่วงกลางเท่านั้น

แต่เว่ยจิ้งมีสายเลือดสูงส่ง มีที่มาไม่ธรรมดา พลังของเขาจึงย่อมไม่อาจใช้พลังฝึกตนธรรมดามาเปรียบเทียบได้

โครม! ฝนสีฟ้าเข้มด้านหลังจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งหลั่งไหลมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

บนพื้นดินของเนินเขาแข็งตัวเป็นชั้นน้ำแข็ง ทิ้งไว้เพียงร่องน้ำแข็งที่ถูกกัดกร่อนจนลึกไม่เห็นก้นบึ้งท่ามกลางฝนพรำ หินบนเนินเขาแห่งนั้นแข็งอย่างยิ่ง สามารถสรรสร้างสัตว์ประหลาดในระดับ ‘ราชันแห่งขุนเขา’ ออกมาได้ แต่ว่าเพราะสายฝนสีฟ้าเข้มตกลงมา ทำให้ก้อนหินเหล่านั้นยุ่ยราวเต้าหู้

“นี่คือพลังของรายชื่อจักรพรรดิลำดับที่เก้า…”

จ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งที่กำลังล่าถอยอยู่ หลังของคนทั้งสองเย็นวาบ กระวนกระวายไม่เป็นสุข

อัจฉริยะรายชื่อจักรพรรดิต้าเฉียนมีห้าร้อยลำดับ รวมเอาไว้ไม่ได้มีเพียงอัจฉริยะในต้าเฉียน แต่ยังรวมไปถึงอัจฉริยะของสำนักเก่งกาจต่างๆ ด้วย

ที่รับมือยากไปกว่านั้นคือ พลังเหมันต์ที่สายฝนสีฟ้าพวกนั้นสาดซัดออกมา สามารถส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบบริเวณได้

พลังความเย็นที่ไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่ง แทรกซึมและส่งผลกระทบต่ออากาศในที่นั้น ความเร็วที่จ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งใช้หลบหนีออกมาก็ลดลงเพราะเหตุนี้

“หลบไม่ทันแล้ว…”

หนานกงเซิ่งพึมพำเสียงต่ำ แล้วจึงค่อยๆ เรียกเขตแดนมิติของตนออกมา

สีหน้าของจ้าวเฟิงสงบราบเรียบ รู้เช่นกันว่าหลบไม่ทันแล้ว

ในด้านของความเร็ว ‘เว่ยจิ้ง’ ที่อยู่ในขั้นราชันระดับสุดยอด เร็วกว่าจิวอู๋จี้มากกว่าเท่าตัว แล้วยิ่งไปกว่านั้น พลังหนาวเหน็บในสายฝนสีฟ้านั่นยังส่งผลลดความเร็วอีกด้วย

แปะ แปะ แปะ!

หยดฝนสีฟ้าตกใส่ร่างของจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งอย่างรวดเร็ว

สายฝนสีฟ้าพร่างพราวเป็นถึงเขตแดนที่มากับพรสวรรค์สายเลือด กัดกร่อนได้แม้กระทั่งเขตแดนมิติ

“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์!” ระลอกแสงสีฟ้าเงินปรากฏขึ้นทั่วร่างของจ้าวเฟิงราวกับโลหะ ลายเส้นแน่นหนา

แปะ! ตูม! สายฝนสีฟ้าพวกนั้นตกลงบนร่างของจ้าวเฟิงก็แตกกระจายออกเป็นสะเก็ดสายฟ้า

ความรู้สึกหนาวเหน็บแสบร้อนทำให้จ้าวเฟิงขมวดคิ้ว

“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของข้า ในตอนนี้ยังมีการป้องกันการโจมตีของธาตุเหมันต์วารีที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ฝนพวกนี้ยังมีการกัดกร่อนอย่างหนึ่งแฝงอยู่ในนั้น…”

จ้าวเฟิงปิดเปลือกตาลงสัมผัสมัน นี่ขนาดว่าเขาสามารถใช้ร่างกายต้านรับสายฝนได้ หากว่าเปลี่ยนเป็นราชันปราณเทวะทั่วไปจะไม่มีทางมีความสามารถเช่นนี้

ทางฟากของหนานกงเซิ่ง ปรากฏระลอกอากาศสีม่วงประกายเงินขึ้นทั่วร่าง แล้วกลืนกินฝนนั้นไป หนานกงเซิ่งอดจะเกิดความริษยาขึ้นมาไม่ได้ จ้าวเฟิงฝึกตนใหม่ก็มีแก่นแท้ร่างกายที่กล้าแกร่งเช่นนี้

จ้าวเฟิงไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองไอสวรรค์ ใช้เพียงแค่กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถต้านทานสายฝนนี้ได้

นี่ไม่ใช่เพียงความแข็งแกร่งของกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับวายุอัสนีธาตุน้ำที่จ้าวเฟิงฝึกอยู่

ในตอนนี้เขาใช้วายุอัสนีธาตุน้ำฝึกฝนร่างกาย จึงมีการป้องกันตัวจากการโจมตีของธาตุวารีเหมันต์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง

ถึงจะเป็นเช่นนั้น แก่นแท้กายเนื้อของจ้าวเฟิงก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเย็นเยือก รู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง

แต่ทว่า จ้าวเฟิงก็ยังคงใช้กายเนื้อต้านรับสายฝนสีฟ้าโดยไม่ใช้ปราณที่แท้จริง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…องค์ชายเก้า! เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ พวกลูกน้องของเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน”

‘เว่ยจิ้ง’ ผู้มีเกล็ดปกคลุมทั่วร่างปรากฏกายในใจกลางของฝนพร่างพราย ทุกที่ที่เขาผ่านไป สายฝนก็จะกลายเป็นพายุรุนแรง

กองกำลังยอดฝีมือของราชวงศ์จะมีคนตายอย่างอนาถอยู่เรื่อยๆ

อัจฉริยะยอดฝีมือพวกนี้ร่วมตัวตั้งกระบวนทัพ เพื่อตั้งรับสายฝนนี้

เว่ยจิ้งผู้นี้ตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง ใช้ฝนสีฟ้า ‘พัดกลืน’ คนพวกนี้ ทรมานไปช้าๆ และสร้างแรงกดดันต่อองค์ชายเก้าที่อยู่ตรงหน้า

“องค์ชายเก้า? มิน่าล่ะทำไมคุ้นๆ”

จ้าวเฟิงคล้ายกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

เขาเพิ่งจะสังเกตพบในตอนนี้เองว่า องค์ชายเก้าผู้นี้และองค์ชายแปดโจวลู่มีใบหน้าที่คล้ายคลึงกันอยู่สามสี่ส่วน

แต่ทว่า พลังพรสวรรค์ขององค์ชายเก้าเหนือกว่าองค์ชายแปด รวมไปถึง ‘องค์ชายสิบสาม’ ที่เพิ่งเจอไปเมื่อไม่นานมานี้

“เว่ยจิ้ง! เสียแรงที่เจ้าเป็นคนของสำนักระดับสี่ดาวอย่าง ‘ลัทธิเมืองมืด’ จัดอยู่ในลำดับที่เก้าของอัจฉริยะรายชื่อจักรพรรดิ แต่กลับฉวยโอกาสลอบโจมตียามที่ข้ากำลังต่อสู้กับราชามังกรวารี”

องค์ชายเก้าในชุดนักรบสีม่วงครามด้านหน้ากัดฟันเอ่ย

พลังฝึกตนขององค์ชายเก้าผู้นี้ใกล้จะถึงขั้นราชันระดับสุดยอด กระบี่อัสนีครามในมือเป็นถึงมรดกอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ไม่ด้อยไปกว่ากระบี่ฟ้าดินของหนานกงเซิ่ง

“อ๊าก…” กลุ่มคนที่ถูกฝนกลืนกินเข้าไปส่งเสียงกรีดร้องออกมาเป็นครั้งคราว

ผู้ที่มีพลังฝึกตนต่ำกว่าขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงภายในนั้นล้วนแต่ต้องสิ้นชีวิตไป ซึ่งนี่ยังเป็นสถานการณ์ที่เว่ยจิ้งจงใจทรมานอย่างช้าๆ ด้วย

สวบ! ลำแสงสีม่วงเงินที่จ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งอยู่หนีไปยังอีกทางหนึ่ง หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปใกล้เว่ยจิ้ง

“เฮอะ เจ้าหนอนเน่าสองตัว!”

ดวงตาสีฟ้าเข้มของเว่ยจิ้งกวาดผ่านพวกจ้าวเฟิงปราดหนึ่งอย่างเฉยชา

แต่ทว่าจุดสำคัญของเขาคือองค์ชายเก้า จึงทำเพียงควบคุมแขตแดนสายฝนสีฟ้าให้รั้งพวกจ้าวเฟิงเอาไว้

จ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งสัมผัสได้เพียงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น

เปรี๊ยะ! วูบ วูบ วูบ!

ฝนสีฟ้าก่อตัวเป็นพายุฝนคล้ายน้ำวน ลากเอาคนทั้งสองไป

“จ้าวเฟิง พวกเราร่วมมือกันจะสามารถทะลวงผ่านฝนนี้ได้…”

หนานกงเซิ่งเอ่ยเสียงต่ำ

พลังของเว่ยจิ้งผู้นั้นแข็งกล้าเกินไป หรือไม่ก็เทียบเท่าจักรพรรดิปราณเทวะ หนานกงเซิ่งไม่คิดจะยั่วโมโห

“อย่ารีบร้อนไป”

จ้าวเฟิงสงบนิ่ง ร่างกายของเขาเป็นดังธาตุโลหะสีฟ้าเงิน บางคราวยังมีระลอกวายุอัสนีธาตุน้ำขึ้นเล็กๆ ด้วย

หืม? หนานกงเซิ่งค้นพบความผิดปกตินี้ จึงเผยสีหน้าที่คาดคิดไม่ถึง

ในเวลานี้ กลิ่นอายที่มาจากร่างกายจ้าวเฟิง ยิ่งสาดซัดออกมาก็ยิ่งรวมตัวจนแข็งกล้า

‘สายฝนสีฟ้า’ ที่หมุนวนมาตกลงบนร่างของจ้าวเฟิงสูญสลายไปไม่หยุด และยังมีส่วนเล็กน้อยทะลวงเข้าไปภายในร่าง

จ้าวเฟิงมักจะโคจรวายุอัสนีธาตุน้ำ ทำให้สายฝนหนาวเหน็บสีฟ้ากระจายและแทรกซึมไปทั่วร่างเท่าๆ กัน

ถัดจากนั้น หนานกงเซิ่งและจ้าวเฟิงพยายามรักษาระยะอยู่ภายในน้ำฝน ไม่เข้าใกล้ ‘เว่ยจิ้ง’ แต่กลับไม่หนีออกไปจากอาณาเขตนี้

ความรู้สึกที่เห็นคือ เขตแดนมิติของหนานกงเซิ่งกำลังดิ้นรนและต้านทานสุดแรงเกิด

“ลากพวกเจ้าทั้งสองเข้ามาเกี่ยวแล้ว”

องค์ชายเก้าที่กำลังโบยบินไปด้านหน้าเอ่ยอย่างลุแก่โทษ ถึงแม้ว่าความสามารถของเขาจะแกร่งกล้า แต่เผชิญกับการลอบโจมตีของเว่ยจิ้ง ร่างกายบาดเจ็บสาหัส จึงทำได้เพียงหนี

องค์ชายเก้าทำได้เพียงคาดหวังว่าจะเจอยอดฝีมือในเผ่าพันธุ์มนุษย์คนอื่นๆ

ทว่าต่อให้พบเจอกลุ่มยอดฝีมือทั่วไป เมื่อเผชิญหน้ากับเว่ยจิ้งที่อยู่ในรายชื่อจักรพรรดิลำดับที่เก้า ก็เกรงว่าจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว

“ไม่เป็นไร” หนานกงเซิ่งเปิดปากเอ่ยเสียงเรียบ

เขาเป็นราชันระดับลึกซึ้งแขนงมิติ ภายในร่างมีผลึกปีศาจ ผลึกเซียนระดับล่าง และทรัพยากรต่างๆ ขอเพียงแค่ไม่โดนเว่ยจิ้งโจมตีเข้าจังๆ เพียงแค่สายฝนก็ไม่ได้อยู่ในสายตาด้วยซ้ำไป

ความจริงแล้ว หากไม่ใช่ว่าจ้าวเฟิงจงใจจะอยู่ที่นี่ คนทั้งสองคงหนีออกจากเขตแดนพรสวรรค์ของเว่ยจิ้งไปแล้ว

“เอ๊ะ!” องค์ชายเก้าสัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาจากอารมณ์ที่เย็นชาของหนานกงเซิ่งและจ้าวเฟิง

กลุ่มชายผมม่วงสองคนนี้ดูเหมือนว่ากำลังดิ้นรน แต่ไม่ได้หวาดกลัวที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายถึงแก่ชีวิต

ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าอารมณ์ของทั้งสองสงบนิ่ง

“ข้าน้อยองค์ชายเก้า ‘โจวจื่อหัง’ แห่งต้าเฉียน ขอบังอาจถามนามของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง พอจะสามารถร่วมมือกันโจมตีคู่ต่อสู้ต่างเผ่าพันธุ์ให้ถอยร่นไปได้หรือไม่”

ชายหนุ่มในชุดนักรบสีครามสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนเอ่ยความเสียงขรึม

เขาสังเกตแล้วจึงพบว่าคนผมม่วงทั้งสองนี้พลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

บุรุษหนุ่มชุดดำเป็นถึงราชันระดับลึกซึ้งแขนงมิติ ส่วนเด็กหนุ่มผมม่วงอีกคนเพียงแค่กายเนื้อก็ต้านทานฝนสีฟ้าได้

“หนานกงเซิ่ง”

บุรุษหนุ่มชุดดำตอบอย่างตรงไปตรงมา

“จ้าวเฟิง”

เด็กหนุ่มผมม่วงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “แต่ในตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาร่วมมือกัน พวกเราหนีต่ออีกหน่อยแล้วกัน!” ทันทีที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา ใบหน้าขององค์ชายเก้าเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง

เด็กหนุ่มผู้นั้นเอ่ยอย่างง่ายดายเช่นนี้…พวกเราหนีต่ออีกหน่อยแล้วกัน!

“ไม่ใช่สิ! เด็กหนุ่มผู้นั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?” องค์ชายเก้ารู้สึกตงิดใจ

มองทะลุผ่านเงาของเขตแดนมิติ เด็กหนุ่มผมม่วงกำลัง ‘ชําระร่างกาย’ ในสายฝน มีท่าทีเหมือนว่าจะเจ็บปวด แต่ก็เหมือนมีความสุขอย่างนั้น

“ ‘ผลไม้จิตวิญญาณจากห้วงฝัน’ ในคราวก่อนย่อยสลายไปประมาณหนึ่งแล้ว” จ้าวเฟิงปิดเปลือกตาลง

สายฝนสีฟ้าที่เกิดจากพลังพรสวรรค์ของเว่ยจิ้งอยู่ในลักษณะที่กัดกร่อนน้ำแข็ง

อีกทั้งจ้าวเฟิงในตอนนี้ใช้วายุอัสนีธาตุน้ำฝึกฝนร่างกาย

ในวันนี้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขากำลังเผชิญกับอุปสรรคของขั้นที่สี่ระดับสุดยอด ซึ่งยังขาดไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

ผัวะ! แซ่ด!

ทั่วร่างกายของจ้าวเฟิงล้อมรอบด้วยสายฝนสีฟ้าที่ไหลวนเท่ากัน พร้อมกับแก่นแท้พลังสายฟ้าเป็นเส้นๆ

ในเวลานี้ จ้าวเฟิงกำลังใช้ทุกเวลาทุกวินาทีในการโคจร ‘กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์’ และ ‘วิชาวายุอัสนี’ และใช้สายฝนสีฟ้านั่นเสริมสร้างร่างกายในระดับสูงสุด

“ผู้เยาว์คนนี้บ้าเกินไปแล้ว ถึงกับกล้าใช้พลังพรสวรรค์ของ ‘เว่ยจิ้ง’ มาฝึกฝนร่างกาย”

องค์ชายเก้าสูดลมหายใจลึก เวลาจิบชาครึ่งถ้วยผ่านไป

พรึ่บ!

จ้าวเฟิงอยู่ในเขตแดนมิติ ระลอกสีเงินทั่วร่างสว่างเรืองรอง เส้นสายฟ้าหมุนวน ประหนึ่งโลหะส่องสว่างที่ผ่านการเจียระไนและขัดเกลาแล้ว คนทั้งหมดพลันหนักอึ้งอย่างประหลาด

เวลานี้เอง ในขณะที่จ้าวเฟิงสูดลมหายใจ แก่นแท้ร่างกายที่แข็งกล้าทำให้หนานกงเซิ่งที่อยู่ข้างกายสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจนอึดอัด

“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ขั้นที่สี่ระดับสุดยอด!”

จ้าวเฟิงมีสีหน้ายินดี กลิ่นอายแก่นแท้ร่างกายบนร่างขยายออกในทันใด

โครม!

ทุกห้วงความคิดและทุกการกระทำของเขา แก่นแท้พลังที่กล้าแกร่งจะก่อให้เกิดชั้นพลังที่ไร้รูปร่าง สายฝนสีฟ้ารอบบริเวณถูกแยกออกจากกัน

“เจ้าเด็กนั่น…”

เว่ยจิ้งที่อยู่ในสายฝนสีฟ้าเข้มสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลในที่สุด

ก่อนนี้เขาแทบจะไม่ได้มองจ้าวเฟิงผู้อยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำอย่างตั้งใจ ต่อให้แก่นแท้ร่างกายของอีกฝ่ายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

ถึงอย่างไรในต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหลาย เผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายและสายเลือดแข็งแกร่งไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

“เจ้าหัวขโมยเผ่าพันธุ์มนุษย์! กลับกล้าใช้เขตแดนจากพรสวรรค์ของข้าฝึกฝนร่างกาย…”

บนใบหน้าของเว่ยจิ้งปรากฏความโกรธเกรี้ยวพาดผ่าน

เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้กับตัวเองก็เป็นดังการดูหมิ่นเหยียดหยาม

กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงในเวลานี้ทะลวงผ่านไปถึงขั้นที่สี่ระดับสุดยอด ใช้เพียงแก่นแท้กายเนื้อก็พอจะรับมือกับราชันธรรมดาได้บ้าง

ถ้าหากสามารถทะลวงผ่านขั้นที่ห้าด้วยพื้นฐานเช่นนี้ กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงจะรับมือกับขั้นราชันได้

“น้องชายผู้นี้ ใจกล้าเสียจริง!”

องค์ชายเก้าที่อยู่ด้านหน้านับถือจากใจจริง

หากเปลี่ยนเป็นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดคนใดก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าเว่ยจิ้งจะหนีก็ยังทำไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องใช้พลังพรสวรรค์ของอีกฝ่ายมาฝึกฝนร่างกายของตนเองเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!