บทที่ 952 เรื่องประหลาด
แววตาของทุกคนถูกดึงดูดโดยเสาสัมฤทธิ์เก้าสีนั้น ไม่สามารถจะละสายตาไปได้
มีเพียงจ้าวเฟิงที่ดวงตาซ้ายเป็นประกายประหลาด ด้านบนยังปกคลุมไปด้วยระลอกแสงสีทองอ่อน
ในเวลาเดียวกัน ตราประทับอัสนีเทวะทั้งหมดในวิญญาณจ้าวเฟิงสาดประกายเรืองรอง แสงสมบัติหลากสีที่เพียรพยามจะล่วงล้ำเข้าไปในดวงวิญญาณของเขา ถูกพลังอัสนีเทวะที่เป็นอมตะทำลายล้างจนหมดสิ้น
“เป็นดังคาด!” จ้าวเฟิงเอ่ยพึมพำเสียงเบา
ครั้งนี้เขาอยู่ห่างจากลำแสงเก้าสีใกล้เพียงเท่านี้ จากพลังของดวงตาซ้าย จ้าวเฟิงจึงสามารถมองเห็นมันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น องค์ประกอบของแสงมหัศจรรย์ดังกล่าวเป็นพลังวิญญาณ พูดได้ว่า แสงเรืองรองเก้าสีที่ชวนตื่นตะลึง แท้จริงแล้วเป็นแค่ภาพมายาก็เท่านั้น!
ต่อจากนั้น จ้าวเฟิงวางมือข้างหนึ่งลงบนบ่าของตาเฒ่าอิง พลังวิญญาณกลุ่มหนึ่งพร้อมพลังอัสนีเทวะปกคลุมบนวิญญาณของตาเฒ่าอิง
‘ตาเฒ่าอิง อย่าขยับ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย!’
จ้าวเฟิงส่งเสียงบอกทันที
วูบ แซ่ด! ไม่นานนัก พลังชั่วร้ายและแสงสมบัติหลากสีที่แอบซ่อนอยู่ลึกๆ ในวิญญาณของตาเฒ่าอิงก็ถูกจ้าวเฟิงขจัดไปทีละน้อย
ชั่วขณะนั้น ดวงตาสองข้างของตาเฒ่าอิงแจ่มชัด ก่อนฉายแววหวาดกลัวออกมาอย่างลึกล้ำ
‘ขอบใจเจ้ามาก จ้าวเฟิง!’
ตาเฒ่าอิงสูดหายใจเข้าลึก ส่งเสียงบอกจ้าวเฟิง
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะตกหลุมพรางตั้งแต่เข้ามาในพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬแล้ว!”
ในวินาทีที่ตาเฒ่าอิงได้สติขึ้นมาก็วิเคราะห์ทั้งหมดได้ ในใจปลงอนิจจัง
ตั้งแต่เข้ามายังพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬ การกัดกร่อนอย่างช้าๆ ของลมมืดก็ได้เริ่มขึ้น ทุกคนต่างเปลี่ยนแปลงทีละน้อย ความทะเยอทะยานในส่วนลึกของจิตใจค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น ถึงจะเป็นตาเฒ่าอิงก็ยังไม่ทันสังเกต นิสัยของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปจากตัวตนจริงๆ ในตอนแรกเริ่มแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นแสงสมบัติวิจิตรตระการที่ทะลุขึ้นฟ้า ชี้นำและดึงดูดคนทั้งหมดให้มาถึงที่นี่ทีละก้าวๆ
เมื่อเข้าไปใต้ดินแล้ว ผลกระทบที่ลมมืดมีต่อทุกคนก็เพิ่มมากขึ้น
ถึงขนาดที่ว่าผู้เฒ่าชุดม่วงลงมือทำร้ายจ้าวเฟิงอย่างฉับพลัน ผู้เฒ่าเคราแพะก็เข้าร่วมวงด้วย ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเพราะมีความทะยานอยากมากขึ้น นิสัยที่แสดงออกมาจึงบิดเบี้ยวไป
จิงข่ายที่อยู่ด้านข้างถูกแสงวิจิตรตระการและลมมืดเปลี่ยนให้อ่อนแอ เห็นแก่ตัว ไร้ความรู้สึก จนมีเพียงท่าทางน่าเวทนาอย่างคนที่เห็นแก่สมบัติเท่านั้น
ต้องโทษที่จิตใจของเขาอ่อนแอ ความทะเยอทะยานที่ซุกซ่อนไว้ในใจมีมากเกินไป!
บิดเบี้ยวจนกลายเป็นเช่นนี้ ตาเฒ่าอิงไม่มีหวังที่จะปลุกให้เขาได้สติขึ้นมา
ตาเฒ่าอิงปิดเปลือกตาลงสองข้าง โคจรพลังดวงวิญญาณทันที และใช้พลังทั้งหมดปกป้องวิญญาณเอาไว้ ในเวลาเดียวกันก็รับรู้ถึงแสงสีสันวิจิตรที่เบื้องหน้า
“เป็นถึงพลังวิญญาณที่สูงส่งลึกล้ำเกินจะเปรียบ!”
ในใจของตาเฒ่าอิงตื่นตระหนก ต่อมาจึงมองไปยังคนที่เหลือ
นอกจากเขาและจ้าวเฟิง แววตาของคนทั้งหมดต่างจ้องไปที่เสาหินสัมฤทธิ์ที่เปล่งแสงวูบไหว มองข้ามทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
บนใบหน้าของพวกเขาเผยแววกระหายต่อสมบัติออกมาจนไม่มีเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งหมดนี้ผิดแผกไปจากปกติอย่างมากในสายตาของคนปกติ
“จ้าวเฟิง เหตุใดพวกเราจึงไม่ออกไปจากที่นี่?”
ตาเฒ่าอิงเกิดความหวาดกลัวอย่างมากต่อที่แห่งนี้
“รอก่อน หากสถานการณ์คับขันก็สามารถใช้ค่ายกลใน ‘หยกมังกรคุ้มกัน’ ได้!”
สีหน้าจ้าวเฟิงเรียบเฉย
“เจ้าหนุ่มคนนี้…” ตาเฒ่าอิงมองจ้าวเฟิงไม่ทะลุปรุโปร่งอีกแล้ว
ขอบเขตพลังขั้นราชันรุกคืบเข้าไปในสถานที่นี้ แต่กลับสามารถรักษาสติเอาไว้ได้แจ่มชัด ในช่วงเวลาสำคัญหน้าสิ่วหน้าขวานยังปลุกเขาด้วย
ยามนี้มองแสงอัศจรรย์หลากสีสันกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในวินาทีนี้ ตาเฒ่าอิงถึงขั้นสงสัยเล็กน้อย จ้าวเฟิงเป็นผู้มากความสามารถชั้นเลิศคนใดกลับมาเกิดหรือไม่
โครม วู้ม วู้ม!
แสงหลากสีบนเสาสัมฤทธิ์เบื้องหน้าค่อยๆ อ่อนแรงลง คมแสงสลายหายไปช้าๆ
เสาสัมฤทธิ์ฟื้นคืนสู่สภาวะเดิม! ในห้องโถงทั้งหมดตกอยู่ในโลกที่มืดมิดอีกครั้ง
คนที่เตรียมจะจากไปในเมื่อครู่ทั้งหมดชะงักฝีเท้า สายตาจดจ้องที่เสาสัมฤทธิ์อย่างไม่ละสายตา
“สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ให้ข้าลองก่อน!”
ในเวลาดังกล่าว ดวงตาสองข้างของอูอวี้เป็นประกายเรืองรอง สีหน้าตื่นเต้นอย่างมาก และค่อยๆ เข้าไปใกล้เสาสัมฤทธิ์!
ทันใดนั้น แววตาของทุกคนเป็นประกาย มองไปที่อูอวี้อย่างมีความหวัง
ตาเฒ่าอิงยืนอยู่ที่ด้านหลัง สีหน้าฉายแววหวาดกลัวขณะที่มองภาพนี้
ทุกคนในห้องโถงแทบจะถูกจูงจมูกเดินเข้าไป
เหตุใดแสงอัศจรรย์หลากสีกลุ่มนี้ถึงเรืองแสงตอนที่ทุกคนกำลังจะจากไปพอดี
ยังมีปากทางแยกเมื่อครู่ อยู่ๆ ก็มีปีศาจลมมืดหลายตัวโผล่ออกมา ความจริงแล้วเป็นการบอกทางพวกเขา อีกทั้งหลังจากที่ปีศาจลมมืดทั้งหมดในห้องโถงเมื่อครู่รวมตัวกรีดร้องแล้ว ทั้งหมดก็ถอยออกไป ทั้งหมดนี้เหมือนมีพลังลี้ลับจัดแจงเอาไว้แล้ว
“จ้าวเฟิง ใต้พื้นนี้ซ่อนอะไรเอาไว้?”
ตาเฒ่าอิงส่งเสียงเอ่ยถาม
“อาจจะเป็นสมบัติหรือไม่ก็ของอย่างอื่น!”
ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงเองก็มองไม่เห็นปลายทาง
เขาอยากจะรู้ความลับของที่แห่งนี้เช่นกัน ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนค่อยๆ รุกคืบเข้าไป มองดูทุกคนสูญเสียความเป็นตัวเองทีละน้อย จนสุดท้ายแล้วจึงมาถึงห้องโถงแห่งนี้
“จ้าวเฟิง พวกเราควรจะขัดขวางอูอวี้หรือไม่!”
ตาเฒ่าอิงมองอูอวี้ค่อยๆ เดินไปยังค่ายกลลวดลายขาวทองที่ลึกลับซับซ้อน
“ไม่จำเป็น ต่อให้ครั้งนี้ข้าขัดขวาง ก็คงยังมีคนเดินทางมาที่นี่ไม่หยุด พวกเขาก็สามารถมาถึงห้องโถงแห่งนี้เช่นกัน อีกอย่าง การทดสอบคัดเลือกรัชทายาทครั้งต่อไปก็จะมีคนมาที่นี่อีก หรือว่าจะให้ข้าอยู่เฝ้าที่นี่ คอยห้ามทุกคนตลอด?”
คำตอบของจ้าวเฟิงทำให้ตาเฒ่าอิงพูดไม่ออก
อันที่จริงแล้ว ตาเฒ่าอิงก็อยากจะรู้ความลับของสถานที่แห่งนี้เช่นกัน
“เช่นนั้นก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรมเถอะ!”
ตาเฒ่าอิงทอดถอนใจเงียบๆ ในเวลาเดียวกันก็เตรียมพร้อมใช้หยกมังกรคุ้มกัน
ด้านหน้าเสาสัมฤทธิ์! อูอวี้ปิดดวงตา ปลดปล่อยพลังวิญญาณ รับรู้ถึงโครงสร้างค่ายกลในห้องโถง
ไม่นานนัก! พลังวิญญาณของอูอวี้ก็ค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปในค่ายกลและโคจรไปตามค่ายกลขาวอมทอง ทันใดนั้น คราบเลือดไหลออกมาจากมุมปากของอูอวี้ เห็นได้ชัดว่าใช้จิตวิญญาณมากเกินไป แต่ทุกคนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้นัก พวกเขาเพียงแต่หวังว่าอูอวี้จะสามารถทำลายค่ายกลแห่งนี้ ถึงแม้จะเป็นรอยร้าวเล็กๆ เท่านั้น
ทุกคนเริ่มกระวนกระวายตามเวลาที่หมุนเวียนไปช้าๆ
สตินึกคิดและวิญญาณทั้งหมดของอูอวี้ตกลงไปในค่ายกลแห่งนี้แล้ว ถึงขั้นที่ตัวเขายังไม่รู้ว่าตนกระอักเลือดสดออกมาหลายครั้ง!
ฉับพลันทันใด!
วายุเพลิงทมิฬก็หลั่งทะลักเข้ามาจากอุโมงค์ทางเดินอีกฟาก
ฟิ้ว! เห็นเพียงปีศาจลมมืดจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาในห้องโถงแห่งนี้พร้อมกับลมมืด
“แย่แล้ว เป็นพวกปีศาจลมมืดที่ถอยไปเมื่อครู่!”
ผู้เฒ่าเคราแพะตะโกนอย่างแตกตื่น
“เช่นนั้นก็ลงมือสังหารทั้งหมด อย่าให้พวกมันรบกวนปรมาจารย์อูอวี้ทำลายค่ายกล!”
สีหน้าของเจียงฮ่าวเยือกเย็น เตรียมตัวจะลงมือ
“เจียงฮ่าว ช้าก่อน!”
สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มเจียงฮ่าวขัดขวางเขาที่กำลังจะลงมือ
“เจ้าดูสิ พวกมันกำลังช่วยเราทำลายค่ายกล!”
ผู้เฒ่าคนนี้ตะโกนออกมาด้วยสีหน้ายินดี
มองเห็นได้ว่าปีศาจลมมืดมากมาย มีทั้งราชันและจักรพรรดิ ผลัดกันบุกเข้าไปในจุดใดจุดหนึ่งของค่ายกล
ตู้ม! ปีศาจลมมืดตัวหนึ่งพุ่งทะยานเข้าไป และถูกดีดสะท้อนออกมาในทันใด ร่างกายแตกสลาย
ผลัวะ! ปีศาจลมมืดตัวที่สองโจมตีฉีกทึ้งเข้าไป
โครม! ปีศาจลมมืดตัวนี้ถูกพลังสะท้อนกลับกระแทกจนตาย!
ตัวที่สาม…ตัวที่สี่…
สีหน้าของตาเฒ่าอิงค้างแข็งเมื่อมองสถานการณ์เบื้องหน้านี้ รู้สึกเพียงหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ ถอยร่นไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว
“ดี พวกมันกำลังช่วยเราทำลายค่ายกล!”
ดวงตาสองข้างของจิงข่ายเป็นประกาย ตะโกนออกมาอย่างตกใจ
“ดูไปแล้วปีศาจลมมืดเหล่านี้ยังอยากจะช่วยให้พวกเราได้สมบัติ!”
ผู้เฒ่าเคราแพะลูบเคราหัวเราะลั่น
ทันใดนั้น! ใบหน้าอูอวี้ซีดขาว กระอักเลือดสดออกมา แล้วร่างกายก็ทรุดลงบนพื้น แต่จิตสำนึกและวิญญาณของเขาหลอมรวมเข้าไปในค่ายกล ซึ่งเป็นจุดที่ปีศาจลมมืดเข้าโจมตีจนตัวตาย
วูบ แซ่ด! รอยปริร้าวเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนค่ายกลขาวทอง!
ครืน! ทั้งห้องโถงสั่นอย่างรุนแรงอีกครั้ง
พู่ว ตู้ม!
กลุ่มหมอกควันประหลาดที่มืดดำดั่งหมึกล้อมรอบเสาสัมฤทธิ์ หอบเอากลิ่นอายมหาศาลที่ทำให้คนหวาดกลัวทะลุขึ้นบนฟ้า ทั้งห้องโถงเหมือนตกลงไปในนรกภูมิทันที กลิ่นอายปีศาจที่หนาวเหน็บน่าพรั่นพรึงกดดันจนหายใจไม่ออก
เปรี๊ยะ ฟึ่บ! ในทันใดนั้น ควันดำที่แปลกประหลาดทะลักออกมาตามรอยแตกร้าวเล็กๆ เหล่านั้น
วูบ วูบ! กลุ่มหมอกควันสีดำกลายเป็นหัวสัตว์อสูรดุร้าย กลืนร่างของอูอวี้ไปทันที หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปในหมอกควันจากรอยร้าวของค่ายกล
“เรื่องอะไรกัน?”
“แสงอัศจรรย์ทำไมกลายเป็นควันดำที่น่ากลัวเช่นนี้ได้?”
“ผู้อาวุโสอูอวี้ถูกควันดำกลืนกินเข้าไปแล้ว!”
ต่อให้ทุกคนโง่เง่าขนาดไหน แต่กลิ่นอายน่ากลัวที่แรงกล้าขนาดนี้ และยังต้องเผชิญภัยอันตรายต่อชีวิต ก็สามารถปลุกความหวาดกลัวขึ้นในใจ ทำให้พวกเขาได้สติขึ้นมาเล็กน้อย
“วิ่ง เฒ่าอิง!” จ้าวเฟิงรีบส่งเสียงไป
พู่ว! หลังจากที่ร่างกายของอูอวี้หายไปแล้ว หัวสัตว์อสูรน่าสะพรึงจากกลุ่มควันสีดำเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นหลายส่วน และพลันบีบเข้ามาที่กลุ่มคน จนทำให้เกิดแรงดึงดูดมหาศาลจากในปากของกลุ่มควันหัวอสูร
“อ๊าก! ช่วยข่าด้วย!”
จักรพรรดิรุ่นเยาว์กลุ่มเหลยทงได้รับผลกระทบจากที่แห่งนี้อย่างมาก ถูกดูดเข้าไปในควันดำทันที
จ้าวเฟิงและตาเฒ่าอิงสำแดงเคล็ดวิชาความเร็วทันที และหายตัวไปที่อุโมงค์ทางเดินก่อน
ในขณะที่ตาเฒ่าอิงหนีไปยังลากจิงข่ายไปด้วย หลังจากนั้น คนอื่นที่เหลือเพิ่งจะรู้ตัว จึงหมุนตัวหนีไป
“อ๊าก นี่มันอะไรกัน?”
ปฐมเซียนผู้หนึ่งในกลุ่มผู้เฒ่าเคราแพะถูกดูดเข้าไปในกลุ่มควันดำ
“หยก…หยกมังกรคุ้มกัน!”
ในขณะที่สมาชิกคนหนึ่งสั่นสะท้าน ก็กระตุ้นหยกมังกรคุ้มกัน เมฆแสงลายมังกรกลุ่มหนึ่งพร้อมกับเงาค่ายกลพลันแผ่กระจายออกมา
สวบ! แต่ในวินาทีต่อมา สมาชิกผู้นี้ที่ยังไม่ทันถูกส่งออกไป ก็ถูกหัวอสูรควันดำกลืนกิน
โครม! หัวอสูรควันดำกลุ่มนี้แยกออกเป็นควันสีดำหลายกลุ่มทันที และรวมตัวกันเป็นหัวขนาดเล็กอีกครั้ง ก่อนไล่ตามไปกลืนกินทุกคนที่กำลังหนี
จ้าวเฟิงใช้ปีกอัสนีหนีไปพลาง ใช้ดวงตาซ้ายคอยดูสถานการณ์เบื้องหลังไปพลาง
“คนที่ถูกควันอสูรกลืนกินไป คิดไม่ถึงว่าจะเข้าไปในค่ายกลผ่านทางรอยร้าวขนาดเล็กได้!”
จ้าวเฟิงตื่นตะลึง
นี่เป็นกลวิธีประเภทใดกัน? ทำให้คนที่สูงหกเจ็ดฉื่อหดเล็กลงจนสามารถทะลวงผ่านรอยร้าวเล็กๆ ได้!
“แย่ล่ะ!” จ้าวเฟิงค้นพบว่ามีหัวอสูรควันดำหัวหนึ่งตรงดิ่งมาจะกลืนกินเขา
พรึ่บ! จ้าวเฟิงไม่สังเกตด้านล่างอีกต่อไป กางปีกอัสนีสยายออกแล้วหนีไปในทันที
ฟุ่บ!
วินาทีที่ออกมาจากทางเข้าชั้นใต้ดิน จ้าวเฟิงรู้ว่าภัยอันตรายที่นั่นก็หายไป!
ยามนี้ ทั่วทั้งพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬยังสั่นสะเทือนอยู่
‘ดูไปแล้วควันดำกลุ่มนี้ยังไม่สามารถปรากฏบนพื้นดินได้!’
จ้าวเฟิงคาดเดาในใจ
“จ้าวเฟิง รีบหนีออกไปจากที่นี่กันเถิด บางทีอาจจะยังช่วยจิงข่ายได้!”
ตาเฒ่าอิงมองจิงข่ายที่สลบไสลไปแล้ว กังวลอยู่เล็กน้อย อย่างไรสมาชิกขององค์ชายเก้าก็มีเพียงเจ็ดคน จำนวนคนไม่สามารถน้อยไปมากกว่านี้ได้แล้ว แต่ในเวลานี้ ลมมืดในพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬค่อยๆ หนาแน่นขึ้นมา เหมือนกลับไปที่สภาวะแรกเริ่มสุด
“ได้!” คลื่นแสงสีทองบนดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงค่อยๆ อับแสงลงไป
คนที่ควรจะหนีไปต่างก็หนีไปหมดแล้ว ใต้ดินก็กลับสู่สภาวะสงบ! แต่คนทั้งสองบินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก! กำแพงหินด้านข้างก็แตกร้าวออก ลมพายุทำลายล้างจากพลังมิติส่วนตัวทะลักออกไปทั่วทิศทาง พายุหมุนดำมืดตลบออกมาจากใต้โลกมิติส่วนตัว!
ผลัวะ! พายุหมุนสีดำกลุ่มนี้กลายเป็นปีศาจลมมืดร่างใหญ่ยักษ์ตนหนึ่งพุ่งมาหาจ้าวเฟิง
“แย่แล้ว โลกมิติมรดกของเซียนแห่งนั้นแหลกละเอียดไปแล้ว นี่คือพลังเซียนที่ถูกลมมืดแปดเปื้อน!”
ดวงตาของตาเฒ่าอิงมองไปเบื้องหน้า พลังวิญญาณที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นปีศาจลมมืดโดยสมบูรณ์ตัวหนึ่ง หอบเอาพลังวิญญาณเพลิงมืดมากมายกดดันเข้ามา