บทที่ 960 ลงมือทันที
มุมปากขององค์ชายสิบเอ็ดยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ในเมื่อพี่เก้ามาเพื่อฝึกฝนวานรทองสะท้านฟ้า พวกเราสามารถร่วมมือกันควบคุมวานรทองสะท้านฟ้าตัวนี้เอาไว้ก่อน แล้วค่อยตัดสินกันว่าจะเป็นสิทธิ์ของใคร!”
‘คงจะไม่มีปัญหากระมัง จู๋หลง!’
องค์ชายสิบเอ็ดเห็นองค์ชายเก้าไม่ตอบตกลงในทันที จึงส่งกระแสจิตสื่อสารกับสมาชิกบริวารคนอื่นๆ
‘องค์ชายวางใจเถอะ พวกเขาไม่ปฏิเสธหรอก วานรทองสะท้านฟ้าเป็นสัตว์อสูรชั้นยอดที่อยู่ในขั้นจักรพรรดิ กำลังรบแข็งแกร่ง พลังแกร่งกล้า หากเพียงแค่กองกำลังเดียวคิดจะควบคุมมันเอาไว้ ก็ยังต้องใช้เวลานาน’
แววตาของจู๋หลงจ้องเขม็งไปที่จ้าวเฟิง จากที่เขารู้มา จ้าวเฟิงไม่ได้ผ่านการทดสอบของปรมาจารย์นักฝึกสัตว์ เพียงแต่อาศัยไหมเมฆาผีเสื้อเซียนที่ยืมมายึดครองตำแหน่งรายชื่อนี้ในกองกำลังขององค์ชายเก้า ด้วยเหตุนี้ หลังจากจัดการวานรทองสะท้านฟ้าตัวนี้แล้ว เขาจะเสนอแนะให้ใช้ความสามารถฝึกสัตว์มาแย่งชิงสิทธิ์ครอบครองวานรทองสะท้านฟ้า
เขาจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนปรมาจารย์นักฝึกสัตว์เหลียงซาง กล้าเอาสัตว์วิเศษมาสู้กับสัตว์วิเศษของจ้าวเฟิง!
“น้องสิบเอ็ด พวกเราต้องการวานรทองสะท้านฟ้าตัวนี้!”
ทันใดนั้น เสียงขององค์ชายเก้าก็ดังขึ้น
“อะไรกัน?”
จู๋หลงอึ้งไปชั่วขณะ เขาคิดไม่ถึงเลยว่ากองกำลังขององค์ชายเก้าจะปฏิเสธทันทีแบบนี้!
กองกำลังขององค์ชายเก้า ไม่ว่าจะมองอย่างไรพลังก็ค่อนข้างต่ำอยู่ดี กำลังรบที่แท้จริงก็คือตาเฒ่าอิงและสืออวี่เหลยเท่านั้น
พวกเขาปฏิเสธได้อย่างไร? อีกทั้งคำพูดยังเหิมเกริมบ้าคลั่งเช่นนี้!
“พี่เก้า พวกเราต่างเป็นองค์ชายที่ไร้วาสนาจะชิงตำแหน่งรัชทายาท ไม่จำเป็นต้องสู้รบกันเอง ไม่สู้ร่วมมือกันรับมือกับองค์ชายเจ็ดหรือไม่ก็องค์ชายแปด ไม่แน่ว่าอาจมีประโยชน์ในเมืองความลับสวรรค์ก็เป็นได้!”
องค์ชายสิบเอ็ดเอ่ยด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ
องค์ชายเก้าในวันนี้ดูต่างจากปกติ กลับแสดงท่าทีวางอำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้
“องค์ชายสิบเอ็ด ข้าจะให้ตัวเลือกสองทาง หนึ่งคือจากไป สองทิ้งพลังชะตามังกรเอาไว้แล้วจากไปซะ!”
ยามนี้ตาเฒ่าอิงก้าวออกมา เอ่ยตัดบทขึ้นทันที
เมื่อสมาชิกในกองกำลังขององค์ชายเก้าได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกปลอดโปร่งอย่างมาก
“เหอะ พี่เก้า ท่านชักจะมั่นใจในตนเองเกินไปแล้ว!”
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของทั้งกลุ่มเขาจะอยู่ในลำดับที่เก้า แต่พลังความสามารถก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าองค์ชายเก้าเลย
ในเวลาเดียวกัน สมาชิกในกองกำลังขององค์ชายสิบเอ็ดรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง กำลังจะหลอกล่อให้วานรทองสะท้านฟ้ามาทางองค์ชายเก้า
“พูดจาไร้สาระนัก!”
สืออวี่เหลยตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด บุกทะยานนำไปก่อน ทั่วร่างเปล่งแสงสีเหลืองเข้มเป็นประกายแวววับ ร่างกายขยายใหญ่ในทันที ทั้งตัวพลันแข็งดั่งหิน ในบางจุดก็เป็นโลหะ พลังกายไร้รูปร่างที่น่าพรั่นพรึงพวยพุ่งขึ้น!
หลังจากนั้น ตาเฒ่าอิง จ้าวเฟิง และสมาชิกฝ่ายต่อสู้ก็รีบไล่ตามมาติดๆ
สมาชิกฝั่งองค์ชายเก้าลงมือทันที!
หากเผชิญหน้ากับองค์ชายสิบเอ็ดยังหวั่นเกรง เช่นนั้นแล้วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับองค์ชายแปดและองค์ชายเจ็ด จนกระทั่งองค์ชายสี่จะทำอย่างไร?
“พวกเจ้า…” องค์ชายสิบเอ็ดตกใจ ลนลานทำอะไรไม่ค่อยถูก
ท่าทีของกลุ่มองค์ชายเก้าผิดปกติอย่างมาก จู่ๆ ก็เป็นฝ่ายบุกโจมตีก่อน!
“องค์ชายสิบเอ็ดอย่ารีบร้อน ให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตากับฝูงสัตว์อสูรในสุสานราชวงศ์สักหน่อย!”
จู๋หลงโกรธเกรี้ยว สะบัดมือเอาถุงสัตว์วิเศษออกมา ทันใดนั้นเอง กลิ่นอายฝูงสัตว์อสูรที่บ้าคลั่งรุนแรงปรากฏขึ้นกลางป่าทึบ มองเห็นเสือดำลายม่วงจำนวนเกือบร้อยวิ่งวนรอบตัวจู๋หลงและองค์ชายสิบเอ็ด
“อ้อ? มีฝูงสัตว์อสูรเสียด้วย!”
จ้าวเฟิงชำเลืองมองราชาเสือดำลายม่วงที่อยู่ในฝูง
มองออกได้ไม่ยากเลยว่า จู๋หลงก็คงจะกำราบราชาเสือดำลายม่วงมาควบคุมฝูงสัตว์อสูรกลุ่มนี้ มุมปากของจ้าวเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ ดวงตาซ้ายทอประกายแสงสีทองม่วงขึ้น พลังดวงตาที่แกร่งกล้าทะลักพวยพุ่งออกมา
ในวินาทีต่อมา เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในฉับพลัน!
ดวงตาสองข้างของราชาเสือดำทอประกายแสงสีแดง สีหน้าของมันบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวดและบ้าคลั่งขึ้นมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ราชาเสือดำลายม่วง!”
สีหน้าของจู๋หลงเปลี่ยนไปทันที
อารมณ์ของราชาเสือดำเปลี่ยนแปลงไปมาก สายสัมพันธ์ระหว่างเขาและราชาเสือดำลายม่วงค่อยๆ จางหายไป
โฮกกก! ราชาเสือดำลายม่วงหลุดพ้นจากการควบคุมของจู๋หลง กลายเป็นเงาสีม่วงเข้มหอบเอาพลังโหดเหี้ยมตรงดิ่งไปโจมตีจู๋หลงที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด
ในเวลาเดียวกัน ทั้งฝูงเสือดำลายม่วงสูญเสียการควบคุม เห็นได้ชัดว่าการสื่อสารระหว่างพวกมันและราชาเสือดำก็หายไปด้วย แต่จากการที่ราชาเสือดำโจมตีจู๋หลงและพวก เสือดำลายม่วงทั้งหมดก็เริ่มรุกคืบเข้าไปโจมตีในทันที
“อาจารย์จู๋ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
สีหน้าขององค์ชายสิบเอ็ดเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตื่นตกใจในทันใด พวกเขาทั้งสองคนตกอยู่ท่ามกลางฝูงเสือดำลายม่วง ในตอนนี้ ฝูงเสือดำลายม่วงที่สูญเสียการควบคุมพุ่งมาโจมตีพวกเขาก่อน เผชิญกับการโจมตีกลับของทั้งฝูงสัตว์อสูร ใบหน้าขององค์ชายสิบเอ็ดและจู๋หลงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พรึ่บ พรึ่บ! สมาชิกคนอื่นในกลุ่มมาถึงข้างกายขององค์ชายสิบเอ็ดในทันใด!
หมัดสีทองเป็นประกายเรืองรองพร้อมพลังดุดัน โจมตีราชาเสือดำลายม่วงจนถอยร่นไป
สมาชิกคนอื่นที่เหลือเองก็สาดซัดแรงพลังที่แข็งแกร่งเกินจะเปรียบ กดดันและต้านทานการโจมตีที่มาจากเสือดำ
“องค์ชายอย่าเพิ่งรีบร้อน ข้าจะรีบควบคุมราชาเสือดำลายม่วงเอาไว้!”
ใบหน้าชราของจู๋หลงแดงก่ำ รีบร้อนใช้วิธีการต่างๆ เพื่อปลอบประโลมและสื่อสารกับราชาเสือดำ
“อาจารย์จู๋หลง ระวัง!”
ผู้อาวุโสชุดเทาตะเบ็งเสียง ฟาดแสงฝ่ามือเส้นหนึ่งออกมาขวางการโจมตีของพวกตาเฒ่าอิง!
“เหอะ สืออวี่เหลย คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!”
หวาฮุยพุ่งทะยานไปหาสืออวี่เหลย
ในขณะที่กองกำลังขององค์ชายสิบเอ็ดตกอยู่ในสถานการณ์โกลาหล
พรึ่บ แซ่ด แซ่ด! เบื้องหลังจ้าวเฟิงปรากฏปีกแสงอัสนีสีชาด
เปรี๊ยะ! จ้าวเฟิงไม่สนใจองค์ชายสิบเอ็ดและฝูงเสือดำลายม่วง กลายร่างเป็นแสงสายฟ้าสีแดงเส้นหนึ่งตรงดิ่งไปหาวานรทองสะท้านฟ้าที่อยู่ด้านหลัง
“กายอัสนีทอง!”
ร่างจ้าวเฟิงอาบด้วยลวดลายสายฟ้าแก่นแท้ร่างกายสีฟ้าทองเป็นประกาย พุ่งปะทะไปยังวานรทองสะท้านฟ้าราวเขาอัสนีทอง
“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”
ในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงทะลักเพลิงพลังดวงตาที่น่าสะพรึงขวัญออกมา แสงสว่างสีทองหมุนวน ลวดลายมืดดำของอัสนีลงทัณฑ์ลอยเอ่อขึ้น
โครม…
เพลิงอัสนีสีทองม่วงโปร่งแสงกลุ่มหนึ่ง หอบเอากลิ่นอายอัสนีเทวะทำลายล้าง ระเบิดลงบนส่วนศีรษะของวานรทองสะท้านฟ้า
ผลัวะ! วานรทองสะท้านฟ้าที่เดิมก็มีอาการบาดเจ็บอ่อนล้า เมื่อโดนจ้าวเฟิงโจมตีไปสองกระบวนท่าก็ร้องโหยหวนไม่หยุด โดยเฉพาะพลังทำลายล้างของอัสนีเทวะที่น่าสะพรึงกลัวจากเพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า มันแผ่ขยายเผาไหม้บนร่างและวิญญาณของวานรทองสะท้านฟ้า!
โครม เปรี้ยง!
จ้าวเฟิงฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะของวานรทองสะท้านฟ้าอย่างแม่นยำ
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็ตีตราผนึกดวงใจทมิฬที่เตรียมเอาไว้นานแล้วลงไปในส่วนลึกของวิญญาณวานรทองสะท้านฟ้า! ขั้นตอนทั้งหมดนี้รวดเร็วนัก ใช้เวลาทั้งหมดเพียงไม่กี่ช่วงลมหายใจเท่านั้น
“เจ้าเด็กนั่นทำอะไร?”
“เขาต่อสู้ตัวต่อตัวกับวานรทองสะท้านฟ้า!”
ในตอนที่กองกำลังขององค์ชายสิบเอ็ดต่อสู้กับฝูงเสือดำลายม่วง ก็รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ระหว่างจ้าวเฟิงและวานรทองสะท้านฟ้า
“พลังของเขาแข็งแกร่งเหลือเกิน เป็นไปได้อย่างไร?”
สีหน้าหวาฮุยตื่นตะลึง ระยะทางที่ห่างเช่นนี้ เขายังสัมผัสได้ถึงพลังกายที่แกร่งกล้าของจ้าวเฟิง
“เจ้าเด็กนั่นบ้าไปแล้ว!”
จู๋หลงมองจ้าวเฟิงที่กำลังต่อสู้กับวานรทองสะท้านฟ้า ใจเต้นระรัวเร็ว
ในใจของเขา จ้าวเฟิงเป็นแค่นักฝึกสัตว์ของปลอมเท่านั้น แต่กำลังรบที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ราชันทั่วไปจะทำได้ ทว่าจากเสียงกรีดร้องคำรามของวานรทองสะท้านฟ้า เขาก็พอจะมองออกว่าการโจมตีของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งมากเพียงใด!
“องค์ชายสิบเอ็ดอย่างเพิ่งรีบร้อน ราชาเสือดำลายม่วงค่อยๆ สงบลงแล้ว!”
ในขณะที่จิตใจราชาเสือดำลายม่วงสับสนปั่นป่วน จู๋หลงก็ใช้เคล็ดวิชาฝึกสัตว์ประเภทต่างๆ มาปลอบประโลมและเชื่อมเข้ากับราชาเสือดำลายม่วงอย่างช้าๆ
ฝูงเสือดำลายม่วงค่อยๆ สงบลง แรงกดดันของกองกำลังองค์ชายสิบเอ็ดลดลงไป!
“เหอะ พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
จู๋หลงควบคุมราชาเสือดำลายม่วงอีกครั้ง ยืดอกขึ้น มองไปที่พวกตาเฒ่าอิงที่กำลังประมือกับสมาชิกขององค์ชายสิบเอ็ด และเตรียมจะสั่งฝูงเสือดำลายม่วง
แต่ในวินาทีต่อมา
บึ้ม! เสียงระเบิดโครมครามดังขึ้นด้านหลังของเขา ทันใดนั้นเอง กลิ่นอายเหี้ยมโหดน่าพรั่นพรึงทำเอาแผ่นหลังของพวกองค์ชายสิบเอ็ดเย็นวาบ
วานรทองสะท้านฟ้าร้องคำรามโกรธเกรี้ยว ทะยานมายังองค์ชายสิบเอ็ดและพวก ร่างกายมโหฬารของมันราวกับภูเขาใหญ่กดทับลงมา
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าเด็กนั่นจะสามารถกำราบวานรทองสะท้านฟ้าได้!”
สมาชิกในกองกำลังขององค์ชายสิบเอ็ดค้างแข็งเป็นท่อนไม้ คิดไม่ถึงว่าจะมีนักฝึกสัตว์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้
“เป็นไปได้อย่างไร? นั่นเป็นถึงวานรทองสะท้านฟ้าเชียวนะ!”
จู๋หลงยืนนิ่งไม่ไหวติง ในสมองขาวโพลน เพียงไม่กี่ช่วงลมหายใจ ในขณะที่เขากำลังปลอบประโลมราชาเสือดำลายม่วง จ้าวเฟิงกลับควบคุมวานรทองสะท้านฟ้าได้สำเร็จ!
โฮกกก! ฝูงเสือดำลายม่วงที่เพิ่งจะถูกจู๋หลงควบคุมได้มองไปที่วานรทองสะท้านฟ้าที่ทะยานเข้ามาดั่งเขาไท่ซาน ส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะแตกกระจายหนีไป
โครม ตูม! วานรทองสะท้านฟ้าหยุดอยู่เบื้องหน้ากองกำลังองค์ชายสิบเอ็ด โดยมีวายุอัสนีธาตุไม้ล้อมรอบกายของมัน
จ้าวเฟิงยืนอยู่บนศีรษะของวานรทองสะท้านฟ้า มองกลุ่มคนด้านล่าง
“มอบ ‘พลังชะตามังกร’ ทั้งหมดมา ไม่เช่นนั้นก็จงออกจากสุสานราชวงศ์ไป!”
จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
สมาชิกกองกำลังขององค์ชายสิบเอ็ดตื่นกลัว ไม่มีใครกล้าขัดขืน จักรพรรดิสามคนในนั้นเคยถูกจ้าวเฟิงชิงของไป ก็ยิ่งตื่นตกใจจนตัวสั่น
“จ้าวเฟิง เจ้า…”
องค์ชายสิบเอ็ดเพลิงโทสะลุกโชน ในมือปรากฏตราประทับทอประกายแวววับอย่างรวดเร็ว
“องค์ชายสิบเอ็ด ช้าก่อน!”
จู๋หลงรีบขัดขวางอย่างรวดเร็ว “องค์ชายสิบเอ็ด ต่อให้ท่านเอา ‘พลังชะตามังกร’ มาเพิ่มกำลังรบ องค์ชายเก้าก็ทำได้เช่นกัน!”
เมื่อองค์ชายสิบเอ็ดได้ยินคำพูดของจู๋หลงจึงกัดฟันกรอด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้!
“พี่เก้ามีความสามารถจริงเชียว!”
องค์ชายสิบเอ็ดล้วงตรารัชทายาทจำลองออกมาอย่างเกรี้ยวกราด!
สมาชิกในกองกำลังขององค์ชายสิบเอ็ดเองก็ต่างมอบหยกมังกรคุ้มกันให้ เดิมทีพวกเขาเองก็ไม่มีเจตนาจะรวบรวม ‘พลังชะตามังกร’ อยู่แล้ว
……
ใจกลางของสุสานราชวงศ์ มีเมืองเหล็กกล้าขนาดใหญ่สี่แห่งตั้งอยู่สี่ทิศทาง
ในเมืองเหล็กกล้ามีสิ่งปลูกสร้างประหลาดสร้างจากโลหะตั้งตระหง่านอย่างหนาแน่น หอระฆังสูงเสียดฟ้า หอชมดาวเก่าแก่ลึกลับ และจัตุรัสน้ำพุที่เงียบสงบ…
ด้านหน้าประตูเมืองเหล็กกล้าทุกแห่งมีสัตว์อสูรจำนวนมากนั่งรวมตัวอยู่
ในเวลานั้นเอง หน้าประตูเมืองเหล็กกล้าทางทิศตะวันตก
สัตว์อสูรสองฝั่งกำลังชุลมุนเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด จิ้งจอกเหมันต์ เสือเพลิง หมียักษ์ งูยักษ์…สู้กันอลหม่านจนกลิ่นอายชั่วร้ายแพร่กระจายไปในอากาศ
“ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน องค์ชายแปดที่เป็นฝั่งอ่อนแอที่สุดในสี่เมืองเหล็กกล้า ยังจัดการได้ยากถึงเพียงนี้!”
“ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนสัตว์อสูรจากในเมืองความลับสวรรค์ได้!”
ในฝั่งด้านหน้าประตูเมือง มีคนจำนวนนับสิบอยู่ ในนั้นมีนักฝึกสัตว์สองคน กัดฟันกรอดขณะที่ควบคุมให้สัตว์อสูรจำนวนมากบุกโจมตีเมืองเหล็กกล้าไม่หยุดหย่อน
“แย่ล่ะ คนของตระกูลหยูปรากฏตัวขึ้นแล้ว!”
“นั่นมันหยูเทียนฮ่าวและหยูเหลิ่งหวา!”
แล้วจึงมองเห็นเงาคนสองร่างปรากฏขึ้นบนกำแพงเมืองเหล็กกล้า
“สวรรค์ไร้เทียมทาน!”
ในแววตาของหยูเทียนฮ่าวและผู้อาวุโสหยูเหลิ่งหวาสาดซัดจิตต่อสู้ที่พุ่งพล่านเขย่าขวัญออกมา เบื้องหลังของคนทั้งสองปรากฏเงาเย็นยะเยือก พลานุภาพไร้รูปร่างทำให้อากาศเบื้องหลังบิดเบี้ยวไป
ผลัวะ โครม! ทันใดนั้นเอง สัตว์อสูรของฝั่งเมืองเหล็กกล้าต่างก็พร้อมใจกันคำราม ดวงตาสองข้างฮึกเหิม พลังของสัตว์อสูรที่ไร้ขีดจำกัดระเบิดออกในฉับพลัน
“นี่คือเคล็ดวิชาของตระกูลหยู ส่งผลต่อสัตว์อสูรได้เช่นกัน!”
“รีบให้สัตว์อสูรถอยกลับมา สลายตัวก่อน!”