Skip to content

King of Gods 977

King Of Gods

บทที่ 977 ติดตามวิญญาณ

ออกจากหอโอสถเทพไปแล้ว จ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยก็มุ่งไปยังโรงหลอมโลหะอีกครั้ง ยังไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ จ้าวเฟิงก็พบว่าโจวซู่เอ๋อร์เข้าไปในหอโอสถเทพเช่นกัน ส่วนในร้านหนังสือข้างๆ จ้าวเฟิงเห็นเงาของตาเฒ่าอิง

ในยามนี้ทุกคนล้วนแสวงหาโอกาสของตัวเอง

“มีอะไรให้รับใช้?”

ชายร่างกำยำตัวดำเมี่ยมมองจ้าวเฟิง

“ดูอาวุธชิ้นนี้ของข้าที!”

ในมือของจ้าวเฟิงมีธนูโบราณเงินหม่นคันหนึ่งลอยขึ้น พื้นผิวของคันธนูมีอักขระลึกลับสลักไว้ ส่องประกายสีเงินสว่างไสว ก่อเป็นลวดลายราวกับตัวลูกอ๊อด

“อาวุธชิ้นนี้ไม่บุบสลายแม้แต่น้อย ถึงขั้นสุดยอดแล้วทุกด้าน คุณสมบัติพิเศษที่สามารถเพิ่มได้มีมาก แต่ท่านลูกค้าเชี่ยวชาญในขอบเขตวิญญาณ ดังนั้นคุณสมบัติที่เพิ่มจึงมีน้อยนัก อีกทั้งความสามารถด้านวิญญาณทั่วไป สำหรับท่านแล้วไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก”

ชายกำยำตัวดำพิจารณาธนูเหนือนภาอย่างละเอียด

สีหน้าจ้าวเฟิงอึ้งเล็กน้อย นับถือหุ่นเชิดกลไกตัวนี้อยู่บ้าง

ในขณะที่วิเคราะห์ธนูเหนือนภา ชายกำยำตัวดำก็ยังวิเคราะห์ขอบเขตที่ผู้ใช้เชี่ยวชาญอีกด้วย

วิชาที่จ้าวเฟิงฝึกบำเพ็ญมีหลายชนิด

ถึงจะเพิ่มคุณสมบัติพิเศษวายุ อัสนี และเพลิงให้กับธนูเหนือนภา การยกระดับทุกส่วนของธนูก็ธรรมดามาก

ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงหวังจะเพิ่มความแข็งแกร่งของประสิทธิภาพด้านวิญญาณให้กับธนูเหนือนภา

“ข้าแนะนำให้เพิ่มความสามารถด้าน ‘ติดตามวิญญาณ’ ให้กับอาวุธชิ้นนี้ น่าจะเหมาะสมกับท่านลูกค้าเป็นอย่างมาก!”

ชายกำยำตัวดำเมี่ยมพิจารณาตาซ้ายของจ้าวเฟิงอย่างละเอียด จากนั้นจึงพูดขึ้น

“ติดตามวิญญาณ?”

จ้าวเฟิงอึ้งไป ลำพังเพียงแค่ความหมายตามตัวอักษร เขายังคิดไม่ออกว่าเป็นพลังชนิดใด

“พูดให้ง่ายก็คือ หลังจากที่เพิ่มความสามารถชนิดนี้แล้ว ท่านจะสามารถใช้ธนูนี้ ฆ่าศัตรูที่วิญญาณสามารถสัมผัสได้โดยตรง”

ช่างเหล็กตัวดำเมี่ยมเผยรอยยิ้มมั่นใจ

“ฆ่าคนที่วิญญาณสามารถสัมผัสได้โดยตรง? สามารถเพิ่มพลังแบบนี้ได้ด้วยหรือ?”

ในใจจ้าวเฟิงอึ้งเล็กน้อย

ธนูเหนือนภาเดิมก็มีความสามารถติดตามวิญญาณในตัวอยู่แล้ว ต่อให้อีกฝ่ายหนีไปไกลหรือหลอมรวมไปในอากาศก็ยิงทะลุได้

ข้อแม้คือจ้าวเฟิงต้องกำหนดเป้าหมายผ่านธนูเหนือนภาก่อน

แต่ ‘สัมผัสวิญญาณ’ ที่ช่างเหล็กตัวดำเมี่ยมพูดถึง ขอเพียงจ้าวเฟิงใช้สายเลือดดวงตาทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้บนตัวใครสักคนหนึ่ง

เมื่อจ้าวเฟิงสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของคนคนนี้ ก็ใช้ธนูเหนือนภายิงเป้าหมายได้

ยกตัวอย่างเช่น หากบนร่างของเซียนมารทมิฬมีสัญลักษณ์ที่เนตรเทพเจ้าของจ้าวเฟิงทิ้งเอาไว้ เมื่อง้างธนูเหนือนภาก็สามารถยิงโดนเซียนมารทมิฬได้เลย

อีกทั้งวิธีกำหนดเป้าหมายแบบนี้ยิ่งง่ายขึ้น กระทั่งเป้าหมายยังไม่ทันรู้ตัว

“ใช่แล้ว เพราะความสามารถในการ ‘ติดตามเป้าหมาย’ ของธนูคันนี้พิเศษเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงยกระดับได้ถึงขั้น ‘ติดตามวิญญาณ’…”

ช่างเหล็กตัวดำพยักหน้า อธิบายขึ้นอีกรอบ

จุดสำคัญคือเน้นหนักว่า ไม่ใช่อาวุธทุกชนิดจะสามารถเพิ่มความสามารถชนิดนี้ได้ แต่ธนูเหนือนภามีพลัง ‘ติดตามเป้าหมาย’ ที่แข็งแกร่งในตัวเองอยู่แล้ว

‘ติดตามวิญญาณ’ เท่ากับแค่พัฒนายกระดับความสามารถ ‘ติดตามเป้าหมาย’ ของธนูเหนือนภาเท่านั้น

การเพิ่มความแข็งแกร่งให้ความสามารถชนิดนี้ แน่นอนว่าค่าตอบแทนที่ต้องการก็สูงมากเช่นกัน

“ได้ เลือกเพิ่มความแข็งแกร่ง!”

จ้าวเฟิงจ่ายค่าตอบแทนและให้วัตถุดิบบางส่วนโดยไม่ลังเล

จ้าวเฟิงตื่นเต้นกับความสามารถที่ชายกำยำตัวดำเมี่ยมเอ่ยถึงมาก

“อีกสองวันให้หลังท่านก็มารับได้แล้ว!”

ชายกำยำตัวดำนำธนูเหนือนภาใส่เข้าไปในเตาหลอมสีดำอันใหญ่ จากนั้นจึงพูดขึ้น

“ข้ายังต้องการทำลูกศรที่เหมาะกับธนูคันนี้อีกสักจำนวนหนึ่ง”

จ้าวเฟิงคิดสักครู่แล้วพูดต่อ

เขาไม่ต้องการโอกาสอื่นในเมืองความลับสวรรค์แล้ว หากสามารถทำลูกศรที่มีพลังมหาศาลได้อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อใช้เข้าคู่กับพลังของธนูเหนือนภา ก็สามารถเป็นไพ่เด็ดของจ้าวเฟิงได้

ถึงแม้ว่าในมือจ้าวเฟิงจะมีศรสังหารเทพก็ตาม

แต่พลังที่แท้จริงของศรสังหารเทพ ต่อให้จ้าวเฟิงทะลวงถึงขอบเขตเทวาเร้นลับ ก็ไม่แน่ว่าจะสำแดงพลังได้อย่างเต็มที่

ครั้งที่แล้วแผลงศรสังหารเจ้าลัทธิมารเก้านิรย จ้าวเฟิงไม่ได้สำแดงพลังที่แท้จริงของศรสังหารเทพเลยแม้แต่น้อย แค่เพียงฝืนใช้เท่านั้น อีกทั้งการผลาญพลังที่น่าหวาดหวั่น เกือบจะทำให้จ้าวเฟิงสูญเสียความสามารถในการขยับเขยื้อน

ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ จ้าวเฟิงเหลือศรสังหารเทพเพียงแค่ดอกเดียวเท่านั้น

“ท่านลูกค้าต้องการลูกศรแบบใด? บอกความต้องการอย่างง่ายๆ ได้ ที่นี่ข้าสามารถทำได้อย่างอย่างสมบูรณ์แบบนัก หากท่านลูกค้ามีแบบร่างของการสร้างอาวุธเทพหรือลูกธนูที่ต้องการทำ ราคาจะถูกลงได้อีกหน่อย!”

ชายกำยำตัวดำเมี่ยมพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น

ทำอาวุธตามแบบร่างหรือลอกเลียนแบบอาวุธเทพ แน่นอนว่าประหยัดเวลาประหยัดแรง ราคาจึงถูกลงหน่อย

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งขรึม แบบร่างทำอาวุธเขาย่อมไม่มีแน่นอน แต่ลูกศร……

“ดูนี่!” กลางฝ่ามือของจ้าวเฟิงพลันมีลูกศรสีทองแดงปรากฏขึ้น

ชั่ววินาทีที่ศรสังหารเทพปรากฏ กลุ่มแสงทองประกายไร้รูปร่างสาดส่องไปทั่วทั้งอากาศ เครื่องมือเหล็กมากมายในโรงหลอมสั่นสะเทือนดังโครมคราม แต่กลุ่มแสงทองประกายกลับเกิดขึ้นแค่ภายในโรงหลอมเหล็ก โลกภายนอกไม่สามารถสัมผัสได้

จ้าวเฟิงอดตกใจไม่ได้ ท่าทางโรงหลอมเหล็กแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน แม้กระทั่งพลังของอาวุธเทพชั้นรองก็สามารถสกัดกั้นจากโลกภายนอกได้ทั้งหมด

“นี่คือศรสังหารเทพ!”

ดวงตาทั้งสองของช่างเหล็กตัวดำส่องแสงสีแดง สำหรับอาวุธเทพชั้นรองที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาต้องรู้จัก

“ข้าไม่ต้องการทำศรสังหารเทพ เพียงต้องการรูปร่างของมัน ทำลูกธนูที่พลังต่ำกว่านี้เล็กน้อยจำนวนหนึ่งก็เพียงพอแล้ว!”

จ้าวเฟิงเชื่อว่าโรงหลอมเหล็กในเมืองความลับสวรรค์มีความสามารถสร้างอาวุธเทพชั้นรอง แต่ราคานั้น จ้าวเฟิงจ่ายไม่ไหว

ต้องรู้ว่า อาวุธเทพชั้นรองเป็นอาวุธที่ครึ่งเทพเท่านั้นจึงจะสามารถควบคุมได้ ราคาของมันประเมินค่าไม่ได้ อีกอย่างเวลาที่จ้าวเฟิงหยุดอยู่ในเมืองความลับสวรรค์ก็มีจำกัด ทำอาวุธเทพชั้นรองไม่แน่ว่าต้องใช้เวลาเท่าใด

“ได้ ท่านลูกค้าได้โปรดนำศรสังหารเทพมาให้ข้าก่อน ข้าต้องวิเคราะห์โครงสร้างและวิธีการสร้างอาวุธชิ้นนี้ออกมา อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย!”

ช่างตีเหล็กตัวดำมองสีหน้าของจ้าวเฟิง เพิ่มความจริงจังอีก

“ได้!” จ้าวเฟิงไม่ลังเล

หากเป็นที่หลอมอาวุธเทพที่โลกด้านนอก จ้าวเฟิงไม่มีทางยินยอมอย่างแน่นอน กระทั่งไม่มีทางหยิบศรสังหารเทพออกมา

ช่างเหล็กตัวดำรับศรสังหารเทพ จากนั้นนำจ้าวเฟิงไปยังชั้นสิบ วางศรสังหารเทพไว้ในรางเครื่องมือเว้าที่สุดจะซับซ้อน

สองชั่วยามหลังจากนั้น

ช่างเหล็กตัวดำก็นำศรสังหารเทพออกมาคืนให้จ้าวเฟิง นิ้วมือแตะไปในอากาศ ม่านแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นทันใด

“ท่านลูกค้าโปรดดู ตามโครงสร้างและวิธีการทำของศรสังหารเทพ ลูกธนูที่ทำออกมาได้มีประมาณตามข้างล่าง”

สายตาของจ้าวเฟิงพลันกวาดไปยังม่านแสง

บนนั้นมีแบบร่างของลูกธนูมากมาย ตั้งแต่ลูกธนูทั่วไปขั้นจักรพรรดิจนถึงศรสังหารเทพ มีทั้งหมดยี่สิบหกชนิด

“ไม่ผิดจริงๆ แม้แต่ศรสังหารเทพก็ทำขึ้นมาได้!”

จ้าวเฟิงสูดหายใจลึก ดูคร่าวๆ ต่อไป

ลูกธนูทั้งยี่สิบหกชนิดนี้เป็นประเภทสิ้นเปลืองที่ใช้เพียงครั้งเดียว รวมกับที่จ้าวเฟิงมอบแม่แบบในการสร้างศรสังหารเทพ ราคาจึงค่อนข้างถูก สุดท้ายจ้าวเฟิงเลือกสั่งทำลูกธนูสามดอก ผลึกเริ่มต้นและทรัพยากรหินแร่ที่จ่ายไปเกินกว่ามรดกทรัพย์สมบัติของขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง

“รับทราบ สองวันหลังจากนี้ท่านลูกค้ามารับลูกธนูและคันธนูคืนได้”

ชายกำยำตัวดำเผยรอยยิ้มสุขใจ

หลังจากออกจากโรงหลอมเหล็ก จ้าวเฟิงก็กลับมาข้างกำแพงเมืองเหล็กกล้า ที่นี่มีห้องเหล็กสิบกว่าห้อง ในยามนี้ยังไม่มีใครกลับมา

จ้าวเฟิงเลือกห้องเหล็กที่อยู่ชิดริม แล้วเริ่มใช้การป้องกันเขตหวงห้าม

เจ้าแมวขโมยน้อยมุดเข้าไปในมนตราอากาศ สิ่งที่มันได้รับในเมืองความลับสวรรค์แห่งนี้ก็มากเหมือนกัน

“ดู ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ก่อนก็แล้วกัน”

จ้าวเฟิงยังหวังว่าจะใช้วิชาวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์เป็นอย่างยิ่งเล่มนี้ได้ อีกทั้งผู้อาวุโสลุ่มลึกสง่างามของ ‘วังวิถีเซียน’ ก็ประเมินวิชานี้เอาไว้ไม่เลวเลย ฟังจากคำพูดของผู้อาวุโส ‘วิชาแยกวิญญาณ’ นี้เหมือนกับว่าจะแตกต่างกับวิชาวิญญาณทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

จ้าวเฟิงใช้เวลาชั่วขณะหนึ่งอ่าน ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ทั้งหมดอย่างคร่าวๆ

“วิชานี้กลับน่าสนใจอยู่!”

จ้าวเฟิงถูกเนื้อหาแนะนำข้างในดึงดูด

‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ คือการแยกความคิดจิตใจออกมาใช้

แต่ ‘วิชาแยกวิญญาณ’ คือการลองแยกวิญญาณ!

แนวคิดเช่นนี้ จ้าวเฟิงไม่เคยเห็นในหอสมุดอุทยานครึ่งเซียนหรือในคฤหาสน์ลับเทพบรรพกาลมาก่อน ในด้านความคิด เป็นสิ่งที่ชวนให้คนตาวาว แต่ว่า ‘วิชาแยกวิญญาณ’ มีเพียงวิธีการฝึกเพียงแค่ขั้นที่หนึ่ง ขั้นที่สองเขียนไว้เพียงบางส่วนก็ไม่มีต่อแล้ว ด้านหลังยังมีหมายเหตุของผู้เขียน ‘จากการทดลองของผู้อื่น ผู้ที่วิญญาณไม่แข็งแกร่ง ควบแน่นไม่เพียงพอ ขั้นแรกยากจะฝึกสำเร็จ!’

จ้าวเฟิงไร้คำพูด ความหมายของประโยคนี้ก็คือโดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครสำเร็จมาก่อน

จ้าวเฟิงคิดแม้กระทั่งว่า ในตอนที่ผู้เขียนทดลองฝึกฝน ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ด้วยตัวเอง เกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรใช่หรือไม่

‘ท่าทาง ‘วิชาแยกวิญญาณ’ คงต้องวางเอาไว้ก่อน บางทีภายหลังในยามที่ข้ามีพลังอาจสำเร็จวิชาฝึกฝนวิญญาณส่วนนี้ได้!’

จ้าวเฟิงยังคิดในแง่ดีต่อเคล็ดวิชาเล่มนี้

หลังจากวาง ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ลง จ้าวเฟิงนำจิตสำนึกดำดิ่งลงใน ‘วิชาวิญญาณหลอมดวงตา’

‘วิชาวิญญาณหลอมดวงตา’ คือหนึ่งในเคล็ดวิชาชิงดวงตามากมาย อัตราสำเร็จสูงที่สุด

ในขณะที่ทำความเข้าใจกับ ‘วิชาวิญญาณหลอมดวงตา’ จ้าวเฟิงยังขับเคลื่อน ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ แบ่งความคิดออกหนึ่งสาย เพื่อใช้พลังอัสนีเทวะขจัดพลังมรณะของเนตรมรณะออก

ครึ่งวันผ่านไป

“เหมือนจะง่ายมาก ตอนนี้ก็ลงมือฝึกได้!”

จ้าวเฟิงทำความเข้าใจ ‘วิชาวิญญาณหลอมดวงตา’ ทั้งหมด

เคล็ดวิชานี้ จุดที่สำคัญคือใช้วิญญาณของผู้เปลี่ยนเองค่อยๆ ยึดครองดวงตาวิญญาณ และเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติวิญญาณของดวงตา การยึดครองจะยิ่งง่ายขึ้นเมื่อขอบเขตพลังของผู้เปลี่ยนและเนตรใกล้เคียงกัน ตอนที่คุณสมบัติวิญญาณของดวงตาและวิญญาณของผู้เปลี่ยนดวงตามีระดับเข้ากันได้ครึ่งหนึ่ง ก็ทำการสับเปลี่ยน

ประจวบเหมาะว่าจักรพรรดิแห่งความตายอยู่ในระดับปฐมเซียน ระดับของเนตรมรณะข้างนี้จึงเหมือนกับจ้าวเฟิงโดยสิ้นเชิง

‘ตอนนี้ก็สามารถยึดครองได้แล้ว!’

จิตของจ้าวเฟิงเข้าไปยังมิติตาซ้าย

บนลูกกลมสีทองลึกลับ เนตรมรณะลอยอยู่นิ่งๆ พลังมรณะข้างในถูกจ้าวเฟิงขจัดไปหมดแล้ว

จ้าวเฟิงใช้เคล็ดใน ‘วิชาวิญญาณหลอมดวงตา’ แปรพลังวิญญาณเป็นเปลวเพลิงวิญญาณพิเศษ จากนั้นค่อยๆ ทำการยึดครอง

เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

สมาชิกองค์ชายเก้าทุกคน ในหนึ่งวันนี้แทบใช้ของสะสมในตัวจนเกลี้ยงแล้ว

ทุกคนล้วนรู้สึกเสียใจว่าทำไมไม่พิชิตมรดกมามากหน่อย ส่วนเฉินจีจื่อซื้อค่ายกลที่ล้ำลึกเป็นอย่างยิ่งมาหนึ่งชุดจากหอตราค่ายกล และวางไว้ยังนอกกำแพงเมือง

วันที่สอง จ้าวเฟิงในห้องเหล็กลืมตาขึ้น

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะดำเนินการได้ราบรื่นเช่นนี้!”

จ้าวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย

เพิ่งจะสองวัน เขาก็ค้นพบว่าระดับความเข้ากันของเขากับคุณสมบัติวิญญาณเนตรมรณะมาถึงครึ่งหนึ่งแล้ว

เช่นนี้จ้าวเฟิงเหมือนว่าจะเริ่มขั้นต่อไปได้แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!