บทที่ 986 บทลงโทษของการแข่งขัน
“ค้นพบผู้ทำผิดกฎร้ายแรง ทำการลงโทษ!”
คำพูดของผู้อาวุโสมายาดังสะท้อนในหูของทุกคน
“ใครทุจริตกัน?” มีคนถามขึ้นทันใด
องค์ชายทั้งสี่ทำได้แค่เพียงสื่อสารกับสมาชิกในเขาวงกต คนที่เหลือนอกเขาวงกตยิ่งอะไรทำไม่ได้ เช่นนั้นแล้ว คนทุจริตเป็นไปได้อย่างมากว่าคือสมาชิกที่อยู่ข้างในเขาวงกต
“จะลงโทษอย่างไร?”
“ในการทดสอบคัดเลือกรัชทายาทของราชวงศ์ครั้งก่อนๆ ก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น บทลงโทษคงจะทำให้ผู้ทุจริตการแข่งขันตกอยู่ในสภาพที่ไม่ดีหรือไม่ก็ถูกจำกัดในด้านใดด้านหนึ่ง!”
ปฐมเซียนที่พอมีประสบการณ์คนหนึ่งดวงตาส่องประกาย
แต่ใครคือคนทุจริต พวกเขายังไม่รู้ และก็ไม่รู้ว่ามาตรฐานการตัดสินผู้ทุจริตของ ‘ผู้อาวุโสมายา’ ท่านนี้คืออะไร
ในเขาวงกตเคลื่อนที่
เมี้ยว เมี้ยว!
แมวขโมยน้อยพลันปรากฏขึ้นบนบ่าของจ้าวเฟิง มันชี้ไปยังดวงตาซ้ายของเขา เผยสีหน้าสะใจบนความเดือดร้อนของคนอื่น
“หืม?” จ้าวเฟิงใช้ดวงตาซ้ายเพ่งมองไปยังแมวขโมยน้อยทันที
เมี้ยว เมี้ยว
แมวขโมยน้อยรีบหลีกหนีสายตาของจ้าวเฟิง แปลงเป็นประกายแสงหลบหนีเข้าไปในมนตราอากาศ
“ดูแล้วคนทุจริตก็คือข้านี่เอง!”
จากการแสดงออกของเจ้าแมวขโมยน้อย จ้าวเฟิงก็ได้ข้อสรุป เขาก็ไม่รู้ว่าการใช้พลังดวงตาซ้ายจะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ บทลงโทษของเมืองความลับสวรรค์ รู้สึกว่าจะไม่น่าดูชมสักเท่าไหร่
ในขณะนี้ เสียงเย็นชาทรงพลังราวกับกลไกดังขึ้นในหัวจ้าวเฟิง
“เนื่องจากเจ้ามีอุปกรณ์หรืออาวุธที่ปล่อย ‘แสงส่องทะลุ’ ทำลายลักษณะการแข่งขันของ ‘เขาวงกตเคลื่อนที่’ อย่างร้ายแรง ส่งผลต่อความเป็นธรรมของการแข่งขัน ดังนั้นเจ้าจะถูกลงโทษดังนี้ ”
“ข้อที่หนึ่ง เผยตำแหน่งของเจ้า ยามนี้สมาชิกทั้งหมดในเขาวงกตสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งคร่าวๆ ของเจ้าได้!”
“ข้อที่สอง ไม่สามารถออกจากการแข่งขันกลางคันได้ นอกเสียจากเจ้าจะสูญเสียพลังชะตามังกรสามเท่าตามกฏปกติ!”
“ข้อที่สาม ในฉากประลองตัดสิน เจ้าจะโดนเหยียดหยามจากตัวละครที่ไม่ใช่ผู้แข่งขัน อีกทั้งบทตัวร้ายก็จะตกเป็นของเจ้า!”
จ้าวเฟิงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม เนิ่นนานกว่าจะส่งเสียงออกมา “นี่คือการลงโทษ?”
จ้าวเฟิงถอนหายใจโล่งอกทันใด แต่เดิมเขาคิดว่าเมืองความลับสวรรค์จะทำการลงโทษอะไรพวกนั้น
“ท่าทางข้าคิดมากเกินไปแล้ว!”
บทลงโทษสามข้อเมื่อครู่ มุ่งที่การแข่งขันอย่างเดียว
ก็เพียงแค่ทำให้ ‘ผู้คดโกง’ เสียเปรียบในการแข่งขัน
“ฮี่ๆ เช่นนี้ก็สบายกว่าเดิมแล้ว!” จ้าวเฟิงพลันหัวเราะออกมา
ข้อที่หนึ่งของบทลงโทษ ทำให้สมาชิกทั้งหมดในเขาวงกตสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของจ้าวเฟิง เช่นนั้นแล้ว สมาชิกที่เหลือในเขาวงกตก็จะเข้ามาใกล้จ้าวเฟิง
สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสมาชิกคนอื่นอาจเป็นฝันร้าย แต่จ้าวเฟิงกลับชอบใจมาก
ส่วนข้อที่สอง คนอื่นสูญเสียพลังมังกรสิบส่วนก็สามารถจากไป จ้าวเฟิงกลับต้องการอย่างน้อยสามเท่าจึงจะจากไปได้ แต่จ้าวเฟิงไม่คิดว่าผลงานของตนในเขาวงกตเคลื่อนที่จะย่ำแย่ ดังนั้นบทลงโทษข้อนี้จึงถูกเขาเมินไปโดยสิ้นเชิง
“บทลงโทษข้อที่สาม โดนตัวละครที่ไม่ใช่ผู้เข้าแข่งขันเหยียดหยาม?”
จ้าวเฟิงลังเลไปชั่วครู่ คิดไม่ออกว่ามันไม่ดีกับเขายังไง
สำหรับการต้องรับบทตัวร้าย จ้าวเฟิงไม่ใส่ใจสักนิดเดียว ในเมื่อใน ‘ฉากประลอง’ ล้วนเป็นภาพมายา
สรุปแล้วบทลงโทษสามข้อนี้ จ้าวเฟิงรู้สึกว่าส่งผลกระทบอะไรไม่มากนัก แม้กระทั่งข้อที่หนึ่งสำหรับเขาแล้วยังเป็นรางวัลเสียด้วยซ้ำ
และในขณะนี้ ในหัวของสมาชิกที่อยู่ในเขาวงกตเคลื่อนที่มีเสียงจักรกลดังขึ้น
“ยามนี้เจ้าสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งคร่าวๆ ของ ‘ผู้ทุจริต’ ผู้ที่สามารถชนะผู้ทุจริต จะได้รับรางวัลพิเศษที่ยิ่งล้ำค่าขึ้น!”
สมาชิกคนอื่นนอกจากจ้าวเฟิงตะลึงขึ้นทันใด
“ใครคือผู้ทุจริต?” นี่คือคำถามแรกที่เกิดขึ้นในใจของทุกคน
อีกทั้งหากชนะผู้ทุจริตยังได้รับรางวัลพิเศษที่ยิ่งล้ำค่า ดังนั้นคนทั้งหมดล้วนไม่อยู่ในการควบคุม มุ่งไปยังทิศทางหนึ่งทันที
“องค์ชายเก้า สั่งให้ตาเฒ่าอิงและซูชิงหลิงไม่ต้องตามหาคนทุจริต!”
จ้าวเฟิงรู้ถึงสถานการณ์บางส่วนผ่านจิงข่าย จึงรีบส่งกระแสจิตถึงองค์ชายเก้า
สมาชิกที่อยู่กลุ่มเดียวกันพบกันก็ต้องเจอ ‘ฉากประลอง’
โดยปกติแล้วเหล่าองค์ชายจึงพยายามให้สมาชิกที่อยู่ในเขาวงกตแยกกัน
“สหายจ้าว เจ้าคือผู้ทุจริต?” องค์ชายเก้าอึกๆ อักๆ
“ก็ประมาณนั้น!” จ้าวเฟิงตอบอย่างง่ายๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำเช่นนี้จะถูกมองว่าเป็นการทุจริต
“อืม ได้!” องค์ชายเก้าเหงื่อตก
ไม่ว่าจะทำอะไร จ้าวเฟิงก็ล้วนไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ
ในยามที่คนอื่นกำลังทำความคุ้นเคยกับกฎของการแข่งขันและสภาพแวดล้อม จ้าวเฟิงก็เริ่มฉ้อโกงเสียแล้ว
“จ้าวเฟิง บทลงโทษของผู้ทุจริต….”
องค์ชายเก้ากังวลเล็กน้อย
ผู้อาวุโสมายากลางท้องฟ้าไม่ได้พูดว่าใครเป็นผู้ทุจริต และไม่ได้พูดถึงว่าจะลงโทษอะไร
“จุดนี้ท่านไม่ต้องกังวลไป เป็นบทลงโทษที่ไม่สำคัญอะไร!”
จ้าวเฟิงรีบพูดขึ้น ตาซ้ายของเขามองทะลุกำแพงเหล็กและพบเงาของคนหลายคน
“ได้ เจ้าระวังตัวด้วย!” องค์ชายเก้าเห็นว่าจ้าวเฟิงไม่ยินดีจะเผยออกมา ก็ไม่ได้ซักถามต่อ
“เฒ่าอิง ซูชิงหลิง อย่าเข้าใกล้ผู้ทุจริต เขาคือจ้าวเฟิง!”
องค์ชายเก้ารีบส่งกระแสจิตบอกทั้งสองคนทันที
อีกด้านหนึ่ง
“คนทุจริตน่าจะอยู่ทางนี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าห่างไปอีกเท่าไหร่!”
สมาชิกฝั่งองค์ชายสิบสาม ซีเผิงแห่งลัทธิมารพิภพมีสีหน้าระแวดระวัง
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้ทุจริต เขาก็ยังคงเข้าไปใกล้ทิศนั้นตามการชักนำภายในใจโดยไม่รู้ตัว
“ซีเผิง ระวัง จ้าวเฟิงอยู่ด้านข้างของเจ้า!”
องค์ชายสิบสามเห็นสถานการณ์ของซีเผิง จึงรีบส่งกระแสจิตบอก
เห็นได้ชัดว่าองค์ชายสิบสามคอยติดตามบัญชาการสมาชิกมากเกินไปในเวลาเดียวกัน ค่อนข้างที่จะเหลือบ่ากว่าแรง
“จ้าวเฟิงอยู่แถวนี้?”
ซีเผิงหวาดหวั่น รีบร้อนถอยหนี
เขาย่อมรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง อีกทั้งจ้าวเฟิงยังมีอุบายมากมาย ใน ‘ฉากประลอง’ ที่ซับซ้อนเปลี่ยนแปลงไปมาย่อมมีข้อได้เปรียบมากพอควร
“หึๆ คิดหนีรึ!”
จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้มเย็น สยายปีกแสงอัสนีสีชาด สำแดงวิชาปีกอัสนีโบยบินบินทะลวงผ่านไปในเขาวงกต
ซีเผิงมองไม่เห็นจ้าวเฟิง แต่ฟังคำบัญชาขององค์ชายสิบสามแล้วหลบหนี ความคล่องแคล่วในเขาวงกตเคลื่อนที่ต่ำมาก
ส่วนจ้าวเฟิงมองเห็นซีเผิงได้ จับเป้าหมายไว้ไม่คลาดสายตา อีกทั้งชำนาญลักษณะพื้นที่รอบกาย จึงบินร่อนอย่างอิสระราบรื่นในนั้น เพียงชั่วครู่ก็ตามซีเผิงได้ทัน
วู้ม ฟู่!
ทิวทัศน์รอบด้านเริ่มบิดม้วน เมืองที่รุ่งเรืองเฟื่องฟู เสียงผู้คนจอแจ
จ้าวเฟิงและซีเผิงยืนอยู่บนเวทีประลองยุทธ์สีแดง
“แย่แล้ว เป็นเวทีประลองรึ?”
ซีเผิงใจหนักอึ้ง เขาเห็นจ้าวเฟิงโจมตีเซียนวิญญาณทมิฬจนพ่ายแพ้ด้วยตาตัวเอง ถ้าสู้กับจ้าวเฟิง เขาไม่มั่นใจเลยสักนิด
“ท่านทั้งสอง ในยามนี้พวกท่านประลองเสมอกัน แต่ข้ามีเพียงลูกสาวแค่คนเดียว ถ้าอย่างนั้นให้ลูกสาวข้าโยนลูกกลมเสี่ยงทาย ท่านทั้งสองผู้ใดรับได้ก็จะเป็นลูกเขยของตระกูลเฉิน!”
ในหอสูงร้อยจั้งมงคลวิจิตรหน้าเวทีประลอง ชายกลางคนรูปร่างอ้วนท้วนยิ้มใจดีพลางเอ่ย
ซีเผิงเงยหน้ามองรอบด้าน ด้านล่างเวทีประลอง ผู้คนส่งเสียงอวยพรยินดี
“ท่านทั้งสองบุ๋นบู๊ยอดเยี่ยม ยินดีด้วยๆ”
“ไม่รู้ว่าใครจะได้แต่งงานกับลูกสาวตระกูลเฉิน!”
บนหอคอยมงคล สตรีในชุดเจ้าสาวสีแดงงดงามราวบุปผา หน้าเรียวแก้มอมชมพู แววตาเอียงอายมองมายังซีเผิง ข้างๆ มีสาวใช้เยาว์วัยจำนวนหนึ่งและชายวัยกลางคนอ้วนท้วนคนนั้น
“ไม่ได้ประลองยุทธ์รึ?”
ซีเผิงยินดีขึ้นทันใด เหตุการณ์ฉากนี้กำหนดให้เขาและจ้าวเฟิงมาร่วมการประลองเลือกคู่ แต่ทั้งสองประลองเสร็จแล้ว ผลคือเสมอ
‘ดูแล้วใครแย่งลูกกลมเสี่ยงทายได้ คนนั้นก็คือผู้ชนะ!’
จ้าวเฟิงคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่
บนหอคอย สตรีงดงามผู้นั้นมองมายังจ้าวเฟิง แล้วพลันเผยสีหน้าเหยียดหยาม
“ท่านพ่อ ชายหนุ่มคนนั้นหน้าตาอัปลักษณ์ อีกทั้งไม่มีสง่าราศี แต่งกายมอซอ ตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ส่งกลิ่นเหม็นประหลาด!”
คุณหนูตระกูลเฉินกระซิบข้างหู
“บุตรสาวข้า เจ้าพูดมาเช่นนี้ ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน!”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนประเมินจ้าวเฟิงด้วยสายตารังเกียจ
“แต่บุรุษวัยกลางคนคนนี้เป็นผู้ใหญ่มั่นคง ดวงตาทั้งสองฉายแววมากประสบการณ์ ช่างองอาจเสียจริง!”
สตรีงดงามที่จัดประลองเลือกคู่มองมายังซีเผิง ใบหน้าแดงขึ้นทันใด สองสายตาเบือนหลบ
คำพูดของทั้งสอง แน่นอนว่าไม่เล็ดลอดไปจากหูของจ้าวเฟิงและซีเผิง
“นี่ นี่มัน….” ซีเผิงยืนตะลึงอยู่ที่เดิม ใบหน้าชราแดงซ่าน
ทำไมจู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นพระเอกใน ‘ฉากประลอง’ ครั้งนี้
คนที่เป็นกุญแจสำคัญในเหตุการณ์ล้วนมีความรู้สึกดีกับเขาอย่างน่าประหลาด
“นี่ก็คือการเหยียดหยามจากตัวละครที่ไม่ใช่ผู้แข่งขัน!”
จ้าวเฟิงพูดไม่ออก ตนเองโดนตัวละครที่ไม่ใช่ผู้แข่งขันดูถูกจริงๆ ทั้งยังเหยียดหยามอย่างรุนแรงอีกต่างหาก
ฟู่! บนหอคอย สตรีนางนั้นมองมายังซีเผิงด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความรักใคร่ และโยนลูกกลมเสี่ยงทายออกไป
“อะไร?” ซีเผิงร้องออกมาทันใด
เขาและจ้าวเฟิงยืนแยกกันอยู่ที่สองฝั่งของเวทีประลอง
แต่ในยามนี้ สตรีงดงามนางนั้นกลับโยนลูกกลมเสี่ยงทายมาทางซีเผิง
ซีเผิงค่อนข้างเขินอาย “ฮี่ๆ จ้าวเฟิง ศึกนี้ข้าชนะแน่!”
ซีเผิงกระโดดทะยานไปยังลูกกลมเสี่ยงทายในทันใด
“เหอะ!” จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว บทลงโทษข้อที่สามแทบจะทำให้เขาเป็นผู้เสียเปรียบใน ‘ฉากประลอง’ ในยามนี้ตามกำหนดของเหตุการณ์ เขาและซีเผิงไม่สามารถลงมือได้ ทำได้เพียงชิงลูกกลมเสี่ยงทายเท่านั้น
แต่ลูกกลมเสี่ยงทายกลับลอยไปทางซีเผิง ห่างจากจ้าวเฟิงไปมากนัก หากการประลองใน ‘ฉากประลอง’ ครั้งนี้ คู่มือของจ้าวเฟิงคือเซียน จ้าวเฟิงอาจพ่ายแพ้ก็เป็นได้
เหมียว เหมียว!
เจ้าแมวขโมยน้อยปรากฎตัวอยู่บนบ่าของจ้าวเฟิง ก่อนตบบ่าราวกับว่ากำลังปลอบใจเขา จากนั้นร่างของมันแค่บิด ก็ปลดสร้อยสีทองหม่นบนคอออกมา
ฟู่ ฟู่! สร้อยสีทองหม่นบิดม้วนกลายเป็นคันศรและธนูอย่างรวดเร็ว
วิ้ง! แมวขโมยน้อยดึงสายธนูทันที
เห็นเพียงแสงสีทองหม่นสายหนึ่งพุ่งออกอย่างรวดเร็ว แล้วยิงเข้าไปยังลูกกลมเสี่ยงทายปักแพรสีแดง
ฟึ่บ! แสงสีทองหม่นดึงลูกกลมเสี่ยงทายกลับมา
อาวุธชิ้นนี้ของเจ้าแมวขโมยน้อยผ่านการปรับแก้จากเมืองความลับสวรรค์ การพลิกแพลงและคุณสมบัติวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก
จ้าวเฟิงรับลูกกลมเสี่ยงทายมา
“อะไร? เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
ซีเผิงมีสีหน้าตื่นตระหนก มองไปยังธนูในมือของแมวขโมยน้อย
“ในเมื่อจอมยุทธ์ท่านนี้รับลูกกลมเสี่ยงทายได้ เช่นนั้นข้าก็จะยกบุตรสาวให้ท่าน!”
บนหอคอย ชายวัยกลางคนอ้วนฉุถอนหายใจ
ลูกกลมเสี่ยงทายที่จ้าวเฟิงรับไว้ได้กลายเป็นดอกไม้แดงสวยสดดอกหนึ่ง กลิ่นที่หอมเย็นสดชื่นพลันโชยเข้าสู่จมูกของจ้าวเฟิง ทำให้เขาจิตใจสงบ
“ผู้ชนะ จ้าวเฟิง!”
จากนั้นพลังชะตามังกรกลุ่มหนึ่งก็ไหลเข้าสู่หยกมังกรคุ้มกันบนร่างจ้าวเฟิง
“ซีเผิง ข้าเตือนเจ้าแล้ว แต่เจ้ายังถูกจ้าวเฟิงไล่ตามมาได้ อีกทั้งเจ้ายังแพ้ด้วย!”
เสียงโกรธเคืองขององค์ชายสิบสามดังในหัวของซีเผิง
วู้ม ฟู่! ทิวทัศน์รอบด้านเลือนหายไป จ้าวเฟิงมาปรากฎในเขาวงกตอีกครั้ง
เมื่อสักครู่นี้ ตำแหน่งคร่าวๆ ของ ‘ผู้ทุจริต’ หายไปจากจิตใจทุกคน
ตอนนี้จ้าวเฟิงสุ่มปรากฎกายขึ้น ณ ที่แห่งหนึ่งในเขาวงกต ทุกคนจึงสัมผัสได้ถึงการชี้นำทิศทางหนึ่งอีกครั้ง
“ผู้ทุจริตอยู่ทางนั้น!” สมาชิกจำนวนไม่น้อยมุ่งหน้าไปทางจ้าวเฟิง