บทที่ 990 วินาทีสุดท้าย
“รอบที่สามจะสิ้นสุดลงในอีกหนึ่งชั่วยาม!”
ยามนี้ที่กลางท้องฟ้า เสียงของผู้อาวุโสมายาดังขึ้น ทันใดนั้น องค์ชายทั้งสี่และสมาชิกในเขาวงกตเคลื่อนรู้สึกตึงเครียด การทดสอบคัดเลือกรัชทายาทใกล้ถึงด่านสุดท้ายแล้ว
“อย่าลนลาน!” องค์ชายสี่รีบส่งกระแสจิตกับทุกคนทันใด
องค์ชายสี่เพียงต้องพยายามชิงพลังชะตามังกรมาให้มากที่สุด เพื่อรับประกันว่ารอบสุดท้ายจะสามารถชนะได้อย่างไร้กังวล
ส่วนองค์ชายสิบสามใบหน้าโกรธแค้น จ้องเขม็งไปยังจ้าวเฟิงที่อยู่ในเขาวงกต “ต่อให้ข้าชิงตำแหน่งรัชทายาทไม่ได้ ก็จะไม่ให้องค์ชายเก้าชนะ!”
แต่เดิมองค์ชายสิบสามมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะชิงตำแหน่งรัชทายาทมาได้
ทว่าใน ‘การทดสอบคัดเลือกรัชทายาท’ คนชุดดำกลับถูกจ้าวเฟิงโจมตีพ่ายแพ้ ทำให้เขาสูญเสียกำลังรบที่ยอดเยี่ยมไปหนึ่งคน
ขณะเดียวกัน ภายในเขาวงกตเคลื่อนที่ จ้าวเฟิงมุ่งเป็นศัตรูกับสมาชิกของเขา แย่งชิงพลังชะตามังกรไปปริมาณมาก ทำให้เขาและองค์ชายสี่ทิ้งห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกด้านหนึ่ง องค์ชายแปดวางมือจากการแย่งชิง สมาชิกของเขามีเซียนแค่คนเดียวที่เข้าไปในเขาวงกตเคลื่อนที่ ส่วนอีกคนเป็นแพทย์ ยิ่งรวมกับว่าพลังชะตามังกรของเขาเดิมทีก็มีไม่มาก ดังนั้นเขาจึงมองเห็นความจริงนี้นานแล้ว ไม่เพียงแต่รอบที่สามจะชนะได้ยาก รอบที่สี่ยิ่งไม่มีความหวัง และในยามนี้ องค์ชายทั้งสามแทบจะรู้กันหมดแล้วว่า จ้าวเฟิงคือผู้ทุจริตการแข่งขัน
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจ้าวเฟิงได้รับข้อดีและความสะดวกสบายอะไรบ้างจากการทุจริต
ดังนั้นองค์ชายทั้งสามล้วนพยายามให้สมาชิกในเขาวงกตหนีห่างจากจ้าวเฟิง
“จ้าวเฟิง จำนวนชนะการแข่งขันของพวกเราห่างกับองค์ชายสิบสามเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น!”
องค์ชายเก้าส่งกระแสจิตบอกจ้าวเฟิง
ไม่ว่าองค์ชายเก้าจะชิงตำแหน่งรัชทายาทได้หรือไม่ เขาแค่คิดจะพยายามจนถึงที่สุด ยืนหยัดจนถึงตอนสุดท้าย ได้รับการยอมรับจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และผู้อาวุโสของราชวงศ์
“เพื่อเร่งเวลาการแข่งขัน จึงทำการย่อส่วน ‘เขาวงกตเคลื่อนที่’!”
เสียงของผู้อาวุโสมายาดังขึ้นต่อมา
องค์ชายเก้าตะลึงไปเล็กน้อย
หากย่อส่วนแผนที่ เช่นนั้นซูชิงหลิงคิดหลบหลีกคนจำนวนมากก็ยิ่งเพิ่มความยากขึ้น แต่อีกด้านหนึ่ง จ้าวเฟิงก็สามารถพบ ‘ฉากประลอง’ และได้รับจำนวนชัยชนะรวดเร็วยิ่งขึ้น
“ถ้าเป็นเช่นนี้ บางทีพวกเราอาจพอมีหวัง!”
สีหน้าขององค์ชายสิบสามชะงักไป
พื้นที่ของเขาวงกตหดเล็กลง สำหรับเขาแล้วอาจจะเป็นข่าวดี
ความสามารถของสมาชิกเขา โดยทั่วไปแล้วล้วนล้ำหน้าองค์ชายแปดและองค์ชายเก้า
แต่เพราะเขาบัญชาการได้ดีไม่พอ คะแนนต่อสู้จึงค่อนข้างต่ำเช่นนี้ หากแผนที่เล็กลง สมาชิกของเขาก็จะสามารถเปิด ‘ฉากประลอง’ กับผู้ที่พลังค่อนข้างอ่อนแอได้ง่ายยิ่งขึ้น
ต่อไปขอเพียงแค่รักษาจำนวนชัยชนะ พยายามลดพลังชะตามังกรขององค์ชายสี่ หากคิดชิงตำแหน่งรัชทายาทก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“เซียนมารทมิฬ ไม่ต้องไปสนใจจ้าวเฟิงแล้ว เอาชัยชนะการแข่งขันเป็นสำคัญ ส่วนหลี่ไฮ่ หากแพ้สิบครั้งก็ยอมแพ้ไปเสีย….”
องค์ชายสิบสามรีบส่งกระแสจิตไปยังสมาชิกทุกคน วางแผนกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง
ครืน! ลักษณะพื้นที่ของเขาวงกตเบื้องหน้าองค์ชายทั้งสี่เริ่มย่อส่วนเล็กลง
ข้างในเขาวงกต กำแพงเหล็กเคลื่อนที่สีดำค่อยๆ ปิดกั้นพื้นที่จากส่วนชายขอบ
ในยามนี้ รอบด้านจ้าวเฟิงสามารถมองเห็นคนได้สามสี่คน ถึงแม้พวกเขาจะหลบจ้าวเฟิง แต่ช่องว่างในเขาวงกตแคบมากเกินไป
“เขาวงกตเล็กลง เช่นนี้แล้ว ทางที่ดีซูชิงหลิงแพ้ครบสิบครั้งก็ถอนตัวออกมา!”
จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตให้องค์ชายเก้า
ถือโอกาสตอนเขาวงกตเคลื่อนที่ในยามนี้ยังมีพวกที่ความสามารถและพลังแฝงค่อนข้างอ่อนแอ บางทีซูชิงหลิงอาจจะยังพอมีโอกาสได้รับชัยชนะบ้าง
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงพุ่งเป้าไปยังสมาชิกขององค์ชายสิบสามคนหนึ่งที่บินอยู่ข้างหน้าในเขาวงกต ทะยานตรงไปยังเป้าหมาย
การต่อสู้ติดต่อกัน ทำให้จ้าวเฟิงในยามนี้รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย
เขาไม่เพียงแต่ประลองใน ‘ฉากประลอง’ ทว่ายังแบ่งความคิดส่วนหนึ่งไปสังเกตตรวจตราสถานการณ์ของสัตว์วิเศษประเภทบินนอกเมืองความลับสวรรค์ นอกจากนั้นเขายังต้องคอยบัญชาการช่วยเหลือจิงข่าย ดีที่เจตจำนงตั้งมั่นและพลังดวงวิญญาณของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง
“เปลี่ยนแปลงมากเกินไปแล้ว!” เบื้องหลังองค์ชายสี่ ศิษย์พี่จูเก๋อพูดขึ้นเบาๆ
หลังจากที่เขาวงกตหดเล็กลง ไม่เพียงแต่องค์ชายทั้งหลายจะออกคำสั่งได้ลำบากขึ้น
อีกทั้งทุกชั่วขณะก็เกิด ‘ฉากประลอง’ ขึ้นด้วย
การต่อสู้ที่ต่อเนื่องทำให้สมาชิกทั้งหมดเหนื่อยล้า สภาพถดถอยลง
“เซียนวั่นเหลยแพ้แล้วหนึ่งครั้ง!”
สมาชิกคนหนึ่งร้องอย่างตกใจ
เซียนวั่นเหลยเป็นเซียนในกลุ่มขององค์ชายสี่ที่มีความสามารถ พลังแฝง และประสบการณ์สูงที่สุด หลังจากชนะติดต่อสิบสองครั้ง ในที่สุดก็พลาดพลั้ง
“เจ้าจ้าวเฟิงนี่ยังไม่แพ้เลยสักครั้งเดียว!”
ปฐมเซียนคนหนึ่งมองมายังจ้าวเฟิง สีหน้าหวาดหวั่น
จ้าวเฟิงชนะต่อเนื่องกันสิบแปดครั้งแล้ว ยังไม่แพ้เลยแม้แต่นิด
เขาก็รู้ เพราะจำนวนชัยชนะของจ้าวเฟิง องค์ชายเก้าจึงสามารถช่วงชิงกับองค์ชายคนอื่นในรอบนี้ได้
“ไม่เพียงแค่นั้น องค์ชายเก้าบัญชาการสมาชิกที่เหลือได้แม่นยำเป็นอย่างมาก”
จูเก๋ออวิ๋นพูดเสริมอีกประโยค
รายละเอียดพลังขององค์ชายสี่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่องค์ชายทั้งหลาย แต่ด้านการชี้บัญชาสมาชิกยังไม่สู้องค์ชายเก้า
เวลาค่อยๆ ผ่านไป
“ข้าขอถอนตัว!”
ซูชิงหลิงหายไปจากเขาวงกตเคลื่อนที่ กลับมายังบันไดที่องค์ชายเก้าอยู่
“ไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ เจ้าก็ชนะสามครั้ง!”
สืออวี่เหลยยิ้มพูดขึ้น
ซูชิงหลิงอย่างไรก็เป็นเพียงแค่ผู้เยาว์ ยังห่างชั้นกับยอดฝีมือในเขาวงกตอีกมาก
“จ้าวเฟิงชนะติดต่อกันยี่สิบสามครั้งแล้ว พวกเราชนะแน่!”
โจวซู่เอ๋อร์พลันยิ้มพูดขึ้น
“อะไร? ชนะต่อเนื่องยี่สิบสามตา?”
ถึงแม้ว่าองค์ชายเก้าจะบอกนางว่าคะแนนต่อสู้ของจ้าวเฟิงดีมาก พวกเขายังมีความหวัง แต่หลังจากที่ได้รู้คะแนนต่อสู้จริงๆ ของจ้าวเฟิงแล้ว ซูชิงหลิงก็ยังคงตกใจเป็นอย่างมาก ชนะต่อเนื่องยี่สิบสามตา ไม่แพ้เลยสักครั้ง เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนอย่างไรกันแน่?
“จ้าวเฟิงชนะอีกแล้ว ชนะต่อเนื่องยี่สิบสี่ครั้ง!”
สืออวี่เหลยอุทานอย่างประหลาดใจ อดกู่ร้องขึ้นมาไม่ได้
“ข้าถอนตัว!”
สมาชิกของกลุ่มองค์ชายสิบสามถูกจ้าวเฟิงพุ่งเป้าเล่นงานตลอด แพ้สิบครั้ง ออกจากการแข่งขันทันที
……
วังหลวงต้าเฉียน ในใจของกลุ่มขั้วอำนาจทั้งหมดล้วนตึงเครียด การทดสอบคัดเลือกรัชทายาทรอบที่สามมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว และในยามนี้ พื้นที่ของเขาวงกตย่อส่วนลง สถานการณ์ภายในเปลี่ยนไปได้ทุกชั่วขณะ
สำหรับกลุ่มองค์ชายเก้าม้ามืดตัวนี้ ในใจของทุกคนพากันคาดหวัง
กระทั่งว่าในชั่วชณะหนึ่ง จำนวนชัยชนะขององค์ชายเก้าอีกเพียงแค่สามครั้งก็จะแซงหน้าองค์ชายสิบสามแล้ว
ต้องรู้ว่า ยามนี้องค์ชายสิบสามมีสมาชิกห้าคนเคลื่อนไหวอยู่ในเขาวงกต
ส่วนองค์ชายเก้ามีเพียงจ้าวเฟิง ตาเฒ่าอิง และจิงข่าย จักรพรรดิหนึ่งคน ปฐมเซียนสองคน
“องค์ชายสี่ยังคงนำไปไกล ข้าคิดว่าสมัยนี้จะต้องเป็นองค์ชายสี่ที่ชิงตำแหน่งรัชทายาทได้!”
“ก็ไม่แน่ กลุ่มขององค์ชายสิบสามแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ขอเพียงจำนวนชัยชนะแซงหน้าองค์ชายเก้า ก็สามารถเอาชนะองค์ชายสี่ได้แน่นอน!”
“ฮึๆ แต่ข้ากลับคิดว่ากลุ่มขององค์ชายเก้าจะสร้างปาฏิหาริย์ต่อไป ตำแหน่งรัชทายาทยังไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร!”
ขั้วอำนาจทั้งหลายต่างแสดงความคิดเห็นของตน
“เฉินเอ๋อร์เอ๋ย!”
ลุงขององค์ชายสิบสามและขั้วอำนาจทั้งหลายเบื้องหลังเขาล้วนเป็นกังวล
ต่อให้องค์ชายสิบสามชนะองค์ชายเก้า คิดจะช่วงชิงตำแหน่งกับองค์ชายสี่ก็ลำบากยิ่งนัก
พวกเขาก็รู้ดีเช่นกัน องค์ชายสิบสามยังเด็กเกินไปนัก ยังไม่สมบูรณ์ครบทุกด้าน
มิฉะนั้นด้วยกองกำลังของเขาแล้ว ย่อมทำให้องค์ชายสี่ต้องเป็นกังวลและตั้งมั่นรับมือได้แน่นอน
“เจ้าจ้าวเฟิงผู้นี้!” เซียนโม๋ยวนแห่งวังเก้านิรยส่งเสียงต่ำทุ้มออกมา
หากไม่ใช่เพราะจ้าวเฟิงตั้งตัวเป็นศัตรู องค์ชายสิบสามน่าจะมีความหวังมากนัก
หน้าตำหนักหลักในวังหลวง
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หน้าเปลี่ยนสี เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์รบในตอนนี้เกินกว่าการคาดหมายของเขาไปมาก
ส่วนสายตาของฮองเฮาแฝงด้วยความอาฆาต จ้องเขม็งไปยังจ้าวเฟิง
ทันใดนั้น ในตำหนักใหญ่ของราชวงศ์และบนก้อนเมฆก็เกิดเสียงฮือฮา
“ในที่สุดจ้าวเฟิงก็แพ้แล้วหนึ่งตา!”
“ไม่คิดเลยว่าเขาจะแพ้ให้กับผู้อาวุโสสำนักทะเลหยก”
“นี่มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ‘ฉากประลอง’ เมื่อสักครู่เป็นการทดสอบประสบการณ์พอดี จ้าวเฟิงยังอายุน้อยเกินไป!”
ขั้วอำนาจยอดฝีมือทั้งหลายวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
ในตำหนักขององค์ชายเก้า
“ข้าว่าความสนใจต่อจ้าวเฟิงของพวกเขา ล้ำหน้าองค์ชายทั้งหลายไปแล้ว!”
หนานเฟิงอ๋องหัวเราะเล็กน้อย
จ้าวเฟิงแพ้แค่เพียงหนึ่งครั้ง ก็สามารถดึงดูดความสนใจของขั้วอำนาจทั้งหลายทั่วทั้งราชวงศ์ได้
“คิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายเก้าจะเดินมาถึงขั้นนี้ได้!”
ตัวแทนจากสำนักสองดาวคนหนึ่งทอดถอนใจอย่างฮึกเหิม
ขั้วอำนาจที่เลือกสนับสนุนองค์ชายเก้า มากกว่าครึ่งไม่เคยคิดว่าองค์ชายเก้าจะแสดงศักยภาพเช่นนี้จริงๆ
กระทั่งในยามนี้ ขอเพียงองค์ชายเก้าชนะนำองค์ชายสิบสาม ก็สามารถเข้าสู่รอบที่สี่ได้ ต่อให้สุดท้ายแล้วพ่ายแพ้ ตำแหน่งขององค์ชายเก้าในเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ก็สูงขึ้นไม่น้อย
“เยี่ยม ขาดอีกแค่เพียงสองครั้ง ชัยชนะขององค์ชายเก้าก็จะนำหน้าองค์ชายสิบสามแล้ว!”
ผู้อาวุโสของขั้วอำนาจอีกคนพลันร้องตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่พื้นที่ของเขาวงกตเคลื่อนที่เล็กลง จำนวนชัยชนะของจ้าวเฟิงก็เพิ่มขึ้นพุ่งพรวดด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
“จิงข่ายก็ชนะอีกหนึ่งตา!”
จำนวนชัยชนะขององค์ชายเก้าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
“ตาเฒ่าอิงโชคช่วย ชนะคู่ต่อสู้!”
ทั่วทั้งราชวงศ์พลันส่งเสียงฮือฮาไปทั่ว เสียงเกรียวกราวดังไปพันลี้ จำนวนชัยชนะขององค์ชายเก้าเท่ากันกับองค์ชายสิบสาม!
ในเขาวงกต!
“เป็นไปได้อย่างไร สมาชิกของพี่เก้าอ่อนแอขนาดนั้นชัดๆ เหตุใดจึงชนะมาโดยตลอด!”
องค์ชายสิบสามเงยหน้าตะเบ็งเสียง
เขาวงกตเคลื่อนที่ดำเนินมาถึงตอนนี้ จิตใจขององค์ชายสิบสามเสียศูนย์ไปตั้งนานแล้ว
การชี้บัญชาการของเขาเละเทะมาโดยตลอด
สมาชิกที่สื่อสารกับเขาในเขาวงกตรับรู้ได้เป็นอย่างดี
“ดี เฒ่าอิง ตอนนี้เลี้ยวซ้าย ตรงไป แล้วเลี้ยวซ้าย!”
องค์ชายเก้าและตาเฒ่าอิงตื่นเต้นเป็นที่สุด
เพราะซูชิงหลิงถอนตัวออก องค์ชายเก้าจึงบัญชาการเพียงแค่ตาเฒ่าอิงเท่านั้น
เช่นนั้นแล้ว ตาเฒ่าอิงก็เท่ากับยืมทัศนวิสัยขององค์ชายเก้า มองลักษณะพื้นที่เขาวงกตและการกระจายตัวของคนได้อย่างชัดแจ้ง
สะดวกและครอบคลุมกว่าการมองทะลุผ่านของจ้าวเฟิง
“จ้าวเฟิง มาสู้กับข้า!”
ในเขาวงกต เสียงของหยูเทียนฮ่าวพลันดังขึ้น
หยูเทียนฮ่าวย่อมรู้แน่นอนว่าจ้าวเฟิงคือผู้ทุจริต จ้าวเฟิงไม่อยากสู้กับเขา แม้กระทั่งเงาของจ้าวเฟิงเขาก็แทบจะหาไม่พบ
จ้าวเฟิงที่เพิ่งออกมาจาก ‘ฉากประลอง’ ได้ยินประโยคนี้ของหยูเทียนฮ่าวพอดี
“เช่นนั้นก็มาเถอะ!”
จ้าวเฟิงพูดขึ้นกับตนเอง
ขณะนี้ จำนวนชัยชนะขององค์ชายเก้านำหน้าองค์ชายสิบสามไปแล้ว หากไม่เกิดเหตุไม่คาดคิดอะไรขึ้นก็ไม่มีทางพลิกกลับมาได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวเฟิงก็จะทำตามความต้องการของหยูเทียนฮ่าว
แววตาของจ้าวเฟิงมองไปยังต้นเสียง ไม่นานก็เห็นเงาร่างของหยูเทียนฮ่าวปรากฏ
ฟิ้ว ฟุ่บ ฟุ่บ! จ้าวเฟิงหลบหลีกหลายคนบนทางเดิน พุ่งมายังหยูเทียนฮ่าว
“จ้าวเฟิง ในที่สุดเจ้าก็มา!”
ดวงตาทั้งสองของหยูเทียนฮ่าวตะลึง แผ่จิตต่อสู้อันน่าหวาดเกรงออก
วู้ม ฟู่! ทิวทัศน์รอบด้านเปลี่ยนไปทันใด ทั้งสองมาปรากฏกายอยู่ที่ทะเลทรายรกร้าง