บทที่ 1021 อัสนีบาตสังหาร
ฝั่งของเมืองเจียเป่า เถี่ยหงหลิงและแม่ทัพขั้นปฐมเซียนสองคนทะยานขึ้นไปในชั้นเมฆ
“ฮ่าๆ พวกเจ้าเผ่ามนุษย์กลับส่งสตรีนางหนึ่งมาสู้กับข้า!”
เซียนขวงลี่หัวเราะเยาะเย้ย กึกก้องไปทั่วฟ้า
“ทว่าสตรีมนุษย์นางนี้ถูกใจข้านัก!” แววตาร้อนแรงเซียนขวงลี่จ้องมาที่เถี่ยหงหลิง
ถึงจะเป็นต่างเผ่าพันธุ์ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเถี่ยหงหลิงงดงามโดดเด่นกว่าหญิงในเผ่าพันธุ์ทั้งหลายมากนัก
“เจ้านี่นะ? เจ้าสัตว์ประหลาดอัปลักษณ์!”
เถี่ยหงหลิงแววตาเย่อหยิ่ง มือสองข้างกำดาบโค้งสีโลหิตที่มีเปลวไฟลุกโชน คลื่นไอร้อนกวาดไปทั่วบริเวณ
‘ไม่เสียทีที่มีสายเลือดเพลิงมารโลหิต แข็งแกร่งเหลือเกิน!’
‘ในตระกูลเถี่ย เถี่ยหงหลิงเป็นรองก็แค่อัจฉริยะชั้นเลิศอย่างเถี่ยหลิงอวิ๋นเท่านั้น!’
แม่ทัพสามดาวสองคนด้านหลังเถี่ยหงหลิงอุทานในใจ
พรึ่บ! ด้านหลังของเถี่ยหงหลิงปรากฏม่านแสงเพลิงโลหิต ผสานเข้าไปในฟ้าดิน รวมตัวเป็นโลกมิติส่วนตัวที่มีเปลวเพลิงสีโลหิตลุกไหม้แห่งหนึ่ง
เมื่อมองจากไกลๆ ดุจดวงอาทิตย์สีแดงเจิดจ้า เผาผลาญร้อนระอุ สั่นสะเทือนฟ้าดิน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเซียนต่างเผ่าพันธุ์ เถี่ยหงหลิงไม่กล้าชะล่าใจ
พรึ่บ! เถี่ยหงหลิงใช้พลังโลกมิติส่วนตัว สำแดงเคล็ดวิชาท่าร่าง ไปปรากฏด้านหน้าเซียนขวงลี่อย่างรวดเร็ว จากการเพิ่มพลังเมื่ออยู่ในโลกมิติส่วนตัว ดาบโค้งสีโลหิตจึงสำแดงอานุภาพได้รุนแรงมากขึ้น คมดาบเสี้ยวพระจันทร์สีเลือดสองสายพุ่งตัดสลับออกมา
ในเวลาเดียวกัน ปฐมเซียนอีกสองคนเข้าขนาบข้างเซียนขวงลี่ ปลดปล่อยโลกมิติส่วนตัวออกมาโจมตีเซียนขวงลี่อย่างสุดแรง
“กายศักดิ์สิทธิ์รวมศูนย์!”
เซียนขวงลี่มองความไม่ธรรมดาของเถี่ยหงหลิงออก ทันใดนั้นจึงปลดปล่อยแก่นแท้พลังทรงอานุภาพออกมา ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว เกราะเกล็ดสีเขียวบนร่างผุดลวดลายสีทองประหลาด พลานุภาพของแก่นแท้ร่างกายที่น่ากลัว ทำให้โลกมิติส่วนตัวของพวกเถี่ยหงหลิงสั่นไหวน้อยๆ
“เข้ามาเลย!”
หลังเซียนขวงลี่โคจร ‘กายศักดิ์สิทธิ์รวมศูนย์’ พลังกายน่าตื่นตกใจของเขาก็ปะทะเข้ากับโลกมิติส่วนตัวที่ปฐมเซียนชั้นยอดทั้งสามปลดปล่อยออกมาอย่างจัง
โครม บึ้ม!
“เป็นพลังที่แข็งแกร่งนัก!”
เมื่อเถี่ยหงหลิงสำแดง ‘กายหยกสีชาด’ อันเป็นวิชาฝึกฝนร่างกายของตระกูลเถี่ย พลังป้องกันตัวก็ยังคงด้อยกว่าเซียนขวงลี่อยู่บางส่วน ด้วยข้อได้เปรียบทางร่างกายของเซียนขวงลี่ จึงทำให้เขาสามารถสำแดงพลังจากวิชาฝึกฝนร่างกายได้มากกว่า
“หญิงตระกูลเถี่ย เจ้าเก่งเอาการเลยทีเดียว!”
เซียนขวงลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ระหว่างต่างเผ่าพันธุ์และมนุษย์กระทบกระทั่งกันไม่หยุดหย่อน พวกเขาย่อมรู้เรื่องสายเลือดเพลิงมารโลหิตของตระกูลเถี่ยอยู่แล้ว
สตรีตระกูลเถี่ยเบื้องหน้านางนี้แข็งแกร่งมาก แต่ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
โครม!
กรงเล็บที่โอบล้อมด้วยแสงสีดำเขียวของเซียนขวงลี่ ตรงดิ่งไปโจมตีโลกมิติของเถี่ยหงหลิงทันที
ตูม!
การประมือกันระหว่างขั้นเซียนกลางอากาศ ระลอกพลังที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อยสร้างความปั่นป่วนต่อสนามรบข้างล่างได้ทั้งสิ้น
เดิมทีแม่ทัพของเมืองเจียเป่ามีจำนวนน้อยกว่าต่างเผ่าพันธุ์ ตอนนี้แม่ทัพสามดาวสองคนและเถี่ยหงหลิงต่อสู้กับเซียนขวงลี่ สถานการณ์สนามรบด้านล่างจึงเลวร้ายลงอย่างมาก
องค์ชายเก้ายืนอยู่บนกำแพงเมือง ทอดสายตาออกไปยังที่ไกล
“ขุนพลของต่างเผ่าพันธุ์ เซียนซุ่นอิ่งยังไม่มีคู่ต่อสู้เลย!”
เซียนซุ่นอิ่งต่างหากถึงจะเป็นผู้ควบคุมเมืองมังกรจันทรา เซียนผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์แมงป่อง ความแข็งแกร่งในทุกด้านเหนือเซียนขวงลี่ไปอีกระดับขั้นหนึ่ง ชำนาญในเรื่องความเร็ว การโจมตีปลิดชีพในกระบวนท่าเดียว ด้านการป้องกันร่างกายก็ไม่เลวนัก
องค์ชายเก้าไม่ได้หวาดกลัวเซียนซุ่นอิ่ง แต่หวังว่าจะสามารถจัดการเซียนต่างเผ่าพันธุ์ทั้งสองคนนี้ในรวดเดียว แน่นอนว่านี่เป็นความคิดที่ดีที่สุดของเขา
ภายในเมืองเจียเป่า กลิ่นอายที่ซุกซ่อนอยู่ของเซียนฉยงคงเฝ้ามองสถานการณ์การรบไว้ในครรลองสายตา
เขาเป็นเพียงคนที่ราชวงศ์ส่งมารักษาความปลอดภัยให้องค์ชายเก้าเท่านั้น แต่ไม่อาจออกรบเพื่อองค์ชายเก้าได้
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ออกโรงร่วมรบ ศึกครั้งนี้ขององค์ชายเก้าก็จะไม่พ่ายแพ้แน่
“องค์ชายเก้าทำได้ไม่เลวเลย!”
เซียนฉยงคงระบายยิ้มเล็กน้อย
ใช้ศักยภาพของเถี่ยหงหลิงที่เป็นปฐมเซียนยอดฝีมือลดความระแวงของต่างเผ่าพันธุ์
รอให้ถึงตอนที่จ้าวเฟิงลงมือ อย่างน้อยก็สามารถรั้งเซียนขวงลี่เอาไว้ ส่วนเซียนซุ่นอิ่ง ในความคิดเขาน่าจะไม่สามารถสังหารได้
“แต่ทว่า สนามรบตรงกลางเสียเปรียบ จะสูญเสียกำลังทหารเป็นจำนวนมาก!”
เซียนฉยงคงมองไปที่การรบระหว่างแม่ทัพ
“บัดซบ เจ้าเด็กนี่!”
มนุษย์งูต่างเผ่าพันธุ์ที่ประมือกับจ้าวเฟิง ถูกโจมตีรอบด้านจนร่างกายมีแต่บาดแผล
แต่มองทางจ้าวเฟิง เขาเดินทอดน่องสบายๆ ลมหายใจมั่นคง
“แม่ทัพของพวกเราเก่งกาจนัก!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าขอบเขตพลังจักรพรรดิของแม่ทัพ จะสามารถกำราบปฐมเซียนได้เช่นนี้!”
ในกำลังทหารที่จ้าวเฟิงนำทัพ มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่จดจ่อกับสถานการณ์การรบของจ้าวเฟิง และตื่นตะลึงในใจ
แต่เดิมพวกเขาค่อนข้างจะดูแคลนแม่ทัพคนใหม่ผู้นี้ ด้วยเพราะจ้าวเฟิงดูแล้วยังอ่อนวัยอยู่มาก และไม่มีชื่อเสียงแบบเถี่ยหงหลิง
แต่วันนี้เมื่อได้เห็นพลังของจ้าวเฟิง พวกเขาไร้ซึ่งคำพูดบ่นว่าใด
“ตาเฒ่า รีบมาช่วยข้าเร็ว!”
มนุษย์งูผู้นี้ร้องขอความช่วยเหลืออย่างอับจนหนทาง
“ไร้ประโยชน์เสียจริง ถูกมนุษย์ในขั้นจักรพรรดิทำร้ายจนบาดเจ็บเช่นนี้!”
พวกต่างเผ่าพันธุ์ที่เหนือจมูกมีเขางอกร่างกายหยาบกระด้างเร่งรุดมาทันที
โครม!
หลังจากปฐมเซียนต่างเผ่าพันธุ์สองคนร่วมมือกัน ก็รีบพลิกสถานการณ์ได้ในทันที
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
ทันใดนั้นเอง ลายสายฟ้าสีทองแดงบนผิวกายจ้าวเฟิงเปล่งแสงอ่อน ตอนนี้พลังกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงสำแดงออกมาหกส่วน
“ฮะ พลังของเจ้าเด็กนี่!”
ชาวต่างเผ่าพันธุ์ที่มีเขาเหนือจมูกตื่นตะลึงเล็กน้อย
จ้าวเฟิงปล่อยหมัดออกมาอีกครั้ง!
ตูม! แม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์สองคนโคจรเคล็ดวิชาป้องกัน แต่ยังโดนโจมตีจนกระเด็นถอยไป แม่ทัพมนุษย์งูบาดเจ็บหนักกว่าเดิม
“เป็นไปได้อย่างไร เจ้าเด็กนี่เพิ่งจะสำแดงพลังที่แท้จริงเอาตอนนี้หรือ?”
แม่ทัพมนุษย์งูตื่นตระหนก
เขาเรียกพวกพ้องมาคนหนึ่ง แต่จ้าวเฟิงต้านไว้ได้ ความอัปยศอดสูในใจยากจะเอ่ย
ฟุ่บ ฟุ่บ!
จ้าวเฟิงที่มีแก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวปะทะเข้ากับปฐมเซียนสองคน
การโจมตีของปฐมเซียนทั้งสองปะทะร่างจ้าวเฟิง กลับถูกแก่นแท้พลังวายุอัสนีซัดกระจายออกไป แล้วตัวของจ้าวเฟิงก็ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย
“เจ้าพวกโง่งมทั้งสอง เขาเป็นยอดฝีมือด้านการฝึกร่างกาย ทิ้งระยะห่างกับเขาเดี๋ยวนี้!”
ยามนี้มีแม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์อีกคนเข้ามาร่วมวง
แม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์สามคนทิ้งระยะห่างกับจ้าวเฟิง เพื่อทำการสู้รบจากระยะไกล
โครม แซ่ด! หลังของจ้าวเฟิงมีปีกแสงอัสนีสยายออก
เปรี๊ยะ! จ้าวเฟิงตรงเข้าไปประชิดตัวแม่ทัพมนุษย์งู ใช้แก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์กดดันอีกฝ่าย
จากความเร็วของจ้าวเฟิง ถึงแม่ทัพมนุษย์งูคิดจะหนีก็ไม่อาจหนีพ้น ได้แต่โดนโจมตี ส่วนแม่ทัพอีกสองคนที่เหลือก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก ดีที่สุดก็แค่ทะยานขึ้นไปขวางหน้าแม่ทัพมนุษย์งูเท่านั้น
โครม ฟุ่บ!
แม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์สามคนยิ่งต่อสู้ยิ่งตื่นกลัว แม่ทัพมนุษย์งูที่ต่อสู้กับจ้าวเฟิงตั้งแต่ต้นอ่อนล้าหมดแรงไปแล้ว
จ้าวเฟิงใช้กำลังเพียงคนเดียวยื้อยุดอยู่กับแม่ทัพสามคน เป็นปฐมเซียนสองจักรพรรดิหนึ่ง
การกระทำเช่นนี้ย่อมดึงดูดความสนใจของกำลังทหารและแม่ทัพที่กำลังต่อสู้อยู่ใกล้เคียง
“นี่แม่ทัพของพวกเราหรือ? แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!”
“เคล็ดวิชาต่อสู้สูงส่งลึกล้ำอย่างยิ่ง พลัง ความเร็ว และการป้องกันล้วนแต่ไร้ช่องโหว่ให้โจมตี!”
ราชันไม่น้อยทางฟากของเมืองเจียเป่าตื่นตะลึงอย่างมาก คนที่องค์รัชทายาทพามาเป็นกำลังรบแข็งแกร่งอย่างที่คิดไว้ มิน่า เมื่อองค์รัชทายาทเผชิญกับการล้อมโจมตีของต่างเผ่าพันธุ์จึงไม่มีท่าทีลุกลน
ส่วนทางฟากต่างเผ่าพันธุ์กลับรู้สึกเคร่งเครียด ทนมองต่อไปไม่ไหว ท้ายที่สุดก็มีปฐมเซียนคนหนึ่งเข้าร่วมกับการต่อสู้กับจ้าวเฟิงด้วย
แม่ทัพทั้งสี่คนสู้กับจ้าวเฟิงเพียงคนเดียว
“เจ็ดส่วน!”
ลายอัสนีทั่วร่างจ้าวเฟิงทอประกาย แก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้รูปร่างเพิ่มขึ้นหลายส่วน
ในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงสะบัดฝ่ามือ!
ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!
เงาฝ่ามือสีทองแดงขนาดใหญ่พุ่งทะยานไปด้านหน้า สายฟ้าสีแดงนับไม่ถ้วนกระจายทั่ว
ฝ่ามือนี้ของจ้าวเฟิงมีเพียงแก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ มิได้หลอมรวมพลังวายุอัสนีเข้าไป
โครม แซ่ด แซ่ด!
แม่ทัพสี่คนต่างโคจรปราณที่แท้จริงเพื่อต้านทานฝ่ามือจ้าวเฟิงพร้อมกัน แต่ทั่วร่างกายยังชาวาบ แขนทั้งสองข้างปวดร้าว
“เป็นกลยุทธ์ที่สูงส่งนัก เจ้าเด็กคนนี้คงใช้อาวุธสังหารที่มีแล้ว!”
ต่างเผ่าพันธุ์ที่จมูกมีเขาเอ่ยอย่างตื่นตะลึง
บนชั้นเมฆ ประสาทสัมผัสของเซียนขวงลี่สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดบนสนามรบ
“พลังของเจ้าเด็กมนุษย์คนนี้…” เซียนขวงลี่ตกตะลึงไปเล็กน้อย
คิดไม่ถึงเลยว่าถึงแม้ฟากเผ่าพันธุ์มนุษย์จะไม่มียอดฝีมือขั้นเซียน แต่อัจฉริยะขั้นปฐมเซียนกลับแข็งแกร่งผิดแผกเช่นนี้
ทันใดนั้นเอง เซียนขวงลี่เหมือนสัมผัสได้ มองไปด้านหลัง
“เซียนซุ่นอิ่งออกรบแล้ว!”
ทางฟากเมืองเจียเป่า แม่ทัพจำนวนมากใจสั่นระรัว
สถานการณ์เสียเปรียบในตอนแรก เป็นเพราะได้จ้าวเฟิงจัดการกับแม่ทัพทั้งสี่จึงเริ่มฟื้นกลับมาดีขึ้น และในตอนนี้ เซียนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองมังกรจันทราก็กำลังจะลงมือแล้วเช่นกัน
เปรี๊ยะ ฟุ่บ!
เซียนซุ่นอิ่งกลายเป็นแสงสีดำสนิทสายหนึ่ง ไปปรากฏตัวที่สนามรบอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้ามืดมิดทันใด ไอชั่วร้ายไร้สิ้นสุดทะลักทั่วสารทิศ
“สังหารพวกมนุษย์ให้หมด!”
เสียงเซียนซุ่นอิ่งทุ้มต่ำ จากนั้นปรายตามองจ้าวเฟิง
“สังหาร!”
เซียนต่างเผ่าพันธุ์สองคนร่วมออกรบ เลือดในร่างเหล่าทหารต่างเผ่าพันธุ์ปั่นป่วน ความห้าวหาญเพิ่มมากขึ้น
เปรี๊ยะ!
เซียนซุ่นอิ่งไม่ได้โจมตีองค์ชายเก้า แต่ทะยานไปหาจ้าวเฟิง
จากความรู้สึกของเซียนซุ่นอิ่ง เด็กหนุ่มผู้นี้จัดการได้ยากยิ่งกว่า
“แม่ทัพจ้าวเฟิง!”
“แย่แล้ว เซียนซุ่นอิ่งจะต่อสู้กับแม่ทัพของพวกเรา!”
ผู้สูงศักดิ์และราชันมากมายในกองกำลังที่จ้าวเฟิงบัญชาการต่างอกสั่นขวัญแขวน
แม่ทัพของพวกเราจะแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเซียนซุ่นอิ่งกระมัง
“ท่านซุ่นอิ่ง!”
แม่ทัพทั้งสี่ที่ประมือกับจ้าวเฟิง รู้สึกยินดีระคนหวาดกลัว
ยินดีเพราะเมื่อเซียนซุ่นอิ่งลงมือ เจ้าเด็กนี่จะต้องตายอย่างแน่นอน หวาดกลัวเพราะหลังจากผ่านศึกนี้ไปแล้ว พวกเขาทุกคนต้องโดนลงโทษ
วูบ แซ่ด!
ปีกสองข้างด้านหลังจ้าวเฟิงโบกสะบัด หลบหลีกการโจมตีของเซียนซุ่นอิ่ง
“เดาเอาไว้ก่อนแล้วงั้นหรือ?”
เซียนซุ่นอิ่งตื่นตะลึงในใจ จักรพรรดิผู้หนึ่งกลับสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้!
จ้าวเฟิงหลบการโจมตีของเซียนซุ่นอิ่ง โบยบินหนีออกไปไกล ดูละม้ายจะสลัดเซียนซุ่นอิ่งออกไป แต่อันนั้นที่จริงแล้วเขากำลังเข้าไปใกล้เซียนขวงลี่
“ฝันไปเถอะ!”
แม่ทัพทั้งสี่อัดอั้นตันใจมานาน ต่างรีบเข้าขวางทันที
แต่ในวินาทีต่อมา ลายสายฟ้าสีทองแดงบนร่างจ้าวเฟิงก็เปล่งแสงสว่างเจิดจ้า แก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่เด็ดขาดทรงพลังและอยู่เหนือทุกสิ่งแผ่กระจายออกไป
“อั๊ก…”
แม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์สี่คนเหมือนถูกกดดันอย่างรุนแรง ต่างกระอักเลือดกันถ้วนหน้า แม่ทัพมนุษย์งูที่บาดเจ็บสาหัสและอ่อนล้ามากผู้นั้น ก็ถูกกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หกของจ้าวเฟิงกระแทกจนตายทันที
ปีกอัสนีผ่านฟ้า!
วินาทีต่อมา จ้าวเฟิงสำแดงเคล็ดวิชาข้ามมิติ กลายร่างเป็นสายวายุอัสนีสีชาด ปรากฏขึ้นยังอากาศเบื้องหลังเซียนขวงลี่
“อะไรกัน?”
เซียนขวงลี่ที่กำลังประมือกับเถี่ยหงหลิงรู้สึกได้ถึงภัยอันตราย
ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!
จ้าวเฟิงโคจรแก่นแท้พลังทั่วร่าง ผสานวายุอัสนีธาตุไฟ และสะบัดฝ่ามือออกไป
ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภาครั้งนี้เกิดจากพลังฝ่ามือทั้งหมดของจ้าวเฟิง และยังหลอมรวมวายุอัสนีธาตุไฟเอาไว้ด้วย
เห็นเพียงฝ่ามือทองแดงสายหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเซียนขวงลี่ วายุอัสนีธาตุไฟที่น่ากลัวเกี่ยวประสานกันอย่างบ้าคลั่ง
ตูม!
กายศักดิ์สิทธิ์รวมศูนย์ของเซียนขวงลี่ ถูกฝ่ามือของจ้าวเฟิงซัดใส่จนเกิดรอยปริร้าว แตกละเอียด เลือดสาดกระจายเต็มฟ้า
“นี่…เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
เซียนขวงลี่กระอักเลือด ในใจตื่นกลัวเกินจะเปรียบ เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป
เซียนขวงลี่รีบโคจรปราณที่แท้จริง กำจัดความชาและความเจ็บปวดของร่างกายเตรียมที่จะประคองร่างกายเอาไว้
แต่ในวินาทีต่อมา จ้าวเฟิงกลับปรากฏตัวขึ้นที่ด้านขวาของเขา ดวงตาซ้ายสีทองอ่อนพลันส่งผลึกอัสนีสีทองม่วงพุ่งไปแทงยังดวงวิญญาณของเซียนขวงลี่
“อ๊าก!”
เซียนขวงลี่ร้องโหยหวนทันใด ในขั้นวิญญาณเหมือนถูกฟาดด้วยอัสนีบาตนับหมื่น เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
พร้อมกันนั้น ตราฝ่ามือสีแดงสายหนึ่งก็ปะทะไปที่เขาอีกครา!
ผัวะ! ร่างเซียนขวงลี่แหลกละเอียด วิญญาณดั้งเดิมแตกกระสานซ่านเซ็น
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไม่ถึงสามช่วงลมหายใจ
เซียนซุ่นอิ่งยังอึ้งงันอยู่ด้านล่าง เถี่ยหงหลิงที่อยู่กลางอากาศและแม่ทัพอีกสองคนใจเต้นรัวเร็ว มองไปที่จ้าวเฟิงผู้ซึ่งทั่วร่างโอบล้อมด้วยลายอัสนีสีชาด แววตาตะลึงถึงขีดสุด