บทที่ 1079 แบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน
“หอกจักรพรรดิเหมันต์!”
ของเหลวเยียบเย็นสีฟ้าชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นในอากาศรอบด้าน บิดเบี้ยวกลายเป็นม่านเหมันต์สีน้ำเงินชั้นหนึ่ง ปกคลุมคนทั้งสามเอาไว้ภายใน
ผลกระทบทั้งหมดที่ลมพายุหนาวเหน็บมีต่อทุกคนถูกสกัดกั้นเอาไว้ด้านนอก คนทั้งสามทะลวงเข้าไปภายในอย่างราบรื่น ไล่ตามพวกต่างเผ่าพันธุ์ทั้งสามที่กำลังหลบหนีอยู่ด้านหน้า
“บ้าเอ๊ย เจ้ามนุษย์นี่!”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์ขมวดคิ้วมุ่น
เขาลืมไปว่าจ้าวเฟิงเองก็ถนัดเสวียนอ้าวธาตุน้ำอย่างยิ่งเช่นกัน
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ พวกจ้าวเฟิงคิดจะไล่ตามเซียนหมื่นปรากฏการณ์และราชาเซียนอีกสองคนก็นับว่ายากเอาการอยู่
“หึ ยังกล้าจะไล่ตามพวกเรา!”
ราชาเซียนเฮยตู๋มองเห็นพวกจ้าวเฟิงไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ จึงหัวเราะเสียงเย็น
เขาและราชาเซียนจื่อตู๋แค่กลัวว่าหลังจากเซียนหมื่นปรากฏการณ์พ่ายแพ้ไปแล้ว จ้าวเฟิงและพวกจะจัดการพวกเขา หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาสองคนก็ไม่มีหวังจะชนะมากนัก
ด้วยเหตุนี้ ราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์สองคนถึงเลือกล่าถอยไป
“มีดพิษม่วง!”
ราชาเซียนจื่อตู๋พลันหมุนกาย มีดสั้นสีม่วงในมือลากคมมีดใหญ่ยักษ์สีเดียวกันออกมาเส้นหนึ่ง ระลอกสีม่วงเข้มสาดประกายอยู่ด้านบน เห็นแล้วยังรู้สึกได้ถึงพิษที่ร้ายแรงถึงชีวิต
พรึ่บ ฟู่!
จ้าวเฟิง หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟยมีประสบการณ์ร่วมมือกันมานานแล้ว จึงปลดปล่อยพลังเงาโลกมิติส่วนตัวออกมาทันที
เห็นเพียงเงาโลกมิติส่วนตัวทรงพลังน่าหวั่นเกรงสามกลุ่มบิดเบี้ยวเข้าหากัน แล้วขวางอยู่ด้านหน้า
คมมีดระลอกแสงสีม่วงถูกเงาโลกมิติส่วนตัวของทุกคนขวางเอาไว้ ค่อยๆ ทำลายพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับด้านบนไปทีละน้อย
แต่ก็ด้วยเหตุนี้เอง ความเร็วของพวกจ้าวเฟิงจึงเชื่องช้าลงไปส่วนหนึ่ง
“พี่เฟิง ถึงพวกเราจะได้เปรียบหากต่อสู้กันซึ่งหน้า แต่คิดจะไล่สังหารพวกเขา ความยากจะมากกว่าสองเท่า!”
จ้าวหยูเฟยส่งกระแสจิตบอก
“จ้าวเฟิง พวกเราไม่จำเป็นต้องไล่ตามอย่างไม่ลดละก็ได้กระมัง!”
หนานกงเซิ่งเอ่ยถามอย่างสงสัย
สู้กับผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกัน โดยปกติแล้วจะไม่เกิดการล้มตาย การโจมตีให้แพ้พ่ายและการโจมตีให้ตายไม่ใช่ระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง
หนานกงเซิ่งคิดว่าพวกเขาไม่มีทางไล่ล่าสังหารราชาเซียนได้ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่พวกเขาไล่ล่าเป็นกลุ่ม จึงทำให้ความยากยิ่งมากขึ้นอีก
“ช่วยข้าจับเป็นเซียนหมื่นปรากฏการณ์ การแบ่งทรัพยากรในภายหน้า ข้าจะให้พวกเจ้าได้เลือกก่อน!”
จ้าวเฟิงบอกเป้าหมายของตนเอง
หนานกงเซิ่งสายตาเคร่งขรึม เงื่อนไขที่จ้าวเฟิงเสนอดึงดูดใจอย่างยิ่ง
หนานกงเซิ่งและจ้าวเฟิงเคยร่วมมือกันมาหลายครั้ง
ทุกครั้งเป็นจ้าวเฟิงที่เจอทรัพยากรกับโอกาสก่อน และยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งจ้าวเฟิงยังได้ไปมากที่สุด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสายเลือดดวงตาของจ้าวเฟิง อีกด้านหนึ่งก็เกี่ยวข้องกับเจ้าแมวขโมยน้อยด้วย
แต่ว่าจ้าวเฟิงบอกให้จับเซียนหมื่นปรากฏการณ์
ความยากในการจับเป็นคนๆ หนึ่งยากกว่าสังหารมากนัก
จ้าวหยูเฟยผงกศีรษะคล้ายครุ่นคิดบางอย่าง ถึงแม้จ้าวเฟิงจะบอกชื่อเป้าหมายคือเซียนหมื่นปรากฏการณ์ แต่จ้าวหยูเฟยครุ่นคิดก็เข้าใจ จ้าวเฟิงคงจะสนใจในเนตรหมื่นปรากฏการณ์
หากเป็นเช่นนี้ จ้าวหยูเฟยจะทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือจ้าวเฟิงแน่
จนสุดท้ายสามคนจึงตกลงกันได้ ตัดสินใจว่าจะไล่ตามต่อ หนำซ้ำยังต้องรั้งฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ภายในเวลาจำกัด อย่างไรเสียในร่างเทพนี้ก็เต็มไปด้วยอันตราย ถ้าหากไม่ใช่เพื่อเนตรหมื่นปรากฏการณ์ จ้าวเฟิงเองก็ไม่คิดจะไล่ตามพวกเขา
พรึ่บ!
จ้าวเฟิงเรียกธนูเหนือนภา ยิงธนูแสงศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีชาดดอกหนึ่งออกมาเสียงดัง ‘ฟึ่บ’
หนานกงเซิ่งโคจรแสงศักดิ์สิทธิ์โลหิตม่วง ในขณะที่โบกมือก็กระตุ้นเงาทับซ้อนโลหิตม่วงหลายเส้นสายพุ่งโจมตีไป
จ้าวหยูเฟยควบคุมไอสวรรค์ฟ้าดิน เข้าขวางคนทั้งสามที่โบยบินหนีอยู่ตรงหน้า
“เจ้ามนุษย์ อย่าทำอะไรเกินตัว พวกเจ้าไล่ตามพวกเราไม่ทันหรอก ทำแบบนี้ไปมีแต่จะสิ้นเปลืองเวลาของทุกคน!”
ราชาเซียนเฮยตู๋สะบัดม่านระลอกแสงสีดำผืนหนึ่งออกมา ลดทอนการโจมตีของจ้าวเฟิงและพวกลงไปส่วนหนึ่ง
ต่อจากนั้น ราชาเซียนจื่อตู๋ต้านทานการโจมตีของพวกจ้าวเฟิงเอาไว้ทั้งหมด
ราชาเซียนเฮยตู๋โกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตอนแรกที่เข้ามาในร่างเทพจะต้องมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ ไหนจะถูกพวกมนุษย์ไล่สังหาร อีกทั้งผู้ที่ไล่สังหารยังเป็นเซียนถึงสามคน!
นี่เป็นความอัปยศที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
“บัดซบ เจ้ามนุษย์พวกนี้!”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด
โอกาสในร่างเทพมีมากมายนับไม่ถ้วน เหตุใดพวกจ้าวเฟิงถึงหมกมุ่นเอาแต่ไล่ล่าสังหารพวกเขา
“หึ หากเจอต่างเผ่าพันธุ์คนอื่น ก็จะเป็นคราวตายของพวกมัน!”
ราชาเซียนจื่อตู๋แค่นเสียง ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่ถ้าเจอกลุ่มพวกมนุษย์เข้า พวกเขาคงแย่แน่
จ้าวเฟิงที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังก็ขมวดคิ้วน้อยๆ
หากราชาเซียนสองคนและเซียนหมื่นปรากฏการณ์คิดจะหนีไป เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้จ้าวเฟิงก็เหมือนกับใช้ศรสังหารเทพชั้นรอง แต่ในวันนี้เขามีศรสังหารเทพชั้นรองเหลือเพียงสี่ดอกเท่านั้น ทำให้จ้าวเฟิงยังลังเลอยู่
โครม!
หนานกงเซิ่งสร้างแสงศักดิ์สิทธิ์โลหิตม่วงกลุ่มหนึ่ง โจมตีเป็นกรงเล็บมารขนาดยักษ์ที่มีลวดลายออกไป ในนั้นยังแฝงไปด้วยพลังเทพที่อ่อนแอเล็กน้อย ทำให้กรงเล็บมารยักษ์แปลกที่ประหลาดสาดซัดพลังน่ากลัวจนทำให้ต้องประหวั่นพรั่นพรึง
ราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์ทั้งสองเห็นสถานการณ์แล้วจึงรีบโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับ ส่งพลังสายหนึ่งออกไปต้านทานการโจมตีของหนานกงเซิ่งพร้อมกัน
โครม! คลื่นการโจมตีของพลังศักดิ์สิทธิ์มหาศาลกระจายออกมา
แกรก! กำแพงผลึกที่ส่องสว่างแตกกระจายทันที
พู่ว~
กลิ่นอายน่ากลัวที่สะเทือนฟ้าดินพุ่งทะยานออกมาจากภายใน ไอสวรรค์ฟ้าดินรอบบริเวณพร้อมใจกันสั่นไหว
“นี่คือ?”
จ้าวเฟิงชะงักฝีเท้า มองไปภายในกำแพงผลึกแก้วที่แตกละเอียดนั้น
“พังทลายแล้วหรือ?”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์และพวกที่กำลังหนีด้านหน้าหยุดชะงักไปเช่นกัน
ทุกคนล้วนแต่รู้ว่ากำแพงผลึกในร่างเทพแข็งแกร่งมั่นคง ต่อให้ร่วมมือกับครึ่งเทพ คิดจะทิ้งร่องรอยไว้บนนั้นก็ยังยากเย็นอย่างมาก
ทว่าในเวลานี้ ระลอกพลังที่เหลือจากการต่อสู้ของพวกเขากลับทำให้กำแพงผลึกด้านข้างแตกละเอียด ทั้งหมดนี้แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
วิ้ง!
ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงมีลายคลื่นสีทองอ่อนๆ ชั้นหนึ่งอบอวล ทะลวงผ่านทั้งหมด จนมองเห็นภายในกำแพงที่ถูกทำลายไปแล้ว
“นั่นคือ?”
จ้าวเฟิงมีสีหน้าตื่นตะลึง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือจะเชื่อ
ภายในกำแพงผลึกที่ทลายลงเป็นที่ว่างค่อนข้างใหญ่ มีเสาหินผลึกส่องสว่างหลายสิบต้นตั้งอยู่ จ้าวเฟิงมองเห็นกลุ่มแสงสว่างสีขาวแวววับลอยอยู่กลางอากาศด้านบน สาดแสงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนไปทั่วทิศทาง
ในวินาทีที่จ้าวเฟิงและพวกปรากฏกายขึ้น เสาหินผลึกที่ตั้งอยู่ด้านในพลันสาดซัดพลานุภาพที่แข็งแกร่งออกมา จากนั้นห้วงความคิดที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหล
โครม!
เสาหินผลึกต้นหนึ่งในนั้นกลายเป็นยักษ์ร่างผลึกทะยานออกมา
ตุบ โครม!
จากนั้นเสาหินผลึกมากมายภายในนั้นพากันตื่นขึ้นเป็นทอดๆ และขยับเขยื้อนตัว
“ต่างจากปีศาจผลึกเลือดเมื่อครู่ กลิ่นอายสายเลือดที่แฝงอยู่ภายในยักษ์กายผลึกค่อนข้างอ่อนแอ กลิ่นอายพลังเทพที่แฝงอยู่ก็ค่อนข้างมากด้วย!”
ดวงตาจ้าวเฟิงมองประเมินยักษ์กายผลึกเหล่านี้ และรีบสรุปผลลัพธ์ออกมา
“เหมือนจะแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าปีศาจผลึกเลือดเมื่อครู่!”
หนานกงเซิ่งสัมผัสกลิ่นอายบนร่างของฝ่ายตรงข้าม สีหน้าเขาตึงเครียดเล็กน้อย
ปีศาจผลึกเลือดเมื่อครู่ไม่ถึงขอบเขตพลังขั้นราชาเซียน เพียงแต่การโจมตีแข็งแกร่งจนเทียบเท่ากับราชาเซียนเท่านั้น
แต่ยักษ์กายผลึกตรงหน้าเป็นปีศาจในขั้นราชาเซียน
“หนานกงเซิ่ง ในนี้มีกลิ่นอายพลังเทพ!”
ในร่างหนานกงเซิ่ง เสียงของจิตเทพปีศาจดังขึ้น
ใบหน้าหนานกงเซิ่งฉายแววละโมบ เขาย่อมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังเทพกลุ่มนั้นเช่นกัน
กลิ่นอายพลังเทพกลุ่มนั้นแข็งแกร่งทรงพลัง เหมือนจะแกร่งเสียยิ่งกว่าพลังเทพปีศาจ สิ่งที่สำคัญคือถ้าหากเขาได้รับพลังเทพกลุ่มนี้มา บางทีอาจประสานกับพลังเทพปีศาจในร่างได้
“เจ้ามนุษย์ พวกเราร่วมมือกันฉกฉวยเอาผลประโยชน์ภายในนี้ด้วยกันเป็นการชั่วคราวเถอะ!”
ในฐานะที่เฮยตู๋เป็นราชาเซียน ย่อมรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายพลังเทพภายใน
ถ้าหากเขาได้พลังเทพที่แกร่งกล้ากลุ่มนั้นมา จะทำลายขั้นเทพก็ไม่ใช่ปัญหา!
“กลิ่นอายพลังเทพรั่วไหลออกมา อีกไม่นานจะดึงดูดคนเข้ามามากขึ้น!”
ราชาเซียนจื่อตู๋ยิ้มอย่างชั่วร้าย
เซียนหมื่นปรากฏการณ์สงสัยอยู่เล็กน้อย ในยามที่ถูกพวกจ้าวเฟิงไล่โจมตี เซียนหมื่นปรากฏการณ์ก็เข้าใจว่าคนที่พวกจ้าวเฟิงไล่สังหารคือเขา ส่วนสิ่งที่จ้าวเฟิงอยากได้จากเขา เกรงว่าจะเป็นเนตรหมื่นปรากฏการณ์!
“ราชาเซียนทั้งสอง ระวังจ้าวเฟิงด้วย!”
อยู่ๆ ราชาเซียนสองคนอยากจะร่วมมือกับจ้าวเฟิง เซียนหมื่นปรากฏการณ์ย่อมไม่มีทางหนีไปได้โดยลำพัง
“ตกลง จะเก็บเกี่ยวอะไรก็พึ่งพาความสามารถของตนเอง!”
จ้าวเฟิงครุ่นคิดชั่วขณะหนึ่ง ก่อนเอ่ยตามตรง
แน่นอนว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของจ้าวเฟิงต้องผ่านความเห็นชอบของจ้าวหยูเฟยและหนานกงเซิ่งแล้ว
จู่ๆ กลิ่นอายพลังเทพกลุ่มนี้ปรากฏขึ้น จะต้องดึงดูดกลุ่มสำรวจมามากกว่าเดิม ไม่สู้อาศัยช่วงที่กลิ่นอายพลังเทพกลุ่มนี้ยังไม่ทันดึงดูดคนกลุ่มอื่นมา รีบขุดเอาสมบัติที่นี่ไปก่อน
ราชาเซียนเฮยตู๋และพวกก็รู้เรื่องนี้ชัดเจนเช่นกัน
ทันทีที่ครึ่งเทพมา แม้แต่ส่วนแบ่งเล็กน้อย พวกเขาก็ยากที่จะได้รับมา
“แบบนี้ก็ยิ่งดี!”
ราชาเซียนเฮยตู๋เผยยิ้มชั่วร้าย
เพื่อพลังเทพกลุ่มนั้น ถึงราชาเซียนเฮยตู๋จะใช้ไพ่ตายที่เตรียมเอาไว้นานแล้วก็ยินดี
“ลงมือพร้อมกัน!”
จ้าวเฟิงตะโกนทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
จากนั้นคนทั้งหกจึงทะยานเข้าไปภายในจากรอยโหว่
หลังจากนั้น ราชาเซียนเฮยตู๋ปลดปล่อยโลกมิติส่วนตัวที่เป็นระลอกเส้นเล็กละเอียดสีดำเพื่ออุดเอารอยโหว่เอาไว้
ทำเช่นนี้ย่อมลดทอนกลิ่นอายพลังเทพที่สาดซัดออกมา ให้พวกเขาได้ซื้อเวลาให้ตนเอง
ทั้งสองกลุ่มต่างเกาะติดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น เห็นได้ชัดเลยว่าระหว่างพวกเขาไม่ได้เชื่อใจกันมากนัก
โครม เปรี้ยง!
จ้าวเฟิง หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟยร่วมมือกันรับมือกับยักษ์กายผลึกสองตน
คนทั้งสามระเบิดกำลังรบที่แข็งแกร่งออกมาอย่างรวดเร็ว โจมตียักษ์กายผลึกตนหนึ่งในเวลาเดียวกัน มีเพียงเช่นนี้เท่านั้นถึงจะทำลายยักษ์กายผลึกเหล่านี้ได้รวดเร็วที่สุด
จ้าวเฟิงกับจ้าวหยูเฟยมีพลังป้องกันที่แกร่งกล้า ส่วนหนานกงเซิ่งยิ่งมีอาวุธเทพชั้นรอง คนทั้งสามสามารถตั้งรับการโจมตีของยักษ์กายผลึกตนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว คนทั้งสามสยบการโจมตีของยักษ์กายผลึกอีกตนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และทุ่มเทพลังทั้งหมดโจมตีไปที่อีกตัว
กรงเล็บมารโลหิต!
หยกม่วงโจมตี!
ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!
จ้าวเฟิงและพวกรีบทำเวลา สำแดงเคล็ดวิชาไม้ตายโจมตียักษ์กายผลึกตัวหนึ่งภายในนั้น
ประกายแสงพลังศักดิ์สิทธิ์มหาศาลระเบิดออกบนร่างยักษ์ผลึกอย่างรุนแรง
“เจ้ามนุษย์หน้าไม่อาย!”
ยักษ์กายผลึกตัวนั้นเผชิญการโจมตีจากจ้าวเฟิงและพวกพร้อมกัน จะแบกรับอย่างไรไหว มันหมุนกายเตรียมจะหนีไป
“เขตแดนคุกมายา!”
ในขณะที่ยักษ์กายผลึกตัวนั้นกำลังจะหนีไป จ้าวเฟิงพลันสำแดงวิชาเนตรในศาสตร์ลวงตา ดึงดูดจิตใจของอีกฝ่ายเอาไว้
ในเวลาเดียวกัน หนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยต่างโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับแล้วโจมตีอย่างหนักหน่วง!
หัตถ์ปีศาจสวรรค์!
ระลอกแสงศักดิ์สิทธิ์!
โครม!
ยักษ์กายผลึกตนนั้นร่างระเบิดแหลกสลายจากความร่วมมืออย่างยอดเยี่ยมของพวกจ้าวเฟิง
ชั่วขณะเดียวกัน ภายในร่างมันมีมุกผลึกที่ส่องสว่างจำนวนมากหล่นกระจาย
“นี่คือผลึกเซียนระดับล่าง!”
จ้าวเฟิงและพวกร้องออกมาพร้อมกัน
สังหารยักษ์กายผลึกตัวนี้ ทำให้ได้ผลึกเซียนระดับล่างมาสามชิ้น พวกจ้าวเฟิงจึงแบ่งกันไปคนละชิ้น
ทางฟากกลุ่มราชาเซียนเฮยตู๋ก็ประสบความสำเร็จในการสังหารยักษ์กายผลึกตนหนึ่ง ได้ผลึกเซียนระดับล่างส่วนหนึ่งมาครอง
“คุณภาพของผลึกเซียนระดับล่างพวกนี้ไม่ธรรมดาเลย!”
แววตาจ้าวเฟิงเปล่งประกาย
จ้าวเฟิงเคยใช้ผลึกเซียนระดับล่างจำนวนมากฝึกตน เพียงเห็นก็แยกแยะความต่างของทั้งสองได้ทันที
พลังที่แฝงอยู่ในผลึกเซียนระดับล่างของยักษ์กายผลึกแข็งแกร่งบริสุทธิ์มากกว่า ถึงขั้นยังมีกลิ่นอายเทพที่อ่อนแออยู่เล็กน้อย
“รีบจัดการทั้งหมดให้เร็วๆ ยักษ์กายผลึกจำนวนมากขึ้นกำลังมาแล้ว!”
หนานกงเซิ่งรีบเอ่ย
สังหารยักษ์กายผลึกตนหนึ่ง ก็จะได้รางวัลเป็นผลึกเซียนระดับล่าง
แต่ยักษ์กายผลึกภายในถ้ำแห่งนี้มีจำนวนสิบกว่าตัว พวกมันกำลังค่อยๆ ตื่นขึ้น!
กลุ่มทั้งสองย่อมตระหนักถึงปัญหานี้ ในตอนนี้พวกเขายังรับมือกับยักษ์กายผลึกแค่สองสามตน แต่ถ้าหากยักษ์กายผลึกทั้งหมดในที่นี่ตื่นขึ้น พวกเขาทำได้เพียงล่าถอยไปเท่านั้น!
ตูม บึ้ม!
คนทั้งหมดทุ่มเทแรงกายโจมตียักษ์กายผลึก กระทั่งจ้าวเฟิงยังต้องสำแดงวิชาดวงตาโจมตีส่วนหนึ่งตลอดเวลา
ถึงแม้ทุกคนจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดกำจัดยักษ์กายผลึก แต่ความสนใจของพวกเขาแทบจะจดจ่ออยู่กับกลุ่มแสงพลังเทพสีทองขาวบนยอดถ้ำ!