Skip to content

King of Gods 1185

King Of Gods

บทที่ 1185 เผ่าผนึกเทพ

ส่วนลึกในป่าวิหคสวรรค์ ร่างอรชรร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้น กระโปรงสีฟ้าม่วงทั้งตัว งดงามเฉิดฉายจนทำให้คนหยุดหายใจ

“เจ้ามนุษย์คนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก ไม่ถูกคนพวกนี้ฆ่าตาย และยังมีแมวขโมยตัวนั้นอีก ไม่ธรรมดาเลย!”

เสี่ยวหลิงเผยยิ้มน่ามอง

นางคือเผ่าพันธุ์บรรพกาลยูงหางหงส์ ยามนี้แปลงเป็นมนุษย์แฝงตัวมา จุดประสงค์ก็เพื่อชิงขนหางของรุ่นก่อนกลับไป

หากจ้าวเฟิงถูกคนของเผ่าปีศาจวารีสวรรค์สังหาร ขนหางของรุ่นก่อนตกไปอยู่ในมือของเผ่านั้น นางตัวคนเดียวคงไม่กล้าไปชิงกลับมา

ดังนั้นเสี่ยวหลิงจึงหวังว่าจ้าวเฟิงจะยังมีชีวิตอยู่ รอให้นางเป็นผู้สังหารเอง

พรึ่บ! เสี่ยวหลิงแปลงเป็นเปลวเพลิงรางเลือนสีม่วงฟ้าจากไปยังทิศหนึ่ง

……

“เกือบจะสองแสนลี้แล้ว!” จ้าวเฟิงผ่อนคลายลง

แสงอัสนีหลบหลีกของจ้าวเฟิง ระยะห่างที่ไกลที่สุดในห้วงฝันบรรพกาลคือห้าหมื่นลี้ หรือก็คือในความเป็นจริงจ้าวเฟิงสามารถหนีได้สองแสนห้าหมื่นลี้

จ้าวเฟิงเชื่อว่าห่างกันสองแสนห้าหมื่นลี้ อีกฝ่ายคิดอยากจะหาตนก็ลำบากเป็นอย่างยิ่งแล้ว อีกทั้งครรลองสายตาของเขาก็กว้างไกลเป็นพิเศษ หากสัมผัสได้ว่ามีคนไล่สังหารมา ยังสามารถใช้มนตราอากาศหนีไปได้

“จ้าวเฟิง ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”

ในโลกมิติส่วนตัววายุอัสนี โหวชิ่งตะโกนอย่างโกรธแค้น

ผัวะ!

พลั่วเหล็กในมือของแมวขโมยน้อยหวดลงไปที่หัวของเขาเต็มแรง ทำให้เขาพลันรู้สึกว่าโลกหมุน

“ไสหัวไป!” จ้าวเฟิงปล่อยโหวชิ่งออกมา

ถึงแม้ว่าอยากจะสังหารโหวชิ่ง แต่ตนเองเคยพูดไว้ว่าหลังจากถอยห่างสองแสนลี้ก็จะปล่อยไป จ้าวเฟิงพูดแล้วไม่คืนคำ

หากครั้งหน้าเจอคนคนนี้อีกจะสังหารไม่เว้นแน่นอน!

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…

ในยามนี้เอง ไม่ไกลนัก เผ่าพาหาทองคนอื่นๆ ปรากฏขึ้น

“จ้าวเฟิง หนีเร็ว!” อวี๋เฮิ่นมีสีหน้าร้อนรน ตะโกนขึ้นอย่างรีบร้อน

“หนี?”

สีหน้าจ้าวเฟิงงงงัน แน่นอนว่าเขาต้องหนี แต่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยรึ?

แต่เสี้ยวขณะต่อมา จ้าวเฟิงก็สัมผัสได้ถึงภัยอันตราย

วู้ม! ใกล้ๆ จ้าวเฟิง ท้องฟ้าด้านหนึ่งบิดเบี้ยว มาพร้อมด้วยคลื่นเสวียนอ้าวอันรุนแรง ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเขาทันที

ครืน เปรี้ยง!

จ้าวเฟิงขนลุกชันไปทั่วร่าง ปีกอัสนีข้างหลังพลันส่องประกาย กะพริบวูบแล้วหายไป

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

จ้าวเฟิงเปล่งประกาย หายตัวมาอีกหลายหมื่นลี้

“เหอะ!”

ผู้อาวุโสคนนี้แค่นเสียงเย็น ปรายตามองเผ่าพาหาทองคนอื่นๆ

“ฆ่าจ้าวเฟิงเร็วเข้า!” โหวชิ่งเผยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

จ้าวเฟิงดูถูกผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงมากเกินไป

เทพแท้จริงขั้นสี่ผู้นี้ของเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ นอกจากจะเชี่ยวชาญด้านเสวียนอ้าวลมและน้ำแล้ว ยังบรรลุเสวียนอ้าวมิติที่แข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง

สองแสนลี้ เคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาก็ได้แล้ว!

แต่เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนย้ายข้ามมิติในชั่วพริบตาไม่อาจสำแดงติดต่อกันได้ ในเมื่อเสวียนอ้าวมิติของเทพแท้จริงคนนี้ก็เพิ่งจะถึงขั้นที่สอง

ฟิ้ว!

เทพแท้จริงขั้นสี่คนนี้ทะลักเสวียนอ้าวลมและน้ำ แปลงเป็นเส้นโค้งไล่ตามจ้าวเฟิงไป

“พลาดเสียแล้ว นี่คืออภินิหารอะไรกัน?”

หน้าผากของจ้าวเฟิงมีเหงื่อซึมชื้น ในใจหวาดหวั่น

ในตอนนี้เขากระตุ้นอัสนีเพลิงทำลายล้างจนถึงขีดจำกัด แต่กลับยังคงถูกไล่ตามมาทีละนิดๆ ถึงแม้ว่าความเร็วของจ้าวเฟิงในห้วงฝันบรรพกาลจะยิ่งเร็วขึ้น

แต่เทพแท้จริงขั้นสี่คนนี้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว อีกทั้งรอบกายของจ้าวเฟิงมีคลื่นเสวียนอ้าวมิติที่ไร้รูปร่างสกัดกั้นไม่ให้เขาใช้วิชาพิเศษ

“นายท่าน คนของเผ่าพาหาทองบอกว่าสามารถหนีเข้าไปใน ‘ป่าแห่งความตาย’ ได้ พวกเขาจะไปหาท่านที่นั่น”

ในตอนนี้ เสียงของผู้เฒ่าชุดเขียวดังขึ้นในหัวจ้าวเฟิง

ความคิดส่วนหนึ่งของจ้าวเฟิงดำดิ่งลึกลงไปในหัว แผนที่ในความทรงจำของเขามีข้อมูลของป่าแห่งความตายอยู่ ที่นี่คือสถานที่อันตรายร้ายแรง อยู่ใกล้ๆ กับป่าวิหคสวรรค์ ต่อให้เป็นเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งเข้าไปข้างในก็แทบเอาชีวิตไม่รอดทั้งนั้น

ทว่าหากถูกเทพแท้จริงขั้นสี่จับได้ จ้าวเฟิงก็ต้องตายอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น จ้าวเฟิงก็อยากจะเห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเผ่าพาหาทองด้วย

ครืน เปรี้ยง!

อัสนีสายหนึ่งส่องประกายออกมา จ้าวเฟิงเปลี่ยนทิศทาง เป้าหมายคือป่าแห่งความตาย!

“ผู้เยาว์ ตายซะเถอะ!”

เสียงทรงอำนาจก้องฟ้าดังขึ้นจากข้างหลังจ้าวเฟิง

เขาเป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสี่ สำแดงการเคลื่อนย้ายมิติ จนถึงตอนนี้ก็ยังไล่จ้าวเฟิงไม่ทัน นี่ทำให้เขาค่อนข้างเสียหน้า แต่ว่าตอนนี้เขาเกือบจะเข้าใกล้จ้าวเฟิงแล้ว

“ทัณฑ์ประหารม่านวารี!”

เทพแท้จริงขั้นสี่เผ่าปีศาจวารีสวรรค์กำมือข้างหนึ่ง

เหนือจุดที่จ้าวเฟิงหลบหนีมีคลื่นวนลมและน้ำขนาดมหึมาหาใดเปรียบปรากฏขึ้น แรงดึงดูดที่น่าหวาดหวั่นเหมือนจะกลืนกินทุกสรรพสิ่ง

“นี่ก็คือการผสานพลังเสวียนอ้าวที่ลึกซึ้งกับพลังเทพ?”

จิตใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน ยามนี้เขาถูกคลื่นวนลมน้ำกลุ่มนี้ฉุดเอาไว้ ไม่อาจสำแดงแสงอัสนีหลบหลีกได้เลย

พลังทัณฑ์ประหารม่านวารีที่เทพแท้จริงขั้นสี่สำแดง แข็งแกร่งกว่าตอนโหวชิ่งที่สำแดงกระบวนท่านี้หลายเท่า

“ตายซะเถอะ!”

เทพแท้จริงขั้นสี่คนนี้มาถึงด้านหน้าจ้าวเฟิง เขาในยามนี้ถูกพลังของอีกฝ่ายพันธนาการไว้อย่างสิ้นเชิง ไม่อาจหนีพ้นได้เลย

แต่ทันใดนั้น ในตาซ้ายของจ้าวเฟิงแผ่กระจายคลื่นวนลมและน้ำที่น่าพรั่นพรึงออกมา คลื่นวนกลุ่มนี้ร่วงลงบนร่างของเทพแท้จริงขั้นสี่ทันที

แรงดูดจากคลื่นวนลมน้ำทั้งสองส่งผลซึ่งกันและกัน แรงดูดที่จ้าวเฟิงได้รับลดลงทันใด

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

จ้าวเฟิงสำแดงแสงอัสนีหลบหลีก บินไปยังแนวป้องกันที่ไกลลิบ หรือก็คือสถานที่อันตรายที่มีหมอกทมิฬแห่งความตายลอยอวล

เมื่อครู่เขาใช้เนตรเทพลอกแบบ ทำเอาเทพแท้จริงขั้นสี่รับมือไม่ทัน

“อ๊าก…ข้าจะทำให้เจ้าทรมานเจียนตาย!”

เทพแท้จริงขั้นสี่คนนั้นเงยหน้าคำราม เสวียนอ้าวลม น้ำ และมิติทั่วทั้งผืนฟ้าถูกกระตุ้นปนเปกันหมด

ผู้แข็งแกร่งที่ผ่านมาไม่น้อยแถวนั้นตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง หนีกันหัวซุกหัวซุน

“เคลื่อนย้ายชั่วพริบตา!”

เทพแท้จริงขั้นสี่ของเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ปรับลมหายใจ โคจรเสวียนอ้าวมิติ กายเพียงกระโดดก็หายวับไปในท้องฟ้า

“มาแล้ว!”

จ้าวเฟิงที่กำลังบินอยู่สัมผัสได้ว่ามิติรอบตัวยุ่งเหยิงขึ้นอีกครั้ง

ทว่าจ้าวเฟิงก็มาถึงยังชายขอบป่าแห่งความตายแล้ว

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

จ้าวเฟิงแปลงเป็นแสงอัสนีสายหนึ่งทะลวงเข้าไปในป่าแห่งความตายทันที

เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงที่ที่เขาอยู่

“ป่าแห่งความตาย!”

เทพแท้จริงขั้นสี่ขมวดคิ้วน้อยๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวเฟิงจึงหนีเข้ามาที่นี่

ป่าแห่งความตาย โอกาสรอดมีเพียงหนึ่งในสิบ ต่อให้เป็นเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามบุกเข้าไป

……

เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เข้ามาในป่าแห่งความตาย จ้าวเฟิงก็สัมผัสได้ว่าเสวียนอ้าวมรณะมหาศาลเข้ากัดกินตน

ฟู่ ฟู่!

กลิ่นอายความตายที่เข้มข้นไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา เข้ากัดกินทุกสิ่ง

“เป็นกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก!”

ใจของจ้าวเฟิงเต้นตุบๆ รู้สึกว่าพลังชีวิตในกายของตนไหลออกไปอย่างรวดเร็ว แค่เพียงเขาอยู่ที่นี่ต่อไป อีกไม่นานเท่าไหร่ก็จะต้องตายอย่างแน่นอน

“นายท่าน อย่าใช้พลังใดๆ ทั้งสิ้น!”

เสียงผู้เฒ่าชุดเขียวดังขึ้นในหัวของจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงรีบทำตามทันที เก็บงำพลังเจตจำนง พลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนี และพลังเสวียนอ้าว รวมทั้งพลังของเนตรเทพเจ้าด้วย…

ทันใดนั้น เสวียนอ้าวมรณะกลุ่มนี้ก็ไม่กัดกินร่างกายเขาอีกต่อไป

“เป็นสถานที่ที่แปลกประหลาดนัก ถ้าไม่ใช้พลังใดๆ อยู่ที่นี่ก็จะปลอดภัย!”

จ้าวเฟิงรู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง

แต่ว่าหากไม่ใช้พลังอะไรเลย ยามเจอกับอันตรายก็ตายอย่างเดียวเท่านั้น

สายตาของจ้าวเฟิงกวาดไปรอบด้าน นอกจากกระดูกและต้นไม้ภูเขาโล้นๆ แล้วก็ไม่มีอะไรทั้งสิ้น อีกทั้งที่ไกลๆ ยังมืดสลัวจนมองเห็นอะไรไม่ชัด

จ้าวเฟิงยังอยู่ที่นี่ในตอนนี้ รอคนของเผ่าพาหาทองมา มิฉะนั้นเขาก็คงใช้มนตราอากาศจากที่นี่ไปแล้ว

ครืน ตุบ ตุบ!

เสียงสั่นสะเทือนโจมตีมายังจ้าวเฟิงอย่างเร็วรี่ เห็นเพียงเงาสีดำมหึมาปรากฏอยู่เบื้องหน้า

นี่คือหมีพสุธาทอง แต่ทั่วกายของมันพันล้อมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ดวงตาทั้งสองดำมืด ตรงมาโจมตีจ้าวเฟิงทันทีราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะ

“รนหาที่ตาย!”

จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง กระโดดขึ้นเหวี่ยงหมัดทันใด

จ้าวเฟิงฝึกฝน ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ต่อให้ไม่ใช้พลังใดๆ พลังดั้งเดิมที่ร่างกายระเบิดออกมาก็น่ากลัวเป็นที่สุดแล้ว

ครืน บึ้ม!

หมีพสุธาทองตัวนี้เป็นเพียงแค่ครึ่งเทพเท่านั้น ถูกจ้าวเฟิงชกลอยไปหลายร้อยลี้

ตูม! จ้าวเฟิงกระโดดไปข้างหน้า เหวี่ยงแขนทั้งสองชกไปยังหมีพสุธาทอง

หลังจากสังหารหมีพสุธาทองแล้ว จ้าวเฟิงก็มายังชายขอบของป่าแห่งความตาย จากนั้นก็นั่งลง

ไม่นานเท่าใดนัก เผ่าพาหาทองและผู้เฒ่าชุดเขียวก็ปรากฏขึ้นใกล้ๆ กัน

“ไม่ทราบว่าสหายอวี๋หาข้าด้วยเรื่องอันใด?”

จ้าวเฟิงเอ่ยขึ้นทันที

ในตอนแรกเผ่าพาหาทองเข้าใกล้ตน จ้าวเฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตลอดทางมานี้พวกเขาเป็นมิตรกับตนมากเกินไป ทำให้จ้าวเฟิงเกิดความระแวดระวังขึ้น

นอกจากนั้น เผ่าพาหาทองรู้ว่าจ้าวเฟิงล่วงเกินโหวชิ่ง แต่ยังชักนำเขาไปป่าวิหคสวรรค์และรังหงส์ใจกลางป่า นี่ยิ่งทำให้เขาสงสัย

“ไม่ทราบว่าสหายจ้าวสนใจป่าแห่งความตายนี้หรือไม่?”

อวี๋เฮิ่นเผยรอยยิ้มบาง ดูน่ากลัวอยู่บ้างท่ามกลางป่าที่มีพลังความตายเข้มข้น

“ไม่สนใจ!” จ้าวเฟิงตอบทันที

เรื่องที่ผิดปกติจะต้องมีอะไรน่าสงสัย ในป่าแห่งความตายนี้ต้องมีความลับสำคัญอะไรเป็นแน่

แต่ที่นี่อันตรายเกินไป ทรัพยากรฝึกฝนของจ้าวเฟิงไม่ว่าอะไรก็มีทั้งนั้น ทั้งยังสามารถเข้าออกห้วงฝันบรรพกาลได้ทุกเมื่อ ไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงตายไปสำรวจป่าแห่งความตายเลย

“สหายจ้าวอย่าเพิ่งด่วนปฏิเสธ ให้ข้าบอกถึงเรื่องบางอย่างก่อน สหายจ้าวค่อยตัดสินใจ!”

อวี๋เฮิ่นเผยรอยยิ้ม มองไปยังสีหน้าของจ้าวเฟิงที่เปลี่ยนไปทันใด

“สองหมื่นปีก่อนพื้นที่ลับรกร้างโบราณถูกบุกเบิก ผู้อาวุโสเผ่าพาหาทองของข้าถูกบังคับให้เข้าไปในป่าแห่งความตาย จากนั้นเขาก็เจอความลับของที่นี่เข้า”

อวี๋เฮิ่นเอ่ยขึ้นช้าๆ

จ้าวเฟิงฟังอย่างละเอียด พูดว่าเขาไม่สนใจก็คงโกหก ที่นี่แปลกประหลาดเพียงนี้ ข้างในจะต้องมีความลับที่น่าตกใจเป็นแน่

“ผู้อาวุโสคนนี้ฝึกเคล็ดวิชาฝึกฝนกายในเผ่าจนถึงจุดสูงสุด สุดท้ายโชคดีมาถึงยังใจกลางป่าแห่งความตาย และพบว่าที่นี่มีหินผนึกเทพอยู่ก้อนหนึ่ง!”

อวี๋เฮิ่นเน้นหนักสามคำสุดท้าย

“หินผนึกเทพ เล่ากันว่าคือของวิเศษของเผ่าผนึกเทพที่อยู่อันดับสิบสี่ของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ด้านในแฝงด้วยพลังผนึก สามารถผนึกทุกสรรพสิ่งในโลกได้!”

สตรีชุดชาววังสีชมพูฝ่ายเผ่าพาหาทองเอ่ยขึ้นเนิบช้า เสียงใสกังวานน่าฟัง

จ้าวเฟิงจมอยู่ในภวังค์ เขาเคยได้ยินชื่อเผ่าผนึกเทพ แต่สำหรับหินผนึกเทพ จ้าวเฟิงไม่รู้จักจริงๆ หากเป็นเช่นนั้น ใจกลางป่าน่าจะผนึกปีศาจมารหรือไม่ก็ของวิเศษเอาไว้

“หนึ่งหมื่นปีก่อน ผู้อาวุโสเชื้อสายของข้าเตรียมตัวมาสำรวจที่นี่อีกครั้ง จึงได้รู้ว่าใต้หินผนึกเทพสะกดอาวุธเทพที่แข็งแกร่งไว้ชิ้นหนึ่ง และครั้งนี้พวกเราสามคนก็กำลังคิดหาวิธีนำอาวุธเทพชิ้นนี้ไป!”

ในที่สุดอวี๋เฮิ่นก็พูดจุดประสงค์ของเขาออกมา คนทั้งสองข้างกายรวมถึงชายสูงใหญ่ก็เผยสีหน้าตื่นเต้น

“อาวุธเทพ?” ใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน มันคืออาวุธเทพอะไรกัน สามารถทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่แห่งความตาย กระทั่งถูกหินผนึกเทพผนึกเอาไว้

อาวุธเทพชิ้นนี้เป็นขั้นใด?

และคิดอยากได้อาวุธเทพที่ร้ายกาจเช่นนี้ ระดับความอันตรายก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว

“นอกจากนั้น ข้ารับประกันว่าสหายจ้าวจะเข้าไปในใจกลางป่าแห่งความตายได้อย่างราบรื่น”

อวี๋เฮิ่นเห็นจ้าวเฟิงยังอยู่ในภวังค์ความคิด จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“สหายจ้าว แค่เพียงได้อาวุธเทพชิ้นนี้มา พวกเราสามารถให้เจ้ายืมใช้ได้ครั้งหนึ่ง จัดการกับเทพแท้จริงเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ด้านนอกป่าแห่งความตายให้เรียบร้อย วันหน้าหากสหายจ้าวมายังเผ่าพาหาทอง เผ่าเราจะต้องเคารพเจ้าเป็นแขกผู้มีเกียรติ!”

อวี๋เฮิ่นเห็นจ้าวเฟิงยังลังเล จึงให้สัญญาผลประโยชน์มากมาย

“เข้าไปดูในใจกลางป่าแห่งความตายก่อนก็แล้วกัน!”

จู่ๆ จ้าวเฟิงก็เอ่ยปากขึ้น

ในเมื่ออวี๋เฮิ่นสามารถรับประกันความปลอดภัยจนไปถึงใจกลางป่าแห่งความตาย จ้าวเฟิงตัดสินใจไปดูหินผนึกเทพที่แท้จริงเสียหน่อย แล้วค่อยตัดสินใจอีกที

แต่ว่านี่เป็นเพียงแค่คำพูดข้างเดียวของเผ่าพาหาทองหรือไม่ จ้าวเฟิงยังไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมด

หากมีอันตราย จ้าวเฟิงก็จะใช้มนตราอากาศจากไปทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!