Skip to content

King of Gods 1195

King Of Gods

บทที่ 1195 เผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต

ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสวียนอ้าวการโจมตีมหาศาล สว่างพร่างพรายเกินจะเปรียบ

ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังเทพแท้จริงหลายร้อยคนต่อสู้กันอยู่ทั่วบริเวณ การปะทะกันที่น่าสะพรึงทำเอายอดเขาที่อยู่ละแวกนั้นทั้งหมดราบเป็นหน้ากลอง

ตอนนี้มีของทั้งหมดเจ็ดชิ้นร่วงมาจากในวังโปร่งแสง ถ้วยชาสีขาวชิ้นแรก คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติได้ไป

หวีอันนั้นที่พวกมังกรวารีล้างโลกาไปช่วงชิง เทียบกับของชิ้นอื่นแล้วค่อนข้างธรรมดา ดังนั้นขั้วอำนาจที่ไปแย่งชิงจึงค่อนข้างน้อย

ฉัวะ ฉึก!

หวีสีเหลืองหม่นอันนั้น ประเดี๋ยวก็ปลดปล่อยหนามมิติหลายสายออกมา ทะลุผ่านไปในท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

แต่ผู้แข็งแกร่งที่กำลังต่อสู้เตรียมการป้องกันเอาไว้แล้ว จึงพากันหลบหลีกไป

“หากพวกเราได้หวีอันนี้ไป กำลังรบจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จะยิ่งมีประโยชน์ต่อการช่วงชิงในครั้งต่อไป”

เทพแท้จริงขั้นห้าที่มีผิวดำเข้ม ดวงตาแดงเพลิง ทั่วใบหน้าฉายแววละโมบ

การโจมตีของหวีอันนี้สามารถสังหารเทพแท้จริงขั้นสองได้สบายๆ หากสามารถกำราบมัน จะสำแดงพลังออกมาได้แข็งแกร่งเพียงใดกัน

“เพ้อเจ้อ!” คนของอีกกองกำลังหนึ่งที่มาชิงหวีอันนี้ตำหนิทันใด

“ทุกท่าน พวกเราร่วมมือกันเก็บหวีนี้เอาไว้ก่อนชั่วคราวได้!”

เทพแท้จริงขั้นห้าดวงตาสีแดงคนนั้นพูดกับพวกมังกรวารีล้างโลกา

ถึงแม้ว่าพวกมังกรวารีล้างโลกามีพลังฝึกตนต่ำ แต่พลังไม่เลว อีกทั้งเขาก็หาแนวร่วมคนอื่นๆ ไม่เจอ

“ได้ เช่นนั้นพวกเราจะช่วยผู้อาวุโสชิงเอาของล้ำค่าชิ้นนี้มา!”

มังกรวารีล้างโลกายิ้มพูด

แต่ที่จริงแล้ว ขั้วอำนาจทั้งหมดที่นี่ล้วนซ่อนแผนกันเอาไว้ทั้งนั้น ทุกคนรู้อยู่แก่ใจกันดี

ครืน ตูม บึ้ม! ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด

พวกมังกรรวารีล้างโลกาตรึงกำลังเอาไว้แค่เพียงคนกลุ่มหนึ่ง มอบศัตรูจำนวนมากให้เผ่าพันธุ์ของเทพแท้จริงดวงตาสีแดงนั่นจัดการ

ฟิ้ว! เส้นสีเทาเงินกะพริบวูบผ่าน แมวขโมยตัวน้อยตวัดแส้งูมังกรทองในมือ พันรัดหวีเอาไว้

“ฮี่ๆ เจ้าพวกโง่!”

เทพแท้จริงขั้นห้าที่มีดวงตาสีแดงหัวเราะเสียงเย็น

“ฆ่าพวกมัน!”

ในตอนที่แมวขโมยน้อยได้หวีมา

สามขั้วอำนาจที่เหลือก็พุ่งไปยังพวกมังกรวารีล้างโลกาทันที

“เจ้าแมวขโมยตัวนี้ทำอะไรน่ะ?” เสี่ยวหลิงตกใจเป็นอย่างยิ่ง

ของล้ำค่าถึงแม้จะดี แต่ที่นี่ก็มีผู้แข็งแกร่งมากเกินไป ใครได้ของล้ำค่าไปก็จะนำมาซึ่งการรุมโจมตีของขั้วอำนาจอื่น

ขั้วอำนาจเทพแท้จริงขั้นห้าที่ร่วมมือกับมังกรวารีล้างโลกาเมื่อครู่เห็นพวกเขาได้ของวิเศษ ก็มุ่งตรงมาทันที

เหมียว เหมียว!

แมวขโมยน้อยฉีกยิ้ม สะบัดเเส้ในมือ โยนหวีอันนี้ไปข้างอีกขั้วอำนาจหนึ่งทันที

“บัดซบ เจ้าแมวโง่นี่!”

ขั้วอำนาจทั้งสามกัดฟันสบถด่า ก่อนพุ่งไปยังอีกทางหนึ่ง

จากนั้น มังกรวารีล้างโลกาก็ลงมือต่อไป เเค่ก่อความวุ่นวาย ไม่ช่วงชิงของล้ำค่า

พื้นดินที่ห่างจากที่นี่สองแสนลี้ สายตาของจ้าวเฟิงล้ำลึกมองสถานการณ์ที่ท้องฟ้าไกลๆ เอาไว้ทั้งหมด

“ให้ขั้วอำนาจใหญ่ทุกขั้วเกิดความแค้นต่อกันก่อน ทำให้สถานการณ์วุ่นวายขึ้นอีกนิด!”

จ้าวเฟิงยิ้มพูดขึ้น

วัตถุที่ร่วงลงมาชุดแรก เทียบเคียงกับวัตถุอื่นๆ ในวังโปร่งแสงแล้วไม่นับว่าล้ำค่าอะไรมากนัก ดังนั้นในตอนนี้จ้าวเฟิงจึงยังไม่คิดจะลงมือช่วงชิง

“นั่นมัน?” สายตาของจ้าวเฟิงพลันจับจ้อง เพ่งมองไปในวังโปร่งแสง

เห็นเพียงใจกลางวังโปร่งแสง ในเงาเลือนรางที่ปกคลุมด้วยมิติซ้อนทับชั้นหนึ่ง ชุดคลุมยาวสีเงินหม่นลอยขึ้นมา บนชุดคลุมยาวปรากฏเส้นอักขระแปลกประหลาดนับไม่ถ้วน ส่องประกายแสงสีเงินวูบวาบ

ฟิ้ว! ชุดคลุมยาวสีเงินหม่นเคลื่อนไหวเองในวังโปร่งแสง

ฉัวะ ฉึก! ลมพายุมิติที่น่าหวาดหวั่นพัดไปยังชุดคลุมนั่น

วู้ม! บนชุดคลุมยาวสีเงินหม่นปรากฏชั้นระลอกคลื่นมิติขึ้นสกัดกั้นพลังของลมพายุมิติเอาไว้ข้างนอก

แน่นอนว่าผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่ตรงโลกภายนอกที่กำลังต่อสู้อยู่ล้วนเห็นภาพนี้กันทั้งนั้น

“นั่นคือของล้ำค่าอะไร? มีจิตวิญญาณ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ พายุคลั่งมิติที่น่ากลัวทำอะไรมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!”

ข้างล่างวัง ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่กำลังต่อสู้อยู่ใจเต้นระรัว

ครืน ครืน!

ทันใดนั้น เสื้อคลุมยาวสีเงินหม่นตัวนี้ก็บินปะทะไปในวังตามอำเภอใจ

พายุคลั่งมิติน้อยใหญ่โจมตีชุดคลุมยาวไม่หยุด แต่กลับไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆ ให้กับมันได้

กลับเป็นของล้ำค่าบางอย่างในวังที่ถูกชุดคลุมยาวสีเงินกระทบเข้าโดยบังเอิญจนลอยออกมาทันที

“เป็นของล้ำค่าที่ร้ายกาจยิ่งนัก!”

ทุกคนล้วนมองออกว่าชุดคลุมยาวตัวนี้เป็นของล้ำค่าที่มีจิตวิญญาณมากที่สุดในวังโปร่งแสง

“จะต้องเอาชุดคลุมตัวนี้มาให้ได้!”

สายตาของเทพแท้จริงขั้นห้าจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติส่องประกายเหี้ยมโหด

แดนศักดิ์สิทธิ์มิติคุ้นเคยกับเสวียนอ้าวมิติเป็นที่สุด จากการวิเคราะห์ของเขา เสื้อคลุมตัวนี้เป็นไปได้อย่างมากว่าคือวัตถุที่ล้ำค่ามากที่สุดในวัง เพียงแต่ว่าวัตถุชิ้นนี้ไม่ใช่วัตถุประเภทโจมตี ดังนั้นคนนอกจึงมองระดับความล้ำค่าของมันไม่ออก

ครืน!

เสื้อคลุมตัวนั้นทำให้ทั่วทั้งวังโอนเอนเบาๆ วัตถุมากมายในวังสั่นไหวและลอยขึ้น

ฟู่ ฟู่! วัตถุมากมายกว่าเดิมร่วงลงมาจากรอยแยกของวังโปร่งแสง

“ของล้ำค่าตกลงมาอีกชุดหนึ่งแล้ว!”

“คุณสมบัติเหมือนว่าจะสูงกว่าเมื่อครู่อีก!”

ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายเบื้องล่างตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านไม่หยุด เตรียมลงมือช่วงชิง

ในของล้ำค่าพวกนี้ ส่วนมากล้วนเป็นดอกไม้ใบหญ้า เป็นไปได้เป็นมากว่าคือของล้ำค่าที่แฝงด้วยเสวียนอ้าวมิติ สามารถช่วงให้คนบรรลุเสวียนอ้าวมิติได้

วู้ม!

กระจกบานหนึ่งในนั้นส่องประกายแสงรางเลือนออกมา ซึมแทรกเข้าไปในท้องฟ้า

ทันใดนั้น ฟ้าดินด้านหนึ่งถูกเล็งเป้าหมายเอาไว้ ทุกคนล้วนไม่อาจโคจรเสวียนอ้าวมิติได้

“นั่นคือกระจกกั้นเวหา!”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติจ้องกระจกบานนี้ไม่วางตา จิตใจสั่นสะท้านยิ่ง

กระจกกั้นเวหาเล็งเป้าไปยังท้องฟ้าด้านหนึ่ง ศัตรูจะไม่อาจใช้เสวียนอ้าวมิติได้ คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติหวาดกลัวของล้ำค่าชนิดนี้เป็นอย่างมาก

ฟิ้ว! ‘กระจกกั้นเวหา’ เล็งเป้าท้องฟ้าด้านหนึ่งแล้วก็หลบหนีไปยังที่ไกลๆ ทันที

“ตามไป อย่าให้ ‘กระจกกั้นเวหา’ หนีไปได้!”

ทันใดนั้น ขั้วอำนาจสิบกลุ่มก็ห้อตะบึงไปยังกระจกกั้นเวหา ในนั้นมีคนของของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามอยู่ด้วย

อย่างไรเสีย กระจกกั้นเวหาบานนี้ก็เป็นของล้ำค่าซึ่งมีคุณสมบัติสูงที่สุดที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้ สูงกว่าถ้วยชากับหวีพวกนั้นหลายเท่านัก

หากสามารถควบคุมพลังของ ‘กระจกกั้นเวหา’ ได้ ยามชิงของวิเศษครั้งต่อไปก็จะยิ่งสะดวกขึ้น

“เร็วเข้า ชิงของล้ำค่าที่เหลือมาเร็ว!”

‘กระจกกั้นเวหา’ ดึงดูดขั้วอำนาจแข็งแกร่งมากลุ่มใหญ่ ส่วนขั้วอำนาจที่เหลือต่างช่วงชิงของล้ำค่าอื่นๆ ไป

ของล้ำค่าพวกนี้อาจจะไม่สู้กระจกกั้นเวหา แต่เทียบกับของที่ร่วงลงมาชุดแรกก็ล้ำค่ามากแล้ว

“แย่งมาเร็ว!” มังกรวารีล้างโลกาตะโกนเสียงต่ำ

ตอนนี้ สมบัติล้ำค่าในอากาศมีมากมาย ส่วนขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งและยอดฝีมือก็ล้วนถูกกระจกกั้นเวหาดึงดูดไป

ครืน ตูม บึ้ม!

กองกำลังที่อ่อนแอสองกลุ่ม กำลังช่วงชิงดอกหญ้าสีเงิน ทั้งสองฝั่งต่อสู้กันอย่างสุดกำลัง

ในยามนี้เอง เหนือหัวของพวกเขาพลันมีดวงตาสีทองอ่อนปรากฏขึ้น บนนั้นโอบล้อมไปด้วยวายุอัสนีหลากสี เย็นชาไร้จิตใจ ราวกับเคียงคู่กับฟ้าดิน มองลงมาเบื้องล่าง

สองกองกำลังที่กำลังต่อสู้ตกใจหน้าซีดทันควัน สั่นเทิ้มไปทั่วร่าง จิตใจและวิญญาณถูกโจมตีอย่างไร้รูปร่าง มีเพียงแค่เทพแท้จริงขั้นสี่สองคนในนั้นที่สีหน้าค่อนข้างนิ่งเฉย

“เขตแดนคุกมายา!”

วู้ม ฟิ้ว!

เห็นเพียงเนตรสีทองอำพันขนาดมหึมาแปรเปลี่ยนเป็นโลกเขาวงกตสีม่วงทองอันไม่มีสิ้นสุด แผ่กระจายแรงดึงดูดมหาศาล

ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่อยู่ในกองกำลังทั้งสองถูกพลังศาสตร์ลวงตาที่แข็งแกร่งทำให้งงงวย แม้กระทั่งในดวงตาของเทพแท้จริงขั้นสี่ยังฉายแววดิ้นรน

วูบ!

รอบๆ ดอกหญ้าสีเงินปรากฏคลื่นวนพลังดวงตาขึ้น จากนั้นก็กลืนมันลงไป

เสี้ยวขณะต่อมา เนตรสวรรค์สีทองในท้องฟ้าหายไปทันใด

ใบหน้าของกองกำลังทั้งสองต่างตื่นตะลึง ต่างมองตากัน แน่ใจว่าไม่ใช่ฝีมือของอีกฝ่าย

“เป็นอัจฉริยะของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด?”

เทพแท้จริงขั้นสี่คนหนึ่งร้องอย่างตกใจสงสัย จากนั้นก็นำกองกำลังไปชิงของล้ำค่าอื่น พวกเขากลุ่มเล็กๆ เหล่านี้ย่อมไม่กล้าล่วงเกินคนของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ

พื้นดินด้านล่าง จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้ม

ในสนามรบที่วุ่นวายเช่นนี้ เขาสำแดงเนตรสวรรค์ก็ไม่ใครจับได้ว่าเป็นฝีมือของใคร

อีกทั้งถึงขั้นนี้ กลของเนตรสวรรค์ก็ไม่นับว่าน่าตื่นเต้นอะไร ที่นี่มีคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ คนส่วนมากจึงสงสัยผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น

“พลังเนตรสวรรค์ของข้าเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นมาก!”

จ้าวเฟิงพูดอย่างดีใจเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเฟิงสำแดงเนตรสวรรค์ในห้วงฝันบรรพกาล เสี้ยวขณะนั้น จ้าวเฟิงรู้สึกว่าตนเองสามารถหยิบยืมพลังในฟ้าดิน เอามาเพิ่มให้กับพลังของวิชาดวงตาได้มากกว่าเดิม

เนตรสวรรค์เพิ่มพลังให้วิชาดวงตาทุกชนิดในระดับหนึ่ง แต่ในห้วงฝันบรรพกาล การเพิ่มเช่นนี้ยิ่งเพิ่มมากกว่าเดิม

“เอ๋? เผ่าพันธุ์บรรพกาลจะเคลื่อนไหวแล้วรึ?”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไวบางเบาจากที่ไกลลิบ จึงพึมพำขึ้น

จุดที่เกิดความเคลื่อนไหวเหมือนจะเป็นที่ที่ขั้วอำนาจสิบกลุ่มกำลังช่วงชิง ‘กระจกกั้นเวหา’

“นั่นมัน!”

ดวงตาของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน คล้ายมองเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด

ครืน ตูม บึ้ม!

ขั้วอำนาจสิบกลุ่มต่อสู้กันจนฟ้าดินสั่นสะเทือน ท้องฟ้ามืดมิด เพื่อกระจกกั้นเวหา

ครืน ตูม ตูม!

ในยามนี้เอง ท้องฟ้าที่ไกลออกไปสั่นสะเทือน กลิ่นอายชั่วร้ายบรรพกาลพวยพุ่งขึ้น

“ระวัง มีศัตรูแข็งแกร่งปรากฏตัว!”

ปฐมเทพซือคงของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติถอยหลังไปหนึ่งก้าว ไม่ลงมืออีก

ฟุ่บ ฟุ่บ…

เงาแสงมหึมาสองสาย หนึ่งดำ หนึ่งแดง พุ่งออกมาทันใด

ครืน!

พลังเจตจำนงที่น่าหวาดหวั่น ทำให้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่ช่วงชิงกระจกกั้นเวหากลิ่นอายพลังหยุดนิ่ง ร่างกายหนักอึ้ง

ฟิ้ว! เงาแดงมหึมาพุ่งไปยังกระจกกั้นเวหาทันที

“หยุด!” เทพแท้จริงขั้นสี่เผ่ากลืนนภาตะโกนอย่างโกรธแค้น ก่อนจะลงมือทันใด

ครืน ฟู่!

เสี้ยวขณะต่อมา ลำแสงเปลวเพลิงกลุ่มหนึ่งก็พุ่งออกมาจากเงาแสงสีแดงนั่น ทะลวงไปยังเทพแท้จริงขั้นสี่ กลืนร่างของเขาไปจนสิ้น

และในยามที่เปลวเพลิงหายไป คนผู้นั้นก็ไม่อยู่แล้ว!

เฮือก!

ผู้แข็งแกร่งร้อยกว่าคนที่นั่นวิญญาณตกใจสั่นสะท้าน กายแข็งทื่อ มองไปยังเงามหึมาสีแดง

โฮก!

นี่คือกิเลนเพลิงขนาดมหึมาตัวหนึ่ง พลังอำนาจล้นฟ้า ใบหน้าเหี้ยมโหดน่าพรั่นพรึง เงยหน้าร้องคำราม

ครืน ครืน ครืน!

ฟ้าดินสั่นสะเทือนอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ค่อนข้างใกล้กับกิเลนเพลิงสัมผัสได้ถึงพลังเปลวไฟมหาศาล ร่างกายและวิญญาณร้อนเป็นอย่างยิ่ง สายเลือดในกายพลันสะท้าน ราวกับว่าจะทะลุกายออกมา

พรวด!

คนที่พลังต่ำกว่าเทพแท้จริงขั้นสี่กระอักเลือดออกมาทันที

ที่ไกลๆ ขั้วอำนาจที่แย่งชิงของล้ำค่าใต้วังโปร่งแสงก็ได้รับคลื่นจากพลังอำนาจที่ไร้รูปร่างกลุ่มนี้

โฮก โฮก โฮก!

คล้อยหลังเสียงคำรามของกิเลนเพลิง ด้านหลังมีเผ่าพันธุ์บรรพกาลมากมายทะยานมาทันที พลังของเผ่าพันธุ์บรรพกาลพวกนี้ไม่นับว่าแข็งแกร่ง แต่จำนวนกน่ากลัวเป็นอย่างมาก

ทว่าสายตาของทุกคนก็ยังคงอยู่บนร่างของกิเลนสีแดงเพลิงที่อยู่ข้างหน้าสุดตัวนั้น

“เทพโบราณ!”

สีหน้าเทพแท้จริงขั้นห้าของแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์สั่นสะท้านเล็กน้อย

กลิ่นอายที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้ จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณอย่างไม่ต้องสงสัย

“เป็นเทพโบราณงั้นรึ!”

ผู้แข็งแกร่งจากขั้วอำนาจห้าดาวบางพวกได้ยินคำนี้แล้วอดที่จะตะลึงไม่ได้

ที่ตรงนั้น อัจฉริยะจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเผยสายตาคร่ำเคร่ง

“นี่คือ ‘เผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต’ ที่อยู่ในอันดับหนึ่งร้อยยี่สิบห้าของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!”

เทพแท้จริงขั้นสี่ผู้อาวุโสคนหนึ่งจำหน้าตาที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์บรรพกาลสองตัวนี้ได้

เทพโบราณซึ่งอยู่ในอันดับที่หนึ่งร้อยกว่าในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ จะมีพลังที่น่ากลัวเพียงใด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!