Skip to content

King of Gods 1236

King Of Gods

บทที่ 1236 เทพโบราณผู้แข็งแกร่ง

ทั้งฟ้าดินมืดทึบลงไป ภายในนั้นมีแค่วิญญาณและภูติผีนับไม่ถ้วนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ประหนึ่งเป็นนรกที่น่าสะพรึงกลัว

ผู้แข็งแกร่งมากมายในตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายสั่นเทิ้มหวาดกลัวภายใต้แรงกดดันของเทพโบราณเฮยเทียน พวกเขารู้สึกว่าเทพโบราณผู้นี้คือผู้ปกครองฟ้าดินทั้งหมด ชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับฝ่ายตรงข้าม

สวบ! ยามนี้ ผู้อารักขาของเผ่าพรายน้ำในตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายพุ่งออกมาทันที

“ผู้อาวุโส เหตุใดจึงต้องลงมือกับตำหนักแลกเปลี่ยนของเผ่าพรายน้ำด้วยเล่า?”

เทพแท้จริงขั้นหกที่อารักขาตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายมีแววตาหนักอึ้ง

เทพแท้จริงทั้งเก้าขั้น ในแต่ละขั้นของหกขั้นแรกไม่ได้ต่างกันมากนัก เทพแท้จริงของขั้วอำนาจจำนวนมากต่างรับมือคนที่ระดับสูงกว่าพวกเขาหนึ่งขั้นได้ แต่ความแตกต่างของเทพแท้จริงขั้นหกและเทพโบราณขั้นเจ็ดกลับมหาศาลราวฟ้ากับเหว

เมื่อเห็นเทพโบราณที่ลอยตัวอยู่ในอากาศมืดทะมึน เทพแท้จริงขั้นหกรู้สึกอึดอัดเกินจะเปรียบ จิตใจหวาดกลัว เพราะเขามองออกว่าฝ่ายตรงข้ามคือเผ่ามารทมิฬในลำดับแปดสิบสองของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!

ในตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขาย ฝีเท้าที่จะก้าวหนีของจ้าวเฟิงชะงักโดยพลัน

เขาก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ครั้งนี้ผู้ที่ตำหนักวิญญาณบรรพกาลที่เทพแท้จริงเทียนฝาสังกัดอยู่ส่งมาเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณ

จ้าวเฟิงเคยเผชิญหน้ากับเทพโบราณผู้หนึ่งของหอดารา แต่ความรู้สึกบอกเขาว่าเทพโบราณเบื้องหน้าผู้นี้น่ากลัวและทรงพลังยิ่งกว่า

ครืน แซ่ด แซ่ด!

ปีกอัสนีเกาะกลุ่มกันด้านหลังจ้าวเฟิง เตรียมตัวจะหนีออกไป

“หึ!” เทพโบราณเฮยเทียนแค่นเสียงต่ำ ทั้งฟ้าดินส่งเสียงกึกก้องตามมา

ตูม! ปีกสายฟ้าที่เกาะกลุ่มกันบริเวณหลังจ้าวเฟิงถูกโจมตีจนกระจาย

ชั่วขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงยังโดนโจมตีจากพลังเสวียนอ้าวที่ไร้รูปร่าง ร่างกายและวิญญาณได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง สิ่งปลูกสร้างรอบตัวเขาสลายกลายเป็นฝุ่นจากการโจมตีของพลังเสวียนอ้าวที่แข็งแกร่ง

“แข็งแกร่งนัก!” ใจจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน

ชั่วเวลานั้น เขารู้สึกว่าพลังสายฟ้าในอากาศสลายไป แสงอัสนีหลบหลีกของเขาไม่มีประโยชน์ใด

นี่ก็คือเทพโบราณแข็งแกร่ง พลังเทพและเสวียนอ้าวของพวกเขาแกร่งอย่างยิ่ง ถึงขั้นสามารถกำจัดพลังธาตุอื่นๆ ออกไปจากอากาศผืนนี้

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่จ้าวเฟิงคนเดียวที่ได้รับผลกระทบจากเทพโบราณเฮยเทียน พวกระดับพลังต่ำที่อยู่ใกล้กับจ้าวเฟิงตกใจกันแทบตาย

“ผู้อาวุโส โปรดยั้งมือก่อน!” เทพแท้จริงขั้นหกผู้นั้นกลัดกลุ้มเล็กน้อย

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเทพโบราณแห่งเผ่ามารทมิฬถึงต้องมาคุกคามเผ่าพรายน้ำ

“ไสหัวไป!” เทพโบราณเฮยเทียนพลันตะโกน

โครม! พายุหมุนสีดำที่ไร้รูปร่างกวาดเทพแท้จริงขั้นหกผู้นั้นออกไป

พริบตาเดียว เทพแท้จริงขั้นหกถูกโจมตีจนถอยไปหลายพันลี้ อ่อนล้าไปทั่วร่าง สีหน้าหวาดกลัวถึงที่สุด

จากนั้นสายตาของเทพโบราณเฮยเทียนหยุดลงที่ร่างของจ้าวเฟิง

ในวินาทีนี้ จ้าวเฟิงรู้สึกเหมือนถูกกดทับจากทั้งแผ่นฟ้า ต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้

“บอกข้ามา เทพแท้จริงเทียนฝาตายอย่างไร?”

เทพโบราณเฮยเทียนถามเสียงเย็น

เทพแท้จริงเทียนฝาเป็นชนรุ่นหลังของเทพโบราณเฮยเทียน เขาไม่เข้าใจจริงๆ ด้วยความสามารถของเทพแท้จริงเทียนฝาบวกกับพลานุภาพของอาวุธเทพ กลับทำภารกิจล้มเหลวและยังตายไปด้วย

ดังนั้นเทพโบราณเฮยเทียนจึงอยากรู้เหตุผล

จ้าวเฟิงมองเทพโบราณผู้นี้ ในวิญญาณมีความรู้สึกเย็นวาบขึ้นมา

ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นเผ่ามารทมิฬ หนำซ้ำยังใส่ใจเทพแท้จริงเทียนฝาถึงเพียงนี้ จ้าวเฟิงจะกล้าบอกอีกฝ่ายได้อย่างไรว่าตนเป็นผู้สังหารเอง

ในตอนนี้ จ้าวเฟิงกำลังครุ่นคิดหาทางหนี แต่เขาพบว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเทพโบราณที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ตนเองเหมือนไม่มีแรงจะต่อต้านแม้แต่น้อย!

“ทำได้แค่นี้แหละ!” แววตาจ้าวเฟิงเคร่งขรึมลงไป ห้วงความคิดดำดิ่งลงไปในดวงตาซ้าย

พรึ่บ! ในวินาทีต่อมา ร่างจ้าวเฟิงสลายไปจากที่เดิม

“หืม?”

เทพโบราณเฮยเทียนเผยสีหน้าตกใจ ก่อนจะระบายยิ้มชั่วร้าย

“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะซุกซ่อนมิติระดับสูงขนาดนี้ไว้ ถึงแม้มิตินี้จะสอดคล้องกับมิติดินแดนเทพรกร้างมาก แทบจะซ่อนอยู่ภายในอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรไม่ได้หรือ?”

เทพโบราณเฮยเทียนหัวเราะประหลาด ดูท่าทางดีใจอย่างยิ่ง

เดิมทีล่าสังหารจ้าวเฟิงแล้วได้แต่ตราเทพบรรพกาลกลับมา แต่ตอนนี้เขาจะได้รับมิติระดับสูงเช่นนี้ด้วย เหตุใดเขาจะไม่มีความสุขเล่า

“จะให้เจ้าได้เห็นพลังของเทพโบราณ!”

เทพโบราณเฮยเทียนแหงนหน้าหัวเราะ พลังปีศาจทั่วร่างปั่นป่วน

“รีบไป!” ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนในตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายหนีออกไปด้านนอกเทพโบราณลงมือ ฟ้าดินต้องถล่มทลายแน่ พวกเขาไหนเลยจะกล้าอยู่แถวนี้อีก

กรงเล็บสีดำทั้งสองของเทพโบราณเฮยเทียนโจมตีจุดที่จ้าวเฟิงหายตัวไปเมื่อครู่ ในวินาทีนั้น พลังทั้งหมดในฟ้าดินรวมตัวกันอยู่ ณ บริเวณที่จ้าวเฟิงหายตัวไป

ตูม วูบ วูบ!

การโจมตีทรงพลังกลุ่มนั้นแฝงเสวียนอ้าวมิติระดับสูงไว้ โจมตีไปยังอากาศอย่างหนักหน่วง ทำให้มิติสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ในห้วงฝันบรรพกาล จ้าวเฟิงเจ็บตาข้างซ้ายขึ้นทันใด

“อ๊าก…คนผู้นี้แข็งแกร่งเหลือเกิน!” จ้าวเฟิงพลันกุมตาซ้าย

เทพแท้จริงที่รู้น้อยแถมยังใช้เคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตาไม่เป็นบนเกาะเทียนอวี่ ย่อมทำอะไรจ้าวเฟิงที่หลบเข้าไปในห้วงฝันบรรพกาลไม่ได้

แต่เทพโบราณเฮยเทียนของตำหนักวิญญาณบรรพกาลเป็นถึงยอดฝีมือในบรรดาเทพโบราณด้วยกัน ครอบครองเสวียนอ้าวมิติระดับสูง ย่อมต้องสามารถสังเกตเห็นจ้าวเฟิง หนำซ้ำยังใช้วิชาโจมตีทำลายล้าง เขย่าทั่วผืนฟ้า และทะลวงเข้าไปในมิติที่จ้าวเฟิงซ่อนตัวอยู่ได้

แต่ห้วงฝันบรรพกาลก็คือมิติดั้งเดิมของดวงตาเทพเจ้า จึงสร้างความเสียหายแก่ดวงตาของจ้าวเฟิงได้ไม่หยุด

ขวับ! จ้าวเฟิงคลุมชุดคลุมมิติ หนีออกจากห้วงฝันบรรพกาล

สถานที่ที่เขาปรากฏกายขึ้นยังมีระลอกมิติที่รุนแรง จึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายผ่านไปได้

ตอนที่จ้าวเฟิงเตรียมจะหนีอีกครั้ง กลับพบว่าที่ไกลๆ มีสัญญาณประหลาดบางอย่าง!

“หืม? ชุดคลุมมิติ!” สีหน้าเทพโบราณเฮยเทียนฉายแววยินดี

ดูแล้วคราวนี้ไม่ได้มาเสียเปล่า!

วูบ วูบ! เทพโบราณเฮยเทียนยกมือซ้ายขึ้น เตรียมจะสังหารจ้าวเฟิงและเอาของทั้งหมดของเขาไป

“ข้ารู้ว่าเทพแท้จริงเทียนฝาตายได้อย่างไร!”

จ้าวเฟิงเปิดปากเอ่ยทันที

“พูดมา!” เทพโบราณเฮยเทียนชะงัก

“ถูกฆ่าสังหารอย่างไรล่ะ!”

จ้าวเฟิงหัวเราะร่วน

“เจ้าสมควรตาย!” สีหน้าเทพโบราณเฮยเทียนเปลี่ยนไปทันที ประหนึ่งเป็นภูติผีเหี้ยมโหด เขารู้สึกได้ว่าเมื่อครู่จ้าวเฟิงสัพยอกตน

แต่ตอนที่เทพโบราณเฮยเทียนเตรียมจะลงมือสังหารเขานั่นเอง

“เจ้าไม่กล้าสังหารข้าหรอก!” จ้าวเฟิงหัวเราะอีกครั้ง

“ผู้อาวุโสขั้นเทพโบราณของเผ่าข้ากำลังมาแล้ว เจ้าตายแน่!”

จ้าวเฟิงมองไปไกลๆ

ในเวลานี้ พลานุภาพของเทพโบราณปรากฏขึ้น

คนที่เป็นผู้นำร่างกายส่องแสงสีเงิน ในมือประคองป้ายค้นหา กลุ่มแสงสุกสกาวเหนือป้ายกะพริบถี่

ผู้มาเยือนก็คือเทพโบราณเย่หลงในตอนนั้น

หลังจ้าวเฟิงหนีออกจากเขตผาเก่า ส่งผลให้ตำหนักรัตติกาลม่วงขายหน้าต่อขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสามในเขตผาเก่าอย่างมาก ดังนั้นตำหนักรัตติกาลม่วงจึงปรึกษาหารือ และส่งกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเข้ามาในเขตชะตาสวรรค์เพื่อค้นหาเขาอย่างลับๆ

กลุ่มเทพโบราณเย่หลงก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาเดาว่าจ้าวเฟิงคิดว่าตนเองรอดพ้นจากการโดนล่าแล้ว คงจะไม่ระวังตัวแจเหมือนเดิม

ตำแหน่งที่กลุ่มค้นหาตำหนักรัตติกาลม่วงสนใจเป็นพิเศษจึงเป็นตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขาย บังเอิญตอนเทพโบราณเย่หลงกำลังจะถึงตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขาย ป้ายค้นหาก็ส่งสัญญาณออกมา

“เทพโบราณสองคนเหมือนจะไม่ใช่คนของเขตชะตาสวรรค์ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

ผู้ดูแลของตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายแห่งนี้ตื่นตะลึง ก่อนจะถอยร่นไป

ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใกล้เคียงก็ถอยกรูดออกไปไกล

“เทพโบราณเผ่ามารทมิฬ!”

เทพโบราณเย่หลงจ้องเทพโบราณเฮยเทียนเขม็ง

“แย่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเทพโบราณของเขตชะตาสวรรค์จะจับจ้าวเฟิงได้ก่อน!”

เทพโบราณเย่หลงและเทพแท้จริงอีกสองคนพูดคุยกัน

“จะปล่อยให้สมบัติบนร่างจ้าวเฟิงตกอยู่ในเงื้อมมือเทพโบราณคนอื่นไม่ได้!”

เทพแท้จริงขั้นหกอีกคนเอ่ย

พวกเขาคิดว่าเทพโบราณเฮยเทียนจับจ้าวเฟิงเพราะเรื่องตำหนักผลึกห้าสี

แต่สมบัติชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป ตำหนักรัตติกาลม่วงย่อมไม่ปล่อยให้ขั้วอำนาจอื่นชิงไปได้ หนำซ้ำพวกเขายังทำไปเพื่อกู้เกียรติยศของตำหนัก จะกลับไปมือเปล่าไม่ได้

“อีกครู่หนึ่งข้าจะขวางเขา พวกเจ้ารีบไปสังหารจ้าวเฟิง จากนั้นก็ถอยเสีย!”

เทพโบราณเย่หลงส่งกระแสจิตบอกเทพแท้จริงอีกสองคน

‘เผ่ารัตติกาลม่วง พวกเจ้าคงจะไม่เกี่ยวอะไรกับเด็กคนนี้กระมัง?’

สีหน้าเทพโบราณเฮยเทียนเคร่งขรึมเล็กน้อย

ในสายตาของเขา จ้าวเฟิงไม่ใช่สายเลือดเผ่ารัตติกาลม่วง ไม่มีทางเป็นคนของเผ่ารัตติกาลม่วงไปได้

แต่ตอนนี้เทพโบราณเย่หลงกลับพุ่งตรงมาทางเขา

“รนหาที่ตาย!” เทพโบราณเฮยเทียนลุแก่โทสะทันใด

เทพโบราณเฮยเทียนมักจะเก็บซ่อนอารมณ์ของตนอยู่เสมอเมื่ออยู่ในพื้นที่อื่น แต่เทพโบราณของเผ่ารัตติกาลม่วงกลับกล้าลงมือทำร้ายเขา

จ้าวเฟิงหัวเราะอย่างเบิกบาน เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เทพโบราณแห่งตำหนักรัตติกาลม่วงจึงตรงเข้าทำร้ายเทพโบราณเฮยเทียนทันที

เปรี๊ยะ! เพราะมิติไม่เสถียร จ้าวเฟิงจึงไม่สามารถใช้วิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา เขาทำได้เพียงบินข้ามมิติหนีไป แต่ในเวลานั้น อีกสองคนของตำหนักรัตติกาลม่วงก็ตรงดิ่งมาหาเขา

“เจ้าหนุ่ม ตายเสียเถอะ!”

เทพโบราณเฮยเทียนมีจิตสังหารแน่วแน่ ไม่สนใจเทพโบราณเย่หลง จะจับจ้าวเฟิงด้วยกรงเล็บเดียว

วูบ! เห็นเพียงกรงเล็บขนาดใหญ่สีดำระเบิดออกบนฟ้า ตรงไปที่จ้าวเฟิง

“เทพโบราณผู้นี้แข็งแกร่งนัก!”

เทพแท้จริงสองคนของตำหนักรัตติกาลม่วงตื่นตะลึง รีบถอยทันที

“รอให้เจ้านี่ตายเสียก่อนค่อยไปค้นหาของบนร่าง!”

ชายวัยกลางคนยิ้มเอ่ย

“อืม!” หญิงผิวม่วงผงกศีรษะรับคำ

ตูม! การโจมตีหนึ่งของเทพโบราณเฮยเทียนปกคลุมจ้าวเฟิงเอาไว้ภายใน

“ไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว!”

ชายวัยกลางคนผู้นั้นขมวดคิ้วมุ่น

หมอกควันสีม่วงค่อยๆ สลายไป ตำหนักผลึกห้าสีหลังหนึ่งอยู่ในเงื้อมมือของจ้าวเฟิง

ส่วนจ้าวเฟิงกลับกลายร่างเป็นระลอกแสงสีทองสายหนึ่งตรงดิ่งไปไกลๆ

“รีบตามไปเร็ว!” สีหน้าหญิงผิวม่วงพลันเปลี่ยนไป ก่อนจะขยับกาย

แต่หลังจากจ้าวเฟิงหนีไประยะหนึ่งแล้ว เขาก็ใช้เคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตาหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ส่วนอีกฟาก เทพโบราณเฮยเทียนและเทพโบราณเย่หลงเริ่มห้ำหั่นกันแล้ว

ชั่วเวลานั้น ฟ้าดินในรัศมีหมื่นลี้มีแสงสีม่วงสว่างวาบ

“แกร่งยิ่งนัก!” เทพโบราณเย่หลงตื่นตะลึง

เป็นเทพโบราณเหมือนกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเขามากนัก

“เจ้านั่นยังไม่ตายรึ?”

ประสาทสัมผัสเทพของเทพโบราณเฮยเทียนกวาดผ่านรอบๆ ก่อนจะพบเรื่องไม่ชอบมาพากล

กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาเมื่อครู่ย่อมสังหารจ้าวเฟิงได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ผลสุดท้ายกลับไม่รู้ว่าจ้าวเฟิงใช้วิชาอะไรสกัดเอาไว้ก่อนจะหนีไป

……

อีกฟากหนึ่ง จ้าวเฟิงใช้ตำหนักผลึกห้าสีต้านการโจมตีจากเทพโบราณเฮยเทียน คลุมชุดคลุมมิติเพื่อใช้การเคลื่อนย้ายติดต่อกัน

ส่วนเทพแท้จริงขั้นห้าของตำหนักรัตติกาลม่วงสองคนด้านหลังมีเสวียนอ้าวมิติด้อยกว่าจ้าวเฟิง หนำซ้ำยังไม่มีสมบัติล้ำค่าอย่างชุดคลุมมิติ จึงค่อยๆ คลาดกับจ้าวเฟิงไป

ฟิ้ว! ในอากาศ ระลอกสายน้ำเส้นหนึ่งปรากฏเงาของจ้าวเฟิงพุ่งออกมา

“ท่าทางข้าจะประมาทเกินไป คิดไม่ถึงเลยว่าตำหนักรัตติกาลม่วงจะยังไม่ล้มเลิกตามจับข้า แต่เพราะพวกเขาข้าเลยจัดการความยุ่งยากเรื่องตำหนักวิญญาณบรรพกาลไปได้…”

สีหน้าจ้าวเฟิงตึงเครียด แล้วเดินทางต่อไป

ระหว่างเร่งเดินทาง ห้วงความคิดของจ้าวเฟิงก็เข้าไปในมิติเก็บของ จากนั้นจึงใช้หินผนึกเทพสะกดตราเทพบรรพกาลเอาไว้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!