บทที่ 1303 แมวขโมยออกโรง
ในวินาทีที่กล่องผลึกทั้งสองเปิดออก เทพโบราณเฮยจี๋ก็เข้าประมือกับเทพโบราณเสวียนหมัวทันที อีกฟากหนึ่ง สมาชิกคนอื่นทั้งสองฝั่งลงมือพร้อมกัน
นัยน์ตาชายชราชุดเขียวเปลี่ยนเป็นสีทองส่องแสงประกาย กลิ่นอายที่ทำลายล้างสรรพสิ่งนับหมื่นทะลักออกมาจากภายใน
พรึ่บ! ร่างจ้าวเฟิงกะพริบวูบไหว เข้าไปใกล้กล่องผลึก
เสวียนอ้าวที่เขาลึกซึ้งค่อนข้างกว้าง หนำซ้ำยังมีร่างแยกทั้งสามร่าง ไม่ว่าจะสมบัติฝึกตนประเภทใดที่นี่ก็มีประโชน์กับเขาสูงมาก
“ฮ่าๆ จ้าวเฟิง ให้ข้าลองประมือกับเจ้าแล้วกัน!”
บุรุษหนุ่มชุดเหลืองจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตกระตุ้นพลังในร่างกาย โคจรเนตรชีวิตพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิง กำลังรบของเนตรชีวิตค่อนข้างอ่อนแอในบรรดาแปดเนตรเทพเจ้า แต่กลับระดับเพิ่มพลังฝึกตนได้ง่ายที่สุด เพราะทรัพยากรส่วนมากล้วนแต่แฝงเสวียนอ้าวชีวิตเอาไว้ ดังนั้นสำหรับบุรุษหนุ่มชุดเหลืองแล้ว ของทั้งหมดที่นี่เหมาะกับเขาทั้งนั้น
สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งขรึมเล็กน้อย
ยามรวมตัวกับกลุ่มของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตในตอนแรก บุรุษหนุ่มชุดเหลืองผู้นี้ก็ดูไม่พอใจเขา
จ้าวเฟิงเคยได้ยินเซี่ยโหวอู่บอกว่าตนเองปฏิเสธการเชื้อเชิญจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ดังนั้นผู้อาวุโสและศิษย์จำนวนมากในเผ่าจึงไม่ชอบหน้าเขาเท่าไหร่นัก
แซ่ด เปรี๊ยะ! ปีกอัสนีสีทองเกาะกลุ่มกันที่ด้านหลังของจ้าวเฟิง
เขาเอาปีกแสงอัสนีทองและประกายมิติออกมาใช้พร้อมกัน เพื่อหลบเลี่ยงบุรุษหนุ่มชุดเหลืองและเข้าไปใกล้กล่องผลึกนั้น
“เหอะ ไสหัวไปเสีย!”
เทพโบราณเสวียนหมัวที่กำลังต่อสู้กับเทพโบราณเฮยจี๋โคจรดวงตาซ้าย ปลดปล่อยหอกยาวสีทองหลายเล่มพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิง
“แข็งแกร่งมาก!” จ้าวเฟิงใช้การมองทะลุปรุโปร่งและวิชาหลบหลีกของดวงตาซ้ายหลบการโจมตีไป
เทพโบราณเสวียนหมัวตาเดียวแข็งแกร่งที่สุดในทุกคนที่นี่ เขายื้อเทพโบราณเฮยจี๋เอาไว้ ยังมีพลังเหลือมาจัดการจ้าวเฟิงด้วย
อีกฟากหนึ่ง หลินเฉิงอู่และชายชราชุดเขียวปะทะเข้าหากัน
แต่ต่อให้เป็นหลินเฉิงอู่เป็นผู้มีเนตรมิติ เมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราชุดเขียวก็ยังไม่ได้เปรียบอะไร
ตอนที่เพิ่งเริ่มนั้น กลุ่มเทพโบราณเสวียนหมัวเป็นฝ่ายได้เปรียบ
แต่พวกเขาสามคนก็กำลังพยายามสุดแรงที่จะเก็บเอาสมบัติด้านในก่ลองผลึกให้ได้
ถึงแม้กล่องผลึกจะแข็งแรงทนทานอย่างยิ่ง แต่สมบัติฝึกตนภายในนั้นแบกรับการโจมตีของพวกเขาไม่ไหว ดังนั้นทุกคนจึงต่างพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ปล่อยพลังใดๆ ไปกระทบแถวกล่องผลึก เช่นนี้ความยากในการช่วงชิงสมบัติของพวกเขาก็มากขึ้นด้วย
ในขณะนี้เอง
ฟิ้ว ฟิ้ว~ เงาคนหลายร่างตามมาที่สนามต่อสู้
พวกนี้ล้วนแต่เป็นกายวัฏสงสารของสตรีโฉมงาม
ในนั้นยังมีเทพโบราณขั้นเจ็ดที่ค่อนข้างทรงพลัง และยังมีคนที่พลังเพิ่งไปถึงเทพโบราณขั้นเจ็ด ส่วนที่เหลือก็เป็นเทพแท้จริงขั้นหก แต่ตัวของสตรีนางนั้นถอยร่นไปด้านหลัง บางคราวยังลงมือลอบโจมตีศัตรูจากระยะไกล
เมื่อกายวัฏสงสารพวกนี้เข้าร่วมการต่อสู้ ทางฝั่งเทพโบราณเสวียนหมัวจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“เขตแดนหมื่นปรากฏการณ์!”
รอบๆ เทพโบราณเสวียนหมัวปรากฏระลอกแสงหลากสีปกคลุม ภายในแฝงไปด้วยพลังหมื่นปรากฏการณ์ ทำให้กำลังรบของเทพโบราณเสวียนหมัวเพิ่มขึ้น หนำซ้ำยังมีผลป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างมากอีกด้วย
“พสุธาพินาศ!”
ดวงตาชายชราชุดเขียวหมุนวนอย่างรวดเร็ว พลังเสวียนอ้าวที่ทำลายล้างทุกสิ่งกระจายเต็มครรลองสายตาด้านหน้า ทำให้ทั้งหมดสลายหายไปช้าๆ
“สองคนนี้พลังแข็งแกร่งนัก!” สตรีโฉมงามตื่นตระหนก
แต่ทว่านี่ก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ฝ่ายตรงข้ามเตรียมกระบวนพลเอาไว้อย่างดี
เทพโบราณเสวียนหมัวชำนาญการป้องกัน ชายชราชุดเขียวโจมตีรุนแรงที่สุด ส่วนเนตรชีวิตของบุรุษหนุ่มชุดเหลืองก็มีความสามารถในการรักษาที่แข็งแกร่งอย่างมาก
“ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้นแล้ว!”
แววตาของสตรีโฉมงามหยุดลงที่ ‘ว่านสังสารวัฏ’ ต้นนั้นในกล่องผลึก
นางรีบควบคุมกายวัฏสงสารขั้นหกที่ทรงพลังหลายตน ยึดเอาการช่วงชิงทรัพยากรเป็นเป้าหมายหลัก
และในเวลานี้เอง
เปรี๊ยะ! มีแสงสีทองส่องประกายด้านบนกล่องผลึก
สตรีโฉมงามเห็นสมบัติชิ้นหนึ่งในกล่องผลึกหายไป
“จ้าวเฟิง เจ้าเด็กนั่น!” นางเผยสีหน้าตื่นตระหนก
คนที่เข้าปะทะกับจ้าวเฟิงก็คือบุรุษหนุ่มชุดเหลืองจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต
แต่จ้าวเฟิงไม่ประมือกับเขาแม้แต่น้อย กลับเอาแต่หลบหลีกไม่หยุด และยังวนเวียนรอบๆ กล่องผลึก ถึงชายชุดทองจะเข้ามาใกล้ จ้าวเฟิงก็ยังหลบได้ทุกครั้ง
สวบ! กายวัฏสงสารตนหนึ่งของสตรีโฉมงามหลบการต่อสู้ของกลุ่มคน ตรงเข้าไปใกล้กล่องผลึก
ในตอนนั้นเอง
เมื่อเงาสีทองสายหนึ่งทอประกายผ่านไป จ้าวเฟิงเก็บสมุนไพรเจ็ดสีประหลาดที่เต็มไปด้วยวงแหวนมาทันที
“ว่านสังสารวัฏของข้า!” สตรีโฉมงามพลันกรีดร้องเสียงดัง
ถึงแม้ว่านางจะอยู่กลุ่มเดียวกับจ้าวเฟิง แต่ทุกคนก็แบ่งสมบัติกันตามความสามารถของตนเอง
“บัดซบ คนผู้นี้ว่องไวเหลือเกิน!”
บุรุษหนุ่มชุดเหลืองรู้ดีว่าตนเองทำอะไรจ้าวเฟิงไม่ได้ จึงไม่ต่อสู้กับเขาต่อ แต่พุ่งตรงไปทางกล่องผลึกแทน
“นี่ไม่ใช่ของเจ้าสักหน่อย!”
จ้าวเฟิงเห็นบุรุษหนุ่มชุดเหลืองไม่โจมตีตนเองต่อ แต่กลับไปแย่งชิงเอาสมบัติแทน จึงเข้าไปขัดขวางทันที
โครม ตูม! กลุ่มเพลิงสายฟ้าสีม่วงเงินระเบิดออกบนวิญญาณของเขา
จากนั้นจ้าวเฟิงจึงซัดฝ่ามืออีกครั้งเพื่อโจมตีอีกฝ่ายให้ถอยร่นไป ก่อนเข้าไปใกล้กล่องผลึก
“ฮ่าๆ ข้าขอผลไม้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วกัน!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเบาๆ แล้วเด็ดเอาผลไม้สีขาวเงินลูกหนึ่งไป ทั้งยังมีผลไม้สีทองเข้มลูกหนึ่งด้านข้างด้วย
“ผลเทพทำลายดับสูญของข้า!”
ชายชราชุดเขียวมองเห็นสมบัติฝึกตนแฝงเสวียนอ้าวทำลายล้างที่ตนเองต้องการถูกจ้าวเฟิงช่วงชิงไปก็โกรธเกรี้ยวมาก เสวียนอ้าวทำลายล้างในดวงตาทะลักออกอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนสีหน้าหลินเฉิงอู่ก็ย่ำแย่นัก ผลไม้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองต้องการก็ถูกจ้าวเฟิงชิงตัดหน้าไปก่อน
“พวกเราพักรบกันเป็นอย่างไร แบ่งสมบัติในนั้นเท่าๆ กัน!”
หลินเฉิงอู่ลอบส่งกระแสจิตบอกชายชราชุดเขียว
สีหน้าชายชราชุดเขียวชะงักไปเล็กน้อย เหมือนตอบตกลงไป ซ้ำยังส่งกระแสจิตบอกบุรุษหนุ่มชุดเหลืองและเทพโบราณเสวียนหมัวด้วย
บุรุษหนุ่มชุดเหลืองแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตหงุดหงิดอย่างมาก ในขณะที่สู้กับจ้าวเฟิง เขาไม่ได้ประโยชน์ใดๆ แต่กลับเสียเปรียบ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทันใด
“ทุกคน พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า สมบัติของที่นี่แบ่งพวกเจ้าหก พวกเราสี่ แบ่งแบบนี้เป็นอย่างไร?”
เมื่อสมาชิกทั้งหมดมีท่าทีเห็นด้วย เทพโบราณเสวียนหมัวจึงได้แต่เปิดปากเอ่ย
สตรีโฉมงามและจ้าวเฟิงอึ้งไปเล็กน้อย
‘คนพวกนี้เห็นข้าได้ประโยชน์มากจนเกินไป คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะต่อรองกันเสียอย่างนั้น?’ จ้าวเฟิงขุ่นเคืองใจอย่างเสียไม่ได้
ดูท่าทางแล้วหลินเฉิงอู่และสตรีโฉมงามก็คงไม่ปฏิเสธ ตนเองเป็นแค่สมาชิกในกลุ่มเท่านั้น ถ้าหากทุกคนเลือกจะเห็นด้วย เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้
แต่ในตอนนี้เอง
ในมิติมีกลิ่นอายสายเลือดบรรพกาลที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้นโดยพลัน กลิ่นอายสายเลือดกลุ่มนั้นทำให้สายเลือดของทุกคนแข็งทื่อ จิตใจสั่นไหว
ทายาทแปดเนตรเทพเจ้าทั่วไปเทียบเท่าได้กับสายเลือดประมาณสี่สิบลำดับแรกของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ แต่ตอนที่เป็นระดับเนตรปฐมเทพ กลับเทียบเท่ากับยี่สิบลำดับแรกของสายเลือดบรรพกาล ทว่ากลิ่นอายสายเลือดบรรพกาลนิรนามที่พิเศษกลุ่มนี้ทำให้ทุกคนที่นั่นรู้สึกได้ถึงแรงกดดันสายเลือดที่แข็งแกร่ง
“มีเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังเผ่าพันธุ์อื่นมาที่นี่ด้วยหรือ?”
เทพโบราณเฮยจี๋และเทพโบราณเสวียนหมัวตกใจ
คนที่พวกเขาเชื้อเชิญมาเป็นทายาทสายเลือดดวงตาทั้งสิ้น
นอกเหนือจากแปดเนตรเทพเจ้าแล้ว ยังมีสายเลือดดวงตาอื่นที่มีพลังโจมตีสายเลือดของพวกเขารุนแรงเช่นนี้ด้วย?
พรึ่บ! แสงสีเงินเข้มสายหนึ่งพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในกล่องผลึก
“แมว?” แววตาของชายชราชุดเขียว บุรุษหนุ่มชุดเหลืองและคนอื่นๆ ฉายแววฉงนสงสัย จ้องมองแมวสีเทาเงินตัวหนึ่งในกล่องผลึก
แมวตัวนั้นมีสีเทาเข้ม ลำตัวมันเพรียวยาวแข็งแรง แต่ที่ต่างจากแมวทั่วไปก็คือ ขาทั้งสี่และโคนหางของมันมีอักขระที่ยากจะเข้าใจและสัญลักษณ์ที่เป็นแสงสีเงินเรืองรองกระจายอยู่จำนวนมาก ทำให้มันดูลึกลับและประหลาดขึ้นหลายส่วน
เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยน้อยมองไปยังทุกคน ก่อนจะยิ้มด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ หางยาวที่เต็มไปด้วยอักขระและสัญลักษณ์ต่างๆ ประหนึ่งแส้สีเงินสุกสาวกวัดแกว่งไปมา
“เจ้าแมวขโมยน้อย!” จ้าวเฟิงอึ้งงัน
เจ้าแมวตรงหน้าเขารูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนมาก เหมือนว่ามันเติบโตขึ้นอย่างนั้น หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์จากพันธะสัญญา จ้าวเฟิงก็เกือบจะจำมันไม่ได้แล้ว แต่ในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงก็กำลังตื่นตกใจ เกรงว่าการเปลี่ยนแปลงของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยจะไม่น้อยเลยทีเดียว
แรงกดดันจากสายเลือดบรรพกาลที่เขย่าขวัญทุกคนเมื่อครู่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เจ้าแมวขโมยน้อยเองก็นับได้ว่ามีการเปลี่ยนสภาพที่ไม่มีใครรู้มาหลายครั้ง แต่ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของมันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป
“ความลับสวรรค์…” เทพโบราณเฮยจี๋มีสีหน้าตื่นตะลึง ตกใจเป็นที่สุด
อีกด้านหนึ่ง สีหน้าเทพโบราณเสวียนหมัวก็เปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้ง
“เขารู้จักแมวความลับสวรรค์?” จ้าวเฟิงปรายตามองเทพโบราณเฮยจี๋
ชื่อเรียกแมวความลับสวรรค์นี้ จ้าวเฟิงเองก็เคยได้ยินหุ่นเชิดกลไกในเมืองของเผ่าความลับสวรรค์พูดเอาไว้ แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงเลยว่าเทพโบราณเฮยจี๋จะรู้จักแมวความลับสวรรค์ด้วย
ส่วนเทพโบราณเสวียนหมัว ถึงแม้จะไม่เอ่ยออกมา แต่จากการแสดงออกทางสีหน้า เขาเองก็น่าจะรู้อยู่บ้างเช่นกัน
เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยน้อยเผยนิสัยขี้ขโมย มันอ้าปากกลืนผลไม้ล้ำค่าลูกหนึ่งไป
“บัดซบ แมวนี่มาจากไหน?”
ชายชราชุดเขียวตะโกนลั่นทันที เจ้าแมวขโมยตัวนี้ถึงกับกล้าขโมยกินทรัพยากรฝึกตนที่ล้ำค่าขนาดนี้
หลินเฉิงอู่กลับมองไปที่จ้าวเฟิง เมื่อครู่เขารู้สึกว่าตำแหน่งของอีกฝ่ายเกิดระลอกมิติแผ่กระจายอกมาน้อยๆ
‘สายเลือดของเจ้าแมวตัวนี้ไม่ธรรมดาขนาดนี้ ถ้าหากได้มาเป็นสัตว์วิเศษแล้วละก็…’
ในใจสตรีโฉมงามเกิดความคิดนี้ขึ้นมา
เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยตัวน้อยทำหน้าสงสัย เหมือนกำลังแสดงท่าที คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าคนโง่งมเหล่านี้จะไม่สนใจมัน?
กรงเล็บยาวของเจ้าแมวโบกหนึ่งครั้ง หลินจือสีขาวชิ้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของมันก่อนจะจัดการกลืนลงคอไป
พรึ่บ! ร่างเจ้าแมวขโมยน้อยสว่างวาบหายไปยังอีกฝั่งหนึ่ง เมื่ออ้าปากกว้าง ทรัพยากรล้ำค่าทั้งห้าชิ้นก็หายไป
“แย่แล้ว เจ้าแมวขโมยตัวนี้ตะกละจริง!” บุรุษหนุ่มชุดเหลืองแผดเสียงร้อง
สตรีโฉมงาม ชายชราชุดเขียว และหลินเฉิงอู่เองก็มีสีหน้าตระหนกตกใจ
เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งจะต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกคนได้สมบัติกันไปอย่างมากแค่คนละชิ้นสองชิ้น แต่ทันทีที่เจ้าแมวขโมยตัวนี้ปรากฏกายขึ้น มันก็กลืนกินสมบัติที่ล้ำค่าควรเมืองไป หนำซ้ำยังไม่มีท่าทีจะหยุดด้วย
มีเพียงเทพโบราณเฮยจี๋และเทพโบราณเสวียนหมัวที่มีท่าทางครุ่นคิด ยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“เจ้านี่!” จ้าวเฟิงตบหน้าผากเบาๆ
การกระทำของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยทำให้คนทั้งสองฝั่งโกรธเกรี้ยวกันหมด
แต่ขนาดตัวเจ้าแมวขโมยไม่ใหญ่มากนัก แถมยังอยู่ในกล่องผลึก ทุกคนจึงไม่ได้ปลดปล่อยกระบวนท่าที่แข็งแกร่ง เพื่อเลี่ยงไม่ให้ทำลายสมบัติล้ำค่า
ฟิ้ว! ตัวหลินเฉิงอู่ขยับไหววูบติดต่อกัน ชิงเข้าไปใกล้กล่องผลึกก่อน
“ดาบประกายฟ้า!” หลินเฉิงอู่กระตุ้นดวงตาซ้าย เล็งเป้าหมายไปที่เจ้าแมวขโมยน้อย สำแดงวิชาดวงตาสายมิติไปทันที
เปรี๊ยะ! คมมีดสีขาววาววับขนาดเรียวเล็กสายหนึ่งเผยขึ้นข้างตัวเจ้าแมวขโมยน้อย หมายจะพุ่งทะลวงร่างของมัน
ทว่าภาพเหตุการณ์ที่ทุกคนคิดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น
คบดาบสีขาวสายนั้นพุ่งผ่านร่างเจ้าแมวขโมยตัวน้อยไปทันที แต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้
เปรี๊ยะ! คมดาบสีขาววาววับพุ่งลงไปในดิน ปะทะเข้ากับกำแพงผลึกใต้ดินและทิ้งรอยบางๆ เอาไว้ แต่เจ้าแมวขโมยตัวน้อยกลับระบายยิ้มชั่วร้าย กระโดดโลดเต้นไปมา ก่อนจะจัดการกลืนสมบัติล้ำค่าสี่ห้าประเภทลงคอไป