บทที่ 1320 คุนอวิ๋นออกสู้
จากคำพูดของจ้าวหุย คุนอวิ๋นแน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนของราชวงศ์ต้าเฉียนในดินแดนทวีป กระทั่งมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตำหนักราชัน แต่คุนอวิ๋นนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ในตำหนักราชันมีคนคนนี้อยู่ด้วย
ในเมื่อคนที่มีเสี้ยวความหวังจะมายังดินแดนเทพรกร้างได้ก็มีเพียงไม่กี่คนแค่นั้น
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายรู้จักตน ไม่มีเจตนาคิดร้ายอะไร คุนอวิ๋นก็ไม่ไปสนใจอะไรมาก
สถานการณ์ในตอนนี้ของเขาย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง ตกอยู่ในกำมือเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น ทั้งชาตินี้อาจจะไม่มีทางหลุดพ้นไปได้
ในตอนนี้ จ้าวหุยที่จู่ๆ ปรากฏตัวขึ้นมีฐานะไม่ธรรมดาและเป็นมิตรกับตนเป็นอย่างมาก ไม่แน่ว่าอาจจะยืมมือของเขาช่วยตนเองให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งทุกข์ก็ได้
“คนคนนี้ส่งกระแสเสียงแสดงฐานะ นี่ก็เป็นการบอกว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงเรื่องนี้!”
ความคิดของคุนอวิ๋นโคจรอย่างรวดเร็ว จากนั้นมองไปยังเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจ้าวหุยหมายความว่าอะไร แต่จ้าวหุยอาจจะช่วยตนเองได้ คุนอวิ๋นก็ไม่เปิดโปง ซ้ำยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้ายังรู้จักมาหาข้านะ…” ชั่วขณะนั้น คุนอวิ๋นพูดพร้อมหัวเราะฮ่าๆ
ลูกศิษย์สายนอกรอบๆ มองภาพแปลกประหลาดอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าอะไรกันออกมา
คนที่มากับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น เหตุใดจึงเป็นมิตรกับคุนอวิ๋นเช่นนี้?
“บาดแผลของเจ้าทำไมจึงสาหัสเพียงนี้ นี่เป็นโอสถวิเศษรักษาบาดแผลของข้า…”
เมื่อครู่จ้าวหุยรักษาบาดแผลให้คุนอวิ๋นไปได้พอประมาณแล้ว แต่เขาก็ยังพูดเช่นนี้อีก จากนั้นฝ่ามือจ้าวหุยเพียงพลิก ก็หยิบเอาวัตถุดิบยาและโอสถล้ำค่าสิบกว่าชนิดออกมา
หนึ่งในนี้มีทรัพยากรใช้รักษาบาดแผลอยู่สองชนิดจริงๆ ต่อให้เป็นบาดแผลของเทพแท้จริงขั้นสี่ขั้นห้าก็มีผลรักษาได้เป็นอย่างมาก
นอกจากนั้นล้วนเป็นของล้ำค่าสำหรับฝึกฝน
“ข้าไม่ได้ดูผิดไปใช่หรือไม่ นั่นคือผลสัตตบงกช ใบมังกรแท้จริง โอสถหยินหยางกำเนิดชีวิต…”
ของล้ำค่าที่จ้าวหุยหยิบออกมาดึงดูดสายตาละโมบของลูกศิษย์ใกล้ๆ ได้ทันที
ลำดับของลูกศิษย์สายนอกอย่างมากก็แค่เทพแท้จริงขั้นสาม และของทุกอย่างที่จ้าวหุยหยิบออกมาล้ำค่ามหาศาลสำหรับพวกเขา
“ตำแหน่งของเจ้าเด็กนี่ในเผ่าพันธุ์วิญญาณน่ากลัวว่าจะไม่ธรรมดาเลย!”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมองไปยังของล้ำค่าพวกนั้น ในใจตื่นเต้นเล็กน้อย แต่เขาไม่มีความรู้สึกดีกับจ้าวหุยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเมื่อจ้าวหุยรู้จักคุนอวิ๋นด้วย
ส่วนคุนอวิ๋นตาค้าง ตะลึงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
คนแปลกหน้าที่จู่ๆ ปรากฏกายขึ้นนี้ไม่เพียงแต่เรียกสหายกับตน ทั้งยังช่วยรักษาบาดแผล สุดท้ายยังมอบของวิเศษล้ำค่าให้เขามากมายถึงเพียงนี้อีก
คุนอวิ๋นสงสัยว่าตนเองกำลังฝันไปอยู่หรือไม่ ไยจึงมีเรื่องดีๆ ตกลงมาจากฟ้ามากมายเพียงนี้ ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่หากไม่เอาก็เสียเปล่า
คุนอวิ๋นรับของพวกนี้ทั้งหมดเอาไว้อย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
“มีของล้ำค่าพวกนี้ อีกไม่นานเท่าไหร่ข้าก็จะทะลวงถึงเทพแท้จริงขั้นสามได้แล้ว…”
ในใจของคุนอวิ๋นตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
ในดินแดนทวีป เพราะความช่วยเหลือจากจ้าวเฟิง เขาจึงเข้ามาในดินแดนเทพรกร้างในตอนที่พลังฝึกตนเป็นครึ่งเทพ อีกทั้งตัวเขาเองก็ฟื้นคืนชีวิตมาด้วยเลือด สามสิบปีที่ดูแลรักษานั้น เขาก็ทำพลังแฝงให้มั่นคงมาโดยตลอด
ดังนั้นปีที่ห้าที่มาถึงดินแดนเทพรกร้าง เขาจึงทะลวงตำแหน่งเทพและไปถึงตำแหน่งเทพขั้นสอง แต่ว่าภายใต้จังหวะประจวบเหมาะ เมื่อมาถึงเขามารทมิฬขั้วอำนาจห้าดาว พลังฝึกตนของเขากลับหยุดนิ่งไม่ก้าวหน้า ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น
ลูกศิษย์สายนอกทั้งหมดมองคุนอวิ๋นเก็บของล้ำค่าพวกนั้นลงไปตาปริบๆ ในใจตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับไม่กล้าลงมือ
“ของล้ำค่าของสหายจ้าวมีมากมายนับไม่ถ้วน เชื่อว่าพลังก็ไม่น่าจะธรรมดา!”
ในตอนนี้เอง เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเอ่ยปากอย่างเยือกเย็นชวนขนลุก
ลูกศิษย์สายนอกอดมองเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไรกันแน่
“ธรรมดาๆ!” จ้าวหุยตอบง่ายๆ
“สหายจ้าวถ่อมตนไปแล้ว เผ่าพันธุ์วิญญาณเป็นขั้วอำนาจห้าดาวที่ยิ่งใหญ่เกียงไกรกว่าเขามารทมิฬ เทพแท้จริงขั้นสามส่วนมากของเขามารทมิฬคงไม่ใช่คู่มือของท่านหรอกกระมัง!”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นยกยอจ้าวหุย
“เป็นคนเผ่าพันธุ์วิญญาณ จะต้องนั่งเรือรบลำนั้นก่อนหน้านี้มาอย่างแน่นอน!”
เสี้ยวขณะนี้ ฐานะของจ้าวหุยถึงจะกระจ่างแจ้ง ทุกคนเพิ่งรู้ว่าจ้าวหุยและเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นไม่ใช่พวกเดียวกัน แต่พวกเขาก็คาดไม่ถึงว่าคุนอวิ๋นที่ถูกพวกเขาหยามหมิ่นมาโดยตลอดจะรู้จักกับคนของเผ่าพันธุ์วิญญาณ อีกทั้งตำแหน่งของอีกฝ่ายน่าจะไม่ธรรมดาอีกด้วย
“เผ่าพันธุ์วิญญาณ!” คุนอวิ๋นพึมพำเสียงต่ำ
สองคำนี้ทำให้เขาคิดเชื่อมโยงถึงจ้าวหยูเฟย แต่ต่อให้เป็นจ้าวหยูเฟยก็ไม่มีทางรู้ถึงที่อยู่โดยละเอียดของเขา
“ข้าน้อยเทพแท้จริงเฮยกู่ (โครงกระดูกดำ) อยากจะขอคำชี้แนะอัจฉริยะเผ่าพันธุ์วิญญาณสักเล็กน้อย!”
ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่รูปร่างราวโครงกระดูกก้าวออกมา
ในฐานะที่เป็นลูกสมุนของเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น เทพแท้จริงเฮยกู่เข้าใจความคิดของเขาเป็นอย่างดี
คำพูดนี้เพียงเอ่ยออกไป คนที่นั่นก็นึกสนุกขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าเพราะคุนอวิ๋น เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเลยค่อนข้างจะเป็นปฏิปักษ์กับจ้าวหุย
เทพแท้จริงขั้นสามเฮยกู่เป็นอันดับหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์สายนอก พลังไม่ใช่เล่นๆ
“สหาย ข้าไม่ใช่คู่มือของเขา ไม่เช่นนั้นเจ้าออกสู้แทนข้าก็แล้วกัน!”
ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงพูดกับคุนอวิ๋น เพียงเอ่ยเช่นนี้ออกมา สีหน้าของทุกคนที่นั่นล้วนตกตะลึง ต้องรู้ว่าเทพแท้จริงเฮยกู่เป็นเทพแท้จริงขั้นสาม คุนอวิ๋นเป็นเพียงแค่เทพแท้จริงขั้นสองเท่านั้น
แต่ตอนนี้จ้าวหุยที่เป็นเทพแท้จริงขั้นสามกลับให้เทพแท้จริงขั้นสองออกสู้แทนตนเอง
หากไม่ใช่ว่าเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมีความคิดเป็นศัตรูกับจ้าวหุยอย่างชัดเจน ลูกศิษย์สายนอกคงคิดกระทั่งว่าจ้าวหุยร่วมมือกับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น จงใจกลั่นแกล้งคุนอวิ๋น
“นี่…” สมองของคุนอวิ๋นก็มึนไปทันทีเช่นกัน
เมื่อครู่จ้าวหุยเป็นมิตรกับตนถึงเพียงนั้น เสี้ยวขณะต่อมากลับผลักตนลงทะเลเพลิง นี่ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่
“หากคุนอวิ๋นออกสู้ละก็ พี่เฮยกู่ไม่จำเป็นต้องลงมือหรอก ให้ข้าไปเถอะ!”
ในกลุ่มคน ชายหนุ่มชุดดำพูดด้วยยิ้มชั่วร้าย
สีหน้าของคุนอวิ๋นเคร่งเครียด จ้องคนคนนี้เขม็ง
ชายหนุ่มชุดดำคนนี้ก็คือเทพแท้จริงขั้นสองสุดยอดที่สั่งสอนเขาไปรอบหนึ่งในวันนี้
“สหายจ้าว หากท่านไม่ถือสาแล้วละก็ ให้สหายของท่านออกสู้แทนก็ย่อมได้!”
คำพูดของเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมีความหมายคุกคาม
หากจ้าวหุยออกโรง แปดส่วนต้องแพ้ให้กับเทพแท้จริงเฮยกู่ หากไม่ออกโรงคุนอวิ๋นก็จะต้องออกไปแทน เช่นนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองต้องแตกหักแน่นอนแล้ว
“ข้าเป็นแพทย์ ไม่ชำนาญการต่อสู้!” จ้าวหุยประกาศฐานะของตน ทำเอาทุกคนที่นั่นค่อนข้างตื่นตะลึง
แม้กระทั่งเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นก็คิดไม่ถึงว่าจ้าวหุยจะเป็นหมอ หากเป็นเช่นนี้คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ไม่ค่อยเหมาะสมแล้ว
ท้าประลองกับแพทย์คนหนึ่ง พูดออกไปก็น่าอาย อีกทั้งจ้าวหุยยังเป็นแขกที่มาจากแดนไกลด้วย แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว ตอนนี้จะคืนคำก็ไม่ใช่เรื่อง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุนอวิ๋น พวกเรามาเล่นสนุกกันอีกก็แล้วกัน!”
ชายหนุ่มชุดดำขึ้นไปบนเวทีประลองอีกครั้ง จากนั้นมองคุนอวิ๋นด้วยใบหน้าหยอกล้อ
“เจ้า…” คุนอวิ๋นอดกลั้นจนหน้าแดงขึ้นทันที
ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะสู้กับชายหนุ่มชุดดำคนนี้ไปรอบหนึ่งและพ่ายแพ้สะบักสะบอม ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก ต่อให้ตอนนี้บาดแผลฟื้นฟูได้พอประมาณแล้ว ก็ไม่มีทางเป็นคู่มือให้กับชายหนุ่มชุดดำคนนี้ได้
“คุนอวิ๋น ตอนที่ข้ามาที่นี่พอดีเห็นเจ้ากำลังประลองยุทธ์ พบว่าเจ้าไม่มีอาวุธเทพที่เหมาะมือ ไม่สู้ข้าให้เจ้ายืมอาวุธเทพบางอย่างไปสู้กับเขาก่อน”
จ้าวหุยยิ้มพูดขึ้น
สีหน้าของชายหนุ่มชุดดำไม่เปลี่ยนแปลง ต่อให้คุนอวิ๋นมีอาวุธเทพเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้นก็ไม่ใช่คู่มือของเขาอยู่ดี
คุนอวิ๋นก็เงียบไม่พูดจา จ้องจ้าวหุยอย่างอาฆาตแค้น ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
แค่เสี้ยวขณะต่อมา จ้าวหุยเพียงพลิกฝ่ามือ อาวุธเทพที่รัศมีแสงสว่างไสวสามอย่างก็พลันปรากฏขึ้น ของล้ำค่าสามอย่างนี้แบ่งเป็นค้อนยักษ์สีดำอันหนึ่ง เกราะมังกรสีทองหนึ่งตัว ผ้าคลุมเมฆาแดงหนึ่งผืน
เสี้ยวขณะที่อาวุธเทพสามอย่างนี้ปรากฏขึ้นก็แผ่กระจายกลิ่นอายที่น่าสะพรึง ดึงดูดคนทั้งหมดที่นั่น
“นี่มัน…อาวุธเทพระดับกลางสามชิ้น!”
สีหน้าของชายหนุ่มชุดดำที่อยู่บนเวทีประลองตกตะลึง กลืนน้ำลายลงคอ
“สามารถหยิบเอาอาวุธเทพระดับกลางออกมาได้ในทันทีเลย!”
คนอื่นที่เหลือก็พากันทอดถอนใจ จ้องกันตาเป็นมัน
“เช่นนั้นข้าจะสู้กับเจ้าอีกครั้ง!” หลังจากตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง คุนอวิ๋นก็เผยสีหน้าคุ้มคลั่งยินดี
อาวุธเทพระดับกลางสอดคล้องกับเทพแท้จริงขั้นสี่ถึงขั้นหก นี่เป็นอาวุธเทพที่ปกติเขาไม่มีโอกาสได้เห็นเชียวนะ มอบอาวุธเทพระดับกลางให้เขาสามชิ้นเช่นนี้ จะแพ้ชนะก็ยังไม่แน่
ฟึ่บ! คุนอวิ๋นถืออาวุธเทพระดับกลางสามชิ้นกระโดดขึ้นมายังเวทีประลองทันที
คุนอวิ๋นกระตุ้นอาวุธเทพบนร่างเบาๆ สัมผัสได้ถึงพลังแข็งแกร่งไร้เทียมทานเพิ่มให้กับร่างทันที พลังที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่งบดขยี้ไปยังชายหนุ่มชุดดำ
“อาวุธเทพสามชิ้นนี้ล้วนเป็นชั้นยอดในบรรดาอาวุธเทพระดับกลาง อย่างน้อยเป็นเทพแท้จริงขั้นห้าจึงจะสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์!”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียด
ครอบครองอาวุธเทพระดับกลางที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ป้องกัน โจมตี สนับสนุนในหนึ่งเดียว คุนอวิ๋นแทบจะไร้พ่ายในหมู่เทพแท้จริงขั้นสอง กระทั่งสามารถท้าประลองเทพแท้จริงขั้นสามได้
ครืน บึ้ม! ไม่เกินคาด ทั้งสองประมือกันไม่ถึงห้ากระบวนท่า ชายหนุ่มชุดดำก็ถูกค้อนของคุนอวิ๋นหวดกระเด็น กระอักเลือดสีแดงสดออกมาหลายครั้งจึงจะลุกขึ้นมาได้
“ฮ่าๆ!” คุนอวิ๋นหัวเราะลั่น เดินลงจากเวทีประลอง
หลังจากที่เขามาเขามารทมิฬแล้วก็ไม่เคยสะใจเช่นนี้มาก่อนเลย ได้รับทรัพยากรมากมาย ได้ใช้อาวุธเทพระดับกลางปราบศัตรูให้หนัก…
“คุนอวิ๋น อาวุธเทพสามชิ้นนี้เหมาะกับเจ้าถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้เจ้าแล้วกัน!”
จ้าวหุยยิ้มพูดขึ้น
คุนอวิ๋นที่เพิ่งลงจากบันไดมาเกือบโซเซล้มคะมำลงมา
นี่คืออาวุธเทพระดับกลางสามชิ้นเชียวนะ จ้าวหุยกลับนึกอยากจะให้ก็ให้เสียอย่างนั้น
ถึงแม้เขาจะเสียดายอาวุธเทพทั้งสามชิ้นนี้เป็นอย่างมาก แต่มันก็ล้ำค่ามากเกินไปจริงๆ
แต่ว่าสุดท้ายคุณอวิ๋นก็รับอาวุธเทพสามชิ้นนี้เอาไว้ภายใต้ความต้องการอันแรงกล้าจากจ้าวเฟิง
ลูกศิษย์สายนอกรอบๆ แต่ละคนมองภาพนี้ราวกับคนโง่งม
มีทรัพยากรฝึกฝนพวกนั้น รวมกับอาวุธเทพระดับกลางสามชิ้น ไม่นานนักนอกเขาก็จะไม่มีใครต่อกรคุนอวิ๋นได้ และเขาก็จะสามารถเข้าไปภายในเขา
“แต่ว่า…” จากนั้นสีหน้าของคุนอวิ๋นก็ซึมเซาลง
คนไร้ความผิด ผิดที่ถือครองหยก
อีกทั้งตัวเขาเองสร้างศัตรูไว้มาก เพียงแค่จ้าวหุยจากไป เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นจะต้องหาทางวางแผนหาเรื่องเขาและช่วงชิงของพวกนี้ทั้งหมดไปเป็นแน่ แต่ในตอนนี้เอง ในหัวของคุนอวิ๋นก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้น “รอถึงตอนที่คนเผ่าพันธุ์วิญญาณจากไป เจ้าก็ตามพวกเขาไปเผ่าพันธุ์วิญญาณ!”
“ฮ่าๆ สหายจ้าว ข้าพาท่านไปเดินดูที่อื่นก็แล้วกัน!”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นยิ้มชั่วร้าย
จ้าวหุยอยู่ที่นี่ คุนอวิ๋นไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นแน่ แต่หากจ้าวเฟิงจากไป เช่นนั้นก็ไม่แน่แล้ว
ทรัพยากรฝึกฝนเหล่านี้และอาวุธเทพล้วนเป็นของเขาทั้งหมด
“ได้!” จ้าวหุยพยักหน้าแล้วเตรียมจากไป
“ท่านเป็นใคร? ไยจึงช่วยข้า?” ในใจของคุนอวิ๋นตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง แต่จากนั้นก็สงบลง วิญญาณส่งกระแสจิตพูดขึ้น
เขาไม่เชื่อว่าคนที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดกับเขาแม้แต่น้อย จะทำเรื่องพวกนี้ให้เขา
“คุนอวิ๋นน้อย ความจำของเจ้าช่างแย่เสียจริง กระทั่งข้าก็ลืมเสียได้!”
จ้าวหุยทิ้งประโยคนี้ไว้ แล้วจากไปจากที่นี่พร้อมกับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น
แต่จิตวิญญาณคุนอวิ๋นกลับสั่นสะท้านรุนแรง ยืนอึ้งอยู่กับที่ มองจ้าวหุยจากไปด้วยสายตาตกตะลึง ชีวิตนี้ของเขา คนที่เรียกเขาว่าคุนอวิ๋นน้อยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือจ้าวเฟิงที่ช่วยเขาใช้เลือดชุบชีวิตในตอนนั้น!