บทที่ 1562 ไร้เทียมทาน
เรือรบสีขาวของฝั่งผู้ทรงภูมิ ด้วยเพราะเวลากระชั้นชิด คุณสมบัติในแต่ละด้านจึงยังไม่ครบถ้วนดี ดังนั้นพวกผู้ทรงภูมิจึงจดจ่ออยู่กับการป้องกัน แต่คุณสมบัติทุกด้านของเรือรบสีทองดำของพวกฝืนชะตาฟ้าครบถ้วน โดยฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการโจมตี ไม่สามารถเทียบเทียมได้เลย
อย่างแรก ด้านบนของเรือรบสองลำมีอาวุธทำลายล้างขนาดใหญ่อยู่
เพียงแต่ว่าสนามรบวุ่นวาย ฝ่ายตนเองฝ่ายศัตรูปะปน อาวุธประเภทนี้จึงไม่มีประโยชน์อะไรมาก
แต่นอกเหนือจากนี้แล้ว รอบๆ เรือรบก็มีอาวุธทำลายล้างขนาดเล็กติดตั้ง รวมไปถึงค่ายกลโจมตี มีอิทธิพลต่อทั้งสนามรบมาก
สมาชิกอีกฝ่ายทำได้เพียงหลบหลีกและป้องกันการโจมตีจากเรือรบสีทองดำของพวกฝืนชะตาฟ้า ไม่อาจทำอย่างอื่นได้
ในการประมือระหว่างยอดฝีมือ หากแบ่งสมาธิไปก็ถึงตายได้ นับประสาอะไรกับการก่อกวนจากเรือรบ แต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ คนของอีกฝ่ายเองก็ไร้ซึ่งหนทาง พลังไฟของเรือรบสองลำนั้นรุนแรงจนเกินไป ผู้แข็งแกร่งทั่วไปไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย
ก่อนนี้มีราชาเทพผู้หนึ่งคิดจะเข้าไปประชิดเรือรบสีดำทอง ก็ถูกพลังไฟนับไม่ถ้วนรุมโจมตีทันที ไม่นานเท่าไหร่ก็บาดเจ็บหนักจนต้องหนีไป แต่ในตอนนี้ จ้าวเฟิงมาถึงด้านหลังของสนามรบแล้ว ทุกคนแถวนั้นอดจะคาดเดาเป้าหมายของจ้าวเฟิงไม่ได้
“ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเรือรบของฝ่ายศัตรูได้หรือไม่!”
“แต่ก็หวังให้เป็นแบบนั้น!”
สมาชิกของฝั่งจ้าวเฟิงจำนวนไม่น้อยมีความหวังอยู่บ้าง
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นราชาเทพชั้นยอดก็เข้าใกล้เรือรบสีดำทองนั้นได้ยาก!”
ราชาเทพเทียนหลงจากเขตปราการหยั่งรู้ส่ายศีรษะพลางเอ่ย
ในเรือรบสีทองดำ คนระดับสูงของพวกฝืนชะตาฟ้าก็สังเกตเห็นท่าทีของจ้าวเฟิง อาวุธ อุปกรณ์ และค่ายกลบนเรือทั้งหมดก็เริ่มปรับเปลี่ยน
เหมือนเตรียมจะโจมตีจ้าวเฟิงอย่างหนักหน่วง
“เข้ามาสิ!” สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งขรึม ไม่มีความหวาดกลัว ถึงกระทั่งรอคอยอยู่บ้างด้วยซ้ำไป ดวงตาซ้ายของเขากระตุกไม่หยุด เหมือนตื่นเต้นเหลือคณนา
ตอนนี้จ้าวเฟิงมีเพียงเป้าหมายเดียว สู้!
ขุดค้นพลังเนตรเทพมายาออกมาเพิ่มอีกขั้นผ่านการรบราฆ่าฟัน
ตั้งแต่เริ่มสู้รบจนตอนนี้ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังเนตรเทพมายาที่ตนเองปลดปล่อยออกมาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ยามนี้จ้าวเฟิงอยากจะครอบครองพลังที่แกร่งกล้าโดยเร็วที่สุด
‘ทันทีที่ใช้พลังเนตรเทพมายาออกมาได้ทั้งหมด ข้าก็จะเข้าร่วมการต่อสู้ของ นายเหนือหัวได้!’ จ้าวเฟิงพึมพำในใจ
สนามรบที่เขาอยู่นี้ดูไปแล้วกว้างขวางไร้ขอบเขต แต่สิ่งที่จะส่งผลแพ้ชนะจริงๆ ก็ยังเป็นการต่อสู้ระหว่างคนขั้นนายเหนือหัว
ส่วนเขาที่เป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้จ้าวเฟิงรู้สึกไม่ยอมเล็กน้อย
สวบ! ร่างของจ้าวเฟิงโบยบินออกมา ตรงดิ่งเข้าไปใกล้เรือรบของพวกฝืนชะตาฟ้า
“ดี ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายด้วยตัวเองแบบนี้ ข้าจะทำให้เจ้าสมหวัง!” ภายในเรือรบสีดำทอง ใบหน้าผู้คุมกฎจั่วฉายแววโหดเหี้ยม
ในฐานะที่เขาและผู้คุมกฎโย่วเป็นผู้คุมกฎของกลุ่มฝืนชะตาฟ้า แต่ด้านที่ชำนาญต่างกันออกไป
พลังของผู้คุมกฎจั่วแข็งแกร่งมาก ควบคุมวิชาอาคมและคำสาปต่างๆ ที่น่ากลัวของเผ่าแม่มดโบราณ ขนาดราชาเทพหวาเฟิงยังทำได้เพียงตรึงกำลังเขาเอาไว้ แต่ผู้คุมกฎโย่วเป็นคนเผ่าความลับสวรรค์ ไม่มีสายเลือดด้านการต่อสู้ที่แข็งแกร่งอะไรมากมาย เพียงแต่ครอบครองเนตรสังสารวัฏ
เขาควบคุมสถานการณ์ของทั้งกลุ่มฝืนชะตาฟ้าอย่างลับๆ ครอบครองทักษะความรู้ของเผ่าความลับสวรรค์ เมื่ออยู่ในพื้นที่เผ่าความลับสวรรค์ เขาถึงจะสามารถปลดปล่อยพลังที่แก่กล้าออกมาได้
“บุกโจมตี!” ผู้คุมกฎโย่วตะโกนทันใด
คนอื่นที่เหลือของเผ่าความลับสวรรค์ในเรือรบสีทองดำต่างเคลื่อนไหวตามคำสั่งของผู้คุมกฎโย่ว
ที่โลกภายนอก แรงระเบิดทั้งหมดของเรือรบสีดำทองทั้งสองลำ ต่างรวมตัวพุ่งไปที่จ้าวเฟิงทันที
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยของพันธมิตรเนตรเทพเจ้าพลันตื่นตระหนกสุดขีด
พวกฝืนชะตาฟ้าเน้นความสำคัญที่จ้าวเฟิงยิ่งนัก ความรุนแรงในการโจมตีระดับนี้ หากเปลี่ยนเป็นราชาเทพคนอื่น เกรงว่าคงโดนสังหารในพริบตาไปแล้ว
“ปลดปล่อยห้วงฝัน!”
ในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง พลังมายาดั้งเดิมทะลักออกมาไม่หยุด
เขาโคจรพลังความคิด สร้างมิติความฝันที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วจึงสำแดงออกมา ให้แทรกซึมเข้าไปในมิติรอบบริเวณ
เมื่ออยู่ภายในมิติห้วงฝัน พลังของจ้าวเฟิงแต่ละด้านล้วนเพิ่มขึ้น
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
รอบตัวจ้าวเฟิงรวมกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์ขึ้นหลายเล่ม
การโจมตีของพลังหลากชนิดนับไม่ถ้วน ตอนที่มันมาถึง เขาจำต้องเข้าไปหลบในมิติห้วงฝัน แต่เมื่ออยู่ในมิติแห่งนี้ พลังของจ้าวเฟิงจะอยู่เหนือกว่าปกติ
โครม ฟุ่บ ฟุ่บ…
กระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์หลายต่อหลายเล่มถูกควบคุมโดยความคิดของจ้าวเฟิง กวัดแกว่งโบยบิน ทำลายการโจมตีทั้งหมดลง
กำลังรบจริงๆ ของจาวเฟิงสามารถสังหารราชาเทพชั้นยอดได้ แต่เมื่ออยู่ในมิติห้วงฝัน พลังของเขาเข้าใกล้นายเหนือหัวมาก
“อย่าหยุด!” ผู้คุมกฎโย่วตะโกนเสียงดัง
พลังศาสตร์ความฝันทำให้สูญเสียพลังวิญญาณสูงมาก เขาไม่เชื่อว่าจ้าวเฟิงจะทานทนไหว
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ…
การโจมตีถี่ยิบราวสายฝนมาติดต่อกันไม่มีหยุด
กระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์รอบตัวจ้าวเฟิงก็แปรสภาพเป็นเขตแดนพลังบริสุทธิ์ แต่ละชั้นพวยพุ่งขึ้น คอยขวางการโจมตีจากศัตรูเอาไว้
เมื่อกระแสปั่นป่วนของอัสนีเทวะบริสุทธิ์ถูกทำลายลงชั้นหนึ่ง ชั้นที่สองก็จะเพิ่มขึ้นมาทันที ผ่านไปครู่หนึ่ง จ้าวเฟิงไม่มีท่าทีว่าจะแบกรับไม่ไหว หนำซ้ำยังเข้าไปใกล้เรือรบสีทองดำมากแล้ว
“ใช้ ‘อาวุธทำลายล้างขนาดกลาง’!” ผู้คุมกฎโย่วถ่ายทอดคำสั่งทันที
อาวุธประเภททำลายล้างขนาดใหญ่ทรงพลังที่สุด แต่เพราะอาณาเขตโจมตีกว้างเกินไป อาจจะโดนสมาชิกฝ่ายตนเองได้
“เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว โจมตี!” คนเผ่าความลับสวรรค์หลายคนตอบกลับทันใด
วู้ม วู้ม~
ในเรือรบสีดำทองสองลำ รูโลหะหลายสิบอันพลันยื่นออกมา ระลอกพลังเทพที่ปั่นป่วนน่ากลัวทะลักออกจากภายใน
“จะมาแล้วหรือ?” สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งขรึม เขตแดนพลังบริสุทธิ์ปรากฏขึ้น เขาเองก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว
โครม ตูม~ ทันใดนั้น ในแต่ละจุดของเรือรบสีดำทองสองลำส่งลำแสงสีขาวสุกสกาวกว้างสิบจั้งสายหนึ่งออกมา พลังเทพภายในบริสุทธิ์เกินจะเปรียบ เหมือนพุ่งมาโดยอาศัยพลังจากผลึกเทพระดับสุดยอด ในลำแสงสีขาวสุกสว่างแฝงไปด้วยกฎเกณฑ์ทำลายล้าง
ลำแสงสีขาวระยับเพิ่งจะเข้าใกล้ราชาเทพทั่วไป แต่จากการควบคุมของพวกฝืนชะตาฟ้า ทำให้ลำแสงทั้งหมดพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิงเป็นจุดเดียว พลังน่ากลัวที่ระเบิดออกทันทีนี้ หากไม่ใช่เพราะจ้าวเฟิงอยู่ในพื้นที่ของมิติห้วงฝันก็ไม่กล้าตั้งรับแน่
“เปลี่ยนมายา!” จ้าวเฟิงโคจรดวงตาซ้ายอีกครั้ง พลังมายาดั้งเดิมมหาศาลแทรกตัวเข้าไปในฟ้าดิน
มิติห้วงฝันช่วยเพิ่มพลังให้กับตนเอง ส่วนเปลี่ยนมายาจะลดทอนพลังของศัตรู เมื่อใช้ทั้งสองสิ่งร่วมกันจะได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม
การทับซ้อนระหว่างเปลี่ยนมายาและห้วงฝันที่ปลดปล่อยออกมา ทำให้โลกรอบตัวจ้าวเฟิงส่องแสงพร่างพราย วิจิตรตระการ ทำให้แทบไม่เชื่อเลยว่านี่จะเป็นภาพที่เกิดขึ้นในสนามรบ
“ป้องกัน!” เขาปลดปล่อยเปลี่ยนมายาก็เพื่อลดทอนการโจมตีทำลายล้างของฝ่ายศัตรู จ้าวเฟิงทุ่มพลังทั้งหมดเข้าป้องกัน
ลำดับแรก เขาหดเขตแดนพลังบริสุทธิ์ให้กลายเป็นวัตถุทรงกลมขมุกขมัวลูกหนึ่ง โอบล้อมจ้าวเฟิงเอาไว้ด้านใน
“พลังมิติ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นอาวุธบรรพชนเทียมทะยานฟ้า อาศัยกฎเกณฑ์มิติที่สมบูรณ์ของมันหลอมรวมเข้าไปในเขตแดนพลังบริสุทธิ์ เพื่อเพิ่มพลังการป้องกันให้แข็งแกร่งขึ้น
จนสุดท้าย จ้าวเฟิงจึงสำแดงหลุมอัสนีบริสุทธิ์
นี่คือการป้องกันแข็งแกร่งที่สุดที่จ้าวเฟิงสำแดงได้ในตอนนี้!
โครม วู้ม วู้ม~
ยามอยู่ในการป้องกันหลายชั้น สรรพสิ่งรอบตัวจ้าวเฟิงสั่นไหว ดวงตาซ้ายของเขามองทะลุทุกสิ่ง สำรวจสถานการณ์ด้านนอก
มิติห้วงฝันของจ้าวเฟิงแหลกทลายลงจากการโจมตีทำลายล้างครั้งใหญ่ หากไม่ใช่เพราะได้พลังมายาดั้งเดิมมหาศาล เกรงว่าคงจะสลายเป็นธุลีแล้ว
โครม แซ่ด~
ชั้นป้องกันของเขตแดนพลังบริสุทธิ์ค่อยๆ แหลกสลายไป การโจมตีทำลายล้างระเบิดลงบนหลุมอัสนีบริสุทธิ์
ตอนแรกการบุกโจมตีจากพวกฝืนชะตาฟ้าถูกลดทอนจนเบาบางลง พลังไม่แข็งแกร่งเช่นที่ผ่านมา แต่หลุมอัสนีบริสุทธิ์ก็ยังคงถูกทำลายไปเล็กน้อยอยู่ดี
“เกราะมิติวิญญาณ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นอาวุธบรรพชนเทียม ‘ทะยานฟ้า’ ปลดปล่อยพลังป้องกันของมันออกมา เห็นเพียงพลังมิติโปร่งแสงสีเงินเข้มสายหนึ่ง หดตัวเข้าหากันกลายเป็นเกราะแสงปกคลุมจ้าวเฟิงเอาไว้ด้านใน
ภายในเรือรบ สมาชิกแต่ละคนตึงเครียด ใครก็คาดคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะทำถึงขนาดนี้
เกราะแสงมิติที่ปกป้องจ้าวเฟิงอยู่ในตอนนี้สลายไปทีละน้อย แต่การโจมตีที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาก็ใกล้จะสูญสลายไปเช่นกัน สุดท้ายแล้วจ้าวเฟิงก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร
“เกือบไปแล้ว!” จ้าวเฟิงถอนหายใจเล็กน้อย
เหตุที่ต้านการโจมตีนี้เอาไว้ได้ เพราะอาศัยพลังมายาดั้งเดิมที่ทรงพลัง รวมไปถึงการป้องกันที่โดดเด่นของอาวุธบรรพชนเทียม
“ตั้งรับเอาไว้ได้แล้ว?” ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในสนามรบจ้องจ้าวเฟิงประหนึ่งเห็นสัตว์ประหลาด
สามารถขวางการโจมตีที่แข็งแกร่งระดับนี้ได้ คงไม่มีใครในที่นี้จะทำได้อีกแล้ว!
“เจ้าเด็กนี่…ข้าจะทำอะไรมันไม่ได้เลยหรือ?”
สีหน้าผู้คุมกฎโย่วย่ำแย่อย่างมาก
ในฐานะที่เป็นนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้า พลังของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถูกกดดันจากการต่อสู้และเนตรเทพเจ้าติดต่อกัน เกรงว่าอีกไม่นานเท่าไหร่ก็จะกลายเป็นนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าอีกคนหนึ่งแล้ว
“เหอะ เจ้าสวรรค์ย่อมจัดการมันได้!”
สีหน้าของผู้คุมกฎโย่วเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน แค่นเสียงเย็นออกมา
และในเวลานี้เอง จ้าวเฟิงที่อยู่ด้านนอกเรือรบเปิดปากเอ่ย “ข้าต้องมอบของขวัญให้พวกเจ้าเสียแล้ว!”
“เนตรสวรรค์!” เจตจำนงดวงตาของจ้าวเฟิงมาพร้อมสายเลือดดวงตา กายเทพพุ่งออกมา ลอยมาที่กลางอากาศ
ดวงตามายาสีเงินขนาดใหญ่ทำให้คนกดดันจนยากจะเอื้อนเอ่ย
“เนตรเทพลอกแบบ!” ชั้นดวงวิญญาณเอ่ยเสียงต่ำ
หมอกแสงมายามหาศาลคลี่กระจายตัวออกในกับดักมายา ทันใดนั้น ในหมอกแสงมายาก็เกิดแสงสว่างสีขาวทอประกาย เสาแสงสีขาวที่ทรงพลังต้นหนึ่งพุ่งออกมา เป้าหมายของมันคือเรือรบสีดำทองลำที่ผู้คุมกฎโย่วอยู่
ที่จริงจ้าวเฟิงก็ลอกเลียนการโจมตีระดับสูงขนาดนี้ได้ยากเย็น แต่พลังมายาดั้งเดิมทะลักออกมาไม่มีสิ้นสุด เมื่อบวกกับเวลาที่คัดลอกค่อนข้างนานด้วย ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงคัดลอกได้เป็นผลสำเร็จ
ภายในเรือรบ
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“แย่แล้ว!”
“ทำอย่างไรกันดี!”
ทุกคนที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ มือสองข้างสั่นระริก ลนลานไม่รู้จะทำอย่างไร
พวกเขาก็คาดคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะปลดปล่อยการโจมตีเช่นนี้ออกมา เป็นการเปลี่ยนแปลงการบุกโจมตีของพวกเขาให้กลายมาเป็นของตนเอง และใช้มันย้อนมาโจมตีพวกเขากลับ
ถึงแม้ว่าเรือรบสีทองดำมีแรงป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างมาก แต่เมื่อครู่มันอยู่ในสภาวะบุกโจมตี ยากจะเปลี่ยนได้รวดเร็วแบบนั้น
โครม! เสาแสงสีขาวสุกสกาวทะลักเข้าไปในใจกลางเรือรบสีดำทอง แต่ในเรือรบสีดำทองเกิดเพลิงลุกโชติช่วง ควันลอยขโมงเต็มไปหมด
“ดีจริงๆ!” สมาชิกของฝ่ายจ้าวเฟิงก็คาดคิดไม่ถึงว่าจะเกิดจุดพลิกผันเช่นนี้
จ้าวเฟิงไม่ได้ทำลายเพียงส่วนเล็กๆ แต่ตรงไปทำลายใจกลางของเรือ จนทำให้ทั้งเรือเสียหายหนัก
อวี่เทียนอูที่อยู่ในเรือรบสีเงินด้านหลังก็ตื่นตกใจเช่นกัน
พรึ่บ! เนตรสวรรค์สลายไป วิญญาณกลับเข้าร่าง จ้าวเฟิงโบยบินออกมาทันที แล้วบินตรงไปที่เรือรบสีดำทองที่เสียหายลำนั้น
มีคนตายและบาดเจ็บเต็มเรือรบสีดำทอง
“รีบหนีไป!” สมาชิกทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่คาดเดาได้ว่าจ้าวเฟิงไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปแน่ จึงรีบหนีไปทันที
เปรี๊ยะ!
ผู้คุมกฎโย่วกลายร่างเป็นหมอกควันสีดำ ลอยออกมาจากด้านใน
ถึงแม้ว่าผู้คุมกฎโย่วจะเป็นราชาเทพชั้นยอด แต่เขาก็ไม่ชำนาญการต่อสู้ และก็ไม่อาจไปสู้รบกับจ้าวเฟิงได้ในตอนนี้
“เจ้าหนีไม่รอดหรอก!”
น้ำเสียงเย็นชาเรียบนิ่งของจ้าวเฟิงดังขึ้น พวกมดปลวกก็พอจะปล่อยไปได้ แต่คนสำคัญอย่างผู้คุมกฎโย่วจะปล่อยไปได้อย่างไร