Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 619

ตอนที่ 619 สาวน้อยไม่ยอมเสียเปรียบสักนิดเลยจริงๆ!

เธอมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้ด้านนี้ คนอื่นร่ำเรียนมาหลายปีก็ยังไม่อาจเรียนวิชากู่ได้แตกฉานนัก เธอเรียนอยู่ไม่กี่เดือนก็ล้ำเลิศ

แล้ว สหายคนนั้นของเธอรู้สึกว่าเธอเป็นต้นกล้าที่ดี เลยแนะนำเธอแก่อาจารย์ของเขา อาจารย์ของเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านกลางหุบ

เขาแห่งหนึ่งที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่รับศิษย์ง่ายๆ ทว่าถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเห็น สั่งสอนเธออยู่สองเดือน…มอบตำรากู่ที่

ไม่สมบูรณ์เล่มหนึ่งให้เธอ

ในยุคปัจจุบันกู้ซีจิ่วศึกษาวิชาหลายแขนง วิชาหลักที่เธอเรียนคือวรยุทธ์ วิชาพิษและการแพทย์

เธอรู้สึกว่าวิชากู่ต้องใช้หนอนเป็นสื่อกลาง และเธอก็ไม่ค่อยชอบพวกแมลงเท่าไหร่ ประกอบกับการเลี้ยงกู่ต้องใช้แก่นโลหิตใน

ร่างตนเสมอ เรื่องเยอะเกินไป ข้อจำกัดก็มากเกินไป ดังนั้นถึงแม้เธอจะร่ำเรียนมาไม่น้อย แต่แทบไม่ได้ใช้เลย และไม่เคยเลี้ยงกู่เลย

เพียงแต่เธอสนใจด้านการขจัดกู่มาก ได้มองดู ‘เจ้าตัวน้อย’ เหล่านั้นสลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ในมือเธอค่อนข้างรู้สึกสมใจอยู่บ้าง

ดังนั้นเธอเลยตั้งใจศึกษาวิชาขจัดกู่ที่อยู่บนตำราเล่มนั้น ในตำรานั้นไม่เพียงแต่มีเคล็ดวิชากู่หายากสารพัดเท่านั้น ยังมีวิธีแก้ที่สัมพันธ์กันอยู่ด้วย

แน่นอนว่าเนื่องจากไม่มีผู้ที่โดนกู่ให้เธอได้ลองทดสอบ ด้วยเหตุนี้ในตอนนั้นเธอเลยได้แต่อ่านเท่านั้น

โชคดีที่ความจำของเธอดีมาก อ่านรอบเดียวก็จำได้เกือบสมบูรณ์…

เดิมทีเธอแค่จะเล่าที่มาวิชากู่ของตนสักหน่อยเท่านั้น ถึงอย่างไรเธอก็รู้สึกว่าความรู้ยุคปัจจุบันเหล่านี้ของเธอไม่เกี่ยวข้องกับที่นี่มากนัก สหายในยุคปัจจุบันของเธอถึงจะเก่งกาจเพียงใดก็มาที่นี่ไม่ได้

แต่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ซักถามละเอียดนัก เขาถามครอบคลุมไปถึงรูปพรรณสัณฐานอัตลักษณ์ของคนทั้งสองที่ถ่ายทอดวิชากู่ให้เธอด้วย

สุดท้ายเขาก็ยื่นพู่กันด้ามหนึ่งและกระดาษอีกหลายแผ่นใหกู้ซี้จิ่ว “มาสิ วาดพวกเขาออกมาหน่อย”

กู้ซีจิ่วงงงัน แต่เธอก็เป็นคนฉลาด จึงถามออกไปอย่างห้ามใจไม่อยู่ “ท่านคงไม่คิดว่าผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังคือหนึ่งในพวกเขาใช่ไหมเจ้าคะ? เป็นไปไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ การมาของข้าเป็นเรื่องบังเอิญนัก เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมาด้วยเหมือนกัน เรื่องทะลุมิติเป็นเรื่องบังเอิญยิ่ง…”

“ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้เจ้าวาดออกมา เปิ่นจุนจะดูเปรียบเทียบกัน”

“เช่นนั้นท่านก็วาดเป้าหมายที่ท่านสงสัยใหข้าดูด้วยสิเจ้าคะ อ๊ะ ใช่แล้ว ท่านวาดตัวผู้บงการเบื้องหลังที่ท่านเห็นจากเชียนหลิงเทียนออกมาด้วยได้ไหมเจ้าคะ?” ดวงตากู้ซีจิ่วเปล่งประกาย

สาวน้อยไม่ยอมเสียเปรียบสักินดเลยจริงๆ!

สุดท้ายท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ตกลง ดังนั้นทั้งสองจึงนั่งตรงข้ามกัน ต่างฝ่ายต่างวาด…

ผ่านไปหนึ่งก้านธูป ทั้งสองฝ่ายต่างวาดเสร็จแล้ว จึงนำมาแลกกันดู

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์วาดได้สมจริงมาก เขาวาดคนลึกลับที่สวมชุดขาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า มองไม่ออกว่าอ้วนหรือผอม และมองไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง แต่บุคลิกค่อนข้างประหลาดเย็นชา ดูเหมือนเขาจะปรากฏตัวในยามราตรีทุกครั้ง แถมยังเป็นสถานการณ์ที่ไร้แสงเดือนแสงดาวด้วย ดังนั้นการสวมชุดพรางตัวเช่นนี้ปรากฏตัว จึงน่าอึดอัดเล็กน้อย

ภาพของกู้ซีจิ่วเป็นภาพร่าง ตวัดไม่กี่ลายเส้น ร่างเอกลักษณ์บุคคลออกมา ถึงแม้จะไม่สมจริงไปบ้าง แต่เอกลักษณ์เฉพาะของตัวคนก็โลดแล่นอยู่บนกระดาษแล้ว

สหายคนนั้นของเธอเป็นหนุ่มหล่อปากแดงฟันขาว ยามยิ้มแย้มเจิดจ้าดั่งแสงตะวัน แต่อาจารย์ที่เร้นกายอยู่ในหุบเขาลึกผู้นั้น

ดูต่างกันลิบลับ สวมเสื้อคลุมผ้าป่านตัวยาว ร่างผอมสูง เครื่องหน้า…เครื่องหน้าไม่ชัดเจน เนื่องจากอีกฝ่ายไว้หนวดเครา แถม

เครานั้นก็ยาวเฟื้อย เครื่องหน้าถูกซ่อนไว้มิดชิดภายใต้หนวดเครา ดังนั้นอัตลักษณ์เครื่องหน้าจึงไม่ชัดเจน

กู้ซีจิ่ว ก็เล่าออกมาอย่างกระจ่าง อาจารย์ท่านนี้นิสัยประหลาดนัก เงียบขรึมพูดน้อย ปรากฏตัวน้อยมาก ยามที่ถ่ายทอดวิชากู่ให้

เธอก็ไม่เผยโฉมสักเท่าไหร่ คนหนึ่งพูดอยู่ในห้อง อีกคนฟังอยู่นอกห้องเสมอ จำนวนครั้งที่พบหน้าเขาแทบนับนิ้วได้เลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!