บทที่ 666 นั่นเป็นชีวิตคนหลายสิบชีวิต…
อันที่จริงหลังจากหลงซีกระทำเรื่องนั้นลงไปไม่นานก็รู้สึกเสียใจภายหลัง แต่ตอนนั้นกู้ซีจิ่วถูกส่งตัวไปแล้ว และไม่มีใครบอก
เขาว่าถูกส่งตัวไปที่ไหน
ต่อมาเขาค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้น และไม่เคยหยุดตามหาที่อยู่ของกู้ซีจิ่วเลย ภายหลัง ถึงได้ข่าวว่าเธอเข้าไปอยู่ในค่ายฝึกนักฆ่า ตอนนั้นหลงซีได้ฉายแสงในวงการวิทยาศาสตร์ชีวภาพแล้ว มีชื่อเสียงอยู่บ้าง และมีตัวตนฐานะของตัวเองแล้วนิดหน่อย และในที่สุด บิดา ของเขาก็เลิกปฏิบัติต่อเขาใน ฐานะตัวทดลองวิทยาศาสตร์แล้ว ให้เขาได้มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป
ไอคิวเขาสูงมาก ศิลปะการต่อสู้อันใดก็ร้ายกาจยิ่ง ซํ้ายังเติบโตมาหล่อเหลา ‘เย่หงเฟิง’ มักจะมาเล่นกับเขาบ่อยๆ สามีภรรยาสกุลเย่ก็คิดจะให้เขามาเป็นลูกเขยของบ้านตน
นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นยังคงปรารถนาเงินทุนมหาศาลที่สามีภรรยาสกุลเย่เสนอว่าจะมอบให้เพื่อผลักดันการทดลองวิทยาศาสตร์ทั้งหมดของเขาย่อมไม่คัดค้านอยู่แล้ว
แต่ยามนั้นหลงซีไม่ได้รู้สึกอะไรกับ ‘เย่หงเฟิง’ เขานึกถึงกู้ซีจิ่วที่ถูกเขาแอบสลับตัวอยู่เสมอ ดังนั้นจึงขอเข้าไปเป็นครูฝึกในค่ายฝึกนักฆ่าด้วยตัวเอง และวางแผนไปอยู่ชั้นเรียนนั้นของกู้ซีจิ่ว…
ตอนแรกเขาไปด้วยความรู้สึกผิดในใจ ถึงขั้นโอบอุ้มความเป็นไปได้อันน้อยนิดว่าอาจจะสลับตัวเด็กทั้งสองกลับมาได้อีกครั้ง
แต่หลังจากเข้าไปพบกู้ซีจิ่วก็ทราบว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ถึงแม้เด็กทั้งสองจะมีรูปร่างหน้าตาและพันธุกรรมแบบเดียวกันทุกประการ แต่เป็นเพราะสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน บุคลิกจึงแตกต่างกันมาก
‘เย่หงเฟิง’ ใช้ชีวิตสุขสบายมาตั้งแต่เด็ก เป็นคุณหนูใหญ่ที่ถูกพะเน้าพะนอเอาใจ นิสัยก็เป็นประเภทเอาแต่ใจร่าเริงสดใสไร้เดียงสา
แต่กู้ซีจิ่วตอนเด็กครอบครัวยากจน พอโตขึ้นมาก็ถูกลักพาตัวไปเข้าค่ายฝึกนักฆ่า สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้เธอมีนิสัยเย็นชา กระทำการเด็ดขาดแน่วแน่
เด็กทั้งสองคนนอกจากรูปโฉมที่เหมือนกันทุกประการแล้วอย่างอื่นก็ไม่เหมือนกันเลย ไม่มีทางเปลี่ยนตัวกลับมาได้แล้ว เขาก็ทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องที่ผิดพลาดไปแล้ว ผิดพลาดต่อไป
ดังนั้นเขาจึงคอยดูแลเธอทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง แต่ดูแลไปดูแลมาก็เกิดความรู้สึกขึ้น เขาที่สนใจแต่ตัวเองมาโดยตลอดชอบเธอเข้าแล้ว…
ตอนที่เขาเล่ามาถึงตรงนี้ ในที่สุดกู้ซีจิ่วที่ถูกความจริงทำให้ตกใจก็เอ่ยขัดเขา “ความจริงแล้ว ฉันเป็นทายาทที่ถูกคุณสลับตัวเหรอ!”
“ซีจิ่ว ฉันขอโทษ!” หลงซือเย่เศร้าหมอง
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า ข่าวนี้น่าตกใจเกิน ไป เธอย่อยข้อมูลไม่ทันไปชั่วขณะ จับประเด็นไปตามสัญชาตญาณ “ไม่ถูกสิ! ในเมื่อคุณรู้สึกผิด ในเมื่อรู้ความจริงแล้ว ทำไมไม่บอกสามีภรรยาสกุลเย่? ด้วยระดับความรักที่พวกเขาสามีภรรยามีต่อลูก ถ้ารู้ว่าฉันเป็นลูกสาวของพวกเขา ตามเหตุผลแล้ว น่าจะมารับฉันกลับไปไม่ใช่เหรอ? คงไม่ปล่อยให้อยู่ในค่ายฝึกนักฆ่าที่สถานการณ์ลุ่มๆ ดอนๆ หรอก…”
คำถามของเธอถามได้เฉียบแหลมและคมชัดมาก หลงซือเย่หลุบตาถอนหายใจ “ขอโทษด้วย!”
แต่พอกู้ซีจิ่วถามประโยคนี้จบก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอเคยขายชีวิตให้กลุ่มตระกูเย่ ทราบว่าสามีภรรยาสกุลเย่ใช้ชีวิตทั้งด้านมืดและด้านสว่าง แถมยังใจดำอำมหิตกับผู้อื่นยิ่งนัก ขัดเคืองเล็กน้อยก็ต้องเอาคืน และไม่เคยไว้ชีวิตใคร
ถ้าตอนนั้นหลงซีพูดความจริงออกไป กู้ซีจิ่วอาจถูกรับตัวกลับไปใช้ชีวิตเป็นคุณหนูใหญ่ที่เธอสมควรได้รับ แต่หลงซีรวมถึงนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้น ตลอดจน ‘เย่หงเฟิง’ ร่างโคลนนิ่งคนนั้นจะไม่รอดชีวิตสักราย แม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ทุกคนที่เข้าร่วมการวิจัยในตอนนั้นก็จะถูกลอบสังหารทั้งสิ้น!
นั่นเป็นชีวิตคนหลายสิบชีวิต…
ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในการพูดความจริงนั้นมากเกินไป มากจนหลงซีในเวลานั้นรับผิดชอบไม่ไหว ดังนั้นต่อให้เขาสำนึกผิดก็ทำได้เพียงเลือกให้เรื่องที่ผิดพลาดไปแล้ว ผิดพลาดต่อไป…
กู้ซีจิ่วเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงปล่อยให้เรื่องที่ผิดพลาดไปแล้ว ผิดพลาดต่อไป แต่เธอยังไม่เข้าใจอยู่ข้อหนึ่ง…