Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 837

บทที่ 837 มองว่าตัวเขาเองคือตัวเอกชายที่ทะลุมิติ

“ส่วนที่เขายังสามารถลุกขึ้นมาบงการคนพวกนั้นได้ อาจเป็นเพราะอวิ๋นชิงหลัว ยังไงซะนั่นก็เป็นหุ่นเชิดของนาง นางควบคุมได้ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว”

กู้ซีจิ่วเอ่ยว่า “ไม่ง่ายดายขนาดนั้นน่ะสิ! อวิ๋นชิงหลัวเป็นปรมาจารย์หุ่นเชิดคือเรื่องจริง แต่หุ่นชุดเขียวพวกนั้นเห็นกันอยู่ชัดๆ ว่านางควบคุมไม่ได้ เมื่อกี้ตอนที่คนชุดม่วงคนนั้นลุกพรวดขึ้นมาคือการควบคุมหุ่นตายโดยตรง! ดวงวิญญาณของเขาน่าจะยังไม่ตาย!”

หลงซือเย่พยักหน้ามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน “ซีจิ่วเธอวิเคราะห์ถูกแล้ว…”

เขามองลงไปข้างล่างแวบหนึ่ง “เพียงแต่เขาหล่นลงไปในลาวาแล้ว ลาวานั้นผสมอาคมไว้ ดวงวิญญาณของเขาน่าจะแตกสลายไปแล้ว”

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรอีก เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าไม่ได้ง่ายดายปานนั้น…

เพียงแต่โชคดีที่ตี้ฝูอีสาวตัวผู้ที่บงการทุกอย่างออกมาได้แล้ว งานใหญ่ของพวกเขาก็นับว่าลุล่วงแล้ว

เธอมองลงไปข้างล่างอีกครั้ง ยามนี้หุ่นชุดเขียวทั้งหมดหล่นลงไปในลาวาจนสิ้นแล้ว หายลับไปไม่เห็นเงา สรุปแล้วหุ่นตายพวกนี้มาจากไหนกันนะ?

คนที่บงการอยู่เบื้องหลังคือปรมาจารย์กู่จริงๆ น่ะหรือ?

ดวงวิญญาณเขาแตกดับไปแล้วจริงๆ น่ะหรือ?

นึกไม่ถึงว่าเขาจะทะลุมิติมาด้วยเหมือนกัน แถมยังทะเยอทะยานมากขนาดนี้!

ชาติก่อนกู้ซีจิ่วก็อ่านนิยายแนวพระเอกทะลุมิติมาไม่น้อย บุรุษทรงพลัง ตัวเอกชายที่ทะลุมิติเหล่านั้นล้วนชอบไปโผล่ในโลกประหลาดต่อสู้แย่งชิงใต้หล้า สุดท้ายก็จะกลายเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองโลกใบนั้น ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือตัวเอกชายที่ทะลุมาพวกนั้นสามารถข้ามไปยังดาวอื่นได้ สุดท้ายก็จะรวบรวมทั้งจักรวาลให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน สร้างฮาเร็ม มีสาวงามล้นเหลือ มีศิษย์พี่ศิษย์น้องมากมายปานดวงดาว

ดูเหมือนปรมาจารย์กู่ผู้นั้นจะมองว่าตัวเขาเองคือตัวเอกชายที่ทะลุมิติไปแล้ว ดังนั้นจึงคิดจะแทนที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี ไม่แน่อาจคิดจะแทนที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วย…

แต่น่าเสียดายที่เขาประเมินภูมิปัญญาของคนโบราณผิดไป โดยเฉพาะการประเมินสติปัญญาของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโรคจิตคนนี้ผิดไป ผลสุดท้ายคือ ถูกเขาเล่นงานอย่างสิ้นเชิง!

ในเมื่อคนผู้นี้สามารถสิงสู่ร่างหุ่นได้ตามใจ ก็ต้องสามารถสิงสู่ร่างผู้อื่นได้เหมือนกัน เขาตายอย่างง่ายดายปานนั้นจริงๆ หรือ?

“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หุ่นตายเหล่านี้คือผู้ใด? ท่านมองออกหรือไม่?” กู่ฉานโม่ซักถามตี้ฝูอีอย่างอดไม่ได้

ตี้ฝูอีเอ่ยเรียบๆ ว่า “น่าจะเป็นนายพรานของอาณาจักรเฟยซิงที่ถูกสังหารล้างตำบลเหล่านั้น”

กู่ฉานโม่ตะลึงงัน ขมวดคิ้วแล้วกล่าวขึ้นว่า “หุ่นตายเหล่านี้คือชาวบ้านทั่วไปหรือ? ชาวบ้านทั่วไปก็สามารถนำมาหลอมสร้างเป็นหุ่นตายที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้ ดูเหมือนวิชาอัปมงคลนี้จะร้ายกาจมากจริงๆ! โชคดีที่ผู้เป็นหัวหน้าตายไปแล้ว มิเช่นนั้นเกรงว่าเขาคงใช้ประโยชน์จากหุ่นตายเหล่านี้ทำให้แผ่นดินนี้นองเลือด เช่นนั้นคงย่ำแย่เหลือคณา!”

ตี้ฝูอีไม่พูดอะไร

กู่ฉานโม่กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หุ่นเหล่านี้ล้วนเป็นชาวบ้านธรรมดา เช่นนั้นก็บริสุทธิ์ไร้ความผิดอย่างยิ่ง ช่วยส่งวิญญาณได้หรือไม่?”

ในที่สุดตี้ฝูอีก็มองไปทางหลงซือเย่ “เจ้าสำนักหลงว่าอย่างไร?”

หลงซือเย่ยิ้มขื่นแล้วเอ่ยตอบ “หุ่นตายไม่มีดวงวิญญาณ ไม่อาจส่งวิญญาณได้”

ทันใดนั้นตี้ฝูอีก็ยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มนี้ของเขาค่อนข้างน่าพิศวง หลงซือเย่ถูกรอยยิ้มของเขาทำให้ขนลุก “ท่านยิ้มทำไม?”

ตี้ฝูอีเอ่ยถาม “เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือว่าพวกเขาคือหุ่นตาย?”

หลงซือเย่ผงะ “มิใช่หุ่นตายแล้วคืออะไร?”

ตี้ฝูอีมองลงไปด้านล่างแวบหนึ่ง อันที่จริง ด้านล่างคือค่ายกลขนาดใหญ่ ยามนี้คนชุดเขียวเหล่านั้นร่วงหล่นลงไปในลาวาจนสิ้นสลายเป็นควันไปหมดแล้ว ค่ายกลเหล่านั้นจึงเริ่มกลับสู่สภาพเดิมด้วยตัวเอง ลาวาจมลึกลงไป ผืนดินพลิกกลับมา จากนั้นสนามหญ้าก็แผ่คลุมใหม่อีกครั้ง…

ด้านล่างกลับ สภาพปกติแล้ว ศาลาหลังน้อยกลางสายนํ้า ทุ่งหญ้าเหยียดยาววิหคโบยบิน ผู้ใดเล่าจะคาดถึงว่าที่นี่เคยเกิดศึกใหญ่ขึ้น?

ผู้ใดเล่าจะคาดถึงว่าด้านล่างนี้เพิ่งกลบฝังผู้คนไว้นับพัน?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!