Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 847

บทที่ 847 บำเพ็ญถึงขั้นทารกก่อกำเนิดแล้ว

เชียนเยวี่ยหร่านกล่าวว่า “ได้ยินมาว่ามีคนโจมตีสำนักสึกษาชุมนุมสวรรค์มิใช่หรือ? แถมยังได้ยินว่าพี่ตี้ถูกผู้อื่นซ้อมจนเลือดอาบ ดังนั้นจึงรีบรุดมาเยี่ยมเยือน มาปลอบขวัญพี่ตี้”

หลงซือเย่ไร้ซึ่งวาจา “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไหนเลยจะถูกซ้อมได้ง่ายดายปานนั้น? ยามนั้นเขาแสร้งเล่นละคร บนร่างติดถุงโลหิตไว้ตบตาผู้อื่น เท่านั้น”

ฮวาอู๋เหยียนคล้ายจะโล่งอก เอ่ยอย่างอ่อนหวาน “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ข้าว่าแล้ว วรยุทธ์เยี่ยงนี้ของพี่ตี้จะถูกผู้อื่นเล่นงานซ้อมได้อย่างไร ถ้าเป็นเขาซ้อมคนอื่นจนเลือดอาบยังพอว่า…”

เมื่อกล่าวประโยคนี้จบนางยัง คงไม่วางใจอยู่บ้าง เอ่ยถามหลงซือเย่ “ใช่แล้วพี่หลง ท่านเป็นวิชาแพทย์ ช่วยจับชีพจรให้พี่ตี้ได้หรือไม่?”

หลงซือเย่นิ่งไปครู่หนึ่ง “นี่…พี่ตี้ไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด น่าจะไม่จำเป็นต้องรับการรักษาจากข้า…”

ฮวาอู๋เหยียนขมวดคิ้วนิดๆ “ท่านไม่ได้จับชีพจรให้เขาแล้วทราบได้อย่างไรว่าจะไม่บาดเจ็บ…”

พูดยังไม่ทันจบก็ถูกตี้ฝูอีตัดบทด้วยเสียงเนิบๆ “ข้าไม่ได้บาดเจ็บ ไม่ต้องเป็นห่วงข้า คนผู้นั้นจิตใจทะเยอทยานยิ่งนัก ตอนนี้พวกเจ้าควรเป็นห่วงตัวเองถึงจะถูก”

หลงซือเย่ตะลึงงัน “ตัวการผู้นั้้นตายไปแล้วมิใช่หรือ?”

ตี้ฝูอียิ้มบางๆ “เขาไหนเลยจะสิ้นชีพง่ายดายปานนั้น? สิ่งที่ตายมีเพียงหุ่นเชิดตัวนั้นเท่านั้น! หากข้าเดาไม่ผิดละก็ วิญญาณของคนผู้นั้นเพียงบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น ยังสามารถหยิบยืมร่างผู้อื่นเพื่อฟื้นคืนชีพได้อีก เป้าหมายของเขาน่าจะเป็นสานุศิษย์สวรรค์ ช่วงนี้พวกเจ้าระวังตัวหน่อย อย่าให้ผู้อื่นช่วงชิงสังขารไปได้! ยังมีอีก คนที่ลอบโจมตีสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ น่าจะมิใช่ตัวหัวหน้า เขาน่าจะเป็นหนึ่งในมันสมองของพรรคลึกลับนี้ แต่คงไม่ใช่ตัวการที่ใหญ่ที่สุด ยามนี้ผู้ที่เรียกว่าปรมาจารย์กู่เสียเปรียบสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ครั้งใหญ่ และนับว่าเป็นการมอบคำเตือน ให้พรรคลึกลับนั้นด้วย พวกเขาน่าจะไม่พุ่งเป้าไปที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ชั่วคราว แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นหนึ่งในพวกเจ้า”

ฝูงชนเงียบงัน …

หลงซือเย่ขมวดคิ้ว “เพลิงโลกันต์ใต้กับดักวันนั้นมิใช่หลอมมาจากเตโชกสิณหรอกหรือ? เตโชกสิณสามารถเผาผลาญภูตผีปีศาจทั้งปวงได้มิใช่หรือ?”

ตี้ฝูอีเอ่ยเรียบๆ ว่า “เพลิงนั้นผลาญได้เพียงภูตผีปีศาจธรรมดาเท่านั้น ถ้าชั่วร้ายเกินไปก็ไม่ได้ผล พื้นฐานวิญญาณของปรมาจารย์กู่ผู้นั้นบำเพ็ญถึงขั้นทารกก่อกำเนิดแล้ว เตโชกสิณทำลายเขาไม่ได้”

ฮวาอู๋เหยียนเอ่ยสอดขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าสิ่งที่โจมตีสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์คราวนี้คือหุ่นตายกลุ่มหนึ่ง…จำนวนนับพันตน…”

“พวกมันมิใช่หุ่นตายเท่านั้น น่าจะถูกวางกู่ด้วย เมื่อเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติสองประการนี้ในคราวเดียวกัน ดังนั้นกระบวนท่าที่พวกมันสำแดงจึง พิสดารนัก ทำให้คนยากจะป้องกันได้ หากมิใช่ซีจิ่วบอกให้ใช้ไฟโจมตี จัดวางกับดักเพลิงชำระล้างนั้นไว้ล่วงหน้า เกรงว่าคงไม่มีทางรับมือพวกมัน ได้ง่ายดายปานนี้”

ฮวาอู๋เหยียนเงียบไปพักหนึ่ง “ซีจิ่ว? ใช่กู้ซีจิ่ว ศิษย์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นหรือไม่? ที่แท้นางก็เข้าสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ด้วย ซํ้ายังสามารถคิดแผนการเช่นนี้ออกมาได้… ”

เชียนเยวี่ยหร่านก็ประหลาดใจมากเช่นกัน “สาวน้อยจอมแก่นผู้นั้น ปฏิกิริยาตอบสนองว่องไวนัก นึกไม่ถึงว่านางจะรู้มากถึงเพียงนี้ บางทีพวกเราสองคนก็ควรไปเยี่ยมนางที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ด้วย เป็นเด็กสาวร่างเล็ก ทว่าความสามารถยิ่งใหญ่นัก…ไม่รู้ว่ายามนี้จะเติบโตมาเป็นอย่างไรแล้ว”

หลงซือเย่พูดไม่ออก

มุมปากตี้ฝูอีพลันโค้งขึ้นนิดๆ “เมื่อครู่ก็ได้พบแล้วมิใช่หรือ?”

ฮวาอู๋เหยียนใจเต้นแวบหนึ่ง นางเป็นสตรี ประสาทสัมผัสของสตรีเฉียบไวตามธรรมชาติ

เมื่อครู่ย่ามที่นางเห็นกู้ซีจิ่วกับหลานไว่หูถึงแม้ประลาดใจในความงามของพวกนาง แต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ กลับนึกไม่ถึงว่าเด็กสาวหนึ่งในนั้นจะเป็นกู้ซีจิ่วที่ลือกันว่าเคยมีสัญญาหมั้นหมายกับตี้ฝูอี!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!