Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 908

บทที่ 908 เจ้าแสร้งไขสือ!

ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะหมดคำพูดกับการกระทำเช่นนี้ของเขา แต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่น อันที่จริงบางครั้งตี้ฝูอีก็มีนิสัยเด็กน้อยอย่างยิ่ง ทำให้เธอรู้สึกว่าน่ารัก มากอยากจะกอดเขาเหลือเกิน…

เธอเป็นคนคิดแล้วลงมือทำทันทีคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เธอจึงกอดเขา…สอดมือคล้องแขนเขาไว้ ควงแขนเขาเดินเหมือนเหล่าคู่รักมากมายในยุคปัจจุบัน…

ถึงอย่างไรผู้คนในยุคนี้ก็ยังหัวโบราณอยู่บ้าง บนถนนถึงแม้จะมีคู่รักอยู่ไม่น้อย แต่ทุกคนมากสุดก็แค่จูงมือกันเท่านั้น ส่วนมากจะเดินหนึ่งนำหนึ่งตามหรือไม่ก็เดินเคียงกัน

ชาติก่อนตอนที่กู้ซีจิ่วกับหลงซีเดินเที่ยวอย่างมากก็แค่จับมือกัน แถมยังรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยด้วย…

แต่ตอนนี้ยามที่เธอเดินควงแขนตี้ฝูอี คาดไม่ถึงว่าจะรู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเองมาก ราวกับทำไปตามธรรมชาติ

ตี้ฝูอีย่อมไม่ขัดขืนการกระทำเช่นนี้ของเธอ เขาดีใจมากด้วยซํ้า

ยามที่กู้ซีจิ่วเริ่มกอดแขนเขา เขายังรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยถูกผู้ใดกอดไว้เช่นนี้มาก่อน แต่ความสามารถในการปรับตัว ของเขากล้าแกร่ง ปรับตัวได้รวดเร็วยิ่ง ถึงขั้นกลายเป็นความเคยชินไปในทันทีด้วยซํ้า

ยามที่กู้ซีจิ่วง่วนอยู่กับการซื้อของหน้าแผงลอยจะปล่อยแขนของเขาหยิบจับเลือกสรรอยู่ตรงนั้น บางครั้งพอออกมาแล้วเธอก็ลืมว่าต้องควงแขนเขาต่อ เขาก็จะดึงเธอมาอยู่ข้างกายตน จากนั้นก็ยื่นแขนให้เธอคล้องอีกครั้ง…

“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านปรับตัวได้เร็วไปหรือเปล่า?” กู้ซีจิ่วหยอกเขายิ้มๆ

“เปลี่ยนคำเรียกขานข้า” ตี้ฝูอีลูบมือเธอ

“ตี้ฝูอี?”

“เรียกชื่อพ่วงแซ่ ห่างเหินเกินไปแล้ว!” ตี้ฝูอีไม่พอใจ

“ฝูอี?”

ตี้ฝูอีพอใจขึ้นมาหน่อย “ข้ารู้สึกว่าโดยพื้นฐานแล้วเจ้ายังสามารถเติมอีกสองคำลงไปในสองถ้อยคำนี้ได้นะ…”

อย่างเช่น ‘ท่านพี่ฝูอี’ ทำนองนั้น ดูเหมือนคู่รักในยุคนี้มักจะเรียกขานกันเช่นนี้

กู้ซีจิ่วใคร่ครวญหาถ้อยคำมาต่อเติมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลองเติมดู “ท่านปู่ฝูอี?”

สีหน้าตี้ฝูอีมืดครึ้ม “ว่าไงนะ?!”

“ไม่ชอบที่ข้าเรียกท่านแก่ไปหรือ? ถ้างั้นเป็นท่านลุงฝูอีดีไหม?” กู้ซีจิ่วลดลำดับเขาลงหนึ่งรุ่น ตี้ฝูอีมองเธอด้วยท่าทียิ้มมิเชิงยิ้ม “เจ้าแสร้งไขสือ!”

ดวงตาเขาทอแววอันตราย กู้ซีจิ่วหัวเราะออกว่าอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ กระซิบข้างหูเขา “ท่านอยากให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่หรือ?”

นํ้าเสียงนางแฝงเสน่ห์ดึงดูดไว้เล็กน้อย ราวกับมีตะขอน้อยๆ ไว้เกี่ยวหัวใจคนให้คันยุบยิบ ลมหายใจของนางอุ่นร้อน เป่ารดเข้าไปในหูเขา ทำให้หัวใจเขาปั่นป่วนขึ้นมาทันที จึงดึงนางเข้ามาจุมพิตริมฝีปากนางเร็วๆ ทีหนึ่ง “ตอบถูกแล้ว!”

พวกเขาเดินหัวเราะหยอกล้อกัน พ่อค้าเล็กๆ รายหนึ่งมาสกัดทางพวกเขาไว้ พ่อค้ารายนั้นขายเครื่องประดับหยก ในมือเขาถือหยกประดับทรงนัยน์ตาจิ้งจอกชิ้นหนึ่งไว้พูดโฆษณาสุดกำลัง “พี่ชายน้อยท่านนี้รูปโฉมหล่อเหลาปานนี้ หากสวมหยกประดับชิ้นนี้เข้าไปจะดูสง่างามยิ่งขึ้นนะขอรับ!”

ตี้ฝูอีเหลือบมองหยกประดับชิ้นนั้นแวบหนึ่ง ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของเขาย่อมมองออกว่าหยกชิ้นนี้คุณภาพต่ำ เพียงแต่เขารู้สึกว่ารูปทรงของหยกชิ้นนี้ค่อนข้างคุ้นตาอยู่บ้าง…

เขาอดไม่ได้ที่จะลูบแถบแพรนัยน์ตาจิ้งจอกบนหน้าผากตน ถึงเขาจะแปลงโฉมแล้ว แต่ไม่ได้ปลดแถบแพรคาดหน้าผากผืนนี้ออก เพียงใช้เวทวิชาบดบังประกายของมันไว้ ยามนี้ยังอยู่ดีบนหน้าผากของเขา

พ่อค้ารายนั้นก็สังเกตเห็นแถบแพรบนศีรษะเขาเช่นกัน สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “พี่ชายน้อยท่านนี้ ท่านกล้าสวมแถบแพรลักษณะเช่นนี้ได้อย่างไร?! รีบปลดออกซะ! รีบปลดลงมา! ท่านไม่รักชีวิตแล้วหรือ?!”

ตี้ฝูอีเลิกคิ้วขึ้น เขาค่อนข้างงุนงงอย่างที่พบเห็นได้ยาก “ทำไมล่ะ?”

“ผู้น้อยทราบว่าท่านอยากเลียนอย่างท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อืม รูปโฉมของพี่ชายน้อยก็พอเทียบเคียงกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายได้นิดหน่อย แต่ท่านไม่มีทางเทียบกับเขาได้หรอก…”

——————————————————————

[1] ดอกเสาเย่า ดอกของพืชชนิดนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับดอกโบตั๋นมาก ออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคม มีสีม่วงอมแดง ขาวอมแดง และสีขาว รากใช้เป็นยาสมุนไพร มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวด ทำให้เลือดลมเดินสะดวก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!