Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1071

บทที่ 1071 รับมือกับเขาต่อไป

และในยามนี้เอง แสงสีขาวที่ฝ่ามือของตี้ฝูอีได้ครอบลงบนกระหม่อมนางแล้ว นัยน์ตานางฉายแววหวาดหวั่น สำแสงสีขาวเสมือนก่อตัวเป็นคมมีดสายหนึ่งที่แทงเข้าสู่กระหม่อมนางโดยตรง!

ขณะนี้กู้ซีจิ่วรู้สึกเพียงว่าตรงกระหม่อมคล้ายถูกตะปูยาวเล่มหนึ่งแทงเข้าไป ‘ตะปู’ เล่มนั้นแทงลึกลงสู่สมองของเธอ จากนั้นก็แล่นพล่านอยู่ด้านในไม่หยุด แล่นไปถึงตรงไหน ตรงนั้นราวกับถูกผ่าออกทั้งที่ยังเป็นๆ อยู่ทั้งสิ้น!

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะได้รับการฝึกฝนด้านความอดทนมาแล้ว แต่ยังไม่เคยประสบพบพานความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อนเลย!

การแล่เนื้อเถือกระดูกก็ยังไม่ถึงเพียงนี้เลย!

เธอหน้าซีดเผือด ตอนแรกยังพอทนได้ แต่ทนได้ไม่ถึงครึ่งนาทีก็ทนไม่ไหวร้องครวญครางออกมา หยาดเหงื่อหยดย้อยลงมา

“จ…เจ็บ…เจ็บ…ไม่เอาแล้ว …”

ลำคอที่แหบแห้งยิ่งนักของเธอเริ่มเปล่งเสียงออกมาได้แล้ว เธอคิดจะดิ้นรนคิดจะหลีกหนี แต่ลำแสงสีขาวของตีฝู้อีไม่เพียงแต่ทำให้เธอเจ็บปวดทรมาน ยังมีคุณสมบัติในการสะกดร่างเธอไว้ด้วย เธอขยับเขยื้อนไม่ได้เลย ทำได้เพียงทนทรมานอยู่ตรงนั้น เกรงว่าการปีนภูเขาดาบลงกระทะทองแดงของนรกขุมที่สิบแปดยังจะดีกว่านี้อีก นี่มันใช่เจ็บนิดหน่อยอย่างที่เขาว่าเสียที่ไหน?

นี่มันเจ็บจนทำให้คนเสียใจที่กำเนิดออกมาชัดๆ!

แทบจะเข้าโลงได้ทุกเมื่อ!

ดวงตาของตี้ฝูอีมองดูนาง ไม่หยุดแสงสีขาวที่ฝ่ามือ ซํ้ายังไม่ลืมที่จะเอ่ยปลอบใจนาง “ดูสิ ถึงแม้วิธีรักษาของข้าจะทำให้เจ้าเจ็บปวดไปบ้าง แต่กลับรักษาไม่มีเสียงของเจ้าหายแล้ว แถมยังมีประสิทธิภาพมากด้วย”

กู้ซีจิ่วเจ็บจนแทบสิ้นสติแล้ว!

เจ็บจนอยากแยกวิญญาณออกมาจากร่างโดยไม่แยแสสิ่งใดทั้งนั้น!

ถึงแม้เธอจะขยับไม่ได้ แต่ทั้งร่างกลับสั่นสะท้านปานเป็นไข้จับสั่น ในที่สุดก็ฝืนกล่าวประโยคหนึ่งออกมาจนจบได้ “ย…หยุดมือ! ข้า…ข้าไม่ต้อง…ไม่ต้องการให้เจ้ารักษา…ไม่เอาแล้ว!”

นางเจ็บจนโทนเสียงเปลี่ยนแล้ว ประโยคที่กล่าวออกมาไม่พียงแต่ติดอ่างเท่านั้น ยังโหยหวนปานเสียงคร่ำครวญของภูตผีอีกด้วย

ตี้ฝูอีเอ่ยด้วยนํ้าเสียงอ่อนโยน “ดูสิ เจ้าพูดติดกันเป็นประโยคได้แล้ว ได้ผลมากจริงๆ”

กู้ซีจิ่วร้อนรนแล้ว “เหยียนนั่ว[1]…เจ้าอย่า…อย่าทำเช่นนี้โดยพลการ พาข้าไปหาท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เขา…เขาจะต้องมีวิธีอื่นแน่”

ตี้ฝูอีมองนางครู่หนึ่ง ในที่สุดก็หยุดมือ

วิธีรักษาเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าสิ้นเปลืองพลังวิญญาณของเขายิ่งนัก สีหน้าของเขาจึงดูซีดขาวอยู่บ้างเช่นกัน เขาถอนหายใจคราหนึ่ง “อันที่จริง ข้าก็ทราบเช่นกันว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีฝีมือ แต่ตอนนี้มิใช่ว่าติดต่อเขาไม่ได้ชั่วขณะหรอกหรือ? แถมเจ้ายังอาการสาหัสไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายได้ ข้าจึงทำได้เพียงลองพยายามดูอย่างสุดความสามารถ ความจริงการทำเช่นนี้ก็สิ้นเปลืองพลังวิญญาณของข้ามากเช่นกัน…”

กู้ซีจิ่วหวาดผวาว่าเขาจะลงมืออีกครั้ง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้า…รู้แล้ว…ว่าเจ้าหวังดี เมื่อกลับไปพบฝูอี…จะต้องกล่าวถึงคุณงามความดีของเจ้าสักหลายประโยคแน่นอน เจ้า…ให้ข้า…พักผ่อนเพียงลำพังสักครู่เถิด พักผ่อนสักครู่อาจจะ…ดีขึ้น”

ตี้ฝูอีพยักหน้าเล็กน้อย หยิบโอสถขวดหนึ่งออกมาจากร่างตน เทยาลูกกลอนออกมาจากขวดเม็ดหนึ่งให้นางกลืนลงไป “กินเข้าไปสิ มีประโยชน์ต่อร่างกายเจ้า”

ยามนี้กู้ซีจิ่วย่อมขัดขืนไม่ได้ คาดว่าเขาคงไม่ทำร้ายตน จึงกลินยาเม็ดนั้นลงไป

“ยานี้ช่วยบำรุงได้ดียิ่ง ทำให้บาดแผลเจ้าสมานเร็วขึ้นเพียงแต่จะเจ็บปวดเล็กน้อย เจ้าทนไปสักระยะเดี๋ยวค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว” ตี้ฝูอีลุกขึ้นยืน พลางเอ่ยถึงสรรพคุณของโอสถชนิดนี้ด้วย

เหตุนี้สีหน้าที่เพิ่งมีสีเลือดขึ้นมาเล็กน้อยของนางจึงซีดเผือดลงอีกครา…

“เจ้าพักฟื้นให้ดีก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินดูข้างนอก ถือโอกาสเก็บเกี่ยวตัวยาอย่างหนึ่งมาให้เจ้าด้วย เจ้าอย่าได้ขยับเขยื้อนวุ่นวาย รออยู่ที่นี่” เขากำชับนางอีกหลายประโยค แล้วหันหลังเดินออกไปด้านนอก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!