บทที่ 1150 เป็นไปไม่ได้! เจ้าหลอกลวงผู้อื่น!
ตอนที่พบกันครั้งแรก ตี้ฝูอีพยายามเล่าอดดีของนางให้ฟังแล้ว ผลคือเด็กสาวผู้นี้กลับบอกว่านางไม่มีอดีต เป็นมนุษย์โคลนนิ่ง ซํ้ายังบอกว่าเขาใจคดคิดมิซื่อ คิดจะกุเรื่องมาหลอกนาง…
ยามนี้ในที่สุดนางก็เริ่มเชื่อเขาแล้วสินะ?
กู้ซีจิ่วค่อนข้างสับสนเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าโม่เจ้าคงไม่หลอกเธอ แต่จิตใต้สำนึกกลับรู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไว้ใจได้ ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “จะฟังสักหน่อยเท่านั้น เจ้าลองเล่ามาก่อนสิ”
นึกไม่ถึงว่าตี้ฝูอีกลับไม่เล่าแล้ว “ข้ารู้สึกว่าเจ้าหาคำตอบด้วยตัวเองจะดีกว่า”
เรื่องราวของนางถึงจะเล่าอย่างน่าตื่นเต้นไปมากมายสักเพียงไหน นางก็ไม่มีความรู้สึกร่วมอยู่ดี มิสู้ให้นางค้นหาด้วยตัวเองฟื้นฟูด้วยตัวเอง…
กู้ซีจิ่วชักจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว “แต่ถ้าข้าค้นหาข้าจะปวดหัว เพียงนึกแวบเดียวก็ปวดหัวแล้ว! ช่างเถอะ เจ้าไม่เล่าก็แล้วไป ถึงเจ้าเล่าก็ไม่แน่ว่าข้าจะเชื่อ ถ้าหากสิ่งที่เจ้าเล่าเป็นความจริง เช่นนั้นสิ่งพี่โม่พูดก็จะเป็นเรื่องโกหก…”
ตอนนี้คนเดียวก็ที่เธอเชื่อใจก็คือโม่เจ้า หากทุกอย่างที่เขาพูดมาเป็นเรื่องโกหก…เช่นนั้นโลกใบน้อยของเธออาจจะพังทลาย เธอจึงต่อต้านตามสัญชาตญาณ
พี่โม่…
ตี้ฝูอีกำหมัดเงียบๆ ทุกครั้งที่ได้ยินสองคำนี้จากปากนางเขาก็อยากทุบคน เขารำคาญสองคำนี้!
เขาไม่พูดไม่จา นั่งอยู่ตรงนั้น
กู้ซีจิ่วคอยอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริงเธอยังคาดหวังให้เขาพูดสักหน่อย ผลคือ เขาไม่พูดเลยจริงๆ นี่ทำให้เธอโมโหอยู่บ้าง ริมฝากเล็กเม้มเข้าหากัน หลังจากย่างปลาสุกแล้วก็ไม่มอบให้เขา เป่าเองอยู่ตรงนั้น…
ตี้ฝูอียืดกายขึ้นยื่นมือไปหาเธอ “ย่างสุกแล้วหรือ? ให้ข้าได้ไหม? หิวจะตายแล้ว!”
กู้ซีจิ่วแกว่งปลาในมือ ไม่ได้ยื่นใส่มือเขา “เจ้าต้องโอ๋ให้ข้ามีความสุขก่อนแล้วจะมอบปลาตัวนี้ให้เจ้า”
“โอ้ เช่นนั้นต้องโอ๋อย่างไรเจ้าถึงจะมีความสุข?”
“เจ้าเล่าสิ่งที่เรียกว่าอดีดของข้ามาสักหน่อยดีหรือไม่?”
ตี้ฝูอีส่ายศีรษะอย่างแน่วแน่ “ไม่เล่า! เจ้าคิดเอาเองสิ!”
กู้ซีจิ่วโกรธแล้ว “ถ้าไม่เล่าปลาตัวนี้ก็ไม่ให้เจ้ากินแล้ว!”
ตี้ฝูอีมองปลาในมือเธอ จากนั้นก็มองเธอ “ข้าบอกแล้วไง ถ้าเจ้าไม่นึกให้ออกด้วยตัวเองเล่าไปก็ความทรงจำก็ไม่สลักลึก อีกอย่างเจ้าก็ไม่เชื่อข้าด้วย ข้าไม่อยากเปลืองนํ้าลาย แต่ตอนนี้ข้าทั้งหิวทั้งกระหาย…”
กู้ซีจิ่วแย้งเขา “เจ้าไม่เล่าแล้วรู้ได้ยังไงว่าความทรงจำข้าจะไม่สลักลึก? ไม่แน่พอเจ้าเล่าข้าอาจจะนึกออกเลยก็ได้นะ?”
ตี้ฝูอีชะงักไปครู่หนึ่ง “หากข้าบอกว่าพี่โม่ของเจ้าคือคนที่ทำร้ายเจ้า เขาวางแผนทำให้เจ้าเสียความทรงจำเจ้าเชื่อหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน ตอบโต้ไปตามสัญชาตญาณ “เป็นไปไม่ได้! เจ้าหลอกลวงผู้อื่น!”
ตี้ฝูอีแบมือออก “ดังนั้นข้าจึงไม่มีอะไรจะพูด”
กู้ซีจิ่วเงียบไป เพลิงโทสะเธอโหมขึ้นมาอย่างน่าประหลาด “เจ้ายุแยงตะแคงรั่ว ปลาตัวนี้ข้าไม่ให้เจ้ากินแล้ว!”
พลางกัดเองคำโต
ตี้ฝูอีเงียบไปแล้ว
อันที่จริงกู้ซีจิ่วแค่ขู่เขา ไม่ได้คิดจะกินปลาตัวนี้จนหมดจริงๆ ดังนั้นหลังจากกัดไปคำหนึ่งก็มองดูเขา เมื่อเห็นใบหน้าและริมฝีปากที่ซีดขาวของเขาในใจพลันปวดร้าวขึ้นมาเล็กน้อย กระแอมคราหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ขอเพียงเจ้าเล่าอดีดที่แท้จริงให้ข้าฟังสักนิด ข้าก็จะยกปลากตัวนี้ให้เจ้า”
ตี้ฝูอีหลุบตายิ้มแวบหนึ่ง ลุกขึ้นทันที ทอดถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง “ช่างเถอะ! ข้าลงไปจับปลาเองก็ได้ ข้าหิวมากจริงๆ และกระหายมากด้วย…”
เรือนกายวูบไหว กระโจนลงไปในทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างทันที
กู้ซีจิ่วตั้งตัวไม่ทัน เธอถือปลาตัวนั้นที่กัดไปแล้วสองคำไว้ค่อนข้างตกตะลึง
ความจริงแล้วเธอไม่หิวสักนิดเลย และไม่ได้อยากกินปลาตัวนี้ด้วย เพียงแค่โมโหเขาเท่านั้น กลับคาดไม่ถึงว่า…
เธอรออยู่ริมฝั่งสักพักแล้ว ก็ไม่เห็นเขาโผล่ขึ้นมา