Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1165

บทที่ 1165 ข้ากับเจ้าสนิทชิดเชื้อกันมากหรือ?

เขามองออกแล้ว ว่าสาเหตุที่ร่างโคลนนิ่งของโม่เจ้ามีปัญหาเช่นนี้ เป็นเพราะเซลล์ประสาทส่วนนี้ถูกทำลาย ยาพวกนั้นที่เขาให้โม่เจ้าใช้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นยาที่ซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ประสาท เพียงแต่เห็นผลค่อนข้างช้าเท่านั้น ดังนั้นจึงยังไม่มีผล ตอนนี้โม่เจ้าเห็นลูกกลอนสามหยางเป็นฟางช่วยชีวิต ซ้ำยังปิดบังเขาให้ผู้อื่นหลอมแทน ไม่เชื่อใจเขาอีกแล้ว เช่นนั้นเขายังต้องทุ่มเทกายใจวิเคราะห์ผายลมอันใดเพื่อเขาอีก!

เห็นเขาว่างมากหรือไง?

อย่างไรก็ตามต่อให้ท่านเจ้าผู้นี้กลายเป็นขันทีไปอย่างสมบูรณ์ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ ยังคงนำพวกเขากรีธาทัพไปทั่วหล้าได้เช่นเดิม ในเมื่อเขารนหาที่ตายเอง แล้วทำไมตนต้องสนใจด้วย?

หลงฟั่นหยุดวิจัยเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง เริ่มย้ายไปวิจัยตัวยาอื่น…

….

กู้ซีจิ่วเข้าสู่ห้วงฝันอีกครั้ง

ความฝันครั้งนี้ในที่สุดก็ไม่มีหมอกหนาที่ปกคลุมจนมองเห็นไม่ชัดเจนอีกต่อไปแล้ว ในที่สุดเธอก็มองเห็นทิวทัศน์ที่กระจายอยู่ประปรายได้เล็กน้อยแล้ว มีขุนเขา มีสายธาร มีบ้านเรือน มีป่าทึบ…

เพียงแต่ทิวทัศน์เหล่านี้ล้วนเป็นดั่งภาพมายาที่แขวนอยู่ปลายขอบฟ้า สลัวเลือนรางมองเห็นไม่ชัดเจน ที่สำคัญ กว่านั้นคือ ทิวทัศน์เหล่านี้มีมากมายเกินไป หน้าหลังซ้ายขวาล้วนมีหมด หมุนวนอยู่เบื้องหน้าประหนึ่งกล้องสลับลาย เธอยืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าตนควรไปทางไหนชั่วขณะ

ไม่รู้ว่าตี้ฝูอีที่อยู่เป็นเพื่อนเธอเสมอคนนั้นจะมาไหมนะ?

เธอเข้าสู่ความฝันนานถึงเพียงนี้แล้ว ก็ยังไม่เห็นเงาเขาเลย ในความฝันครั้งก่อนเขากระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วโม่โผล่ออกมาอีกเลย ไม่รู้ว่าเกิด อุบัติเหตุขึ้นหรือเปล่า…

เธอยืนอยู่ตรงนั้นมองไปรอบๆ ในทิวทัศน์เหล่านั้นล้วนมีร่างคนตะคุ่มๆ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ เพียงแต่มองไม่เห็นคนที่อยู่ด้านในคือใคร เธอควรเดิน ไปทางไหนดีนะ?

หากว่าสิ่งเหล่านี้ซุกซ่อนความทรงจำของเธอไว้ เช่นนั้นความทรงจำไหนกันล่ะที่เธอมุ่งมาดปรารถนาที่สุด?

เงาร่างของตี้ฝูอีผุดขึ้นมาในใจอีกครั้งหากว่าตนถูกผู้อื่นลบความทรงจำไปแล้วจริงๆ เช่นนั้นก่อนจะสูญเสียความทรงจำไปเธอต้องมีความรู้สึกต่อคนผู้นี้แน่นอน ความทรงจำระหว่างเธอกับเขาคืออะไรกัน?

เธอมองทิวทัศน์ที่ละลานตาเหมือนกล้องสลับลายอีกครั้ง ทันใดนั้นสายตาพลันหยุดนิ่งที่ทิศทางหนึ่ง ร่างคนที่ตะคุ่มๆ อยู่ในนั้นคล้ายว่าจะเป็นเงาร่างของตี้ฝูอีที่อยู่ข้างใน…

เธอไม่พูดพรํ่าทำเพลงอันใด รีบสับเท้าวิ่งไปทางทิศนั้นทันที

ใกล้แล้ว ใกล้กว่าเดิมแล้ว

ในที่สุดเธอก็มองเห็นทิวทัศน์ด้านในชัดเจนขึ้นนิดหน่อยแล้ว

ฉากด้านในสับสนวุ่นวายนัก ประเดี๋ยวก็เป็นโรงประมูลที่มีคุณชายน้อยคนหนึ่งประมูลหญ้าต้นหนึ่งได้แล้วมอบเด็กหนุ่มผอมคลํ้า

ประเดี๋ยวก็เป็นเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังคุมตัวโฉมงามที่สวมอาภรณ์แดงตัวใหญ่อยู่ในสระนํ้าร้อน ประเดี๋ยวก็เป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายในชุดม่วงพราวระยับผู้นั้นไล่ล่าเธออย่างไม่ลดละ ลากตัวเธอไปทำการทดสอบอะไรสักอย่าง พอกะพริบตาอีกครั้งก็เห็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้นโยนเธอเข้าไปในป่าทมิฬแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายอย่างไม่ไยดี

ภาพเหล่านี้เหมือนถูกคนก่อกวนจนยุ่งเหยิงแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันอีกครั้ง กู้ซีจิ่วมองจนปวดเศียรเวียนเกล้าแล้ว ตะลึงตะลานไปชั่วขณะ

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคนนี้ดูเหมือนจะไม่ดีต่อเธอยิ่งนัก!

เล่นงานเธออยู่หลายครั้ง ซํ้ายังถอนหมั้นเธอด้วย แถมยังลำเอียงให้สตรีอื่นมาจัดการเธอด้วย…

หัวไหล่ถูกคนตบเบาๆ คราหนึ่ง “เหตุใดไม่วิ่งแล้วล่ะ?”

นํ้าเสียงกระจ่างชัดดึงดูดคุ้นหูยิ่งนัก กู้ซีจิ่วหันหลังไป เห็นตี้ฝูอียืนสง่าอยู่ข้างหลังตน กำลังมองเธอด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวแล้ว!

ในใจกู้ซีจิ่วมีความรู้สึกไม่อาจบรรยายได้ ถอยหลังไปก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ เอียงคอถามประโยคหนึ่ง “เจ้าไม่ได้จมนํ้าตายหรอกหรือ?”

ตี้ฝูอีนิ่งงัน เขาเอ่ยเนิบๆ ว่า “เจ้าหวังให้ข้าจมนํ้าตาย?”

กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าคำถามนี้เลินเล่อไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงกระแอมคราหนึ่ง “ไม่ใช่แน่นอน…เพียงแต่ครั้งก่อนเจ้ากระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย ข้า…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!