Skip to content

Swallowed Star 1249

ตอนที่ 1249 จุดเปลี่ยนของเผ่าพันธุ์มนุษย์

“การเริ่มจากกฎเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และปกติที่สุดในการอธิบาย”

“เริ่มจากอมตะ เราจะเริ่มเรียนรู้จากกฎพื้นฐานบางอย่างเช่นกฎแห่งทอง และอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากเป็นอัศวินจะเปลี่ยนไปเรียนรู้อีกหนึ่งกฎเช่นกฎกาลอวกาศและเวลา”

“เส้นทางแห่งกฎคือการปีนจากต่ำสุดขึ้นมาเสมอ เป้าหมายสูงสุดของกฎคือสิบกฎพื้นฐาน ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม สายฟ้า แสง เวลา กาลอวกาศ เมื่อทำการรวมกันสมบูรณ์จะเป็นกลโกลาหล”

เมื่อหลัวเฟิงพูดถึงตรงนี้ทุกคนได้แสดงออกถึงความตกใจ แม้แต่ผู้สร้างขวานยักษ์ยังลุกขึ้นยืน ตรงข้ามกับที่นั่งขวานยักษ์ที่ว่างเปล่ามีร่างชุดคลุมสีขาวปรากฏขึ้นมา

“เจ้ากำลังพูดถึงกฎโกลาหลงั้นรึ” ในดวงตาของชุดคลุมสีขาวมีประกายตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“อาจารย์ต้นกำเนิด” ขวานยักษ์ตกใจ

“อาจารย์”

ผู้นำเมือง ความมืด ภูเขาน้ำแข็งทั้งตกใจและยินดี พวกเขาแสดงความเคารพทันที ส่วนคนอื่นๆ นั้นตื่นเต้นมากจนพูดโพล่งออกมาว่า “อาจารย์ต้นกำเนิด”

หลัวเฟิงตกใจเมื่อได้เห็นชายชุดคลุมสีขาว นี่คืออาจารย์ต้นกำเนิดที่อยู่ในตำนานหรือไม่

เมื่อคิดถึงจากสิ่งที่พบเพียงอย่างเดียว อาจารย์ต้นกำเนิดเหมือนกับคนธรรมดาที่ชอบเก็บตัว ความรู้สึกสบายๆ ได้อยู่รอบๆ ตัวเขา เขาเป็นเหมือนกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ เขามีความแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่อื่นอย่างสิ้นเชิง

“หลัวเฟิง เจ้าพูดถึงกฎโกลาหลใช่หรือเปล่า” อาจารย์ต้นกำเนิดถามย้ำ

“ครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะกฎโกลาหล เป้าหมายสูงสุดของทุกสิ่งที่จะกลับไปยังต้นกำเนิดคือการเข้าใจกฎโกลาหล ถ้าเราทำ ความเข้าใจกฎโกลาหล พลังของเราจะน่ากลัวยิ่งกว่าสายน้ำวูดูวงคนนั้น กฎโกลาหลในความหมายอื่นคือกฎสูงสุดของกฎพื้นฐานทั้งสิบ เราสามารถใช้มันเพื่อการรวมกันของชุดกฎต่างๆ เช่น ทองกาลอวกาศ ไฟเวลา…”

“เรายังสามารถสร้างเป็นเส้นทางสัตว์เทพทั้งแปด บนเส้นทางสัตว์เทพทั้งแปดยังสามารถรวมเป็นรูปแบบต่างๆ แน่นอนว่าการรวมกันของทองเวลาก็เป็นเช่นเดียวกับเส้นทางทองเวลา…”

หลัวเฟิงกำลังพูด ขวานยักษ์นั้นไม่อาจที่หยุดถามคำถามออกไปไม่ได้ “ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน คือองค์ประกอบหลักทั้งห้า พวกเขาไม่ได้อยู่ในประเภทกาลอวกาศงั้นหรือ พวกเขาผสมกันสมบูรณ์กับเวลาได้อย่างไร”

“ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ เพราะทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นท่ามกลางความโกลาหล มีกฎสามอย่างรวมกัน แม้แต่กฎสี่อย่าง หรือกระทั่งห้าอย่าง…”

หลัวเฟิงส่ายหัว “มันเหมือนกับวัสดุพื้นฐานบางอย่างที่นำมาจากดาวเคราะห์แร่เพื่อสร้างเรือจักรวาล”

“สิบกฎพื้นฐานในที่สุดก็จะกลายเป็นกฎของความโกลาหล ความลึกลับ เทคนิค ประสบการณ์ ความพยายาม ทุกอย่างล้วนยากมากที่จะลอง การก้มหัวให้กับใครหรือพยายามเสี่ยงโชคจะไม่นำไปสู่ความสำเร็จ ใครก็ตามในอารยธรรมโบราณรู้ว่ากฎพื้นฐานจะนำไปสู่กฎความโกลาหล”

“แม้แต่ในสายน้ำวูดูวงที่เหลือให้ผู้สืบทอดเป็นพิเศษ มีการแนะนำมากมายที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนา ช่วยเหลือในการฝึกฝน แต่มันก็ยังยากมากที่เหล่าผู้สืบทอดจะบรรลุกฎความโกลาหล”

หลัวเฟิงที่ได้เห็นมรดกหลัก การฝึกฝนเทพแท้จริงเป็นอย่างไร แล้วมีกี่อย่างย่อมไม่มีใครรู้ มีบางสิ่งบางอย่างได้พูดถึงมันเป็นครั้งคราว บางคนก็มีข้อมูลคร่าวๆ ภายในหินความทรงจำของสายน้ำวูดูวงนั้นได้มีบอกไว้ ไม่มีเพียงหนึ่งที่สำเร็จกฎโกลาหล บรรพบุรุษทั้งสามที่มีอำนาจสูงสุดในสายน้ำวูดูวงที่อยู่บนจุดสูงสุดของอารยธรรมโบราณ เนื่องจากไม่มีแม้แต่หนึ่งในสามของพวกเขา จึงทำให้เห็นถึงระดับการเรียนรู้กฎโกลาหล

หลัวเฟิงพูดเพียงสั้นๆ เกี่ยวกับกฎโกลาหล เขารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขารู้เพียงแค่ความก้าวหน้าของอมตะถึงเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด หลังจากนั้นหลัวเฟิงวิเคราะห์เส้นทางกฎในระดับที่ลึกยิ่งขึ้น

ทุกคนล้วนตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

อาจารย์ต้นกำเนิดเฝ้ามองดูโดยที่ไม่พูดอะไรมาก สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาที่สุดเป็นกฎโกลาหล ส่วนอื่นไม่มีอะไรสำหรับเขาอีกแล้ว เนื่องจากเขาที่ถูกขังเอาไว้ไม่อาจที่จะออกมาได้ เขาเพียงต้องการเติมเต็มความมั่นใจเพื่อกำเนิดใหม่ การที่เขาสามารถที่มั่นใจแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถที่จะก้าวไปไกลเกินกว่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด

หลัวเฟิงได้พูดบางสิ่งที่เป็นเรื่องใหม่ ทำให้เขาสนใจมันอยู่เล็กน้อย สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเขาจริงๆ คือสิ่งที่เพิ่งจะได้ถูกกล่าวถึง นั่นคือเป้าหมายสูงสุดในการควบคุมกฎโกลาหล

ก่อนหน้านี้อาจารย์ต้นกำเนิดสูญเสียหนทางในการเริ่มต้น แต่ตอนนี้เขามีทิศทางแล้ว เขารู้ว่าเขาควรไปในเส้นทางกฎโกลาหลนี้

อาจารย์ต้นกำเนิดมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า หลัวเฟิงกำลังสอนโดยที่เจ้าแห่งจักรวาลคนอื่นๆ ตั้งใจฟัง

อาจารย์ต้นกำเนิดได้ล้ำลึกถึงจนพูดออกมาเบาๆ “เมื่อนานมาแล้ว ข้าได้สั่งสอนเช่นเดียวกับที่เห็นในตอนนี้ ข้าคือคนหนึ่งที่ยกระดับเผ่าพันธุ์มนุษย์จนเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นยอด จนเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญกับโชคชะตา ตอนนี้หลัวเฟิงได้นำภูมิปัญญาณจากอารยธรรมโบราณมา และเขาคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สองของเผ่าพันธุ์มนุษย์ การเปลี่ยนแปลงนี้มีการครอบคลุมที่ใหญ่”

อาจารย์ต้นกำเนิดมีความเข้าใจว่าหลัวเฟิงที่คอยสั่งสอนจากสิ่งที่เรียนรู้มาจะทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ค่อยๆ เปลี่ยนไป จำนวนของอัศวินจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วจะมีเจ้าแห่งจักรวาลเพิ่มขึ้น แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากสิ้นสุดยุคกำเนิด เผ่าพันธุ์มนุษย์อาจกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งมหาสมุทรจักรวาล แข็งแกร่งยิ่งกว่าสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์

อาจารย์ต้นกำเนิดฟังอยู่เงียบๆ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะรอดจากการถูกขังนี้ไปได้หรือไม่ แต่เขายังสามารถเห็นความแข็งแกร่งของมนุษย์ที่ไกลออกไป การสั่งสอนของหลัวเฟิงนี้จะถูกแพร่กระจายไปทั่ว

หลัวเฟิงเริ่มต้นด้วยการใช้คำทั่วไปเพื่อให้เห็นภาพรวมง่ายๆ จากนั้นก็เริ่มทฤษฎีที่สำคัญ ต่อด้วยการอธิบายถึงรายละเอียดของปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎี วิธีการพยายามประสบความสำเร็จเพื่อพัฒนาไปสู่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด

เพียงหัวข้อทฤษฎีเพียงอย่างเดียวหลัวเฟิงใช้เวลาไปเกือบ 3 เดือนจึงจะเสร็จทั้งหมด ถ้าเป็นการเริ่มต้นจากพลังงานอมตะ เขาใช้เวลาไปเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น มันเป็นสิ่งที่ยากแม้แต่กับอารยธรรมโบราณ ข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องจึงมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“สิ่งเหล่านี้เพียงแค่ทฤษฎีแนะนำ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ใช้เวลาไม่นานให้จบ เมื่อข้ากลับมาจากเรือจักรวาล จะนำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิค เพียงแค่เทคนิคก็มีรายละเอียดจนล้น การอธิบายผ่านคำพูดอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ข้าใช้ความทรงจำเพื่อแสดงให้เห็นพวกมันทั้งหมดก็คงเป็นระยะเวลายาวนานมาก”

หลัวเฟิงพึ่งพาหินความทรงจำนวนมากเข้ามาในจิตใจของเขา กระบวนการนี้ยังต้องใช้เวลานานมาก จำนวนของเทคนิคมากมายนี้ใช้เวลาพันยุคก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายมันได้หมด

“ใช้เทคนิคการโจมตีร่วมที่คล้ายกับเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์?”

“บางเทคนิคที่ไม่เหมือนใครใช่ไหม”

“เทคนิคของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดงั้นหรือ?”

ทุกคนกำลังอยากรู้อยากเห็น

หลัวเฟิงส่งเสียงหัวเราะออกมาก่อนพูด “แค่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดงั้นหรือ จากอมตะจนไปถึงระดับขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เทคนิคลับต่างๆ จนไปถึงเทคนิคต่อสู้ แม้ว่าจะพันหรือล้านเทคนิคก็ไม่มีความหมายมากนัก เพราะพวกเขาล้วนมีมากเกินไป”

ก่อนหน้านี้หลัวเฟิงได้ถูกทดสอบก่อนรับมรดก เขาได้เห็นคู่มือดาบทั้งหมด 360 แบบ ตอนนี้เขาคือเจ้าของพื้นที่มรดก เขาได้ครอบครองเทคนิคมากกว่าพันในแต่ละแบบ จำนวนที่สายน้ำวูดูวงรวบรวมนั้นมากเกินว่าจะฝึกตามมันทั้งหมด

“คู่มือต่างๆ เพียงใช้อ้างอิงเท่านั้น เพื่อสอนถึงเทคนิคทั้งหมดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เทคนิคเหล่านี้ใช้เพื่อแนะนำสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เจ้าพึ่งพาได้เพียงตัวเองเท่านั้น ระดับความยากในการเป็นอัศวิน หรือเจ้าแห่งจักรวาลไม่อาจที่จะเทียบได้ การช่วยเหลือเป็นสิ่งภายนอก จำเป็นต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น”

ทุกคนล้วนอยู่ในความคิด พวกเขารู้ว่าตัวเองต้องพยายามให้เต็มที่ ในที่สุดความประสบความสำเร็จของพวกเขาก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง ท้ายที่สุดความรู้และความสามารถที่จะประสบความสำเร็จเป็นสองสิ่งที่ไม่เหมือนกัน

———

ภายในพื้นที่ไฟน้ำแข็งของเรือจักรวาล ภายในพื้นที่มรดกที่อยู่ในเรือสุสาน

หลัวเฟิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ในที่สุดก็จบบทเรียน”

หลัวเฟิงส่ายหัวออกมา

“ข้าไม่คิดว่าผู้สร้างขวานยักษ์จะเป็นตัวตนที่จัดการได้ลำบาก การแบ่งปันข้อมูลการเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดให้กับเจ้าแห่งจักรวาลคนอื่นต้องใช้เวลานานกว่า 3 เดือน”

“แต่การแบ่งปันข้อมูลขีดจำกัดสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดให้กับผู้สร้างขวานยักษ์ต้องใช้เวลาจริง 12 ปี”

การแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ให้กับเจ้าแห่งจักรวาล หลัวเฟิงรู้สึกว่าพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความหวังของเผ่าพันธุ์

แต่การแบ่งปันข้อมูลให้กับผู้สร้างขวานยักษ์นั้นทำให้หลัวเฟิงรู้สึกลำบาก

“ข้าจะกลับไปเรียนรู้ต่อ”

หลัวเฟิงเริ่มทำความเข้าใจต่อในทันที สิ่งที่เขาได้รับมาจากพื้นฐานของอารยธรรมโบราณทั้งหมดนั้นมีความกว้างใหญ่แค่ไหนกัน แม้ว่าทุกอย่างจะอยู่ในความทรงจำของเขา แต่ทำการเรียนรู้นั้นจำเป็นต้องใช้เวลานานมาก ดังนั้น หลัวเฟิงจึงถูกบังคับให้เลือกระหว่างสิ่งที่ควรและไม่ควร ส่วนใหญ่เขาจะมุ่งเน้นไปยังเทคนิคต่อสู้ระยะประชิดประเภทดาบ และเทคนิคอาวุธจิตวิญญาณ

———-

มันเป็นเวลา 9,106 ปีตั้งแต่หลัวเฟิงได้รับสืบทอดมรดก

“ในที่สุดก็เรียนจบ ข้าอาจได้รับความรู้มาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ายิ่งเรียนรู้มากเท่าไรพลังก็ยิ่งเยอะขึ้น ข้าคงต้องเดินหน้าฝึกฝนต่อจากความรู้ที่ได้รับ”

ความรู้เพียงอย่างเดียวนั้นไร้ประโยชน์ การรู้วิธีใช้ความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญ

หลัวเฟิงใช้เวลากับตัวเองในการคิดค้นเทคนิคอื่นๆ ที่เขามีอยู่แล้ว แต่เขายังไม่ได้ทำมันแม้แต่เทคนิคเดียว

“วูดูวง เป็นความรู้ที่ทรงพลังที่สุด มันสามารถปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อขึ้นมาในทันที ตอนนี้ข้ายังคงอ่อนแอ แม้จะใช้ความรู้ที่หายไปนี้ยังคงเพียงแค่ระดับขั้นห้าเท่านั้น”

“วูดูวง คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับข้า ส่วนสายน้ำอมตะนั้นยังไม่จำเป็น ตอนนี้ข้ายังมีเทคนิคหลายร่าง แต่เมื่อข้าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ร่างกายอมตะจะรวมกันเป็นหนึ่ง เมื่อเป็นร่างเดียวข้าจะต้องฝึกสายน้ำอมตะ”

หลัวเฟิงปล่อยสายน้ำอมตะเอาไว้ก่อน และทำการเรียนรู้วูดูวง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!