ตอนที่ 1340 : จิต
ด้านในเรือสุสาน หลัวเฟิง, ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และ เจ้าแห่งจักรวาลกระจกร้าง ต่างก็ยืนดูวังสมบัติแท้จริงนับไม่ถ้วนกระเด็นออกไป
“เราอยู่ห่างมา 500 ล้านปีแสงจากเรือจักรวาล” เจ้าแห่งจักรวาลกระจกร้าง พูดขึ้น “คลื่นที่เกิดจากแรงกระแทกตอนที่วัตถุนั้นกับเรือจักรวาลได้ชนกันได้กระจายไปทั่วทุกทิศทาง พลังของมันอ่อนแอลงตามระยะทางแต่เมื่อมันมาถึงเรา มันก็ยังรุนแรงจนน่ากลัว ช่างน่ากลัวจริงๆ!”
“อย่างน้อยสำหรับทะเลจักรวาลของเราแล้ว ไม่มีใครรอดได้ในเขตหลักของการชน” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นเบาๆ
หลัวเฟิง เองก็พยักหน้า แม้แต่เรือสุสานก็ไม่อาจจะบอกได้ว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงแบบนี้ได้ ยังไงซะเรือสุสานก็ยังอยู่ในช่วงปรับปรุงจากมรดกของสายน้ำวูดูวง ในด้านของความแข็งแกร่งแล้วมันคล้ายกับสมบัติแท้จริงชั้นยอด ในด้านของตัวตนแล้ว มันถือว่ามีบทบาทเพิ่มภายในเผ่าพันธุ์
“ข้าไม่มั่นใจว่ามันจะหยุดหรือไม่” หลัวเฟิง กระซิบ
“หวังว่ามันจะหยุด” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เองก็จับตาดูสถานการณ์ภายนอก
เจ้าแห่งจักรวาลกระจกร้าง เองก็กังวล “ถ้ามันไม่หยุด เราคงตกที่นั่งลำบาก”
***
ตอนนั้นมันไม่ใช่แค่พันธมิตรหงแต่ยังมีกลุ่มอื่นๆ ในทะเลจักรวาลรวมไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่พากันกังวล วัตถุรูปร่างมนุษย์มีขนาดเทียบกับเรือจักรวาลได้ ดังนั้นเมื่อทั้งสองชนกัน มันจึงยากจะบอกได้ว่ามันจะหยุดได้หรือไม่
ฮ่ง!
หัวของวัตถุได้ชนเข้ากับเรือจักรวาลด้วยความเร็ว 120 ล้านเท่าของแสง เรือสั่นไหวและกระเด็นออกไปเพราะแรงกระแทก ในยุคที่ไม่สิ้นสุดเรือนี้เคยได้รับความเสียหายมามาก ดังนั้นบนร่างกายของมันจึงมีรอยแตกมากมายแต่แม้ว่าจะมีรอยแตก แต่ตัวตนจากทะเลจักรวาลก็ยังไม่อาจทำความเสียหายได้แม้แต่ในส่วนที่เสียหายอยู่แล้ว
แต่การชนนี้ทำให้ผิวของเรือจักรวาลสั่นไหว…จนทำให้มีเศษชิ้นส่วนกระเด็นออกมาทั่วทุกทิศทาง แม้แต่ในพื้นที่ส่วนในของเรือจักรวาลก็ยังต้องสั่นไหวภายใต้แรงปะทะนี้ แน่นอนสำหรับเรือโบราณอย่างเรือจักรวาล โครงสร้างของมันไม่ได้รับความเสียหาย มันไม่ได้งอเลยแม้แต่น้อย ปรากฏว่าเรือจักรวาลเองก็เป็นสมบัติแท้จริงประเภทเครื่องจักรที่มั่นคงอย่างมาก การชนนี้ทำได้แค่เศษชิ้นส่วนหลุดร่วงออกมาเพราะแรงกระแทก การทำความเสียหายมันจริงๆ นั้นเป็นไปไม่ได้
เช้ง!
พื้นที่ส่วนในของเรือโบราณยังคงทำงานต่อไป แม้ว่ามันจะกระเด็นออกไปเพราะแรงกระแทกนี้แต่ส่วนในก็ยังคงทำงานต่อไป เวลาผ่านไปนับไม่ถ้วนมันได้กลืนอากาศปั่นป่วนนับไม่ถ้วนจนกลายเป็นพลังานที่ทรงพลังซึ่งเป็นต้นกำเนิดความมั่นคงของเรือนี้ แม้แต่ตอนที่ความเร็วมันจะลดลงแต่เรือก็ยังมั่นคงได้อยู่ หลังจากคลื่นการชนครั้งแรกแผ่มา ความเร็วของวัตถุรูปร่างมนุษย์ก็ลดลงอย่างมาก หลังจากรอเรือจักรวาลลดความเร็วของมัน วัตถุรูปร่างมนุษย์ก็ได้ชนเรือจักรวาลอีกรอบ!
ฮ่ง!
มันคือการชนที่รุนแรงอีกรอบแต่ชัดแล้วว่าพลังนั้นลดลงไปอย่างมาก ครั้งนี้มันคือส่วนเอวของวัตถุรูปร่างมนุษย์ที่ชนเข้ากับตัวเรือ ทั้งสองเหมือนจะแค่เสียดสีกันแต่ครั้งนี้แรงกระแทกไม่ได้ทำให้ตัวเรือกระเด็นออกไป เรือแทบจะไม่ขยับเลย สำหรับวัตถุนั้นแล้วบางทีเพราะการเอียงตัวของมันในการชนจึงทำให้มันบินออกไปอีกทาง
***
การชนสองครั้งติดต่อกัน
จากการชนครั้งแรกทิศทางของวัตถุรูปร่างมนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากแต่ความเร็วของมันได้ลดลงไปอย่างมาก…ไม่ถึง 20 ล้านเท่าของแสง จากการชนครั้งที่สองทิศทางของมันได้เปลี่ยนไปอย่างมากและความเร็วของมันก็ลดลงเหลือแค่ 300,000 เท่าของแสง
ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!
วัตถุรูปร่างมนุษย์สั่นไหวด้วยความเร็วที่มากกว่า 300,000 เท่าของแสง ในตอนที่สั่นนั้นหน้าของมันได้อัดเข้ากับอากาศปั่นป่วนซึ่งทำให้ความเร็วของมันลดลงไปอย่างมาก จากนั้นมันก็กลับไปอยู่ในท่าเดิมที่นอนราบกับพื้น
***
“มันหยุดแล้ว”
“เรือจักรวาลหยุดมันได้ มันไม่ขยับแล้ว”
ตัวตนนับพันๆ ในทะเลจักรวาลต่างก็ไปรวมตัวกันรอบเรือจักรวาล พวกเขามองไปที่ผิวของมันและเห็นว่าแม้แต่เถาวัลย์, น้ำแข็งและสิ่งมีชีวิตที่พบที่ผิวของเรือจักรวาลก็ยังถูกกำจัด สีเดิมของกำแพงส่วนนอกของเรือจักรวาลได้เผยออกมา
หลัวเฟิง และคนอื่นๆ ทึ่งกับสิ่งที่เห็น
“การชนที่รุงแรงแบบนี้ แต่ก็ทำได้แค่เผยผิวของเรือจักรวาล” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ทึ่ง “เรือจักรวาลนั้นอยู่ในทะเลจักรวาลมาหลายยุคเกิดใหม่ตั้งแต่ที่มันโผล่มาตอนแรก มันก็เสียหายอยู่แล้วแต่มันกลับรับการชนแรงแบบนี้ได้ พวกความเสียหายนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน? ข้าคิดไม่ออกจริงๆ ทะเลจักรวาลนั้นลึกลับเหนือคำบรรยาย มันมีความลับมากมายที่ดูเหมือนไม่อาจจะเข้าใจได้ อย่างวัตถุรูปร่างมนุษย์ที่เพิ่งโผล่มา ก่อนที่มันจะโผล่มา ใครบ้างที่สงสัยในการคงอยู่ของมัน?”
หลัวเฟิง และคนอื่นๆ จากพันธมิตรหงต่างก็พยักหน้า
“ไปดูกัน เราจะไล่ตามวัตถุรูปร่างมนุษย์นั้นไป” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น
“ใช่ วัตถุรูปร่างมนุษย์กับเรือจักรวาลได้ชนกันสองครั้ง” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เพราะแบบนั้นความเร็วจึงลดลงอย่างมาก การที่จะหยุดมันได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แรงต้านจากอากาศปั่นป่วนเพียงอย่างเดียวจะทำให้มันช้าลง”
หลัวเฟิง คาดหวังกับผลลัพธ์ที่ออกมา ทีมโจมตีจากพันธมิตรหงที่อยู่ด้านในเรือสุสานเริ่มเทเลพอร์ทออกไปไล่ตาม ทิศทางที่วัตถุนั้นไปก็เดาได้ง่าย หลายกลุ่มภายในทะเลจักรวาลต่างก็พากันไล่ตามมันได้อย่างง่ายดาย
“ฮ่า ฮ่า! มันช้าลงเยอะ!”
“และมันยังคงช้าลงเรื่อยๆ ด้วย”
ตอนนั้นคนจากขุมกำลังต่างๆ ภายในทะเลจักรวาลต่างก็ไปล้อมรอบวัตถุนั้นด้วยการเทเลพอร์ท
ด้วยความเร็ว 300,000 เท่าของแสง มันไม่ได้เป็นภัยอะไรมากนักและแรงกระแทกจากการโจมตีของมันก็อ่อนแรงลงมาก ยังไงซะถ้าระเบิดพลังจาก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ความเร็วของเขาก็สามารถึง 100,000 เท่าหรือล้านเท่าของแสงได้!
ทะเลจักรวาลเต็มไปด้วยอากาศปั่นป่วนที่มีแรงต้านอย่างมาก คนทั่วไปที่ซึ่งอ่อนแอจะโดนฆ่าทันทีในอากาศปั่นป่วนนี้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องรักษาระดับพลังงานไว้เมื่อบินอยู่ในทะเลจักรวาล
ก่อนหน้านี้วัตถุรูปร่างมนุษย์นั้นเร็วจนแรงกระแทกของมันรุนแรงเกินไป แม้ด้วยความเร็วตอนนี้มันก็ยังสามารถสร้างพื้นที่ที่คล้ายกับขอบเขตที่อันตรายได้ รอบๆนั้นทุกอย่างล้วนแต่ถูกฉีกกระชาก เวลาและอวกาศเองก็กลายเป็นเศษเสี้ยว อากาศปั่นป่วนอยู่เป็นชิ้นๆ และไม่มีอะไรที่สามารถเข้าไปใกล้มันได้เลย!
ด้วยการเดินทางด้วยความเร็วระดับนั้นแล้ว อากาศปั่นป่วนนั้นรวดเร็วจนตาเปล่าไม่อาจจะมองเห็นมันได้แม้แต่เศษฝุ่น แต่ตอนนั้นเองมันก็เริ่มจะช้าลง มันไม่ได้เข้าสู่ขอบเขตที่อันตราย แรงต้านของอากาศปั่นป่วนส่งผลกับมันอย่างต่อเนื่องจนลดความเร็วของมันลง ยิ่งมันช้าเท่าไหร่ มันก็ยิ่งร่วงหล่นลงเร็วเท่านั้น!
การลดความเร็วมันจาก 300,000 เท่าของแสงเป็น 200,000 ของแสงนั้นดูแล้วต้องใช้เวลา 3 วันแต่หลังจากผ่านไป 3 วัน ความเร็วมันก็ลดลงไม่ถึง 10,000 เท่าของแสง
***
จักรวาลดั้งเดิม, เผ่าพันธุ์อสูรที่วังบรรพบุรุษอสูรเทพ
เช้ง!
พลังจิตที่ไม่มีตัวตนได้พุ่งลงไปที่วังบรรพบุรุษอสูรเทพ สามร่างนั่งอยู่บนบัลลังก์ พวกเขาคือบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามจากยุคแรก ตอนนี้พวกเขาต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม ตาของพวกเขาปิด พวกเขาทุกคนต่างก็ดูสูงส่งและบริสุทธิ์ พวกเขาดูแข็งแกร่งเต็มไปด้วยพลังที่แปลกประหลาด
“ลูกของข้า…”
“มัน…กำลังมา…”
“วิกฤต…”
“ต้อง…”
“ดินแดนอันตรายที่สุดแห่งที่สี่…”
พลังจิตได้ส่งข้อมูลเล็กน้อยไปให้กับบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสาม หลังจากนั้นสักพัก พลังจิตนี้ก็ได้ถอยกลับไป บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามลืมตาขึ้นมาและมองหน้ากันด้วยความช็อก
“ตั้งแต่วันที่เราได้กลายเป็นบรรพบุรุษอสูรเทพ เราก็ยังไม่ได้ออกจากทะเลจักรวาลแม้แต่ก้าวเดียว” บรรพบุรุษอสูรเทพตรงกลางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแก่ๆ “แต่ครั้งนี้จากข้อความที่มาจากจิตของต้นกำเนิดจักรวาลดั้งเดิม ในที่สุดเราก็ออกจากจักรวาลดั้งเดิมได้”
“ไปกันเถอะ”
“ถ้าเราไปถึงสายเกินไป ข้ากลัวว่าขุมกำลังต่างๆ ของขุมพลังในทะเลจักรวาลจะต้องได้รับความเสียหายอย่างมาก”
“ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมาจะเป็นยังไง? แม้ว่าพวกเขาจะถูกกำจัด มันสำคัญกับเรารึไง? เราควรไปตามใจเราและทำสิ่งที่เราต้องทำ นั่นน่าจะไม่เป็นไร”
“ไปกันเถอะ!”
ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!
บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามได้เปลี่ยนเป็นลำแสงและออกจากวังเทพไป จากนั้นพวกเขาก็ได้หายไปจากเขตวังเทพอสูร
***
ในทะเลจักรวาลที่กว้างใหญ่ ภายใต้อุปสรรคที่เกิดจากอากาศที่ปั่นป่วน แรงกระแทกจากพลังงานนั้นทำให้วัตถุรูปร่างมนุษย์อ่อนแอลงไปและความเร็วก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นขุมกำลังต่างๆ จากทะเลจักรวาลจึงเริ่มกลัวน้อยลง
“ไป!”
“ไป!”
ขุมกำลังต่างๆ บนวังของตนต่างก็พุ่งตรงเข้าหาวัตถุนั้น
“หลัวเฟิง เราจะเข้าไปด้วย” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ตัดสินใจเมื่อเขามองออกไปและพบวังสมบัติแท้จริงจำนวนมากบินผ่านไป
“ได้” หลัวเฟิง ควบคุมเรือสุสานและมุ่งหน้าเข้าหาวัตถุนั้น
เรือสุสานเดินหน้าด้วยความเร็วสูง ไม่นานมันก็ไปถึงที่หมายและเริ่มร่อนลงบนร่างของวัตถุนั้น หลังจากนั้นไม่นาน…
ฮ่ง!
มีเสียงระเบิดดังขึ้น เรือสุสานได้ทำการจอดที่ร่างของวัตถุ วัตถุนี้สูงกว่า 160 ล้านปีแสง ดังนั้นแม้ว่าเรือสุสานจะจอดที่ตัวมันแต่มันก็เหมือนกับลอยบนทะเลอันกว้างใหญ่
“เราลงจอดแล้ว” หลัวเฟิง พูดขึ้น “แต่ตอนนี้มันเคลื่อนที่เร็วเกินไป ทุกคน อย่าเพิ่งรีบออกไป”
“เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”
คนจากพันธมิตรหงต่างก็พากันตื่นเต้นเพราะเรือสุสานได้ลงจอดที่ผิวของวัตถุเพื่อดูว่ามีอะไรที่ผิวของมัน
“ดูนั่น มันมีสันเขาทอดยาวบนผิวของมัน”
“มองตอนแรกมันดูเหมือนว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด”
“นั่นไม่ใช่สันเขา” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “จากข้อคาดเดาจากคลื่นสั่นไหวแล้ว มันต้องเป็นรูปร่างของร่างมนุษย์ทั้งหมด สิ่งที่ดูเหมือนสันเขาสำหรับเรานั้นจริงๆ แล้วเป็นรอยย่นของเกราะที่ร่างนี้ใส่”
“หือ?”
ตอนนั้นก็เกิดเรื่องน่าแปลกใจ ทุกคนพากันหัวเราะออกมาโดยเฉพาะ เจ้าแห่งจักรวาล ที่แต่เดิมคิดว่ารอยย่นนี้คือส่วนหนึ่งของสันเขา พวกเขาพากันหัวเราะกับความคิดโง่ๆ ของตัวเอง
แม้แต่ หลัวเฟิง การสำรวจคลื่นสั่นนี้ก็พอที่จะมองภาพคร่าวๆ ได้ การเดาว่ามันคือเสื้อผ้าของร่างนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าท้าทายแต่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด อย่างอาจารย์นั้นกลับเดามันได้ว่ามันคือเงาของเกราะ
“มาดูดีๆก่อน”
“หลัวเฟิง ขับมันและจอดเรือเจ้าไปที่ผิวของร่างนี้แล้วเดินหน้า”
“ไปกันเถอะ”
ทุกคนต่างก็เร่งเขา
“ได้” หลัวเฟิง พูดขึ้น
เขาเองก็สงสัย ดังนั้นเขาจึงขับเคลื่อนเรือสุสานไปยังวัตถุนั้นและลงจอดที่ผิวก่อนจะเดินหน้า เพราะเรือสุสานนี้อยู่บนผิว แม้ว่าร่างนี้จะขยับอย่างรวดเร็วแต่ผิวของมันก็ยังคงมั่นคง
“หลัวเฟิง ส่วนอื่นของร่างนี้ปิดอยู่เหมือนกับกำแพงส่วนนอกของห้องโดยสาร” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “ไปที่ส่วนหัว ส่วนของหัว…น่าจะมีทางนำไปด้านใน”