Chapter 9 มอร์แกน แจ็คสัน
“อะไรคะแม่ ไปทำงานวันแรกก็จะให้แองจี้ลาออกซะแล้ว” เมษามองแม่อย่างงงๆ “อ๋อ…แม่กลัวว่าแองจี้จะต้องไปทำงานเมืองนอกล่ะซิ แองจี้ไม่ไปหรอกค่ะแม่ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเขาจะให้แองจี้ไปแองจี้ก็จะลาออกค่ะ แองจี้ไม่ทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียวหรอกค่ะ”
เธอรีบตักกับข้าวเอาใจแม่
มาริสายิ้มให้ลูกสาว
พอทานข้าวเสร็จแล้วเธอก็บอกลูกว่า “แองจี้เดี๋ยวแม่ไปหาเพื่อนก่อนนะลูก อาจจะกลับช้าหน่อยหนูไม่ต้องรอแม่หรอกนะลูก”
“ค่ะแม่” เมษาพยักหน้ารับ
มาริสาหยิบกระเป๋าแล้วก็เดินออกไปเรียกแท็กซี่
“ไปโรงแรม……….ค่ะ” เธอบอกแท็กซี่แล้วก็นั่งเครียด มือกำสายสะพายกระเป๋าแน่น…ฉันจะต้องเข้มแข็ง
เมื่อไปถึงโรงแรมมาริสาก็รีบเดินไปที่ล๊อบบี้ “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ” รีเซฟชั่นไหว้ยิ้มทักทาย
“คือฉันมาพบมิสเตอร์มอร์แกน แจ็คสันค่ะ” มาริสาบอกแล้วก็กำสายสะพายแน่นมือชื้นเหงื่อ
“รอสักครู่ค่ะ” พนักงานบอกแล้วก็คีย์ข้อมูลลงคอม
โอเวนกำลังคุยกับรีเซฟชั่นอีกคนอยู่ตรงเคาน์เตอร์พอดี พอได้ยินชื่อมอร์แกน แจ็คสันเขาก็หันไปมองทันที…นั่นมิสมาริสา บุญรักษ์นี่นา!
เขารีบเดินห่างออกไปโทรหาเจ้านายทันที
“มาร์ค มิสมาริสา บุญรักษ์มาขอพบพ่อนายอยู่ที่ล็อบบี้”
“เธอมาทำไม?” มาร์คัสสงสัย
“ไม่รู้ซิ นายจะให้ทำยังไง?” โอเวนถาม สายตาก็คอยมองผู้หญิงคนนั้น
รีเซฟชั่นเงยหน้าถามว่า “ขอประทานโทษค่ะ มอร์แกน แจ็คสันสะกดยังไงคะ?”
มาริสาหยิบกระดาษปากกาเขียนชื่อส่งให้
“รอสักครู่ค่ะ” รีเซฟชั่นคีย์ข้อมูล
มาร์คัสครุ่นคิด แล้วก็บอกว่า “งั้นนายบอกเธอว่าเดี๋ยวฉันไปพบ”
“โอเค” โอเวนรับคำสั่งแล้วก็เก็บโทรศัพท์
รีเซฟชั่นเงยหน้าขึ้น “ไม่มีแขกชื่อมอร์แกน แจ็คสันค่ะ”
มาริสาอึ้งไป “เอ่อ…ช่วยเช็กอีกทีได้ไหมคะ?”
“ค่ะ รอสักครู่ค่ะ” รีเซฟชั่นก้มหน้าคีย์อีกครั้ง
โอเวนเดินเข้าไปหามาริสาทักทายเป็นภาษาอังกฤษว่า “สวัสดีครับ มาดามมาพบมิสเตอร์มอร์แกน แจ็คสันใช่ไหมครับ?”
มาริสาหันไปมอง “ค่ะ”
“งั้นเชิญนั่งรอก่อนครับ อีกสักครู่เขาจะลงมาพบมาดามครับ” โอเวนผายมือไปทางโซฟารับแขก
มาริสามองอย่างครุ่นคิด
รีเซฟชั่นเงยหน้าบอก “ไม่มีแขกชื่อมอร์แกน แจ็คสันเข้าพักค่ะ”
มาริสาหันไปก้มหัวให้ “ขอบคุณค่ะ”
แล้วเธอก็หันไปมองฝรั่งตัวสูงใหญ่ในชุดสูทราคาแพง
“เชิญครับ” โอเวนผายมือ
มาริสามองอย่างตัดสินใจ…เขาคงไม่ได้ลงชื่อเข้าพักแน่ๆ แล้วผู้ชายคนนี้คงเป็นบอดี้การ์ดของเขา
เธอเดินไปนั่งรอมือกำสายกระเป๋าชื้นเหงื่อ เมื่อกำลังจะได้พบกับมอร์แกน แจ็คสันอีกครั้ง
พนักงานเดินเข้ามาเสิร์ฟน้ำแล้วก็ยื่นเมนูเครื่องดื่มให้
มาริสาโบกมือ “ขอบคุณค่ะ”
พนักงานถือเมนูกลับไป
โอเวนถอยไปยืนคอยอยู่ห่างๆ เมื่อเห็นเจ้านายเดินมาเขาก็บอกว่า “บอสมาแล้วครับมาดาม”
มาริสามองหนุ่มฝรั่งรูปหล่อที่กำลังเดินเข้ามา เค้าหน้านั้นละม้ายคล้ายมอร์แกน แจ็คสันอยู่มาก
มาร์คัสยื่นมือไปทักทาย “สวัสดีครับ”
มาริสาลุกขึ้นยืนยื่นมือไปจับตามมารยาท “สวัสดีค่ะ คุณคือมาร์คัสซินะ?”
“ครับ” มาร์คัสพยักหน้ารับ
“เชิญนั่งค่ะ” มาริสาบอกแล้วก็นั่งลง
มาร์คัสนั่งลงตรงข้าม พนักงานเดินเข้ามาเสิร์ฟน้ำแล้วก็รีบถอยไปเมื่อเห็นชายหนุ่มโบกมือว่าไม่ต้องการสั่งเครื่องดื่ม
“ฉันต้องการพบมิสเตอร์มอร์แกนค่ะ” มาริสาบอก
“คุณพ่ออยู่ที่นิวยอร์กครับ ถ้าคุณต้องการพบเขาคุณก็ต้องไปนิวยอร์กครับ” มาร์คัสบอกน้ำเสียงราบเรียบ แววตาเรียบเฉยจนไม่อาจเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “คุณพ่ออยากพบคุณมาก”
มาริสาหน้าตึงทันควัน “จะอยากพบเพื่ออะไร? ฉันกับเขาไม่มีอะไรจะต้องพูดกันอีก มันจบไปแล้ว ฝากบอกคุณพ่อคุณด้วยว่าอย่ามายุ่งกับฉันและลูกสาวของฉัน เธอเป็นลูกของฉันคนเดียว ถ้าคุณคิดจะบอกอะไรกับเธอฉันจะพาเธอหนีไปให้ไกลๆ เลย!”
เธอบอกน้ำเสียงแข็งกร้าวแล้วก็ลุกไป
มาร์คัสมองตามไป
เมษาไปทำงานได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว เธอรู้สึกอึดอัดกับสายตาของเจ้านายน้อยลง และก็ได้รู้ว่าโอเวนกับแอนนาน่าจะชอบพอกันอยู่
เธอทำงานคล่องขึ้นจนแอนนาปลื้มปริ่ม
“บอสคะ คืนนี้บอสต้องไปร่วมงานเลี้ยงเปิดตัวบูทขายสินค้าหารายได้เพื่อการกุศลของสมาคมภริยาทูตที่อิมแพ็คอารีน่าฯนะคะ บอสจะควงใครไปร่วมงานด้วยคะ ตอนนี้มิสโมนากับมิสแอลล่าบินมาร่วมงานแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่กรุงเทพฯ พอดี” แอนนารายงานในตอนเช้า
เมษาได้ยินชื่อก็นึกถึงนางแบบดังระดับโลกที่มีข่าวว่าเป็นแฟนของเจ้านายตัวเอง
มาร์คัสละสายตาจากหน้าจอมองรองเลขาท่าทางครุ่นคิด “อืม…โมนาเริ่มวุ่นวายสร้างข่าวอยู่เรื่อย ตัดออกไปได้เลย ส่วนแอลล่าก็พูดมากเกินจนน่ารำคาญ ตัดไปด้วยล่ะกัน”
“อ้าว…แล้วบอสจะควงใครไปร่วมงานด้วยล่ะคะ? หรือว่าบอสจะฉายเดี่ยวคะ?”
“อืม…ผมคิดว่าคุณเตรียมตัวเป็นคู่ควงไปงานด้วยกันดีกว่า” มาร์คัสสั่ง
โอเวนชะงักกึก!
เขาเงยหน้ามองเจ้านายเขม็ง
“นายไปหาผู้หญิงคนอื่นเลย แอนนาต้องไปกับฉัน!” เขาบอกเสียงต่ำหน้าตาขึงขัง
“อ้าว…เฮ้! นี่นายจะให้ฉันฉายเดี่ยวออกงานไม่ได้นะ เสียชื่อซีอีโออย่างฉันหมดน่ะซิ ฉันต้องมีคู่ควงไปงานด้วยนะ!” มาร์คัสชะโงกหน้าไปจ้องหน้าเลขาหนุ่ม
โอเวนจ้องตาเจ้านายแล้วก็หยิบไอแพ็ดขึ้นมาจิ้มๆ พักนึง จากนั้นก็ยื่นไอแพ็ดให้เจ้านาย “นายเลือกมาเดี๋ยวฉันติดต่อให้”
มาร์คัสรับไอแพ็ดไปดู เป็นรายชื่อดารานางแบบในไทยของเอเจนซี่ดัง เขาเลื่อนหน้าจอไปมาแล้วก็ยื่นไอแพ็ดคืน “ไม่เอาล่ะ ขืนควงผู้หญิงพวกนี้ไปงานด้วยมีหวังเกาะติดฉันเป็นเหาฉลามแน่”
“แล้วแต่นายเลย” โอเวนรับไอแพ็ดคืนมาแล้วก็ง่วนกับการทำงานต่อ
มาร์คัสมองเลขาหนุ่มด้วยสายตาอ้อนๆ “เฮ้! นายจะปล่อยให้ฉันไปงานคนเดียวจริงๆเหรอ? โอ้โน! เฮ้! ให้ฉันควงแอนนาไปออกงานแค่คืนเดียวเอง พลีสสสสส…”
โอเวนเงยหน้ามองเจ้านายสายตาแข็งกร้าว พูดเสียงต่ำเย็นชาว่า “ไม่”
มาร์คัสสะบัดหน้าพรึ่ด พึมพำขมุบขมิบ
โอเวนจ้องเจ้านายเขม็ง ชูกำปั้นขึ้น
มาร์คัสยกมือยอมแพ้ “โอเคๆ”
เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พ่นลมหายใจ แล้วสายตาก็สะดุดกับรองเลขาสาวอันดับสอง สายตาคมพินิจพิจารณาใบหน้าคนที่กำลังง่วนกับงานตรงหน้า
“แอนนา ฉันส่งคำสั่งไปให้สาขาโตเกียวเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“โอเค แล้วงบการเงินของอาทิตย์ที่แล้วจากปารีสส่งมาหรือยัง?”
“ยังค่ะ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันตามเรื่องเอง” แล้วแอนนาก็หยิบโทรศัพท์เดินห่างออกไป
เมษามองตามแอนนาแล้วก็หันกลับมามองหน้าจอโน๊ตบุ๊ค แล้วก็สบตากับเจ้านาย เธอรีบก้มหน้ามองจอทันที
มาร์คัสมองรองเลขาอันดับสองอย่างตัดสินใจ “เมษา คุณไปงานคืนนี้กับผมล่ะกัน”
“ห๊า!” เมษาตกใจเงยหน้าจ้องเจ้านายตาโต
โอเวนละสายตาจากหน้าจอมองเจ้านายและรองเลขาอันดับสอง แล้วก็หันไปชูนิ้วโป้งให้เจ้านาย “เยี่ยม! นายควรจะพาเธอไป”
มาร์คัสขึงตาใส่เลขาหนุ่ม
โอเวนเมินสายตาของเจ้านายแล้วก็หันไปมองรองเลขาอันดับสอง เขาหันไปเรียกลูกน้องสาว “แอนนา”
แอนนาคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วก็รีบเดินไปหาเจ้านาย “มีอะไรคะ?”
“คืนนี้บอสจะพาเมษาไปงานด้วย คุณพาเธอไปช็อปปิ้งนะ” โอเวนสั่งแล้วก็หันไปทำงานต่อ
“ค่ะบอส” แอนนาพยักหน้ารับ
“ผมไปด้วย” มาร์คัสบอกแล้วก็ปิดโน๊ตบุ๊ค ลุกขึ้นยืน
โอเวนรีบปิดโน๊ตบุ๊คทุกเครื่องแล้วก็โทรหาโรเจอร์ พอปลายสายรับโทรศัพท์เขาก็สั่งว่า “บอสจะไปช็อปปิ้งที่……….”
“โอเค” โรเจอร์รับคำแล้วก็วางสาย
เมษาได้แต่มองทุกคนตาปริบๆ “เอ่อ…”
“มาเร็วเมษา” แอนนาจัดแจงหยิบกระเป๋าแล้วก็คว้าแขนรองเลขาอันดับสองรั้งให้ลุกขึ้นเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวๆๆๆ แอนนา ฉันไม่ไปงานกับบอสหรอก” เมษาขืนตัว
“ทำไม?” มาร์คัสถามเสียงเรียบ
เมษาหันไปมองเจ้านาย “คือฉันไม่เคยไปงานแบบนี้เลยค่ะ ฉันกลัวว่าจะไปทำอะไรให้บอสต้องขายหน้าน่ะค่ะ บอสหาผู้หญิงคนอื่นเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมจะดูแลคุณเอง” มาร์คัสบอก
“ไม่ดีกว่าค่ะ” เมษายืนกราน
“ไปเถอะเมษา อีกหน่อยคุณก็ต้องออกงานแบบนี้บ่อยๆ เพราะคุณเป็น…”
“แอนนา!” มาร์คัสเรียกเสียงดังจนสองสาวสะดุ้ง
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันใด
แอนนายกมือปิดปากหน้าซีด เหลือบมองบอส
โอเวนรีบแก้สถานการณ์ “เพราะคุณเป็นเลขาไงครับ”
“คุณควรจะทำตัวให้เคยชินกับการออกงานเข้าไว้ คุณต้องฝึกออกงานบ่อยๆ เพราะสถานะภาพของคุณเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ไปก็ไม่เป็นไร ผมจะได้หาเลขาใหม่” มาร์คัสบอกเสียงราบเรียบ
เมษาหน้าเหวอ “เอ่อ…”
ไรอ่ะ ไม่ไปงานด้วยก็จะไล่ออกเลยเหรอ?
“คุณจะไปหรือไม่ไป?” มาร์คัสถามน้ำเสียงเฉยเมย
“ไปค่ะ ไป” เมษาพยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก
โอเวนมองแล้วก็เดินออกจากห้องไป
มาร์คัสเดินเข้าไปจับข้อมือรองเลขาอันดับสองจูงให้เดินไปด้วยกัน
เมษาเดินตามไปอย่างงงๆ “เอ่อ…”
พอตั้งสติได้เธอก็พยายามบิดข้อมือออกจากอุ้งมือนุ่ม
“บอสคะ ปล่อยค่ะ” เธอกระซิบบอกเบาๆ อย่างอึดอัดใจ
มาร์คัสมองข้อมือเล็กในอุ้งมือตัวเองแล้วก็มองวงหน้าของรองเลขาอันดับสอง เขาใช้มืออีกข้างลูบหัวเธอเหมือนกำลังลูบหัวเด็กตัวเล็กๆ “เป็นเด็กดีนะ”
เมษามองอย่างอึ้งๆ วางตัวไม่ถูก ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ “เอ่อ…”
เธอพูดอะไรไม่ออก
แอนนาเดินตามไป เห็นท่าทางเจ้านายที่ปฏิบัติต่อเมษาก็แอบยิ้ม เธอรีบเดินอ้อมคนทั้งสองไปเดินเคียงข้างกับโอเวน
มาร์คัสจูงแขนเมษาให้เดินไปด้วยกัน
โอเวนเดินไปกดลิฟท์ พอลิฟท์เปิดออกเขาก็มองสำรวจตรวจตราความปลอดภัยแล้วก็ก้าวเข้าไปในลิฟท์
แอนนาตามไปยืนข้างๆ
มาร์คัสจูงมือเมษาเดินตามเข้าไปในลิฟท์
เมษาพยายามแกะมือเจ้านายออก
“บอสคะ ปล่อยเถอะค่ะ” เธอกระซิบบอก
มาร์คัสไม่สนใจ ยังคงจับข้อมือน้อยเอาไว้อยู่อย่างนั้น
พอลิฟท์เปิดออก แอนนาก็เดินนำหน้าออกจากลิฟท์ เจอโรเจอร์ยืนคอยอยู่หน้าลิฟท์ เธอเดินนำหน้าทุกคนไปยังทางออกไปสู่สกายวอล์ก
มาร์คัสจูงมือเมษาเดินตามแอนนาไป
โอเวนกับโรเจอร์ก็เดินปิดท้ายคอยระวังรักษาความปลอดภัยให้เจ้านาย
แรกๆ ที่ต้องเดินแบบนี้ เมษาก็รู้สึกอึดอัด แต่พอนานเข้าเธอก็เริ่มเคยชิน ก็เจ้านายเธอรวยมหาศาลขนาดนี้ ลูกน้องก็ต้องคอยอารักขาแข็งขันเป็นธรรมดา
เมื่อไปถึงห้างดังอันเป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก มาร์คัสก็จูงเมษาเดินไปเลือกดูเสื้อผ้า
เมษาได้แต่มอง ไม่กล้าหยิบจับ เพราะรู้ว่าแต่ละตัวราคาแพงระยับขนาดไหน
“ไปเลือกซิ” มาร์คัสบอก
เมษาส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ แพงๆ ทั้งนั้นเลย”
เธอมองไปรอบๆ อย่างอึดอัดใจ
มาร์คัสปล่อยมือ แล้วก็เดินไปเลือกเอง เขาชี้ชุดราตรีที่คิดว่าน่าจะเข้ากับเมษาหลายตัว
พนักงานก็หยิบชุดมาถือรอ
“พาเธอไปลองชุด” มาร์คัสบอกพนักงาน