Skip to content

A World Worth Protecting 100

บทที่ 100 ความสุขจากการช่วยเหลือผู้อื่น

หวังเป่าเล่อลิงโลดใจ ครั้นสูบเอารากฐานวิญญาณระดับลมหายใจเที่ยงแท้ห้านิ้วเข้าสู่จุดตันเถียนได้สำเร็จ นั่นหมายความว่านับจากนี้ไป เขาก็จะสามารถปลีกวิเวกไปฝึกตนให้บรรลุปราณระดับลมหายใจเที่ยงแท้ได้เลยทุกเมื่อ

ความรู้สึกนี้ราวกับเป็นการเดิมพันอย่างมั่นใจ เขาหยิบถุงขนมออกมาขบเคี้ยว และเดินต่ออย่างมีความสุข

ยิ่งนึกถึงสีหน้าโกรธจัดของชายหนุ่มจากสำนักศึกษาเต๋ากวางขาวสาขาย่อย      ยิ่งทำให้ชายหนุ่มอารมณ์ดีขึ้นไปอีก

เด็กน้อยผู้นั้นน่าสงสารเสียจริงเชียว มีคนอื่นตั้งเยอะแยะให้ยั่วโมโห แต่ดันมากระตุกหนวดเสืออย่างข้าเสียได้! ถ้าเจ้านั่นหน้าตาดีเท่าข้า คงถูกชะตากับ       รากฐานวิญญาณห้านิ้วตนอื่นได้ในไม่ช้าหรอก!

ต่อไปคือต้องตามหารากฐานวิญญาณหกนิ้ว และเจ็ดนิ้ว!

หวังเป่าเล่อเตร็ดเตร่ในหมู่บ้านลมปราณวิญญาณอย่างมีความสุข และตั้งแต่บรรลุรากฐานวิญญาณระดับห้านิ้ว เหล่ารากฐานวิญญาณต่ำกว่าหกนิ้ว ซึ่งเมื่อก่อนหน้านี้ เคยกลายร่างเป็นเขา ต่างก็ไม่กล้าเข้ามารังควานเหมือนเคยเพราะระดับชั้น   ต่ำกว่า

ชายร่างอ้วนโล่งใจยิ่งขึ้น และไม่ต้องหลบซ่อนตัวเองอีกต่อไป ทำให้ค้นหารวดเร็วกว่าเดิม หลังจากผ่านไปหลายวัน เขาก็ใช้หมัดทรงพลังสลายรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วบนยอดเขาสูง ก่อนดูดกลืนหมอกเขียวได้สำเร็จ เขาได้แต่หัวเราะชอบใจ

ในที่สุด รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วก็เป็นของข้า! และต้องตามหารากฐานวิญญาณแปดนิ้วต่อไป!

เมื่อหาพบและดูดกลืนสำเร็จ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปข่มเหงมันอีก เพราะกว่าจะถึง   ตอนนั้น ข้าก็คงบรรลุระดับฝึกตนโบราณ ไปสู่ระดับลมหายใจเที่ยงแท้ได้        เรียบร้อยแล้ว!

สำหรับหวังเป่าเล่อ การเข้าไปยังเกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก       เกินเอื้อม เขาเริ่มตระเวนหารากฐานวิญญาณแปดนิ้วในหมู่บ้านลมปราณวิญญาณด้วยความตื่นเต้น

การโดนไล่ล่าจากรากฐานวิญญาณ อีกทั้งยังต้องหลบซ่อนอย่างระมัดระวังอยู่พักใหญ่ ทำให้ชายหนุ่มไม่ทันสังเกต ว่าพื้นที่ของหมู่บ้านลมปราณวิญญาณแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก แต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไปแล้ว ระหว่างกำลังสำรวจพื้นที่ต่างๆ เขาก็ได้พบปะกับศิษย์คนอื่นๆ จากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า

ศิษย์ส่วนใหญ่กำลังมองหารากฐานวิญญาณขนาดสี่ หรือห้านิ้ว แต่เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นหวังเป่าเล่อนั้น ก็ต่างพากันตื่นตระหนก เนื่องจากชื่อเสียงอันเลวร้ายของชายผู้นี้กระฉ่อนไปทั่วหมู่บ้านลมปราณวิญญาณ

มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากกล่าวว่าทุกคนนั้นเคยได้ยินเสียงเล่าลือของคนๆ นี้

แต่ละวันผ่านพ้นไป ชายอ้วนเพิ่มพื้นที่ตระเวนหาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างทางได้พบกับศิษย์มากหน้าหลายตาจากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า และเจอรากฐานวิญญาณเพิ่มขึ้น รวมถึงรากฐานขนาดเก้านิ้วที่เห็นอยู่ไกลๆ ตรงนั้น แต่กลับไม่มีร่องรอยของรากฐานวิญญาณแปดนิ้วปรากฏให้เห็นเลยสักตน

หวังเป่าเล่อค่อยๆ ค้นพบว่ารากฐานวิญญาณแปดนิ้วมีจำนวนน้อยมาก ชายหนุ่มพบกับอู๋เฟินจากสำนักศึกษาเต๋าธารสวรรค์ และรับรู้ถึงพลังรากฐานวิญญาณในร่างกายนั้นคล้ายกับของตนเอง นั่นคือ ชายผู้นี้อยู่ในระดับเจ็ดนิ้วเช่นกัน

อู๋เฟินหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเห็นหวังเป่าเล่อ แล้วพยักหน้าให้เบาๆ ก่อนตีตัวออกห่างไปยังบริเวณอื่นทันที

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจากไป หนุ่มร่างอ้วนจึงเริ่มจริงจังขึ้น

ดูเหมือนว่าผู้ครอบครองระดับเจ็ดนิ้วจะมีอยู่ไม่มาก แต่ถึงกระนั้น ก็มีบางคนกำลังมองหารากฐานวิญญาณแปดนิ้วอยู่เช่นกัน ซึ่งรากฐานวิญญาณชนิดนี้ถูกจัดว่าเป็นรากฐานวิญญาณอิสระ เพราะเมื่อพวกมันปรากฏตัว ทุกคนในระดับเจ็ดนิ้วต่างสามารถต่อสู้เพื่อดูดกลืนมันได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าจะถูกชะตากันหรือไม่!

ฉะนั้น ผู้ใดเจอก่อน ถือว่าได้เปรียบที่สุด!

เมื่อหวังเป่าเล่อรู้เช่นนั้น จึงรีบเพิ่มความเร็วเพื่อสำรวจพื้นที่ให้กว้างขึ้น

ชายหนุ่มพบปะพูดคุยกับศิษย์ร่วมสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์มากมาย หลายคนเต็มใจช่วยและให้ความร่วมมือกับชายหนุ่ม ทำให้หวังเป่าเล่อรู้ว่าระหว่างที่ตนเองกำลังซ่อนตัวอยู่ ก็มีศิษย์บางคนจากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า ที่แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียง  เลื่องลือเท่าเขา แต่ก็ทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน

“ลือกันว่า จั่วอี้เซียนจากสำนักศึกษาเต๋ากวางขาว ดูดกลืนรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วไปแล้วนะขอรับ และกำลังตามหาแปดนิ้วอยู่!”

“มีเด็กสาวนามว่าหลี้อี้ ผู้เป็นกายาวิญญาณโดยธรรมชาติ นางเป็นที่หมายตาของเหล่าระดับวิญญาณเที่ยงแท้ จนตอนนี้อยู่ในระดับเจ็ดนิ้วเช่นกันขอรับ!”

“เมื่อครู่นี้ อู๋เฟินจากสำนักศึกษาเต๋าธารสวรรค์กำลังต่อสู้กับรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วซึ่งถูกชะตาอยู่ขอรับ ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจดูดกลืนไปเรียบร้อยแล้ว!”

“เจ้าเยี่ยเหมิงจากสำนักเต๋าของเราเองก็เช่นกัน ระดับวิญญาณของนางนั้น เท่ากับท่านหัวหน้าศิษย์เลยขอรับ หากพูดตามตรง วิญญาณระดับลมหายใจเที่ยงแท้ต่างพากันหลงใหลเยี่ยเหมิง ในฐานะกายาวิญญาณ มากกว่าแม่นางหลี่อี้เสียอีก        ข้าได้ยินมาว่า หญิงสาวผู้นี้ครอบครองระดับเจ็ดนิ้วได้ ตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนด้วยซ้ำนะขอรับ!”

การรับฟังข้อมูลต่างๆ จากเหล่าศิษย์แห่งสำนักเต๋าศึกษาศักดิ์สิทธิ์ ทำให้หวังเป่าเล่อรู้ทันคู่แข่งมากขึ้น จนกดดันตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขารีบบึ่งจากไป เพื่อทำการ    ค้นหาต่อ

อย่างไรก็ตาม รากฐานวิญญาณแปดนิ้วนั้นหายากยิ่ง แม้แต่เขาเองยังหาไม่เจอเลยสักตัว เวลาล่วงเลยไปอีกสามวัน เขาก็ได้เจอเข้ากับบุคคลคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หนึ่งแทน

นางคือ ตู้หมินนั่นเอง

หญิงสาวหอบหนัก จนแทบหายใจไม่ทัน ขณะต่อสู้กับรากฐานวิญญาณหกนิ้วซึ่งรูปลักษณ์เหมือนกับตัวนาง จนตัวเปียกเหงื่อโชก แต่เหงื่อนั้นกลับส่งกลิ่นหอมนัก แม้ว่าหญิงสาวจะอยู่ในระดับการฝึกตนขั้นผนึกกายา แต่ด้วยพื้นฐานมาจาก        สาขาหลอมโอสถ จึงเสียเปรียบในด้านการยุทธ์ หนำซ้ำตอนนี้ นางยังใช้โอสถวิญญาณไปจนหมดเกลี้ยงแล้วด้วย

ดังนั้น แม้จะพบรากฐานวิญญาณหกนิ้วซึ่งถูกชะตาด้วย แต่ก็มิอาจต่อกรไหวเพราะไร้เรี่ยวแรงเต็มทน หญิงสาวถูกโจมตี จนดูเหมือนว่าไม่มีหนทางเอาชนะได้เลย

ตู้หมินเริ่มร้อนใจ และต้องการขอความช่วยเหลือจากแผ่นหยก ขณะนั้นเอง    หวังเป่าเล่อกำลังเดินผ่าน และสังเกตเห็นนางเข้าพอดี ดวงตาของชายหนุ่มจึงเกิดประกาย ก่อนรีบวิ่งไปทางหญิงสาว พลางพูดว่า

“กระดานซักผ้า ต้องการความช่วยเหลือจากสุดหล่ออย่างข้าไหม”

ตู้หมินหันมองชายผู้กำลังวิ่งมาหาอย่างประหลาดใจ แม้ปกติชายอ้วนผู้นี้          จะน่ารำคาญ แต่กลับปรากฏตัวขึ้นในจังหวะที่นางต้องการความช่วยเหลือที่สุด กระนั้นยังไม่ทันได้เอ่ยคำใด ก็ฉุกใจกับฉายาที่หวังเป่าเล่อเรียกตัวนาง ทำให้หญิงสาวพาลหงุดหงิดใจไปทันที จึงชิงด่าอีกฝ่ายกลับไปบ้าง

“เจ้าอ้วนโง่เง่า ไปให้พ้นหน้า! ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!” ตู้หมินจ้องตาถลึงใส่หวังเป่าเล่อ ก่อนจะต่อสู้กับรากฐานวิญญาณหกนิ้วต่อ

ชายอ้วนรู้สึกทึ่งเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ายังคงหัวดื้อ แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

“เจ้ากระดานซักผ้า ข้าชื่นชมเจ้าอย่างยิ่ง! ขอให้โชคดี! ข้าจะช่วยเป็นผู้พิทักษ์คอยเฝ้าดูเจ้าอยู่ใกล้ๆ แล้วกัน” หวังเป่าเล่อนั่งลงด้านข้างเพื่อชมการต่อสู้ พลางหยิบขนมมากินอย่างเมามัน

ตู้หมินยิ่งขุ่นเคืองใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายรับชมการต่อสู้อย่างเพลิดเพลินพร้อมขนม  ขบเคี้ยวต่างๆ จนทำให้หญิงสาวต่อสู้กับรากฐานวิญญาณหกนิ้วได้ไม่ดีนัก และต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ กว่าจะระงับความฉุนเฉียวในใจให้สงบลงได้ นางขบฟันกรอด และมุ่งมั่นเอาชนะรากฐานวิญญาณตนนี้ต่อ

ถึงอย่างนั้น ทักษะการต่อสู้ของร่างมายารากฐานวิญญาณหกนิ้วก็แข็งแกร่งมาก จนตู้หมินรู้ตัวว่าเอาชนะได้ยาก นางจึงเริ่มกังวลใจ

แววตาของหวังเป่าเล่อฉายประกาย ขณะรับชมการต่อสู้ ก่อนพูดเสียงดัง      “เจ้ากระดานซักผ้า เรียกข้าว่าพี่ชายสิ และข้าจะเข้าไปช่วย ตกลงไหม”

หญิงสาวยิ่งฉุนเฉียวขึ้น หลังจากฟังคำพูดนั่น โดยยังคงดื้อรั้นไม่ยอมแพ้และไม่ตอบอะไร แม้ว่าร่างกายจะอ่อนล้าเต็มที

ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงถอนหายใจอีกครั้ง

“เอาเถอะ เจ้าหัวดื้อเองนะ อย่ามาโทษมุกตลกของข้าก็แล้วกัน” หวังเป่าเล่อ  วางขนมลง เช็ดนิ้ว ก่อนวิ่งไปหาตู้หมินโดยความเร็วเพียงชั่วพริบตา และชูแขนซ้าย  ไปขวางตรงกลางระหว่างหญิงสาวกับร่างมายาระดับลมหายใจเที่ยงแท้ ทำให้มันจำต้องถอยหลังไปหลายก้าว

ทันใดนั้น หนุ่มร่างอ้วนเขวี้ยงหมัดขวาของตนใส่รากฐานวิญญาณหกนิ้วดังปัง   จนเกิดแรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ในจังหวะที่มันล่าถอยไป เขารีบพุ่งไปด้านหลัง      เพื่อหวดใส่มันอีกครั้งพร้อมเสียงคำราม

“สลายไปเสีย!”

หวังเป่าเล่อปล่อยหมัดด้วยพละกำลังทั้งหมดของตน จนทลายเกราะกำบังแน่นหนาของรากฐานวิญญาณนั้นได้อย่างน่าตะลึง หมัดนั้นซัดโดนหลังของรากวิญญาณหกนิ้วอย่างจัง จนร่างนั้นสั่นเทิ้มและเริ่มแตกสลาย มันซวนเซไปทางตู้หมิน ก่อนค่อยๆ กลายร่างเป็นหมอกเขียวขนาดใหญ่ และซึมเข้าร่างของหญิงสาวผู้นี้ในทันที

ตู้หมินเนื้อตัวสั่นไหวเล็กน้อยขณะที่รากฐานวิญญาณห้านิ้วในร่างกายของตนกำลังถูกแทนที่ด้วยขนาดหกนิ้ว!

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวสำเร็จผลด้วยดี หวังเป่าเล่อก็สะบัดตัวเล็กน้อย เพื่อเริ่มตามหารากฐานวิญญาณแปดนิ้วของตัวเองต่อไป แต่ยังไม่วายหันไปหยอกล้อตู้หมินอีกครั้งก่อนจาก

“เจ้ากระดานซักผ้า เจ้าไม่ต้องขอบคุณหรอก ข้าขอตัวก่อนนะ คงไม่ว่ากัน”

ชายอ้วนจากไปทันทีเมื่อพูดจบประโยค ทิ้งให้หญิงสาวมองตามด้วยดวงตาเบิกกว้าง และส่งเสียงในลำคอ แต่อย่างไรก็ดี นัยน์ตาดวงนั้นกลับเต็มไปด้วยความสุข

“เจ้าอ้วนโง่เง่า…มีข้อดีอยู่เหมือนกันนี่ เสียดายที่ปากร้าย แถมชอบยั่วโมโห     คนอื่นไปหน่อยนั่นแหละ!”

แท้จริงแล้ว ตู้หมินไม่ใช่คนแรกที่หวังเป่าเล่อเข้าไปช่วย เพราะระหว่างทาง      เขามักยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือสหายร่วมสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ให้สามารถดูดกลืนรากฐานวิญญาณระดับลมหายใจเที่ยงแท้มาเป็นของตัวเองได้สำเร็จอยู่เรื่อยๆ

ทว่าหวังเป่าเล่อกับตู้หมินนั้น มีความสัมพันธ์อันแตกต่างจากผู้อื่น เพราะทั้งสองเป็นคู่กัดกันมาหลายปี ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาเรียนในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์เสีย     ด้วยซ้ำ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงจิกกัดนางเบาๆ ตลอดเวลา ตอนนี้เป็น    เวลาเย็นแล้ว ชายหนุ่มเริ่มออกเดินทางสำรวจต่อ โดยมีท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นโทน    เข้มขึ้นอย่างสวยงามอยู่ด้านบน

เมื่อแหงนดูท้องนภา หวังเป่าเล่ออยากจะค้นหาต่อในบริเวณอื่น แต่จังหวะนั้นเอง   เขากลับก้มลงมองกำไลคลังเวท และหยิบเอาแผ่นหยกซึ่งกำลังเรืองแสงสีแดง     พร้อมกับสั่นสะเทือนรุนแรงออกมาเสียก่อน!

สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้มอบวัตถุชิ้นนี้ไว้ เพื่อให้ลูกศิษย์ใช้เวลาตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!