Skip to content

A World Worth Protecting 106

บทที่ 106 เก้านิ้วจอมดื้อดึง

ชั่วขณะที่รังสีเย็นยะเยือกแผ่ออกมา รากฐานวิญญาณเก้านิ้วพุ่งกลับมาเขา    อย่างฉับไว หวังเป่าเล่อยังไม่ทันได้มองให้ชัดๆ รากฐานวิญญาณเก้านิ้วก็มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมยกมือขวาขึ้นชก

เร็วเกินไปแล้ว!

ใจหวังเป่าเล่อสั่นวูบ ปราณโลหิตมหาศาลรอบตัวเขาระเบิดออกกลายเป็น   เกราะป้องกันรากฐานวิญญาณเก้านิ้ว หวังเป่าเล่อล่าถอย ร่างกายสั่น หากแต่เขาก็   ไม่ยอมหยุด แล้วใช้ความเร็วเต็มกำลังหลบไปด้านข้าง

พริบตาที่หวังเป่าเล่อหลบ รากฐานวิญญาณเก้านิ้วตามมาปรากฏตรงหน้าเขาอีกครั้ง มันเหยียบหินแตก เศษหินพุ่งกระจายไปทุกทาง!

ด้วยความเร็วระดับนี้ พลังของตัวมันซึ่งไม่ได้โดดเด่นก็แข็งแกร่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด! หวังเป่าเล่อคิดขณะที่ลมหายใจของเขายิ่งเร่งจังหวะ เขาถอยหลังไปอีกครั้งพร้อมปิดตาลง ตัวเขายิ่งจริงจังและตั้งสมาธิมั่นกว่าครั้งไหนๆ

ไม่ใช่พลังของผู้ฝึกตนระดับลมหายใจเที่ยงแท้ด้วยซ้ำ!

มันอยู่ในขั้นบำรุงชีพจรเหมือนข้า แต่เหตุใดจึงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขนาดนี้

หวังเป่าเล่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาหลงคิดว่าตนเองบรรลุขั้นสุดยอดของ      ขั้นบำรุงชีพจรแล้ว แต่เมื่อได้เห็นการโจมตีของรากฐานวิญญาณเก้านิ้ว เขารู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าขั้นปราณบำรุงชีพของตนอ่อนด้อยลงไปถนัดตา

ข้าสู้กับความเร็วระดับนี้ไม่ได้! ข้าต้องหาทางทำให้มันช้าลง!

ขณะที่หวังเป่าเล่อถอยหลังไป เขารีบคลายจากสภาวะสรีระทองคำ ในตอนก่อนหน้านี้ที่ถูกรากฐานวิญญาณจำนวนมากไล่ล่า เขาชะลอพวกมันลงได้ด้วยการ        รวมสรีระทองคำกลับเข้ามา

ในคราวนี้เองก็ไม่ได้ต่างกัน เมื่อหวังเป่าเล่อคลายสรีระทองคำ รากฐานวิญญาณเก้านิ้วเปลี่ยนจากแผ่รังสีเยือกเย็นกลายเป็นสงบนิ่งลง มันเลิกมองหวังเป่าเล่อแล้วลอยจากไปในอากาศช้าๆ แทน

หวังเป่าเล่อกะพริบตาปริบๆ เริ่มเข้าใจว่าการปล่อยและผนึกสรีระทองคำมีผลต่อรากฐานวิญญาณเก้านิ้ว เขาจัดตำแหน่งตน แล้วปล่อยสรีระทองคำออกมาอีกครั้งพร้อมพุ่งตัวออกไป

วินาทีที่สรีระทองคำปล่อยออกมา รากฐานวิญญาณเก้านิ้วที่กำลังไปทางอื่นหันกลับมาแผ่รังสีเย็นยะเยือกใหม่ทันใด มันพุ่งเข้าหาหวังเป่าเล่อเร็วยิ่งกว่าเมื่อครู่      เมื่อถึงตัวหวังเป่าเล่อ มันยกมือขวาตรงเข้าหมายจะคว้าลำคอหวังเป่าเล่อ

เมื่อเข้ามาใกล้ ปราณวิญญาณรอบด้านเริ่มขยับรวมตัวกันเป็นลมหมุน ขังหวังเป่าเล่อไว้กับที่!

หวังเป่าเล่อผงะไปกับระดับความเร็วของอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่เขาเตรียมตัวมาพร้อมสำหรับการนี้ เมล็ดดูดกลืนข้างในตัวเขาแผ่ขยาย ปลดปล่อยพลังสูบออกมารุนแรง ชายหนุ่มบิดมือขวาของรากฐานวิญญาณเก้านิ้วที่กำลังเคลื่อนเข้ามาไปทางอื่น ทำให้มือนั้นพลาดจากเป้าหมาย วินาทีนั้นเอง หวังเป่าเล่อใช้มือข้างที่สวมถุงมือสู้กับรากฐานวิญญาณเก้านิ้ว ดวงตาเขาเผยแววโหดเหี้ยม!

หวังเป่าเล่อบิดข้อมือนั้น ก่อนยกขาซ้ายขึ้นถีบบริเวณหน้าท้องของ          รากฐานวิญญาณเก้านิ้ว ร่างของมันถูกเตะกระเด็นไปข้างหลังพร้อมเสียงดังโครม   หวังเป่าเล่อใช้จังหวะนี้แผ่ปราณโลหิตออกจากร่าง แล้วรวมเข้ากับแรงสะท้อนกลับจากลูกเตะ

เขาเป็นอิสระจากลมหมุนปราณวิญญาณ เคลื่อนถอยหลังไปไกลหลายกิโลเมตร เขามองไปยังรากฐานวิญญาณเก้านิ้วด้วยความประหลาดใจ จนไม่ได้สนใจเท้าซ้าย   ซึ่งปวดจากแรงสะเทือน

ตอนมันพยายามจะจับตัวข้า มันรวมปราณวิญญาณจากรอบตัวมาขังข้าไว้ใน    ลมหมุนได้! ดูไปคล้ายกับกระบวนท่าของเฉินเยี่ยเหมิง แต่เฉินเยี่ยเหมิงใช้               วงแหวนปราณ เห็นได้ชัดว่าพวกรากฐานวิญญาณใช้กระบวนท่าเดียวกับพวก      สาขาการยุทธ์ แต่นี่ใช่วิธีที่เหมาะสมกับพวกมันจริงหรือ

หัวใจหวังเป่าเล่อเต้นถี่ขณะที่เขาวิเคราะห์สถานการณ์อย่างสงสัยใคร่รู้

เจ้าสำนักได้เคยกล่าวว่า รากฐานวิญญาณลมหายใจเที่ยงแท้ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เหมือนเมล็ดพันธุ์ บรรจุวิญญาณของเหล่าผู้รอดชีวิตจากอารยธรรมนิรนามเอาไว้!

เมื่อคิดตามนั้น หมายความว่าในอารยธรรมโบราณที่มีผู้ฝึกตนอยู่ทุกหนแห่งนี้ อาจมีรากฐานวิญญาณที่แข็งแกร่งและอ่อนแอเป็นร่างกลับมาเกิดของคนต่างกันออกไป ดำรงอยู่โดยมีคุณภาพที่ต่างกันออกไปตามระดับขั้นอย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงจะอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงมีรากฐานวิญญาณหนึ่งนิ้ว ไล่ไปถึง            รากฐานวิญญาณเก้านิ้วนั่นเอง!

ถ้ารากฐานวิญญาณหนึ่งนิ้วคือ ปุถุชนทั่วไป เป็นไปได้หรือไม่ว่ารากฐานวิญญาณเก้านิ้ว…จะเป็นร่างอวตารของผู้ฝึกตนชั้นสูงในอารยธรรมนั้น แต่…ความท้าทายของรากฐานวิญญาณเก้านิ้วนี้อยู่ที่ความเร็วและวิธีควบคุมปราณวิญญาณประหลาดๆ    ถ้าข้าเข้าใจได้ ข้าก็น่าจะทำลายมันได้!

ความคิดมากมายทะยานอยู่ข้างในใจหวังเป่าเล่อพร้อมแรงปรารถนาจะต่อสู้   พวยพุ่งขึ้น

รากฐานวิญญาณเก้านิ้วที่ถูกเขาเตะหยุดห่างออกไปประมาณหลายสิบฟุต       มันยกหัวขึ้นมองหวังเป่าเล่อ

หวังเป่าเล่อมองมันด้วยแววตาจริงจัง รากฐานวิญญาณเก้านิ้วยกมือขวาขึ้นช้าๆ และตวัดบิดกะทันหัน มันควบคุมปราณวิญญาณรอบด้านได้ และเริ่มรวมเอา      ปราณวิญญาณทั้งหมดในหุบเขามาสร้างเป็นลมหมุนล่องหน ระเบิดเสียงดัง

นัยน์ตาของหวังเป่าเล่อหรี่ลงขณะที่เขามองภาพน่าตื่นตานี้ ปราณวิญญาณก่อนหน้านี้แปลงเป็นลมขังตัวเขาไว้ ทำให้เขาประหลาดใจ หนนี้เขาได้เห็นอีกครั้งแล้ว    เริ่มเกิดความเข้าใจขึ้นมาบ้าง ว่ารากฐานวิญญาณทำเช่นนี้ได้โดยใช้กระบวนท่า  ปราณโลหิตที่ไม่เป็นที่รู้จัก ทว่าเขายังไม่รู้รายละเอียด จึงเริ่มถอยหลังไป           หมายจะเพิ่มระยะห่างระหว่างกัน

แต่ในตอนที่หวังเป่าเล่อกำลังถอย รากฐานวิญญาณเก้านิ้วยกหมัดขวาขึ้น     เหวี่ยงหมัดตัดผ่านอากาศมายังหวังเป่าเล่อ ทั้งที่อยู่ห่างกันเป็นกิโลเมตร การโจมตีส่งผ่านมาทางอากาศ แต่หมัดดูจะตกลงไปตรงกลางลมหมุนปราณวิญญาณ      กระตุ้นปราณวิญญาณที่รวมตัวกันจากทั่วทุกด้านระเบิดตัวออก ซัดสาดเข้าใส่       หวังเป่าเล่อดั่งคลื่นในทันที

“มีกระบวนท่านี้ด้วยรึ”

สีหน้าหวังเป่าเล่อเปลี่ยนทันใด เขาพยายามใช้วัตถุเวทป้องกันตัวเอง แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกคลื่นยักษ์ซัดใส่พร้อมกับเสียงดังกึกก้อง เลือดสดกระอักออกจากปากตามร่างเขาที่ถูกกระแทกถอยหลัง รากฐานวิญญาณเก้านิ้วโผล่พรวดขึ้นมา            แววสังหารรุนแรงยิ่งกว่าแต่ก่อน มันยกมือขวาแล้วหมุนอีกครั้งหนึ่ง รวมปราณวิญญาณรอบด้านเข้ามาใหม่ ทำให้ปราณวิญญาณพุ่งหาหวังเป่าเล่อราวกระแสคลื่น

หวังเป่าเล่อหายใจเร็วยิ่งขึ้นขณะเซถลา ทว่าดวงตาเขาจับจ้องทุกสิ่งตรงหน้า    ไม่ลดละ

รากฐานวิญญาณใช้กระบวนท่าเดิมซ้ำกันสามครั้งแล้ว ในครั้งแรก หวังเป่าเล่อตกใจ ครั้งที่สอง เขาเริ่มจับทางได้

ในครั้งที่สาม หวังเป่าเล่อเบิกตามองไว้ แต่ยังไม่อาจเข้าในกระบวนท่าของรากฐานวิญญาณเก้านิ้วได้ทั้งหมด ทว่าเขาเริ่มเข้าใจกระบวนท่าเหล่านั้นขึ้นมาบ้าง เพราะตนเองก็ไวต่อปราณวิญญาณรอบตัว!

สร้างพายุแล้วเพิ่มพลังลงไปยังใจกลางเพื่อให้ปราณวิญญาณที่มองไม่เห็นนี้    แตกตัวแล้วสลายลง กระบวนท่าอันก่อให้เกิดกระแสคลื่นนี้…เปรียบเสมือน        ปราณวิญญาณนั้นเป็นดั่งน้ำทะเล!

พอเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นเช่นไรจากการมุ่งความสนใจไปที่ความเร็วของ        รากฐานวิญญาณ หัวใจหวังเป่าเล่อตื่นเต้นสั่นเทิ้ม

ความเร็วของมันเชื่อมโยงกับพลังที่มันควบคุมปราณวิญญาณ!

ความคิดอ่านหวังเป่าเล่อพบจุดกระจ่างแจ่มแจ้ง ชายหนุ่มลิงโลดขึ้นมาทันที กลายเป็นความร้อนรนอันฮึกเหิม วิธีที่รากฐานวิญญาณใช้ควบคุมปราณวิญญาณดูจะให้ความกระจ่างแก่หวังเป่าเล่อ ช่วยให้เขาเข้าใจกระบวนท่าของอีกฝ่ายได้ถ่องแท้ยิ่งขึ้น

แต่แม้จะได้ข้อสรุปแล้ว ตัวเขาเองก็ยังติดปัญหา ไม่อาจเข้าใจกระบวนท่าของมันจนคาดคะเนล่วงหน้าได้ แต่สำหรับหวังเป่าเล่อแล้ว กระบวนท่านั้นไม่สำคัญเท่าที่สิ่งที่เขาเข้าใจ

ถึงแม้ตัวเขาจะไม่อาจลอกเลียนกระบวนท่าของมันได้สมบูรณ์แบบ แต่เขายังเลียนแบบด้วยวิธีอื่นได้!

เมื่อรากฐานวิญญาณเก้านิ้วพุ่งเข้าใส่เขา แววตาหวังเป่าเล่อเป็นประกาย      เมล็ดดูดกลืนข้างในตัวส่งพลังไปยังมือขวา เปลี่ยนให้กลายเป็นมวลพลังคล้ายหลุมดำพร้อมระเบิด ปราณวิญญาณรอบด้านที่เหมือนทะเลล่องหนถูกดูดเข้าหามือขวาของเขาทันที

หวังเป่าเล่อคำรามเสียงดังเมื่อปราณวิญญาณหลั่งเข้ามา เขายกมือขวาขึ้นแล้วเหวี่ยงขึ้นไป!

ปราณวิญญาณที่เขาสูบเข้ามา ถูกขว้างออกไปตามการเคลื่อนไหวของเขา       เกิดเป็นกำแพงปราณเข้าขวางทางรากฐานวิญญาณเก้านิ้วที่กำลังพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อ

หมัดของรากฐานวิญญาณเก้านิ้วกระแทกเข้าใส่เกราะปราณนั้นอย่างจัง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างของมันถลาถอยไปด้านหลังวินาทีที่ชนเข้า หวังเป่าเล่อพุ่งตามไป แต่เขาเคลื่อนไหวไม่รวดเร็วเท่า ทั้งคู่จึงยังห่างกันเป็นกิโลเมตรเช่นเดิม

เห็นดังนั้นหวังเป่าเล่อก็หยุดชะงักไป เขาอยู่ไม่สุข การต่อสู้ครั้งนี้มีความหมายต่อเขานัก

ปราณระดับการฝึกตนโบราณทำเช่นนี้ได้ด้วยรึ!

เมล็ดดูดกลืนของข้าดูดซับได้อย่างเดียว ถ้าข้าต้องการจะปลดปล่อยพลังของมัน ข้าต้องพึ่งวัตถุเวท ข้าพอจะจับทางกระบวนท่าของเจ้ารากฐานวิญญาณเก้านิ้วนั่น แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองได้บ้างแล้ว!

ขณะที่เขาระริกระรี้ รากฐานวิญญาณเก้านิ้วหันกลับมา หมายจะพุ่งเข้าใส่      หวังเป่าเล่ออีกครั้ง แต่หวังเป่าเล่อกลับยกมือขวาขึ้นออกแรงยันมวลอากาศตรงหน้าเพื่อขวางมันไว้ แล้วคลายสรีระทองคำ

“หยุดก่อน! ขอข้าทำความเข้าใจทุกอย่างก่อนจะลุยต่อแล้วกันนะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!