Skip to content

A World Worth Protecting 108

บทที่ 108 เจ้ารากฐานวิญญาณเก้านิ้ว!

ระหว่างที่หวังเป่าเล่อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หมอกสีเงินก็ลอยจากจุดตันเถียนเขาไปอย่างรวดเร็ว ดั่งว่าขั้นผนึกกายาและขั้นบำรุงชีพจรของหวังเป่าเล่อไม่มีอยู่จริง    มันทะลุผ่านร่างเขาออกไป ครึ่งหนึ่งโผล่พ้นร่างออกมาราวกับมังกร

ปกติแล้ว ยอดฝีมือที่ไปถึงขั้นผนึกกายาควรจะผนึกทวารใดก็ตามในร่างกายได้ ทำให้ปราณแพร่ออกนอกร่างได้ยาก รายที่เป็นยอดผู้ฝึกตนขั้นบำรุงชีพจรสามารถเปลี่ยนร่างของตนเป็นกำแพงเล็ก ขังทุกอย่างไว้ข้างในได้โดยสมบูรณ์

แต่กระนั้นแล้ว การขังหมอกสีเงินของรากฐานวิญญาณเก้านิ้วเอาไว้ยังคงเป็นเรื่องยาก ในความเป็นจริงที่ผ่านมา ผู้ที่ดูดกลืนรากฐานวิญญาณเก้านิ้วไม่สำเร็จล้วนมาพลาดพลั้งกันตรงนี้นี่เอง

หมอกสีเงินของรากฐานวิญญาณเก้านิ้วไม่ขึ้นกับกายหยาบ ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามขังมันไว้อย่างไร มันก็ยังผ่านทะลุออกไปได้อยู่ดี!

ครั้นเห็นหมอกเงินออกจากร่างไปอย่างง่ายดายต่อหน้าต่อตา หวังเป่าเล่อก็เริ่มกระสับกระส่าย

“กลับมานี่!” หวังเป่าเล่อขู่เสียงต่ำ เมล็ดดูดกลืนในร่างระเบิดขึ้นมา            ปล่อยแรงดูดกลืนมหาศาลเข้าจับหมอกสีเงินแล้วรีบดูดมันอีกครั้ง

“รีบแทนที่ตัวเจ้าแล้วมาเป็นรากฐานวิญญาณของข้าเสีย!” หวังเป่าเล่อจ้องเขม็งพลางขู่คำรามต่อ

หมอกสีเงินซึ่งถูกดูดกลืนเข้ามาใหม่วนเวียนอยู่ข้างในร่างกายหวังเป่าเล่อ รวมตัวกันอีกครั้งตรงรากฐานวิญญาณแปดนิ้ว แต่ก็เหมือนหนก่อน เห็นได้ชัดว่ามันเกลียดชังหวังเป่าเล่อ พอวนไปได้ไม่กี่ครั้งมันก็เริ่มกระจายตัวออก ทำท่าจะจากไปอีกครั้ง

“ข้าจะไม่ให้เจ้าไป ไม่ใช่ชาตินี้แน่! เมื่อเจ้าผ่านเข้ามาในร่างของโคตรบิดา       หวังของเจ้าแล้ว เจ้าก็ต้องยอมรับชะตาสิ!” หวังเป่าเล่อร้องพร้อมตบพุงตัวเองอย่างภาคภูมิ

ทว่าขณะที่เขาพูดไปนั้น หมอกสีเงินดูจะเริ่มหงุดหงิด มันหยุดรวมตัวกันเป็นรูปร่างมังกร แล้วกระจายตัวออก เปลี่ยนร่างเป็นสายหมอกขนาดใหญ่แล้วดิ้นรนจะออกจากร่างของหวังเป่าเล่อในทุกทาง

“เจ้าคิดจะเล่นแง่กับข้ารึ” หวังเป่าเล่อตาโตจ้องมอง เขากัดฟันกรอดแล้วพยายามเปลี่ยนสถานการณ์ แสงสีทองส่องประกายจากร่างเสมือนผิวตัวเขา             มีเกราะผนึกอีกชั้นหุ้มเสริมเข้ามา ปิดทางออกของทุกส่วนร่างกาย

หมอกสีเงินที่กำลังกระจายตัวชนเข้ากับสรีระทองคำของหวังเป่าเล่อทันที     เสียงหึ่งต่ำๆ กระจายไปทั่วข้างในร่างหวังเป่าเล่อ หมอกสีเงินโดนขวางไว้อีกครั้งหนึ่ง และไม่อาจทะลุผ่านสรีระทองคำของหวังเป่าเล่อออกไปได้!

เมื่อเห็นเช่นนั้นหวังเปาเล่อก็หัวเราะด้วยความตื่นเต้น

“ข้าพยายามตั้งมากมายเพื่อให้ได้เจ้ามา แล้วเจ้าคิดจะหนีไปงั้นรึ ไม่มีทางเสียหรอก! วันนี้เจ้าจะต้องยอมแพ้ ไม่ว่าเจ้าจะต้องการแบบนั้นหรือไม่ก็ตาม!” หวังเป่าเล่อใส่แรงตบพุงตัวเอง เขาระริกระรี้ รู้สึกว่าท่าทีที่ตัวเองมีต่อหมอกสีเงินแปรเปลี่ยนไป ไหนจะน้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั่นอีก…

ทำไมข้ารู้สึกราวกับกำลังบังคับให้ผู้หญิงค้าประเวณีกันนะ…ไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย คิดมากน่ะ ข้ากำลังสั่งให้มันเชื่อฟัง มันจะได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นต่างหาก!      หวังเป่าเล่อรู้สึกสบายใจขึ้นมา หลังจากมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นช่างมีคุณธรรม      สูงส่งนัก

เขารักษากรงขังสรีระทองคำเอาไว้ เมล็ดดูดกลืนปล่อยแรงดูดหมุนวนโดยรอบ หมอกสีเงินไม่เพียงลงเอยโดนขังไว้ในร่างของหวังเป่าเล่อ แต่ยังถูกแรงดูดควบคุมให้มันไหลเคลื่อนวนไปรอบๆ รากฐานวิญญาณแปดนิ้ว

ทุกครั้งที่มันพยายามเลี่ยงหนี หวังเป่าเล่อยิ่งเพิ่มแรงดูดเข้าใส่รากฐานวิญญาณ กดดันให้มันยอมฟัง!

แต่หมอกสีเงินนั้นดื้อด้านนัก แม้จะโดนหวังเป่าเล่อกดเอาไว้มันก็ยังไม่ยอมแลกเปลี่ยน มันไหลวนอยู่แบบนั้น ไม่ยอมฟังคำสั่ง

พอเห็นท่าทีต่อต้านและดื้อแพ่งเช่นนี้ หวังเป่าเล่อยิ่งโกรธเกรี้ยว

“เยี่ยม เจ้ามันกล้าดี รากฐานวิญญาณ แต่เจ้าคิดจริงรึว่าข้าไม่มีทางจะสยบเจ้าได้” หวังเป่าเล่อหรี่ตา แววมุ่งมั่นปรากฏฉายชัด จู่ๆ เขาก็หันแล้วพุ่งเข้าถ้ำไป          ใช้เศษหินแตกผนึกปิดปากทางเข้าแล้วนั่งขัดสมาธิ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“ไม่รอให้เจ้าแปรสภาพก็ได้ ข้าจะประสานกับเจ้าเอง!” หวังเป่าเล่อส่งเสียงคราง      ดึงปราณโลหิตทั้งหมดกลับเข้ามา แสงสีทองบนตัวเขาเองก็ค่อยๆ เบาลง

วิธีนี้คล้ายกับการข่มปราณโลหิต ในระหว่างที่ทำเช่นนั้นจะมีผลคล้ายผนึก      ร่างของหวังเป่าเล่อหยุดส่องประกายสีทอง ถ้ามองในระยะประชิดจะเห็นว่าประกายสีทองนั้นหรี่ตัวช้าๆ อยู่ใต้ผิวหนังเขา

เมื่อถูกกดไว้ ประกายสีทองจากปราณโลหิตแผ่วลงไม่หยุดโดยมีรากฐานวิญญาณอยู่ตรงใจกลาง แสงนั้นหดตัวไปรวมอยู่รอบรากฐานวิญญาณ

ประกายแสงกลายเป็นเหมือนชั้นเยื่อบางๆ พันห่อหมอกสีเงินเข้ากับปลายรากฐานวิญญาณแปดนิ้วไว้ด้วยกันแน่น!

ผนึกนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก หมอกเงินกระจายออกไม่ได้เมื่อมีประกายสีทองพันธนาการมันไว้ บังคับให้ติดอยู่กับที่ ไม่อาจไหลไปไหนได้เลย

มันโดนกดตรึงแน่น ทางเดียวที่มันจะหนีไปได้ คือพุ่งเข้าประสานกับ         รากฐานวิญญาณแปดนิ้วเท่านั้น

หวังเป่าเล่อจงใจเก็บวิธีนี้ไว้เป็นไพ่ตาย หมอกสีเงินไม่มีทางเลือกอื่นในขณะที่โดนแรงกดดันรอบด้านบีบรัดเข้ามา มีแต่ต้องผูกเข้ากับรากฐานวิญญาณแปดนิ้วแล้วหลอมรวมกันเท่านั้น!

ณ เวลานี้ หวังเป่าเล่อไม่ยอมหยุดอีกต่อไป เขาตั้งสมาธิกดหมอกสีเงินเอาไว้ ตราบที่ผนึกยังคลายออกมา หมอกสีเงินก็จะยังคงตกอยู่ใต้แรงกดดัน จนเกิดเสียงแตกดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

“ต่อให้เจ้าไม่ยอมประสาน ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าออก ต่อให้ต้องขยี้เจ้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ตาม!” หวังเป่าเล่อทุ่มทุกสิ่งอย่าง เขาคำรามเสียงต่ำ เพิ่มแรงกดเข้าไปอีก

ถ้าหากเป็นคนอื่นคงไม่อาจมาถึงขั้นนี้ได้ แต่หวังเป่าเล่อมีสรีระทองคำและควบคุมปราณโลหิตกับสรีระทองคำให้สร้างผนึกขึ้นมาได้ เขาจึงต่างจากคนอื่น

ในที่สุด หมอกสีเงินก็ถูกกดไว้จนไร้ทางหนี มันพยายามต่อต้านไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนจะเริ่มผสานเข้ากับรากฐานวิญญาณแปดนิ้วอย่างไม่มีทางเลือก

เมื่อได้เห็นหมอกสีเงินยอมจำนน หวังเป่าเล่อดีใจเนื้อเต้น และขณะเดียวกัน    เขาถอนหายใจโล่งอก เหงื่อท่วมหน้าผาก ในความเป็นจริงแล้ว วิธีการที่เขาใช้นั้นเสี่ยงมาก เขาพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็นถ้าหนทางนี้ล้มเหลว

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไหลลื่น หวังเป่าเล่อชื่นชมที่ตนจับรากฐานวิญญาณเก้านิ้วและทำให้มันยอมแพ้ได้สำเร็จ ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนหน้านี้ เขาเต็มตื้นตื่นเต้นจนตัวสั่นไปด้วย

เก้านิ้ว! ข้าได้รากฐานวิญญาณที่ไม่เคยมีใครได้มาก่อนแล้ว!

ข้า หวังเป่าเล่อ ยอดเยี่ยมเหนือผู้ใด ฮ่า! แม้แต่รากฐานวิญญาณเก้านิ้วยังต้องสยบให้ข้า ข้าเข้าใจตัวเลือกของเจ้าดี เจ้าเก้านิ้ว เจ้ายอดเยี่ยมมาก รีบตามข้ามาเสีย!

ขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังปลื้มปิติอยู่นั้น เขารู้สึกได้ว่าตนเองก้าวเข้าใกล้     ตำแหน่งผู้นำของสหพันธรัฐยิ่งขึ้นไปอีก ความกระตือรือร้นฉายชัดในดวงตา       พร้อมกับที่หมอกสีเงินเริ่มผสานร่างเข้ากับรากฐานวิญญาณแปดนิ้ว ในขณะนั้นเอง รากฐานวิญญาณแปดนิ้วดูจะได้รับพลังเพิ่มและเริ่มส่องประกายขึ้นมาช้าๆ!

แปดจุดหนึ่งนิ้ว แปดจุดสองนิ้ว แปดจุดสามนิ้ว…

เมื่อหมอกสีเงินประสานรวมกับรากฐานวิญญาณของหวังเป่าเล่อโดยสมบูรณ์ รากฐานวิญญาณแปดนิ้วเดิมเติบโตขึ้นเป็นเก้านิ้ว!

หวังเป่าเล่อหัวเราะยกใหญ่ รีบนั่งขัดสมาธิ แววตามุ่งมั่นตั้งใจ เขาต้องการจะใช้รากฐานวิญญาณเก้านิ้วเป็นฐานเพื่อบรรลุระดับการฝึกตนโบราณและก้าวเข้าสู่   ระดับลมหายใจเที่ยงแท้!

การบรรลุขั้นนั้นไม่ยาก เพียงต้องฝังรากฐานวิญญาณเข้าที่จุดตันเถียนแล้วปล่อยให้รากแผ่ขยายทั่วร่างกายเข้าแทนที่เส้นปราณด้วยเส้นปราณวิญญาณ เมื่อทำเช่นนั้นจะดูดกลืนปราณวิญญาณได้เร็วขึ้น และสำคัญเหนืออื่นใด จะสามารถใช้เส้น      ปราณวิญญาณที่ประสานตัวอย่างสมบูรณ์แล้วควบคุมโครงสร้างของปราณวิญญาณ แล้วสร้างพลังเวทได้!

เมื่อรากฐานวิญญาณประสานรวมกับเส้นปราณสำเร็จ ก็จะสามารถผลิตพลังเวทได้!

เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาก็จะกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับลมหายใจเที่ยงแท้เต็มตัว!

ส่วนรากฐานวิญญาณหนึ่งถึงแปดนิ้ว ความยาวเหล่านี้ใช้กำหนดว่ารากฐานวิญญาณจะแทนที่เส้นปราณได้มากน้อยเพียงใด ในขณะที่มันแผ่ขยายไปทั่วร่างกาย

รากฐานวิญญาณแปดนิ้วจะเปลี่ยนเส้นปราณเป็นเส้นปราณวิญญาณได้แปดในสิบส่วน!

นั่นหมายความว่า…

“ข้าจะครอบครองเส้นปราณวิญญาณถึงเก้าในสิบส่วน!” หวังเป่าเล่อฮึกเหิม   เมื่อเขาปลดปล่อยเต็มที่เพื่อเริ่มบรรลุขั้น!

แต่ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น บนท้องฟ้ากว้างเหนือใจกลางหมู่บ้านลมปราณวิญญาณ ยอดเขาอันเกิดจากชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดจากห้วงอวกาศพลันสั่นสะเทือนในบัดดล!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!