Skip to content

A World Worth Protecting 276

บทที่ 276 กลับมาเยือนถิ่นที่คุ้นเคย

หวังเป่าเล่อไม่เคยคิดร้ายกับใครไม่ว่าจะเป็นสำนักรุ่งสางจักรพิภพหรือตระกูลนภาห้าสมัยก็ตาม ชายหนุ่มไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่ได้มาปองร้ายเขาก่อน ทว่าตั้งแต่   ได้เข้ามายังเขตจันทราเวทแห่งนี้เขาก็ปะทะกับขุมอำนาจทั้งสองอย่างรุนแรงไป    หลายครั้งหลายครา

ชายหนุ่มเพิ่งจะคิดบัญชีแค้นกับสำนักรุ่งสางจักรพิภพเสร็จสิ้นไปหมาดๆ แถมยังคิดดอกเบี้ยเพิ่มไปด้วย หวังเป่าเล่อสังหารผู้ฝึกตนทุกคนที่ไล่ล่าเขาในคราวนั้น เว้นไว้เพียงแต่หญิงชราผู้อยู่ในขั้นกำเนิดแก่นในเท่านั้น นางทำอะไรเขาได้ไม่ถนัดนักเมื่ออยู่ในเขตจันทราเวทแห่งนี้ หวังเป่าเล่อจึงคิดว่าแค่นางเห็นเขาไล่สังหารศิษย์ของนางไป  ทีละคน คงจะทำให้นางเสียสติได้ในไม่ช้า

อีกคนหนึ่งจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพที่ข้าจะต้องสังหารก็คือเจ้าเฉินหุย!        ความเยือกเย็นสะท้อนวาบขึ้นมาในแววตาของหวังเป่าเล่อ ชายหนุ่มสืบจนรู้นาม     ลูกศิษย์ของหญิงชราผู้นี้ และค้นพบว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกัน

โจวเฟยอีกคน! เฉินหุยขณะนี้อยู่ที่ใดไม่แน่ทราบแน่ เพราะฉะนั้นแล้วเป้าหมายหลักของหวังเป่าเล่อจึงเปลี่ยนมาเป็นโจวเฟยไปโดยปริยาย อย่างไรเขาก็จัดการกับเป้าหมายในสำนักรุ่งสางจักรพิภพไปเป็นจำนวนมากแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มแตะต้องตระกูลนภาห้าสมัยแม้แต่น้อย

ผู้มีธรรมควรมีปฏิบัติต่อผู้คนและจัดการทุกปัญหาด้วยความยุติธรรม หวังเป่าเล่อหรี่ตาลง ก่อนจะออกตัวพุ่งไปยังฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัยด้วยความเร็วเต็มขั้น

เมื่อเส้นทางไร้ซึ่งอุปสรรคกีดขวาง หวังเป่าเล่อจึงเดินทางเข้าไปใกล้ฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัยได้อย่างรวดเร็วจนน่าตื่นตะลึง ชายหนุ่มวิ่งไปเป็นเวลาร่วม       สองชั่วโมง

ก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องทลายโสตประสาทมาจากท้องฟ้าเบื้องบน    แรงกดดันของผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในระเบิดขึ้น ก่อนที่เสียงตะโกนของหญิงชราจะดังกังวานไปในอากาศ

“หวัง…”

ยังไม่ทันที่นางจะพูดจบ หวังเป่าเล่อก็ซัดเอาลูกประคำหมอกเวทเคลื่อนย้าย    อีกหนึ่งกำมือไปทางต้นเสียง โดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง ประคำเหล่านั้นระเบิดขึ้นทันทีรอบตัวนาง หมอกกระจายตัวออกมาเป็นคลื่นและปกคลุมทุกสิ่งโดยพลัน รวมถึงหญิงชราผู้ซึ่งเพิ่งจะตามหวังเป่าเล่อทันด้วย

“บัดซบ! บัดซบ! บัดซบ!” หญิงชรากรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด เรือนผมที่หลุดลุ่ยของนางสยายยุ่งเหยิงอยู่บนบ่า นางอุตส่าห์ระวังเป็นอย่างมากไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว     แถมยังพยายามรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับหวังเป่าเล่อ ก่อนหาโอกาสใช้   สมบัติเวทลอบจัดการ แทนที่จะพุ่งเข้าโจมตีตรงๆ จนกระทั่งมาแผนแตกเพราะ     มวลพลังที่นางระเบิดออกมา แต่กระนั้นประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายก็ทรงพลังยิ่งกว่า ไม่ว่าสิ่งใดที่พุ่งเข้ากระทบ ต่อให้เป็นสมบัติเวทหรือผู้ฝึกตน ต่างก็จะถูกเคลื่อนย้ายหายไปในพริบตา

หวังเป่าเล่อซัดเอาประคำออกไปหนึ่งกำมือเต็มๆ หมอกกระจายออกปกคลุมทั่วบริเวณในชั่วอึดใจ หญิงชราไม่อาจจะหลบเลี่ยงดงหมอกได้ จึงถูกปกคลุมและเคลื่อนย้ายหายไปอย่างไม่เต็มใจอีกหนหนึ่ง

“หวังเป่าเล่อ ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!” หญิงชราปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอีกมุมหนึ่งบนด้านสว่างของดวงจันทร์ ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวแลดูน่าเกลียดน่ากลัว เส้นเลือดในดวงตาก็ปูดโปนจนเห็นได้ชัด ความรู้สึกหงุดหงิดไร้ทางสู้บีบให้นางเกรี้ยวกราดจนแทบจะเสียสติ นางกระทืบพื้นอย่างแรงจนเกิดเสียงสนั่นครั่นครืนดังขึ้นมา ก่อนจะพุ่งตัวกลับไปยังด้านมืดของดวงจันทร์อีกครั้ง ดวงตาทั้งสองของนางแดงก่ำ

หวังเป่าเล่อเพียงแค่หันศีรษะไปจ้องมองตำแหน่งที่หญิงชราเคยอยู่อย่างเลือดเย็น ชายหนุ่มหันหลังกลับมาและมุ่งหน้าไปตามทางสู่ฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัย   อีกครั้งหนึ่ง แทนที่จะลดความเร็วลงเขากลับเร่งฝีเท้าขึ้นอีก

เมื่อมองดูจากที่ไกล หวังเป่าเล่อในตอนนี้ดูเหมือนกับเกาทัณฑ์สีรุ้งดอกหนึ่งที่บินเรี่ยดินพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ชายหนุ่มทะลุผ่านป่าไปจนกระทั่งถึง…สถานที่    ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเดินทางผ่าน…ฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัย!

หลุมดวงจันทร์ภายในฐานนี้ถูกขุดจนกว้างใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า ต้นไม้ยักษ์กับ  ผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในวัยชราไม่ประจำอยู่ที่ฐาน แต่ก็มีผู้ฝึกตนของตระกูล        นภาห้าสมัยนับร้อยคนนั่งล้อมรอบหลุมอยู่ พวกเขานั่งขัดสมาธิล้อมหลุมเอาไว้ราวกับว่ากำลังเฝ้ายามอยู่กระนั้น

ผู้ฝึกตนส่วนมากอยู่ในระดับลมหายใจเที่ยงแท้ มีเพียงสามสิบกว่าคนเท่านั้นที่อยู่ในขั้นรากฐานตั้งมั่นแล้ว ผู้ฝึกตนทุกคนนั่งขัดสมาธิอยู่รอบหลุมดวงจันทร์ พลางเฝ้าสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างระแวดระวัง

มีเสียงครั่นครืนดังออกมาจากหลุมขนาดยักษ์ที่พวกเขาเฝ้ายามอยู่เป็นครั้งคราว ดูเหมือนกำลังมีพิธีกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นภายในหลุมแห่งนั้น!

หวังเป่าเล่อมาถึงราวกับเกาทัณฑ์ที่ถูกยิงมาแต่ไกล ร่างของชายหนุ่มพุ่งฉิว     ผ่านตาเหล่าผู้ฝึกตนไป ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นรู้สึกได้ว่ามีคนมา ก่อนจะหันศีรษะมาหาหวังเป่าเล่อ ที่พุ่งตัวออกมาจากป่าด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า!

ผู้ฝึกตนแห่งตระกูลนภาห้าสมัยตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าผู้ฝึกตนระดับ   ลมหายใจเที่ยงแท้จะจำหวังเป่าเล่อไม่ได้ในตอนแรก ทว่าฐานที่มั่นแห่งนี้ก็เป็นสถานที่สำคัญของตระกูลนภาห้าสมัย เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากจึงไม่ได้ลังเลที่จะจู่โจมใส่    หวังเป่าเล่อทันทีที่เขาปรากฏตัว

“เจ้ารนหาที่ตายเสียแล้ว!” ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายคนหนึ่งและ       ชั้นกลางอีกสามคนที่อยู่ใกล้หวังเป่าเล่อที่สุดผุดลุกขึ้นยืนและพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มทันที

“ข้ามีธุระกับโจวเฟยเท่านั้น แต่หากผู้ใดขวางทางข้า…ข้าจะสังหารมันให้สิ้น!” หวังเป่าเล่อตะโกนพลางส่งสายตาอาฆาต เขาไม่ได้ลดความเร็วลงเลย เมื่อโบกมือขวาเพียงครั้งเดียวกระบี่อาวุธเวทก็ปรากฏขึ้น ชายหนุ่มกำกระบี่แน่น ก่อนเหวี่ยงเข้าฟันไปทางผู้ฝึกตนทั้งสี่อย่างรวดเร็ว!

พายุมรสุมสีดำพุ่งทะยานออกไป จระเข้ปรากฏตัวขึ้นตามมา พลังโจมตีของกระบี่สูงเสียจนน่าตกใจ คมกระบี่ที่พุ่งทะยานเข้าใส่ทำให้ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นทั้งสี่ถึงกับผงะ ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายสงบลมหายใจลงก่อนจะเรียกผนึกมือขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว แล้วเอาสมบัติเวทจำนวนมหาศาล รวมถึงยันต์กระดาษอีกจำนวนหนึ่งออกมาสร้างเกราะป้องกัน ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นกลางอีกสามคนพลันทำตามอย่างเร่งรีบ เห็นได้ชัดว่าทั้งสามไม่อาจรับมือการโจมตีของหวังเป่าเล่อ   ได้ดีเท่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายอย่างแน่นอน

เสียงปะทะดังลั่นสะท้อนก้องไปทั่ว เสียงตะโกนด้วยความเจ็บปวดดังตามๆ กันมา การป้องกันของผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นกลางทั้งสามเปล่าประโยชน์ เมื่อต้องปะทะกับคมกระบี่ยักษ์ที่ทะลวงเข้าใส่ เกราะป้องกันทั้งหมดแตกสลายและหายวับไปในพริบตา ผู้ฝึกตนทั้งสามตัวสั่นเทิ้มก่อนที่คมกระบี่จะฟาดร่างของพวกเขา เสียงร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัวดังลั่นออกมาจากริมฝีปากทั้งสาม!

ศีรษะของผู้ฝึกตนคนหนึ่งถูกตัดกระเด็นไป ร่างกายของคนที่สองถูกหั่นครึ่ง    ส่วนคนที่สามที่วิ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อเป็นคนแรก ถึงกับสลายกลายเป็นละอองโลหิตไปเลยทีเดียว…ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายเป็นคนเดียวที่ยังเหลือรอด เขาทุ่มพลังมหาศาลไปกับการป้องกันและสะท้อนลำแสงจากกระบี่เมื่อครู่ออกจากตัวเอง         แต่หลังจากป้องกันได้สำเร็จใบหน้าเขาก็ไม่เหลือสีเลือดอีกเลย

แม้ว่าดวงตาจะฉายแววพรั่นพรึงเพียงใด แต่เขายังคงเหลือพลังอยู่ส่วนหนึ่ง     ชายผู้นั้นไม่ได้ล่าถอย แต่กลับเลือกที่จะพุ่งทะยานเข้ามาหาหวังเป่าเล่อโดยฉับพลัน ไม่ช้าก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มในกระบวนท่าพร้อมโจมตี

“ไสหัวไป!” หวังเป่าเล่อไม่มีปัญหาหากจะต้องต่อสู้กับผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลาย จริงๆ แล้วถ้ามีเวลามากกว่านี้ เขาอยากจะทดลองขีดจำกัดของพลังใหม่     ดูเสียด้วยซ้ำ ทว่าขณะนี้เขามีเวลาเหลือไม่มากนัก จึงใช้มือซ้ายซัดประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายใส่ไปแทน

ประคำลูกนั้นระเบิดขึ้น ปล่อยหมอกเคลื่อนตัวออกไปเป็นระลอก ผู้ฝึกตน       ขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายถึงกับหยุดการโจมตีเอาไว้ฉับพลัน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร หมอกก็ล้อมรอบตัวเขาไว้เสียก่อน ผู้ฝึกตนคนนั้นถูกเคลื่อนย้ายหายไปในพริบตา!

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วยิ่งนัก เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ก่อนที่ใครจะตอบสนองได้ทันการณ์ หวังเป่าเล่อโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ผู้ฝึกตนสี่คนพยายามเข้าไปหยุดเขา แต่ในพริบตาเดียวคนหนึ่งหายไปขณะที่อีกสามคนสิ้นใจ      ไปแล้ว!

ผู้ฝึกตนที่เหลือเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน พวกเขาทุกคนไม่อยากจะเชื่อสายตา คลื่นอารมณ์อันหลากหลายถาโถมอยู่ในจิตใจพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…โจวเฟย!

“หวังเป่าเล่อ!” ดวงตาของโจวเฟยเบิกโพลง ก่อนจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ      เขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง ชายหนุ่มถูกตระกูลเรียกตัวกลับมาเพื่อช่วยป้องกันฐานที่มั่น และเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล โจวเฟยและคนอื่นจึงถูกริบแผ่นหยกไปเสียก่อน พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สื่อสารกับโลกภายนอก โจวเฟยจึงไม่รู้มาก่อนว่าหวังเป่าเล่อรอดจากเขตหวงห้ามมาได้และกลับมาหาเขาแล้ว

พอเห็นหวังเป่าเล่อโผล่มากะทันหันพร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่นี้ โจวเฟยจึงกลัวจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่!

ขณะที่ทุกคนยืนตะลึงอยู่นั่นเอง โจวเฟยก็ส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นตกใจ สายตาเย็นเยียบของหวังเป่าเล่อกวาดมาพบเขาที่ยืนอยู่กลางฝูงชน

“โจวเฟย!” ริมฝีปากของหวังเป่าเล่อคลี่ออกเป็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม ในวินาทีนั้นชายหนุ่มมองหาเพียงแค่โจวเฟยคนเดียวเท่านั้น เขามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์เดียวคือสังหารโจวเฟยเสีย หวังเป่าเล่อพุ่งตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยแววอาฆาตรุนแรง

ศีรษะของโจวเฟยมึนตึง เขาล่าถอยอย่างเร่งรีบพลางร้องตะโกน “คนผู้นี้คือ    ชายที่ผู้อาวุโสบอก คนที่พวกเราทุกคนต้องฆ่าปิดปาก ทุกคนช่วยกันสังหารเขาเสีย เขามีอาวุธเวทอยู่ในมือ อาวุธเวทระดับแปดเชียวนะ!”

ทันทีที่ถ้อยคำเหล่านั้นออกมาจากปากโจวเฟย ผู้ฝึกตนกว่าสามสิบคนก็พุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อทันที ใบหน้าของโจวเฟยคลายความตื่นกลัวลงเมื่อเห็นดังนั้น            ความโหดร้ายกลับส่องประกายในดวงตาขึ้นมาแทน

“หวังเป่าเล่อ เจ้าเดินทางไกลมามอบของกำนัลให้กับพวกข้าถึงที่เชียวหรือ!”

“น่าสนุกจริง ในเมื่อพวกเจ้ารนที่ตายเอง ข้าก็ขอทดสอบขีดจำกัดพลังของข้า   สักหน่อยก็แล้วกัน!” ผู้ฝึกตนกว่าสามสิบคนพุ่งตรงเข้ามาหาหวังเป่าเล่อ ส่วนมากอยู่ในขั้นรากฐานตั้งมั่น มีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ยังอยู่ในระดับลมหายใจเที่ยงแท้        หวังเป่าเล่อหรี่ตาลงก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“ตื่นเถิด!”

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ท้องฟ้าพลันเปลี่ยนแปรไป ราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิต     น่าสะพรึงกลัวที่หลับใหลอยู่ ณ สุดขอบจักรวาลอันกว้างไกลเริ่มขยับตัว และก้าวลงมายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

การปรากฏตัวของมันสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน ท้องฟ้าส่งเสียงคำรามสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นในทันที กลุ่มผู้ฝึกตนที่กำลังพุ่งเข้าหาหวังเป่าเล่อพากันชะงัก พวกเขาตัวสั่นพลางมีสีหน้าตื่นกลัวกันทุกคน…

ขณะที่ทุกคนยืนนิ่งงันใจสั่นอยู่นั้นเอง ก็บังเกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาจากอาวุธเวทของหวังเป่าเล่อ แสงนั้นแปรสภาพกลายเป็นจระเข้สีดำสนิทที่เปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ ก่อนที่มันจะพุ่งตรงเข้าหาฝูงชนทันที!

ชายหนุ่มยกมือขึ้น ฟาดกระบี่ลง ศีรษะจำนวนมากร่วงหล่นลงกระทบพื้น!

ผู้ฝึกตนทุกคนตายคาที่ทันที!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!