บทที่ 738 กฎของการปล้นที่ดี
พลังที่แพร่กระจายออกมาจากการบรรลุขั้นปราณของหวังเป่าเล่อไม่ได้น่าประทับใจเท่าใดนัก แต่ก็ยังมีคลื่นพลังวิญญาณแพร่ออกไปถึงเขตหวงห้าม คลื่นพลังวิญญาณไหลบ่าท่วมบริเวณและกระจายไปยังผู้ฝึกตนทุกคนที่ทำงานอยู่บนเรือบินรบ
ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสขั้นจุติวิญญาณทั้งหกของสำนักต่างตกตะลึงเมื่อ สัมผัสได้ถึงการบรรลุขั้นอย่างฉับพลันทันด่วน ผู้อาวุโสสูงสุดหายจากอาการตกตะลึงเป็นคนแรก ก่อนจะเคลื่อนย้ายตัวมาปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือกลุ่มเจ็ด ชายชราก้มศีรษะลงมอง ไม่ใส่ใจสมาชิกของกลุ่มเจ็ดที่หนีหายไปหลบอยู่ในห้องทำงานของตนเองด้วยสีหน้าตื่นตกใจ พลางใช้สัมผัสตรวจสอบบริเวณโดยรอบทันที สัมผัสของชายชราไปจับอยู่ที่ห้องซึ่งหวังเป่าเล่ออยู่!
นัยน์ตาของผู้อาวุโสเบิกโพลงหลังจากที่ตรวจสอบเสร็จ มีความไม่อยากเชื่อ ฉาบเคลือบอยู่บนดวงตาทั้งสอง
หลงหนานจื่อ เขาบรรลุขั้นแล้วหรือ
ผู้อาวุโสสูงสุดสัมผัสสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในห้องนั้นได้อย่างชัดเจน หวังเป่าเล่อนั่งอยู่ภายใน พลังปราณของเขาไหลบ่าออกมาขณะที่พลังวิญญาณขั้นจุติวิญญาณเริ่มมารวมตัวกัน ผู้อาวุโสสูงสุดสัมผัสได้ถึงแก่นในทองคำของหวังเป่าเล่อที่กำลังแตกตัวและวิญญาณจุติของเขาที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสขั้นจุติวิญญาณทั้งหกของสำนักปรากฏตัวขึ้นคนแล้วคนเล่า พวกเขาต่างก็ประหลาดใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นหลงหนานจื่อกำลังบรรลุขั้นปราณ
หลงหนานจื่อมีความสามารถจำกัดมาโดยตลอด แม้ว่าจะได้รับโอกาสในปีต้นๆ แต่เขาก็ยังบรรลุได้เพียงขั้นกำเนิดแก่นในเท่านั้น ตามหลักแล้วขั้นจุติวิญญาณก็ไม่ได้ห่างไกลสำหรับเขา แต่โอกาสที่จะบรรลุได้จริงๆ นั้นมีน้อยนิดมาโดยตลอด
แม้ว่าทุกคนจะไม่อยากเชื่อสายตาในตอนแรก แต่จากนั้นพวกเขาก็ได้ความคิดบางอย่าง หลงหนานจื่อเป็นคนเก่งช้าด้านการหลอมวัตถุเวท การพัฒนาอย่าง ก้าวกระโดดในด้านนั้นอาจจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการบรรลุขั้นปราณก็เป็นได้
ทั้งบรรดาผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดต่างก็ยอมรับความก้าวหน้าอย่างปุบปับของหลงหนานจื่อในด้านการหลอมวัตถุเวท พวกเขาไม่พบพิรุธใดๆ ในตัวอีกฝ่าย ทั้งในวิญญาณ ในกายเนื้อ หรือรัศมีเองก็ไม่มีสัญญาณว่าถูกสิงหรือถูกแทนที่โดยใครคนอื่น
การบรรลุขั้นปราณของหลงหนานจื่อนั้นเป็นเรื่องเกินคาด แต่ก็ถือเป็นสิ่งดี การมีผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณเพิ่มขึ้นในสำนักช่วยเพิ่มพลังและอิทธิพลของสำนัก ขึ้นมาก ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของเขาในด้านการหลอมวัตถุเวทก็เป็นที่ ประจักษ์ชัด ทักษะ ระยะเวลาที่ได้รับใช้สำนัก และการบรรลุขั้นปราณของเขาจะมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเรือบินรบเป็นอย่างมาก
นัยน์ตาของผู้อาวุโสสูงสุดส่องประกายกล้าขึ้นมาเมื่อคิดได้เช่นนั้น เขารีบสั่งให้ ปิดล้อมบริเวณนั้นเอาไว้ทั้งหมด ทุกๆ คนในกลุ่มเจ็ดถูกสั่งให้ออกจากพื้นที่ จากนั้นบรรดาผู้อาวุโสจึงนั่งลงเฝ้ายามให้หวังเป่าเล่อ
สมาชิกกลุ่มเจ็ดไม่รอช้า ต่างก็พากันส่งข่าวเรื่องการบรรลุขั้นปราณของ หลงหนานจื่อออกไป ทุกๆ คนในเขตหวงห้ามจึงรู้ว่าเขานั่นเองที่เป็นต้นเหตุของ คลื่นพลังวิญญาณที่บ่งบอกถึงการบรรลุขั้น!
เสียงอุทานด้วยความตกตะลึงและการทุ่มเถียงอย่างเผ็ดร้อนดังขรมไปทั่ว เขตหวงห้าม บางคนก็แสดงความอิจฉา บ้างก็แสดงความริษยา และหลายคนก็ ทอดถอนใจด้วยความขมขื่น
และผู้ที่ขมขื่นและเศร้าสร้อยที่สุดย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลี่เฉิน
ดวงเนตรสวรรค์บอดไปแล้วหรืออย่างไรกัน ตาสีตาสาที่ไหนก็บรรลุขั้นได้ เช่นนั้นหรือ หลี่เฉินจ้องไปที่เรือบินรบที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยแววตาโกรธเคือง ก่อนจะสบถด่าหวังเป่าเล่อ พร้อมทั้งสวดภาวนาให้การบรรลุขั้นล้มเหลวแต่คำอธิษฐานของเขาก็ไม่สัมฤทธิ์ผล สามวันต่อมา…เมื่อหวังเป่าเล่อก็จบการฝึกปราณและก้าวออกมาจากห้อง ผู้อาวุโสสูงสุดก็ประกาศแต่งตั้งเขาขึ้นเป็น ผู้อาวุโสคนที่เจ็ดของสำนักทันที!
หลังจากการแต่งตั้งหวังเป่าเล่อ ความคิดที่ผู้อาวุโสสูงสุดมีต่อเขาก็เปลี่ยนไป ชายวัยกลางคนจะไม่เข้มงวดกับเขาเท่าศิษย์อื่นๆ อีกแล้ว เขายิ้มให้หวังเป่าเล่อเหมือนที่ยิ้มให้ผู้อาวุโสอีกหกคน
หวังเป่าเล่อคุ้นชินกับการเมืองรูปแบบนี้ดี ตอนที่อยู่ในสหพันธรัฐชายหนุ่มก็ ไต่อันดับขึ้นมา จากล่างสุดมาเป็นเจ้าพนักงานระดับสูง เขาจึงเชี่ยวชาญการรับมือกับผู้คนเป็นอย่างดี ชายหนุ่มตอบรับและแสดงความเคารพผู้อาวุโสท่านอื่นๆ
ในวันต่อๆ มา หวังเป่าเล่อก็ผ่านพิธีการหลากหลายที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็น ผู้อาวุโสของสำนัก สิทธิ์การเข้าถึงที่ได้รับก็เพิ่มพูนขึ้นตามกัน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ชายหนุ่มตั้งตารอมานาน นอกจากจะสามารถเข้าถึงหนังสือลับและเคล็ดวิชาการฝึกปราณของสำนักแล้ว ชายหนุ่มยังสามารถเข้าไถึงแกนกลางของเรือบินรบได้อีกด้วย
หลายวันต่อจากนั้น หวังเป่าเล่อจึงมาจดจ่ออยู่กับแกนกลางของเรือบินรบแทน นอกเหนือจากการศึกษาบันทึกต้องห้ามของสำนักและทักษะการหลอมที่บันทึกอยู่ ในนั้น ชายหนุ่มยังได้ทดลองซ่อมแซมวัตถุเวทในบริเวณแกนกลางของเรือบินรบ อีกด้วย
ทักษะในการหลอมวัตถุเวทของหวังเป่าเล่อพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง การทดสอบและฝึกฝนซ้ำไปซ้ำทำให้ความเข้าใจเรื่องเรือบินรบและโครงสร้างของมันฝังลึกลงไปในใจของชายหนุ่ม ความมั่นใจในการสร้างเรือบินรบของตัวเองก็เพิ่มพูนขึ้นเช่นกัน
เมื่อมีเวลาว่าง หวังเป่าเล่อก็วาดแผนผังเรือบินรบของเขาเองในศีรษะ การสร้างจะต้องสมเหตุสมผลและเป็นไปตามกฎที่กำกับการใช้วัตถุเวท แผนผังนั้นช่างซับซ้อนยิ่งนัก แม้ว่าจะมีความสามารถในด้านนี้สูงเพียงใด หวังเป่าเล่อก็ยังต้องใช้เวลา หลายเดือนกว่าจะได้แผนผังที่สมบูรณ์ในศีรษะ
ขณะที่ร่างแรกของแผนผังเสร็จสมบูรณ์แล้ว ปัญหาใหม่ก็ตามมา…นั่นคือทรัพยากร!
สำนักเกลียวคลื่นสวรรค์ประมูลสิ่งก่อสร้างของสำนักออกไปกว่าครึ่งเพื่อจะหาเงินมาซ่อมแซมเรือบินรบ แต่ฝ่ายหวังเป่าเล่อนั้นกำลังจะสร้างเรือบินรบจาก ศูนย์ ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการสร้างเรือบินรบขึ้นมานั้นมหาศาลนัก อันที่จริงแล้ว อาจจะมากจนประเมินค่าไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
ข้าจะต้องคิดหาทาง…หวังเป่าเล่อศึกษาแผนผังที่เขียนในศีรษะก่อนจะกะประมาณทรัพยากรที่ต้องใช้ออกมาคร่าวๆ ตัวเลขสุดท้ายนั้นหนักอึ้งอยู่ในใจ ชายหนุ่มเผชิญกับความเครียดอย่างหนัก
หากข้าสามารถใช้ใบหน้าอันหล่อเหลาในการหาเงิน เรื่องนี้ก็คงไม่ใช่ปัญหา แต่อย่างใด…ข้าจะทำอย่างไรดี ข้าควรจะใช้ตัวตนของข้าในการขโมยทรัพยากรหรือไม่ หวังเป่าเล่อทอดถอนใจอย่างท้อแท้กับปริมาณทรัพยากรมหาศาลที่เขาจะต้องใช้ สมองเริ่มหมุนวนทำงานอย่างหนัก
ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างก็ยอมรับเขาในฐานะผู้อาวุโสคนใหม่ของสำนัก ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าความระแวดระวังที่พวกนั้นมีต่อตัวเขาเริ่มจางหายไป
หลังจากที่เข้าใจธรรมชาติของอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์และรับรู้ถึงธรรมชาติการอยู่รอดด้วยการปล้นสะดมแล้ว หวังเป่าเล่อก็คิดอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แม้ว่า ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสคนอื่นๆ จะดูเป็นมิตร
แต่ลักษณะภายนอกที่ดูจริงใจนั้น ก็เป็นเพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้น คนดีมีน้อยในอารยธรรมนี้ ผู้ที่ต้องการจะพัฒนาระดับปราณต้องออกเดินทางและเป็นโจร การเข่นฆ่ากลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว
หวังเป่าเล่ออาจจะผ่านการตรวจสอบมาแล้วหลายต่อหลายรอบ แต่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเขาก็ยังทำให้ผู้คนสงสัย ในช่วงเวลานี้ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองเขาอยู่เสมอ ทว่าเขาไม่มีเจตนาจะทำลายสำนักแต่อย่างใด และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ไม่พบพิรุธในตัวเขา
หากหวังเป่าเล่อต้องการ เขาก็สามารถดึงทรัพยากรมาใช้เป็นการส่วนตัวได้ ตำแหน่งของเขาช่วยให้ทางออกนี้สะดวกง่ายดายขึ้น แต่ขณะนี้สำนักก็กำลังยากจนและขาดแคลนทรัพยากรอยู่ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หวังเป่าเล่อจึงสรุปได้ว่า เขาควรจะดูดทรัพยากรของสำนักมาให้แห้งและขโมยเรือบินรบออกไป มิเช่นนั้น แผนของเขาก็คงไม่มีวันลุล่วงได้
บุรุษไม่ควรยึดติดกับเรื่องเล็กน้อย ข้าจะต้องไปให้สุดไม่เช่นนั้นก็ต้องลาลับ ข้าไม่ควรจะมาเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ หวังเป่าเล่อกระแอมกระไอก่อนจะ หรี่ตาลง ประกายแสงกล้าสะท้อนอยู่ในดวงตา
อารยธรรมดวงเนตรสวรรค์นั้นกว้างใหญ่ไพศาล มีสำนักร่ำรวยๆ อยู่มากมาย เต็มไปหมด…หวังเป่าเล่อเลียริมฝีปาก ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะตัดสินใจได้ เขาจะต้องหลบการถูกจับตามองในช่วงสองสามวันจากนี้ จากนั้นก็เริ่มขายของ ในกระเป๋าคลังเก็บและซื้อทรัพยากรมาอย่างลับๆ
ชายหนุ่มทำตามที่วางแผนไว้ทุกประการ จากนั้นในคืนเดือนมืด หวังเป่าเล่อ ก็แอบออกจากที่พักโดยไม่ให้ใครเห็น ก่อนจะมาปรากฏตัว…อยู่บนท้องฟ้า นอกสำนักเกลียวคลื่นสวรรค์!
แม้จะมีสำนักอยู่มากมายที่แนวภูเขาที่ห้า แต่พวกเขาส่วนมากจะเก็บซ่อนทรัพยากรไว้อย่างดี แม้ว่าจะแทรกซึมเข้าไปในสำนักได้ ข้าจะต้องปลอมตัวเป็นใคร สักคนเพื่อเข้าไปสำรวจ จากนั้นก็ต้องพึ่งโชคชะตาเพื่อจะหาของมีค่าให้เจอ ช่างไม่คุ้มค่าเสียเลย เสียเวลาแล้วก็มีปัญหามากนัก…
วิธีที่ดีที่สุดคือให้สำนักเหล่านั้นจัดทรัพยากรของตนเองให้เป็นระเบียบ ข้าจะได้ทำการสะดวกขึ้นเมื่อออกปล้น
เพราะเหตุนี้…หากข้าต้องการจะปล้น เป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด…คือเรือบินรบ ที่เพิ่งกลับมาจากการปล้นสะดมและเต็มไปด้วยทรัพยากร ไม่เพียงแต่จะรับประกันผลลัพธ์อันคุ้มค่า แต่ข้ายังสามารถแยกชิ้นส่วนเรือบินรบออกและเก็บมาใช้ได้อีกด้วย! นัยน์ตาของหวังเป่าเล่อสะท้อนประกายกล้า ความรู้สึกของการได้เป็นอารยธรรม ต่างถิ่นที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทำให้ชายหนุ่มตื่นเต้น เขาหายตัวและมุ่งหน้าไปยังดวงดาว
ดาวเอกของระบบดาวเคราะห์ดวงเนตรสวรรค์มีสำนักอยู่มากมาย แปลว่าย่อมมีเรือบินรบอยู่มากมายเช่นกัน บางลำก็สามารถเดินทางท่องไปได้ไกล ขณะที่ลำอื่นๆ สามารถเดินทางไปมาได้ในระบบดาวเคราะห์เพียงเท่านั้น เรือบินรบจำนวนมากมาเดินทางเข้ามาและออกจากระบบดาวเคราะห์นี้ แม้จำนวนของเรือบินรบที่ผ่านไป ผ่านมาจะไม่ได้มหาศาล แต่ก็ยังถือว่าไม่น้อยนัก
สิ่งนี้คือภาพที่หวังเป่าเล่อเห็นเมื่อชายหนุ่มมาปรากฏกายอยู่ด้านนอกชั้นบรรยากาศของอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ สายตาของเขากวาดมองเรือบินรบจำนวนมาก ชายหนุ่มยกมือถูคาง ก่อนที่เขาจะจำแลงกายอย่างรวดเร็วจากหลงหนานจื่อเป็น…จั่วอี้เซียน
หวังเป่าเล่อกระแอมกระไอ ก่อนจะยกมือขวาขึ้นโบก เจ้าลาที่กำลังนอนหลับอุตุอยู่ในกระเป๋าคลังเก็บถูกปลุกให้ตื่น
“ลูกชายที่รักของข้า ได้เวลาที่เจ้าจะพิสูจน์ตัวเองแล้ว เร็วเข้า บอกบิดาของเจ้า จากประสบการณ์การกินทุกอย่างที่ขวางหน้าของเจ้า เรือบินรบลำใดที่เจ้าคิดว่า มีทรัพยากรซ่อนอยู่มากที่สุดกันเล่า”