Skip to content

A World Worth Protecting 1055

บทที่ 1055 ไล่ล่า

ตอนที่หวังเป่าเล่ออยู่ที่สหพันธรัฐ เขาเคยได้ยินมาว่าคำพูดบางประเภท คนพูดบางประเภทสามารถทำลายบรรยากาศทั้งหมดได้ในประโยคเดียว

หลังจากได้ยินคำกล่าวนี้ หวังเป่าเล่อในตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นและเคยพยายามลองอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุดก็ถึงจุดที่ถือว่าสูงมาก ก่อนที่เขาจะออกจากถนนสายนี้ อย่างโดดเดี่ยวในฐานะยอดฝีมือ

ทว่า ตอนนี้…ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างเวลานั้นแล้ว ยามนี้ เขากำลังจมอยู่กับความคิดและความอ่อนโยนไม่มีที่สิ้นสุดของชาติก่อน คำพูดที่พูดไว้กับเศษหน้ากากได้รับการตอบรับจากแม่นางน้อยแล้ว

เพียงแต่การตอบกลับนั้น…เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!

“หญิงนางนั้นขนดกทั้งตัว ตัวเหม็น หน้าเน่าเฟะ น่าขยะแขยงที่สุด เจ้าอ้วน อย่าได้คิดว่านั่นเป็นข้าเชียวนะ มิเช่นนั้นข้ากับเจ้าจบกัน!!” แม่นางน้อยทำน้ำเสียงขยะแขยง ท่าทางขนลุกขนพองสวนกลับมาอย่างรวดเร็วด้วยความไม่พอใจอย่างแรง

“ไม่คิดเลยว่ารสนิยมเจ้าจะเป็นเช่นนี้ ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ข้าคิดว่าเจ้าแค่ชอบถ้ำมองแล้วแอบคิดสกปรกในใจ ไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าจะรสนิยมแปลกประหลาด ข้าจะบอกหลี่หว่านเอ๋อร์ บอกโจวเสี่ยวหยา บอกเจ้าเยี่ยเหมิง ให้พวกนางได้รู้ธาตุแท้ของเจ้า!”

“โอ้ สวรรค์ แท้จริงแล้วเจ้าชอบผีดิบสาว ไม่ไหวแล้ว ข้าจะอ้วก ข้าอยากจะหนีไป จากเจ้าให้เร็วที่สุดเลย สิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ที่สุดคือเจ้าเอาข้าผู้ที่หน้าตางดงามยิ่งกว่า เทพเทวดา กิริยามารยาทงามเหนือเทพเซียน นิสัยอ่อนโยน ไม่เคยแปดเปื้อนคาวโลกีย์ ความดีงามทั้งหมดรวมอยู่ในกายไปเปรียบเป็นผีดิบ!”

วาจาของแม่นางน้อยแต่ละประโยคเฉียบคม จนร่างของหวังเป่าเล่อสั่นเทาขึ้น ทีละน้อย ราวกับน้ำเย็นซัดสาดทำให้เขาตื่นขึ้นจากความทรงจำในชาติก่อนอย่างสมบูรณ์ เมื่อเห็นว่าแม่นางน้อยกำลังจะอ้าปากพูดอีก หวังเป่าเล่อจึงรีบตะโกนขึ้น

“หยุด หยุด ข้าผิดไปแล้ว ตกลงไหม!”

“ผิด? เช่นนั้นเจ้าบอกข้ามา ชาติก่อนข้าเป็นอะไร” เห็นได้ชัดว่าแม่นางน้อยยังคงขุ่นเคืองอยู่เล็กน้อย

“นางฟ้าตัวน้อย!” หวังเป่าเล่อรีบพูดโดยไม่คิด

“อืม เช่นนั้นชาติ…” แม่นางน้อยอารมณ์ดีขึ้นทันที แต่ดูเหมือนยังติดใจอะไรบางอย่าง ทว่าก่อนที่จะพูดจบ หวังเป่าเล่อก็ตอบให้แล้ว

“ชาติก่อนเป็นน้องสาวของนางฟ้าตัวใหญ่ ชาติก่อนๆ เป็นพี่สาวของนางฟ้าตัวน้อยๆ ชาติก่อนๆๆๆ เป็นลูกสาวคนสุดท้องของจักรพรรดินางฟ้าและราชินีนางฟ้า!”

“…” แม่นางน้อยตกตะลึง แม้นางจะรู้ว่าหวังเป่าเล่อเป็นพวกเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่คิดว่าความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายจะมากเพียงนี้ น้องสาวของนางฟ้าตัวใหญ่นั้นย่อมต้องเป็นนางฟ้าตัวน้อย ส่วนพี่สาวของนางฟ้าตัวน้อยๆ ก็ย่อมเป็นนางฟ้าตัวน้อย พ่อแม่เป็นจักรพรรดิและราชินี ลูกสาวก็ย่อมต้องเป็นนางฟ้าตัวน้อยเช่นกัน

เรื่องนี้ทำให้แม่นางน้อยไม่รู้จะเอ่ยคำใดอยู่ครู่ใหญ่ แม้นางมักจะเรียกตนเองว่าเปิ่นกง[1]…แต่ชื่อนางฟ้าตัวน้อยนั้นเป็นชื่อที่นางชื่นชอบที่สุดจริงๆ

ดังนั้นนางจึงพ่นลมหายใจและปล่อยหวังเป่าเล่อไปอย่างอารมณ์ดี

เมื่อเห็นว่าแม่นางน้อยไม่ถือสาแล้ว หวังเป่าเล่อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะเดียวกันเขาก็อดภูมิใจไม่ได้ คำกล่าวที่ว่าไม่มีสตรีคนใดในโลกนี้ที่ไม่ชอบถูกเรียกว่านางฟ้าตัวน้อย เรื่องนี้เขาได้พิสูจน์ในการต่อสู้จริงมาตั้งแต่ห้าขวบแล้ว

ทว่าขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังภาคภูมิใจก็ดูเหมือนว่าแม่นางน้อยจะคิดอะไรขึ้นได้ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

“เจ้าอ้วน เจ้าพูดจาตลบตะแลงเช่นนี้กับหญิงสาวมากี่คนแล้ว”

สีหน้าหวังเป่าเล่อพลันเคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา

“แม่นางน้อย ไม่ว่าข้าจะเคยพูดมากี่คนแล้ว แต่ข้าหวังว่าหลังจากเจ้า ข้าจะไม่พูดเช่นนี้กับใครอีก!”

“…” แม่นางน้อยที่อยู่ในหน้ากากนั้น แม้นางจะรู้สึกถึงความเสแสร้งในคำพูด แต่ก็ยังคงสุขใจ นางพ่นลมหายใจและไม่ได้ติดใจเอาความอะไรอีก

หวังเป่าเล่อหัวเราะ และยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้น เขาจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไรที่ตน ได้รู้ถึงข้อคิดหนึ่ง ตราบใดที่เขาเป็นคนดี เด็กผู้หญิงมักไม่สนใจว่าก่อนหน้านาง ผู้ชายจะพบเจออะไรมาบ้าง แต่สนใจว่าหลังจากพบนางแล้วยังจะได้พบเจออะไร อีกบ้างต่างหาก

อดีตเรียกว่าคนเสเพล ตอนนี้เรียกคนเสเพลกลับใจ!

“โอ้ ข้าว่ามันเสียเวลาไปหน่อยที่จะไปฝึกฝน ไม่รู้ว่าชาติก่อนมีความรัก อันศักดิ์สิทธิ์หรือไม่” หวังเป่าเล่อไอแห้งๆ แต่เขาไม่ได้สังเกตว่าขณะที่พูดจาเกี้ยว แม่นางน้อย ตัวเขาเองก็กลับมาจากประสบการณ์ของฮุยซานอย่างสมบูรณ์แล้ว

ไม่เพียงเท่านั้นเพราะหญิงสาวใส่หน้ากากในความทรงจำของฮุยซาน ทำให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับแม่นางน้อยเพิ่มมากขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเอาเสียเลย แต่หวังเป่าเล่อก็ไม่ได้ฉุกคิดเลยสักนิด ณ เวลานี้ภายใน เศษหน้ากาก นัยน์ตาของแม่นางน้อยที่ดูมีความสุขเผยแววตาแห่งความทรงจำ อันล้ำลึก

ขณะเดียวกันหวังเป่าเล่อที่แยกออกจากความทรงจำของฮุยซานอย่างสิ้นเชิง ก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของฐานการฝึกฝนและพลังต่อสู้ของตนในทันที ฐานการฝึกฝนของเขาพัฒนาขึ้นเล็กน้อย และดูเหมือนว่าจะทะลวงระดับดาวพระเคราะห์ ชั้นกลางได้อีกไม่ไกลแล้ว

การเพิ่มอายุขัยจะเพิ่มพลังต่อสู้ทางกายภาพ ที่สำคัญกว่านั้นคือมันทำให้ คำสาปวิญญาณเพลิงของเขาสำแดงพลังขั้นที่สองได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ การพัฒนาพลังการต่อสู้ของเขา

นอกจากนี้ยังมีปราณกังวานของกฎแห่งแสง หลังจากหวังเป่าเล่อสังเกตเห็น หัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นเล็กน้อย เขาสรุปได้คร่าวๆ ว่าถึงแม้ผลกำไรของชาติที่สองจะไม่ได้มากมายเท่าชาติแรก แต่ก็ไม่น้อยแล้ว

“ข้าในตอนนี้… ไม่รู้ว่าสามารถสู้กับดารานิรันดร์ได้หรือไม่? ถึงจะสู้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากันนักหรอก!” ดวงตาหวังเป่าเล่อเปล่งประกาย หลังจากตรวจดูเวลาก็พบว่ายังเหลืออีกสี่ชั่วยามกว่าวันที่สองจะหมดลง

ทันใดนั้นประกายสังหารวาบก็ปรากฏขึ้นในดวงตา ก่อนที่ร่างของเขาจะเหาะพุ่งเข้าไปในหมอกทันที

เป้าหมายของเขาคือศิษย์คนที่สิบเจ็ดของสำนักเต๋าเจ็ดวิญญาณที่ถูก คำสาปวิญญาณเพลิงขั้นแรกของตนโจมตี อีกฝ่ายลอบโจมตีเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้หวังเป่าเล่อทนไม่ได้ ขณะนี้หลังจากที่เขาจมอยู่ในหมอก ฐานการฝึกฝนของเขา ก็ไหลเวียน ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาระเบิดถึงจุดสูงสุด ก่อนจะคำรามเสียงดังราวกับสายฟ้าฟาดพร้อมกับพุ่งตรงไปยังจุดที่คำสาปของตนอยู่อย่างรวดเร็ว

หวังเป่าเล่อเคลื่อนกายเร็วมากจนภายในหมอกเกิดการผันผวนอย่างรุนแรง ทำให้พื้นที่ของผู้ทดสอบพลังฝึกปรือโดยรอบรวมถึงจิตใจของผู้ทดสอบพลังฝึกปรือ แต่ละคนสั่นไหวไม่หยุด กระบวนการทั้งหมดกินเวลา 60 กว่าอึดใจ

หวังเป่าเล่อพุ่งไปทุกทิศทุกทางแล้วรีบกระโดดออกจากหมอกทันที เมื่อเขาปรากฏกาย ก็มาอยู่ในที่ที่คำสาปวิญญาณเพลิงของเขาประทับอยู่แล้ว

ทันทีที่มาถึง เขาก็เห็นชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่ตรงใจกลางของพื้นที่นี้ คนผู้นี้คือศิษย์คนที่สิบเจ็ดของสำนักเต๋าเจ็ดวิญญาณ หวังเป่าเล่อก้าวเท้าเข้าไปหา โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ด้วยรัศมีรุนแรงอย่างน่าอัศจรรย์ เขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้า คู่ต่อสู้ ก่อนจะยกมือขวาขึ้นเพื่อจะคว้ามันไว้

“หือ” หวังเป่าเล่อเลิกคิ้วขึ้น สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มือที่ยกขึ้นมา ก็ไม่ได้หยุดลง ทันทีที่จับมัน หมอกสีดำจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ดของศิษย์คนที่สิบเจ็ดก่อตัวขึ้นเป็นหัวจระเข้ขนาดใหญ่ แผ่รัศมีอันน่าสยดสยองออกมาและกัดมือขวาของหวังเป่าเล่อ!

หัวจระเข้กัดโดนมือหวังเป่าเล่อจนเกิดเสียงดัง ทว่าในเวลาถัดมามือขวาของ หวังเป่าเล่อกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย ส่วนหัวจระเข้นั้นเห็นได้ชัดว่าสีหน้านิ่งค้างไป ก่อนที่ฟันจะแตกกระจายในทันที ร่างกายถูกแรงสะท้อนกลับจนระเบิดออกเสียง ดังสนั่น แผ่นดินเกิดเสียงดังสะเทือน ความผันผวนแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ ต้นจนจบมือขวาของหวังเป่าเล่อไม่ได้หยุดนิ่ง มันคว้าร่างของศิษย์คนที่สิบเจ็ดของสำนักเต๋าเจ็ดวิญญาณไว้ หากแต่ตอนนี้ร่างกายนี้คล้ายกับลูกบอลที่ถูกปล่อยลม แห้งเหี่ยวไปโดยพลันหลังจากหวังเป่าเล่อจับมา สิ่งที่ปรากฏในมือของเขาคือ ชิ้นหนังมนุษย์ผืนหนึ่ง!

เมื่อมองดูหนังมนุษย์ในมือ สีหน้าหวังเป่าเล่อก็มืดมน ผิวหนังมนุษย์นี้มีร่องรอยคำสาปของเขา แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าสิบเจ็ดคนนั้นได้คาดการณ์วิกฤตนี้ไว้แล้วจึงได้พัฒนาวิธีลับบางอย่าง ใช้วิธีจั๊กจั่นลอกคราบทิ้งรอยประทับทั้งหมดไว้ ส่วนตัวเองก็หนีไปก่อนแล้ว

“คำสาปวิญญาณเพลิงของข้าใช่ว่าจะลบล้างได้ง่ายดายเช่นนั้น!” หวังเป่าเล่อ พ่นลมอย่างเย็นชา ก่อนที่เปลวไฟจะลุกโชนขึ้นในมือขวา ฉับพลันหนังมนุษย์ก็ ไหม้เกรียม จากนั้นเขาก็ทำผนึกมุทรา อักษรโบราณวาบขึ้นที่กึ่งกลางคิ้วของเขาทันที คำสาปวิญญาณเพลิงถูกใช้อีกครั้งด้วยสัมผัสเชื่อมต่อลึกลับ หวังเป่าเล่อสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าห่างออกไปทางทิศใต้มีคลื่นคำสาปจางๆ แผ่ออกมา

“ตรงนั้น!” ดวงตาหวังเป่าเล่อฉายประกายเย็นยะเยือก ก่อนที่ร่างจะพุ่งออกไปทันที พริบตาเดียวก็เหยียบเข้าไปในหมอก รีบไล่ตามไปยังสถานที่ที่คลื่นผันผวนลอยมา

เวลานี้ ณ สถานที่ซึ่งถูกล็อกเป้าหมายโดยหวังเป่าเล่อ ศิษย์คนที่สิบเจ็ดของ สำนักเต๋าเจ็ดวิญญาณกำลังหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของเขาแสดงความสยดสยองและหวาดหวั่น ส่งเสียงคำรามอย่างไม่อยากเชื่อ

“เจ้านี่…นี่มันร่างอะไรกันแน่ เจ้าอสูรกาย!”

“บัดซบ หากรู้เช่นนี้ ข้าจะยั่วโมโหเจ้าอสูรกายนี่ทำไมเนี่ย!!” เฉินหานรู้สึก เสียใจอย่างยิ่ง ขณะนี้จิตใจเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง หลังจากกัดฟัน เขาก็แลกทุกอย่างเพื่อใช้วิธีลับอย่างไม่เสียดายและรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว!

แม้จะกำหนดไว้แล้วว่าห้ามมีการสังหารเกิดขึ้น แต่ก็บอกเพียงว่าสังหารไม่ได้…หากแต่ที่นี่มีวิธีมากมายที่สามารถคร่าชีวิตได้ทางอ้อม โดยเฉพาะถ้าหากอีกฝ่ายใช้ คำสาปได้อย่างเชี่ยวชาญ นั่นทำให้เฉินหานไม่กล้าเสี่ยง!

………………………………………………………….

[1] เปิ่นกงคือคำเรียกแทนตัวเองของพระราชธิดา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!