บทที่ 1132 ศิษย์พี่ผู้สร้างดินแดนพิเศษ
“ข้ารีบน่ะ!” ทันทีที่หวังเป่าเล่อพุ่งเข้าไปในจักรวาลสีเทาก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา เขารีบร้อนที่จะไปหาศิษย์พี่ และตอนนี้เขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า การตัดสินใจก่อนหน้านี้ของตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว
ศิษย์พี่เฉินชิงจื่อ จงใจปล่อยข่าวการตกอับของจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกออกไปเพื่อตกเหยื่อ ในเวลาเดียวกันก็เป็นการบอกเป็นนัยให้เขารีบมาโดยเร็ว
“ศิษย์พี่นะศิษย์พี่ ครั้งหน้าช่วยส่งสัญญาณให้ชัดเจนกว่านี้เสียหน่อยได้หรือไม่ หากไม่ใช่เพราะข้าฉลาดไร้ใดเปรียบแล้วล่ะก็ คราวนี้รู้ตัวไม่ทันแน่” หวังเป่าเล่อรู้สึก มีความสุขอย่างยิ่ง หลังจากเข้าไปในจักรวาลสีเทาแล้วความเร็วก็เพิ่มขึ้นจากเดิม
เขารู้สึกว่ามีจุดบ่มเพาะไร้เทียมทานกำลังรอเขาอยู่ข้างหน้า ดังนั้นจึงปรารถนาที่จะเพิ่มความเร็วขึ้นอีก เพื่อรีบไปรับของขวัญชิ้นใหญ่จากศิษย์พี่
“จักรพรรดิสวรรค์…” หวังเป่าเล่อแววตาเป็นประกาย และอดเลียริมฝีปากไม่ได้
“ลืมถามท่านอาจารย์ไปเลย ภายในร่างกายของจักรพรรดิสวรรค์ มีจักรพิภพกี่แห่ง ดารานิรันดร์กี่ดวง และดาวพระเคราะห์กี่ดวงกันแน่… คิดว่าต้องมีไม่น้อย บางทีอาจเทียบได้กับจักรวาลขนาดเล็กแห่งหนึ่ง” เมื่อหวังเป่าเล่อคิดถึงจุดนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้น มากขึ้นไปอีก หากเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น บางทีอาจดูดซับได้เพียงกฎแห่งกระแสเต๋าหลังจากจักรพรรดิสวรรค์ดับสลาย แล้วเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักใน ชะตาชีวิต
แต่เขาแตกต่างออกไป ตอนนี้เขากำลังฝึกเคล็ดวิชาเด็ดดารา ซึ่งนั่นเป็นเคล็ดวิชาต้องห้ามที่สามารถเปลี่ยนดวงดาราทุกดวงให้เป็นดาวของตัวเองได้ แม้ว่าการฝึก เคล็ดวิชานี้จะได้รับความเดือดร้อนโดยไม่คาดคิด แต่หวังเป่าเล่อก็ไม่กลัว
“ข้าดูด ข้ากลืน ข้าแต้ม!” หวังเป่าเล่อยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น เขาคิดว่าคราวนี้ บางทีตนอาจได้เลื่อนขั้นไปในระดับจักรพิภพเลยก็ได้
“เกินความเป็นจริงไปหน่อย… แต่น่าจะไม่มีปัญหามากนักในการทะลวงเขตแดนเล็กๆ” หวังเป่าเล่อตาเป็นประกาย และในขณะที่กำลังบินอยู่นี้ ก็ได้ค่อยๆ เข้าไปใกล้เขตแดนของจักรวาลสีเทา
เพียงแต่จักรวาลสีเทานี้กว้างเกินไป แม้แต่ความเร็วปัจจุบันของหวังเป่าเล่อ บินในระยะทางตรง ก็อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ศูนย์กลางที่แท้จริงได้ ดังนั้น หลังจากบินได้สักพัก หวังเป่าเล่อก็สงบลง รู้ว่าเรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความรีบร้อนของตัวเอง
“ค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรเสียก็มีศิษย์พี่ และท่านอาจารย์ จุดบ่มเพาะไม่มีทาง ไปไหนได้ ข้าเองก็ไม่มีทางตายเช่นกัน” เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวังเป่าเล่อกระแอมไอ ปล่อยวางอย่างสมบูรณ์ และกระจายสติสัมปชัญญะไปกับการสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ
แท้จริงแล้วตลอดระยะทางที่เขาบินผ่านมา ก็ได้เห็นถึงความแตกต่างบางอย่างของที่นี่ด้วย
อันดับแรกคือผู้คน
ที่นี่มีผู้ฝึกตนจำนวนมากและส่วนใหญ่ดูลึกลับ ซึ่งหวังเป่าเล่อพบเห็นในจักรวาลสีเทาแห่งนี้ไม่น้อย ต่างสังเกตเห็นกันและกันในระยะไกล พวกเขาแยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว ไม่มีการสื่อสาร ราวกับว่ากำลังรีบร้อนเดินทางหรือตรวจหาบางสิ่ง
คนเหล่านี้ ล้วนเป็นมหาศิษย์แห่งเต๋าที่มาจากต่างสำนักต่างตระกูล กำลังมองหาจุดบ่มเพาะชะตาที่นี่
“มีคนจำนวนมาก น่าจะมีมากถึงหลายสิบล้านเลยทีเดียว…” หวังเป่าเล่อหยีตา ก็ได้เห็นร่างเงาอีกเจ็ดแปดร่างผ่านวับไปในระยะไกล ในบรรดาคนเหล่านั้นมีหลายคนหยุดชั่วคราวหลังจากสังเกตเห็นเขา คล้ายกับพิจารณา แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเป็นความรู้สึกถูกแบ่งแยกและกดขี่ เมื่อเข้าสู่จักรวาลสีเทา ความรู้สึกนี้ ก็รุนแรงมากขึ้น ในความรู้สึกของหวังเป่าเล่อนั้น หากไม่มีวิธีอื่นในการลบล้าง การกดขี่และแบ่งแยกนี้ได้ เช่นนั้น ตนจะหยุดอยู่ที่นี่ประมาณห้าวัน แล้วออกไป ปรับอารมณ์ตัวเอง
เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่มีการแบ่งแยกและกดขี่เท่านั้น แต่ยังมี… ร่องรอยพลังงานแห่งความตายอันแรงกล้า ร่องรอยพลังงานนี้มาพร้อมกับพลังแห่งการแบ่งแยกและเจตนาแห่งการกดขี่ มันจะบุกเข้าไปภายในร่างกายของผู้ฝึกตนอย่างไม่ทันตั้งตัว และกัดเซาะวิญญาณเทพและชั้นเนื้อกาย หากถูกกัดเซาะเป็นเวลานาน ก็จำต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ทว่า… ร่องรอยพลังงานแห่งความตายนี้ หากเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น ต้องเป็นเช่นนี้ แม้แต่สำนักบรรพชนสายตระกูลลึกลับที่มีวิธียับยั้ง ทำให้สามารถรับมือได้นานขึ้น ก็ไม่สามารถหักล้างกันได้โดยสิ้นเชิง
แม้แต่ความแข็งแกร่งของตระกูลไม่รู้สิ้น ก็ยากที่จะมีอำนาจบาตรใหญ่ที่นี่ได้ อาจกล่าวได้ว่าในทั่วทั้งจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น หนึ่งเดียวหรือผู้เดียว… ที่สามารถทำตัวเหมือนปลาได้น้ำที่นี่ได้ ก็มีเพียง… คนของสำนักแห่งความมืด!
เพราะการแบ่งแยกและการกดขี่ของที่นี่มาจากวงแหวนปราณ แต่ร่องรอยพลังงานแห่งความตายอันแรงกล้าในนั้น กลับมาจาก… เต๋าสวรรค์แห่งสำนักแห่งความมืดที่ได้รับการกู้คืนจากเฉินชิงจื่อ
ดังนั้น ยามที่ไอมรณะเข้าสู่ร่างกาย และเมื่อหวังเป่าเล่อสังเกตเห็นว่าไอมรณะได้กระจายไปทั่วร่างกายของตัวเองแล้ว เขากะพริบตา และมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่กลับ… ได้รับการเพิ่มพลังขึ้นในระดับหนึ่ง!
และหลังจากที่เขาแอบดูดซับไปบางส่วน ภายในร่างกายก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา เพลิงดำในดวงตากลายเป็นภาพลวงตาไปเอง ราวกับกำลังโห่ร้องด้วยความดีใจ ทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกเบาสบายไปทั้งกาย
“ช่างเป็นสถานที่ที่ดีเสียจริง!” หวังเป่าเล่อรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและกำลังจะ ดูดซับต่อไป แต่ไม่นานนัก สีหน้าของเขาก็ผันเปลี่ยน และรู้สึกถึงวิกฤตการณ์ อันรุนแรง เขาเห็นว่าภายในจักรวาลสีเทานั้น มีเส้นสีเขียวเป็นเส้นสาย ปรากฏรางๆ ดูเหมือนอยู่ระหว่างภาพลวงตาและความเป็นจริง เดิมทีเพียงแค่แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ เพื่อต่อต้านไอมรณะและหักล้างกัน
แต่หลังจากที่หวังเป่าเล่อดูดซับไอมรณะที่นี่ จู่ๆ เส้นสีเขียวเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นเป็นสามสี่เส้น พุ่งมาหาเขา และกระจายมากขึ้น คล้ายว่าสามารถข่มขู่ดวงวิญญาณเทพได้ ทำให้หลังจากที่หวังเป่าเล่อสังเกตเห็น ก็พลันถอยกลับ สีหน้าของเขาเองก็เคร่งขรึมขึ้นมา
“เส้นไหมสีเขียวเหล่านี้… น่าจะเป็นควันสีเขียวที่ตกลงมาจากเรือรบตระกูลไม่รู้สิ้น ตามที่ท่านอาจารย์บอก นี่คือ… ส่วนหนึ่งของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นอย่างนั้นหรือ?”
“เหตุใดจึงแสดงความเป็นศัตรูกับข้าเท่านั้น มหาศิษย์แห่งเต๋าคนอื่นที่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ก็ล้วนถูกไอมรณะโจมตี…” ขณะก้าวถอยหลัง หวังเป่าเล่อสังเกตรอบๆ และมีคำตอบในใจแล้ว คนอื่นๆ ต่างถูกโจมตีในฐานะผู้ถูกกระทำ ฉะนั้นเต๋าสวรรค์ ไม่รู้สิ้นจึงไม่ได้สนใจ ในระดับใดระดับหนึ่งนี้ น่าจะถูกประเมินว่าเป็นการแบ่งเบากันและกัน
แต่ตนนั้นแตกต่างออกไป เขาไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ แต่ดูดซับด้วยตัวเอง นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นแสดงความเป็นศัตรูออกมา
และยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง หวังเป่าเล่อรู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชาเด็ดดาราที่ตัวเองฝึกด้วย
หวังเป่าเล่อปวดหัวเล็กน้อย หลังจากชั่งน้ำหนักแล้ว เขารู้สึกว่าหากสามสี่เส้นล่ะก็ เขาเองก็สามารถรับมือได้ แต่หากมีมากกว่านี้ ตัวเองอาจตกอยู่ในอันตราย
“ถ้าเก่งนักก็ปล่อยมาสัก 30 – 50 เส้นเลย!” หวังเป่าเล่อส่งเสียง ‘หึ’ และเลือกที่จะเลิกดูดซับไอมรณะ จึงทำให้เส้นสีเขียวสามสีเส้นที่ตามมาสลายตัวไป เขามองไอมรณะอันแรงกล้าที่นี่ หากทำการดูดซับก็จะทำให้ระดับการบำเพ็ญของเขาเพิ่มขึ้น เพลิงดำแข็งแกร่งมากขึ้น แต่เขาทำได้แค่มอง ไม่สามารถทำการดูดซับอย่างมีความสุข ความรู้สึกนี้ ทำให้เขาหดหู่เล็กน้อย
“ต้องหาวิธี…” ขณะหวังเป่าเล่อกำลังครุ่นคิด เขาเดินไปจนสุดทาง และได้เห็นภายในของจักรวาลสีเทานี้ นอกจากผู้คนและร่องรอยพลังงานเต๋าสวรรค์แล้ว ยังมีความแปลกประหลาดอื่นๆ
ซึ่งก็คือ… วังวนเล็กใหญ่แต่ละแห่ง!
วังวนเหล่านี้ดึงดูดความสนใจของหวังเป่าเล่อ และในวังวนส่วนใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วจะมีผู้ฝึกตนหนึ่งคนหรือหลายคนกำลังนั่งสมาธิ นอกจากนี้ ก็มีผู้ฝึกตน จำนวนแตกต่างกันไปกำลังต่อสู้กัน หลังจากสังเกตอย่างถี่ถ้วน หวังเป่าเล่อก็ตา เป็นประกาย เขารู้ที่มาของวังวนเหล่านี้แล้ว ในนั้นมีทั้งไอมรณะอันแรงกล้า และเต็มไปด้วยกฎแตกกระจายแห่งเจตจำนงแห่งเต๋าที่มีความแข็งแกร่งแตกต่างกันไป
“ที่ซึ่งผู้แข็งแกร่งตกอับ” หวังเป่าเล่อหรี่ตาและบ่นพึมพำ เขาไม่รู้ว่าภายในจักรวาลสีเทานี้ มีวังวนกี่แห่งกันแน่ แต่ก็ประเมินได้ว่า วังวนเหล่านี้ น่าจะเป็น กองกำลังในบังคับบัญชาของจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกทั้งสิ้น!
เลือกที่จะถูกศิษย์พี่สังหาร หรือไม่ก็ถูกไอมรณะที่นี่บุกโจมตีจนเสียชีวิต
“กองทหารจำนวนมากภายใต้จักรพรรดิสวรรค์ผู้หนึ่ง…” หวังเป่าเล่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง ขยับร่างกายเล็กน้อย และเข้าใกล้วังวนเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีผู้ฝึกตนเจ็ดแปดคน กำลังต่อสู้กันดุเดือดอย่างรวดเร็ว
ความเร็วนั้นนำเขาเข้าไปใกล้ในทันที เขายกมือขวาขึ้นโบก ทันใดนั้น เสียงคำรามก็ดังขึ้นรอบๆ ผู้ฝึกตนเจ็ดแปดคนนั้นราวกับพายุ ทำให้ผู้ฝึกตนเจ็ดแปดคนนั้น สั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่ละคนต่างกระอักเลือด ขณะที่มองหวังเป่าเล่อด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ต่างก็ถอยหลังอย่างรวดเร็วไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ
เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้จัดการง่ายดาย หวังเป่าเล่อเองก็ไม่ได้ไล่ตามไป และเข้าไปในวังวนเล็กๆ แห่งนี้ทันทีที่ขยับตัว หลังจากนั่งลงด้วยท่าขัดสมาธิ ก็พยายามลิ้มรส
ทว่า ทันทีที่เขานั่งลงและยังไม่ทันได้ลิ้มรส ฝักกระบี่เจ้าชะตาที่ไม่เคยเคลื่อนไหวในร่างกาย จู่ๆ ก็เกิดการสั่นไหว ทันใดนั้น กฎแตกกระจายแห่งเจตจำนงแห่งเต๋า ที่กระจายอยู่ภายในวังวนเล็กๆ แห่งนี้ก็พุ่งตรงมาหาเขา เข้าสู่ร่างกายและเจาะเข้าไปในฝักกระบี่!
ฝักกระบี่พลันสว่างวาบขึ้นมา ประหนึ่งว่าได้กลืนกินกฎแตกกระจายเหล่านั้นไปแล้ว
“เอ๊ะ?” หวังเป่าเล่อชะงักไปครู่หนึ่ง กำลังจะทำการตรวจดู แต่หลังจากนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด เนื่องจากกฎหลงเหลือแห่งเจตจำนงแห่งเต๋าภายในวังวนแห่งนี้ที่หลังจากถูกดูดซับจนหมด ก็เป็นเหมือนสุญญากาศและดึงดูดไอมรณะรอบๆ จำนวนมาก หากเพียงไอมรณะเท่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่มีเส้นไหม สีเขียวจำนวนมากตามมาด้วย
จำนวนไม่น้อย น่าจะมีมากกว่า 40 เส้นเลยทีเดียว!