บทที่ 1251 กระบี่ไม้
เฉินชิงจื่อแข็งแกร่งมาก เขาสามารถทำลายเต๋าแห่งความว่างเปล่าและฝ่ามือ แห่งพลังได้ในหนึ่งดาบ แม้ว่าอย่างหลังจะขาดนิ้วมือไปหนึ่งนิ้วและไม่สมบูรณ์ก็ตาม แต่เขาก็สามารถใช้กระบี่ไม้หนึ่งด้ามทำลายทั้งมือได้ในชั่วพริบตา ทั้งยังฟันแขนขวาของเว่ยยางจื่อไปด้วย เรื่องนี้อธิบายถึงความน่าสะพรึงของเฉินชิงได้เลย
แต่…ทางด้านเว่ยยางจื่อคล้ายจะน่าสะพรึงยิ่งกว่า แม้ว่าร่างเดิมของเว่ยยางจื่อ จะมีสามหัวหกแขน แต่…พอแขนขาดไปข้างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไม่รู้สิ้นคนใด ก็ย่อมมีอานุภาพอ่อนแอลง แต่ตอนนี้พลานุภาพของเว่ยยางจื่อกลับไม่ใช่แค่ไม่อ่อนแอ กลับกัน ขณะที่เสียงหัวเราะดังออกมา เขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง
“เจ้าไม่เหมือนกับตระกูลไม่รู้สิ้นคนอื่น” ดวงตาของเฉินชิงฉายแววดุร้าย จดจ้องไปที่เว่ยยางจื่อแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ
“ย่อมไม่เหมือน เดิมตระกูลไม่รู้สิ้นก็ไม่มีร่างเดิมอยู่แล้ว สิ่งที่เรียกว่าสามหัวหกแขนนั้น…เป็นเพียงชีพจรวิชาเทพเท่านั้น และชีพจรวิชาเทพนี้…ก็ไม่ได้นำมาแทนที่โชคชะตา แต่นำมา…ผนึกพลัง!”
“เฉินชิงจื่อ ให้ข้าผู้เฒ่าได้เห็นขีดจำกัดของเจ้าหน่อยเถอะ ดูว่าเจ้าสามารถทำให้ชายชราผู้นี้ปลดผนึกทั้งหมดแล้วแสดงพลังต่อสู้ที่แท้จริงออกมาได้หรือไม่!” ความคาดหวังในแววตาของเว่ยยางจื่อเข้มข้นยิ่งขึ้น ประกายแสงในดวงตา เปล่งออกมาพร้อมเสียงหัวเราะลั่น ชั่วขณะนี้ ทั่วร่างของเขามีแสงเจิดจ้าสาดส่องออกมาโดยมีศีรษะเป็นแหล่งกำเนิดในทันที
แสงนี้คล้ายกับอาทิตย์แรก แต่กลับแรงกล้าเสียยิ่งกว่า ราวกับว่าร่างกายของเขากลายเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงหนึ่งเดียวของทั้งจักรวาล เมื่อมันแผ่กระจายออกมา ก็ทำให้รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ยากจะพรรณา
นี่คือ…เต๋าแสงแสว่าง!
“เว่ยยางจื่อผู้นี้มีกี่เต๋ากันแน่” หวังเป่าเล่อหรี่ตาลง สีหน้าของปรมาจารย์เต๋า เจ็ดวิญญาณข้างๆ ก็เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม เมื่อพวกเขามองไป เว่ยยางจื่อก็กางแขนออก ทันใดนั้นแสงสว่างบนร่างของเขาก็กลายเป็นท้องทะเลและระเบิดสาดซัดไป ทั่วทุกทิศ
“ต้องขอบคุณศิษย์น้องเล็กของเจ้า คืนพินาศของเขามอบแรงบันดาลใจให้ข้า ที่แท้เต๋าแห่งแสงก็ใช้เช่นนี้ได้ด้วย!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเว่ยยางจื่อ ทะเลแสง ที่แผ่ซ่านอยู่บนร่างของเขาก็พุ่งไปจัดการกับเฉินชิงจื่อด้วยอานุภาพสะเทือนฟ้าสะเทือนดินตรงๆ
ในดวงตาของเฉินชิงจื่อมีประกายเย็นชาวาบผ่าน เขาไม่ได้หลบ แต่คลายมือขวาออกแล้วถือโอกาสผนึกมุทรา ชี้ไปที่กระบี่ไม้ที่ถูกเขาคลายออกจนมันพุ่งออกไป ด้วยตัวเอง
“ร่างที่สอง!” เพียงแค่คำสามคำ แต่พริบตาที่มันดังออกมาจากปากของเฉินชิงจื่อ กระบี่ไม้ที่พุ่งออกไปด้วยตัวเองก็โปร่งใสในชั่วพริบตาราวกับไม่มีอยู่จริง!
เมื่อแสงทั้งหมดสัมผัสเข้ากับกระบี่ไม้โปร่งใส มันก็ทะลวงผ่านไปตรงๆ ไม่ก่อเกิดเป็นอุปสรรคขวางกั้นกันและกันแม้สักนิด เพราะความโปร่งใสเดิมทีก็บรรจุทุกสิ่ง ทุกอย่างเอาไว้อยู่แล้ว
ในชั่วอึดใจ กระบี่ไม้โปร่งใสก็ทะลวงผ่านทะเลแห่งแสง พุ่งทะยานไปยัง เว่ยยางจื่อ ส่วนเต๋าแห่งแสงสว่างของเว่ยยางจื่อก็ส่งเสียงหวีดหวิวเข้ามาใกล้กับ เฉินชิงจื่อเพื่อบดขยี้เขาให้สิ้น
ฉากนี้รวดเร็วหาใดเปรียบ แม้แต่หวังเป่าเล่อหรือปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณ ก็ทำได้เพียงฝืนพยายามมองเห็นให้ชัดเจนเท่านั้น ชั่วพริบตา เสียงดังก้องกังวาน เทียมฟ้าก็สะท้อนก้องไปทุกสารทิศ อวกาศในบริเวณที่ทั้งสองฝ่ายสัมผัสกันถูก ทำลายสิ้นโดยสมบูรณ์และเกิดเป็นหลุมดำ
แต่หลุมดำที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างแห่งนี้ ในชั่วขณะนั้นกลับคล้ายสูญเสียพลังของตัวเอง ยากจะทำอะไรเฉินชิงจื่อกับเว่ยยางจื่อแม้เพียงนิด
แต่ทะเลแสงนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ตอนนี้หลังจากมันแพร่กระจายไปหา เฉินชิงจื่อแล้วก็ทำให้ร่างกายของเฉินชิงจื่อต้องถอยร่นออกไป ร่างกายคล้ายจะถูกแทรกซึมอย่างรวดเร็ว มองจากตาเปล่าเห็นได้ว่ากำลังจะถูกแสงสว่างครอบคลุมไป จนหมด โชคดีที่ในชั่วอึดใจก็มีปราณมืดที่มาพร้อมความตายอันเข้มข้นแผ่ซ่านออกมาจากภายในร่างของเฉินชิงจื่อ มันต่อต้านกับทะเลแสง ท่ามกลางการสยบและขับไล่ระหว่างกันนี้เอง ร่างของเฉินชิงจื่อก็หยุดลงทันใด ไม่ใช่แค่ไม่ถอยหลังต่อ แต่ถึงขั้น พุ่งออกมาอย่างฉับพลัน
เข้าพุ่งไปยังทะเลแสงตรงๆ และปล่อยให้ทะเลแสงแพร่กระจายเข้าไปในร่าง โดยอาศัยกลิ่นอายความตายมาต้านไว้ ความเร็วเขาสูงมาก ถึงขนาดเกินกว่า ความเร็วของกระบี่ไม้เสียอีก พริบตาก็ไล่ตามมาทันแล้วคว้าจับกระบี่ไม้ที่เข้ามาใกล้เว่ยยางจื่อได้ จากนั้นก็เคลื่อนมันไปที่ศีรษะของเว่ยยางจื่อด้วยความเร็วที่รวดเร็วและน่าสะพรึงยิ่งกว่าเมื่อก่อน!
ภาพนี้เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว คิดไม่ถึงว่าเฉินชิงจื่อที่อยู่ใต้ทะเลแสงและคล้าย ไม่อาจประคองตัวเองต่อไปได้จะพลิกสถานการณ์ได้ในชั่วอึดใจ ถึงขั้นที่ ระเบิดความเร็วเกินจินตนาการออกมา แม้แต่ทางด้านเว่ยยางจื่อก็ยังใจแกว่ง
“เขาซ่อนพลังไว้!!” ความคิดนี้เพิ่งจะลอยขึ้นมา ร่างของเฉินชิงจื่อที่ถือกระบี่ไม้ ก็เข้ามาใกล้ เขาฟันไปยังศีรษะของเว่ยยางจื่อตรงๆ โดยไม่ลังเลสักนิด กระบี่ไม้ ของเขายังคงโปร่งใสเช่นเคย ถึงขนาดที่ในชั่วขณะนี้เอง บนกระบี่ของเขายังระเบิด พลานุภาพเหนือล้ำยิ่งกว่าแต่ก่อนออกมาอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนเป็นโปร่งใสเมื่อกี้ ไม่ใช่ร่างที่สองที่ทำให้ไม้สมบูรณ์แบบทันที เฉินชิงซ่อนพลังเอาไว้จริงๆ ด้วย และกระบี่ไม้ด้ามนี้…ภายใต้การควบคุมของเขา ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างระเบิดออกมา อวกาศส่องสว่าง แสงกระบี่ล้นหลาม เงาร่างของเฉินชิงจื่อวาบผ่านข้างกายเว่ยยางจื่อไป เลือดพุ่งออกมาจากคอของเว่ยยางจื่อ หัวของเขากระเด็นขึ้นสูง
ยังไม่จบ หลังจากวาบผ่านตัวเว่ยยางจื่อไป แม้ว่าเฉินชิงจะไม่ได้หันกายมา แต่มือถือกระบี่ไม้ฟันลงไปหนึ่งพันกระบี่อยู่ข้างหลัง ทุกกระบี่ที่ฟันลงไป มีพลังสะเทือนฟ้าระเบิดออกมา ทั้งหมดพุ่งไปโจมตีร่างขาดหัวของเว่ยยางจื่อ
แต่หนึ่งพันกระบี่นี้กลับไม่ได้แสดงพลังที่สมควรมีออกมา เพราะว่า…ความว่างเปล่าหลายชั้นกำลังพุ่งเข้ามาถึงในชั่วอึดใจ สิ่งที่สร้างความว่างเปล่าเหล่านี้ขึ้นก็คือ มือซ้ายของเว่ยยางจื่อ ในชั่วพริบตา มือซ้ายของเขาก็คล้ายเป็นแหล่งกำเนิด ความว่างเปล่า ชั่วขณะเดียวความว่างเปล่านับร้อยชั้นก็ซ้อนทับกันจนเกิดเป็น แนวขวางกั้น
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เฉินชิงจื่อก็ได้เตรียมท่าไม้ตายนี้มานานแล้ว ไม่ใช่จะสามารถทำลายกันได้ง่ายๆ ความว่างเปล่านับร้อยทับซ้อนกันของเว่ยยางจื่อจึงพังทลาย โดยพลัน สิ่งที่ถูกทำลายไปด้วยก็ยังมีมือซ้ายของเขา
เขาใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องแลกเปลี่ยน สุดท้ายก็สามารถทำลายท่าไม้ตายของเฉินชิงจื่อได้ ขณะเดียวกัน ลำตัวของเว่ยยางจื่อก็ถอยหลังกะทันหัน ตอนนี้บนลำคอที่ไร้หัว มีปราณมืดแผ่ออกมาแล้วก่อตัวเป็นหัวที่สอง ขณะเดียวกันมือซ้ายที่เสียไปของเขา ก็งอกออกมาใหม่อีกครั้ง
อีกทั้งในชั่วขณะที่แขนซ้ายข้างใหม่นี้ปรากฏขึ้นมากลับมีสายฟ้าพัวพันอยู่ พลานุภาพแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม แต่…ทั้งหมดนี้เมื่อเทียบกับหัวที่สองที่งอกออกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ส่วนสำคัญเลย
พริบตาที่หัวที่สองของเขาปรากฏขึ้น ความว่างเปล่าก็สะเทือนเลื่อนลั่น อวกาศสั่นไหว ความชั่วร้ายดำมืดไร้ใดเทียมปะทุออกมาในพริบตา คล้ายกับไอมาร เหมือนกับเต๋ามาร แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับแสงสว่างก่อนหน้านี้ และถึงขนาดทรงพลังยิ่งกว่าด้วย
แม้แต่กลิ่นอายของเว่ยยางจื่อก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับการปรากฏขึ้นของหัวที่สอง ผมของเขาปลิวไสว ท่าทางองอาจ ทั่วร่างแผ่ความชั่วร้ายไร้ที่สิ้นสุด เขายืนอยู่ตรงนั้น ปราณมืดแผ่ออกมานอกร่างราวกับสามารถกัดกร่อนจิตใจทั้งหมดได้
“น่าสนใจ!” เขาสั่นศีรษะ มุมปากของเว่ยยางจื่อเผยรอยยิ้มเหี้ยมออกมา เขามองไปยังเฉินชิงจื่อที่มีสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย และเฉินชิงจื่อก็มองเห็นเต๋าของเว่ยยางจื่อแล้ว
อันที่จริง ชั่วขณะนี้หวังเป่าเล่อกับปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณก็มองเห็นความจริงแล้วเช่นกัน
เว่ยยางจื่อมีสามหัวหกแขน ทุกหัวแฝงไว้ซึ่งมหาเต๋าหนึ่งสาย ทุกแขน ก็เช่นเดียวกัน อย่างเช่นหัวที่ถูกตัดไปนั้นแฝงไว้ซึ่งเต๋าแห่งแสงสว่าง และหัวที่สองนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเบนไปทางสายมาร เป็นเต๋าประเภทความมืด
ส่วนแขนของเขา สองข้างที่ถูกเฉินชิงจื่อตัดทิ้งไปนั้น ข้างหนึ่งแฝงไว้ซึ่ง เต๋าพละกำลัง อีกข้างก็เป็นเต๋าแห่งความว่างเปล่า ส่วนแขนข้างใหม่ที่งอกออกมานี้ เมื่อเห็นว่ามีสายฟ้าพัวพันอยู่ก็รู้เลยว่ามันคือเต๋าอัสนี นี่ยังเป็นแค่ครั้งที่สอง สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกครั้งที่เว่ยยางจื่อเสียหัวหรือแขนไป พลังฝึกปรือของเขาก็คล้ายถูกปลดผนึกจริงๆ มันแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าเดิม หากเป็นเช่นนี้ต่อไปความยากที่จะเอาชนะก็จะเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หวังเป่าเล่อตัวสั่นเทาอยู่เงียบๆ เขาเดินออกมาทันที ปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณก็กัดฟันพุ่งออกมาเช่นกัน เดิมทีพวกเขาไม่คิดเข้าร่วมรบ แต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้ว แม้ว่าพลังช่วยเหลือจะไม่มากนัก แต่ก็ไม่อาจทนดูต่อไปได้
“ดูเฉยๆ ก็พอ!” แต่ขณะที่ทั้งสองคนพุ่งออกมา เฉินชิงจื่อก็เอ่ยขึ้นทันใด แววตาของเขามีความเย็นชาส่องวาบ เขาจดจ้องไปยังเว่ยยางจื่อ ยกมือขวาขึ้นโบกแล้วเอ่ยออกมา
“ร่างที่สาม!”