Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 581

ตอนที่ 581

เมล็ดเวทแห่งเต๋า

ที่กำลังนั่งขัดสมาธิ วนเป็นรูปวงกลมอยู่ในอากาศรอบๆ เจดีย์เซียนอสูร เป็นประมุขยอดเขาสี่แห่งสวรรค์ชั้นแรกของสำนักเซียนอสูร เคออวิ๋นไห่ ผมหงอกขาวพริ้วไปมาอยู่รอบๆ ตัว ดวงตาสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า

ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของมัน กำลังสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น แต่ลึกลงไปภายในแววตาเป็นความเหนื่อยล้าและความแก่ชราที่แทบจะมองไม่เห็น ไม่มีกลิ่นอายแห่งความตายกระจายออกมาจากร่าง แต่ลึกลงไปในจิตใจมีทะเลแห่งความตายอยู่ในนั้น

บุคคลภายนอกไม่อาจจะมองเห็น สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในเจดีย์เซียนอสูร แม้แต่เจ็ดประมุขก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงระลอกคลื่น ของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้น แต่พวกมันทั้งหมดต่างก็รู้ดีว่า ทำไมเจดีย์เซียนอสูรถึงได้เปิดออกในครั้งนี้

สายตาพวกมันกวาดผ่านเจดีย์ไป และถึงแม้ว่าไม่อาจจะมองเห็นว่า มีอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่ด้านใน แต่จะกลิ่นอายที่กระจายออกมาจากจุดแสง ก็ทำให้พวกมันรับรู้ได้ว่าใครเป็นใคร

เคออวิ๋นไห่กำลังมองไปที่ชั้นสอง และดวงตามันก็สาดประกายด้วยความมุ่งมั่น

“จิ่วซือ, ฟู่ (บิดา) ทำให้เจ้าได้มากสุดแค่นี้…”

นอกจากเจ็ดประมุขแล้ว ศิษย์ที่เหลือในสวรรค์ชั้นแรกของสำนักเซียนอสูรทั้งหมด ต่างก็ไปรวมตัวกันอยู่รอบๆ เจดีย์ ทีละคน ทีละคน พวกศิษย์เหล่านั้นบินเข้าไปในเจดีย์ ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย ชั่วขณะต่อมา จุดแสงก็ปรากฏขึ้นที่ชั้นเจ็ด ทำให้เกิดเป็นเสียงพูดคุยกันอย่างโกลาหล

เมิ่งฮ่าวไม่มีทางจะรับรู้ถึงสิ่งใดๆ เหล่านี้ได้ เขายังคงอยู่ที่ชั้นสอง มองไปยังภูเขาขนาดใหญ่ ที่ก่อตัวขึ้นมาจากน้ำทะเล ซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แสงเจิดจ้าสาดประกายอยู่ในดวงตา ขณะที่ภูเขาพุ่งตรงมา เขาพุ่งทะยานขึ้นไปด้านบน ไม่ใช่หลบเลี่ยง แต่พึ่งพาพลังการต่อสู้ของวิญญาณดวงที่สอง ตรงเข้าไปโจมตี

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นไปในอากาศ เมิ่งฮ่าวไม่ได้ทำลายภูเขาทั้งลูก แต่เจาะเข้าไปข้างในแทนเสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาน้ำทะเล และระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนกระจายออกไป ราวกับว่าจะผนึกเมิ่งฮ่าวไว้ภายใน ขณะที่เกิดระลอกคลื่นอยู่รอบๆ ตัว ทันใดนั้นเขาก็หลับตาลง

จากนั้นก็โบกสะบัดมือทั้งสองออกไปที่เบื้องหน้า เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาน้ำทะเล ขณะที่มันระเบิดออกเป็นชิ้นๆ เมิ่งฮ่าวพุ่งออกมาจากภายใน สีหน้าซีดขาว แต่ดวงตาก็สาดประกายด้วยแสงแปลกๆ

“เวทกลืนภูเขา…” เขากล่าว หอบหายใจเล็กน้อย ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวบอกได้ว่า ถ้าเทียบการรู้แจ้งในเวทกลืนภูเขาออกเป็นร้อยส่วน เขาก็เรียนรู้ได้อย่างคร่าวๆ ห้าส่วนแล้ว

ขณะที่ภูเขาทะเลแยกออกเป็นชิ้นๆ ไม่มีสัญลักษณ์เวทปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปยังลำแสงอันเบาบางที่ปรากฏขึ้นในอากาศตรงเบื้องหน้า เพียงมองแค่แวบเดียว เขาก็เข้าใจได้ว่า แสงวาววับนี้ก็คือทางเข้าสู่ชั้นสาม

ขณะที่แสงนั้นเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ ผ่านเข้าไปในความว่างเปล่า เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมองเห็นได้ชัดเจน เขาก็ไปอยู่ที่ชั้นสาม

เมื่อเขาปรากฏกายขึ้น ก็มองเห็นทะเลแห่งเปลวไฟสูงขึ้นไป รวมถึงเงาร่างขนาดใหญ่สิบร่าง เมิ่งฮ่าวพุ่งออกมาจากด้านในของเปลวไฟ ดวงตาสาดประกาย

“วิญญาณดวงที่สาม!”

ตูม!

ร่างกายเมิ่งฮ่าวขยายออก และพื้นฐานฝึกตนก็เริ่มเปลี่ยนไป พลังของสี่วงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ทันใดนั้นก็ระเบิดออกจากภายในร่าง พลังอันเข้มข้นและน่ากลัวพุ่งทะยานขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกายเนื้อของเขา ขณะที่ก้าวเนิบนาบตรงไป

ชั้นที่สี่ ชั้นที่ห้า ชั้นที่หก…

โดยไม่ลังเล เมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปจนถึงชั้นที่เจ็ด ในตอนนี้ เขาอยู่ในวิญญาณดวงที่สี่

ที่ด้านนอกเจดีย์ มีผู้คนมากมายมาร่วมชมเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงมีบางคนที่สังเกตเห็นจุดแสงของเมิ่งฮ่าวกำลังเคลื่อนที่ขึ้นไป แต่คนส่วนใหญ่ก็มุ่งเน้นไปที่ชั้นสิบ

ที่นั่นมีจุดแสงเพียงแค่จุดเดียว กำลังพยายามจะทะลวงผ่านไปให้ได้

ในตอนนี้ สายตาของศิษย์ทุกคู่เพิ่งจะเพ่งมองไปที่นั่น ด้วยดวงตาที่เจิดจ้าเป็นประกาย ขณะที่พวกมันมองไปยังสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้ามีคนพุ่งผ่านชั้นสิบไป

นอกจากนี้ เจดีย์เซียนอสูรมีทั้งหมดเก้าสิบเก้าชั้น และทุกๆ สิบชั้น ก็มีโอกาสที่จะได้ครอบครองหนึ่งในร้อยวิชาแรกของเวทแห่งเต๋า ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิชาเวทที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของใครๆ ต่างก็ต้องเต้นรัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ฝึกตนที่มาจากดาวหนานเทียน พวกมันจ้องนิ่งไปยังชั้นสิบกันทุกคน แม้แต่ศิษย์คนอื่นๆ จากสำนักเซียนอสูรก็เช่นกัน หานเป้ยและหวังลี่ไห่, ตระกูลจี้, ตระกูลฟาง, ผู้ฝึกตนจากดินแดนตะวันออก และดินแดนทางเหนือ ทุกคนที่ไม่ได้เข้าไปในเจดีย์ ต่างก็เฝ้าติดตามดูอย่างใกล้ชิด

เวลาผ่านไป เห็นได้ชัดว่า ชั้นสิบช่างยากเย็นแสนเข็ญนัก ผู้ฝึกตนนั้นก็ยังคงไม่อาจจะทะลวงผ่านออกไปได้ ยกเว้นเคออวิ๋นไห่และฟางอวี๋ มีผู้คนน้อยมากที่จะสังเกตเห็นว่ามีจุดแสงอยู่หนึ่งจุด ที่เพิ่งจะหายไปจากชั้นเจ็ด และจากนั้นก็ไปปรากฏขึ้นที่ชั้นแปด ต่อจากนั้นก็เป็นชั้นเก้า

ในที่สุด…ทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง และพวกมันก็จ้องนิ่งด้วยความตั้งใจมากขึ้นที่ชั้นสิบ เพราะว่า…ทันใดนั้น ก็มีจุดแสงอื่นอีกหนึ่งจุดมาปรากฏขึ้นอยู่ที่นั่น!

จุดแสงที่สองในตอนนี้ อยู่ที่ชั้นสิบแล้ว!

แน่นอนว่า จุดแสงนั้นก็คือเมิ่งฮ่าวนั่นเอง

“คนผู้นั้นน่าจะเป็นใคร? คนที่เพิ่งจะผ่านเข้าไปในชั้นสิบนี้ ไม่มีใครให้ความสนใจมันมาก่อน!”

ขณะที่เสียงพูดคุยดังเต็มอยู่ในอากาศ สายตาทุกคู่ก็เพ่งมองไปยังจุดแสงที่เป็นตัวแทนของเมิ่งฮ่าวเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปยังชั้นสิบ แสงสีทองเต็มอยู่ในบริเวณนั้น ท้องฟ้าเป็นสีทอง พื้นดินก็เป็นสืทอง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสีทอง สิบกระบี่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวจากทั่วทุกทิศทาง เต็มไปด้วยพลังอันน่าตกใจ

กระบี่ทั้งสิบเล่มนี้ระเบิดพลังของขั้นตัดวิญญาณออกมา เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม และรังสีสังหารอันเข้มข้นจนพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์

ก่อนที่กระบี่ทั้งสิบเล่มจะพุ่งมาถึงตัว ม่านตาเมิ่งฮ่าวก็หดเล็กลง และร้องออกมาโดยไม่ลังเล “วิญญาณดวงที่หก!”

ตูม!

พื้นฐานฝึกตนเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไป และร่างกายก็ระเบิดพลังออกมา พลังการต่อสู้ในตอนนี้เทียบเท่ากับสามสิบสองวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง สำหรับร่างกายเขาในตอนนี้ มีความแข็งแกร่งมากกว่าวิญญาณดวงที่เจ็ด จากการคาดคะเนของเมิ่งฮ่าว ระดับพลังในตอนนี้เทียบได้กับวิญญาณดวงที่แปด!

ด้วยพลังอันน่าตกใจเช่นนี้ โดยเฉพาะเมื่อทั้งหมดผสานร่วมมือเข้าด้วยกัน ก็ทำให้ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีพลังการโจมตีเทียบเท่ากับวิญญาณดวงที่เจ็ด

เมิ่งฮ่าวปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา หนึ่งในนั้นสร้างภาพลวงตาของภูเขา ปรากฏขึ้นอยู่เหนือฝ่ามือ โลกสีทองที่เขาอยู่ดูเหมือนจะกลายเป็นทะเลแห่งความโกรธเกรี้ยว พุ่งพล่านปั่นป่วนไปมา

ไม่นานหลังจากนั้น ภาพภูติผีก็พุ่งออกมาจากกระบี่ทั้งสิบเล่ม แสงสีทองที่เต็มอยู่ในโลกนี้ก็ม้วนกวาดตรงไปที่พวกมัน เปลี่ยนภาพภูติผีให้กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นหลุมดำ ซึ่งดูเหมือนจะสามารถกลืนกินแสงทั้งหมดเข้าไปได้ แสงทุกอย่างในโลกนี้ถูกดูดกลืนเข้าไป เหลือไว้แต่ตัวกระบี่เอง ซึ่งถูกห้อมล้อมไว้ด้วยแสงอันคมกริบ กรีดเฉือนลงมายังเมิ่งฮ่าว

ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันเริ่มกระจายระลอกคลื่นแห่งอาณาจักรออกมา!

ม่านตาเมิ่งฮ่าวหดเล็กลง ทันทีที่กระบี่เริ่มเข้ามาใกล้ เขาก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไปในวิญญาณดวงที่เจ็ด!ตูม!

วิญญาณดวงที่เจ็ดระเบิดออก เต็มไปด้วยพลังอันน่าตกใจของหกสิบสี่วงจรอันยิ่งใหญ่ ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง เสียงที่คล้ายกับเป็นเสียงปะทุของสายฟ้า ระเบิดออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมอีกต่อไป แต่มีความหนาแน่นมากขึ้น ความรู้สึกแห่งเซียนอสูรมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ในความคาดคิดของเมิ่งฮ่าว ตอนนี้ร่างกายเขาเทียบเท่ากับวิญญาณดวงที่เก้า

เพียงแค่ก้าวเดียวร่างกายเขาก็จะอยู่ในขั้นตัดวิญญาณอย่างแท้จริง!

เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไปยังกระบี่ที่ตกลงมา และต่อยออกไป

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังเต็มอยู่ในอากาศ ทำให้ทุกสิ่งสะท้านทุกอย่างสะเทือน เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมา ขณะที่พุ่งถอยไปด้านหลัง ทุกสรรพสิ่งที่ด้านหน้าแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในเวลาเดียวกันนั้น สัญลักษณ์เวทมากมายนับไม่ถ้วนก็เรืองแสงขึ้น สามพันเต๋าอันยิ่งใหญ่ สามพันสัญลักษณ์เวท หมุนวนไปรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวชั่วขณะ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะแวบประกายขึ้นและพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ปรากฏเป็นเครื่องหมายของภูเขาลูกเล็กๆ เมิ่งฮ่าวจดจำมันได้ในทันทีที่มองเห็น นี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นเวทกลืนภูเขา ซึ่งเมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งมาบางส่วนแล้ว

ดวงตาเขาสาดประกาย และไม่ทำอะไรเพื่อหลบหลีกสัญลักษณ์เวทนั้น มันเข้ามาใกล้เขาและจากนั้นก็หลอมรวมเข้าไปในร่างกาย จิตใจเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่ม รู้สึกราวกับว่าตอนนี้เขากำลังเฝ้ามองดูและลอกเลียนแบบภูเขานับล้านล้านลูก

ในเวลาเดียวกันนั้น แสงแห่งความรู้แจ้งก็เต็มอยู่ในดวงตา เขานั่งลงขัดสมาธิอยู่ครึ่งชั่วยาม ก่อนที่จะลืมตาขึ้น อย่างน่าตกใจ ภาพของภูเขาในตอนนี้ สามารถมองเห็นอยู่ในม่านตาของเมิ่งฮ่าว!

กลิ่นอายเขาก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน ภาพและความทรงจำทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับเวทกลืนภูเขา ได้หลอมรวมเข้าด้วยกันอยู่ในจิตใจ เพื่อก่อตัวเป็นเครื่องหมายตราประทับ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับเป็นเมล็ดพันธุ์

นี่ก็คือเมล็ดเวทแห่งเต๋า ซึ่งเขาสามารถนำมันไปได้ เมื่อออกจากอาณาจักรที่สองของสำนักเซียนอสูร!การปรากฏขึ้นของเมล็ดนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เมิ่งฮ่าวได้บรรลุถึงความรู้แจ้งขั้นต้นของวิชานี้แล้ว!

“กลืนกินวิญญาณแห่งภูเขา, เลียนแบบวิญญาณแห่งภูเขา, ครอบครองร่างแห่งขุนเขา, กลั่นสกัดร่างกายของข้าเอง!” เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นยืน และโบกสะบัดมือขวา ทันใดนั้น ภาพลวงตาที่มีรูปร่างของยอดเขา ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบน แสงแปลกๆ แวบขึ้นในดวงตา ขณะที่เขามองขึ้นไป และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังภาพเรืองแสงที่อยู่ด้านบน

ทันทีที่เมิ่งฮ่าวสัมผัสโดนแสงนั้น เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมาจากภายในร่าง รู้สึกราวกับว่ากำลังพยายามจะเคลื่อนที่ตรงไปในน้ำ ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังผลักดันให้เขาถอยหลังกลับไป ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นแค่ไม่กี่อึดใจ ก่อนที่เขาจะพุ่งทะลุออกไปจากโลกในตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เบื้องหน้าเริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และน่าตกใจยิ่งเมื่อเขามองเห็นโลกใหม่อยู่ที่เบื้องหน้า

โลกแห่งนี้เป็นสนามรบในสมัยโบราณ ทันทีที่เขาปรากฏกายขึ้น เงาร่างมากมายในสนามรบ ทันใดนั้นก็หันหน้ามาและมองตรงมาที่เขา

พวกมันมีประมาณสิบกว่าคน เป็นผู้ฝึกตนทั้งหมด เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นพวกมัน ม่านตาก็หดเล็กลง พวกมันเข้ามาใกล้เขาในทันที โดยไม่ลังเล เมิ่งฮ่าวตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอาเครื่องรางขนาดใหญ่ขว้างออกไปที่เบื้องหน้า

เสียงระเบิดดังก้องออกมา และพื้นดินครึ่งหนึ่งของโลกแห่งนี้ก็สั่นสะเทือน รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง ขณะที่รอยแยกเหล่านั้นกระจายออกไป เสียงฟ้าร้องก็ได้ยินมา และสายฟ้ามากมายนับไม่ถ้วนก็ฟาดลงมาราวกับเป็นสายพิรุณ ราวกับว่าทั่วทั้งโลกแห่งนี้ได้กลายเป็นสงครามครั้งสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นโลก

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเครื่องรางที่ได้มาจากเคออวิ๋นไห่นี้จะทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง แต่ในตอนนี้เมื่อได้เห็นอานุภาพของมัน เขาก็ต้องสะท้านใจ ทั่วทั้งโลกของชั้นสิบเอ็ดได้หายไป ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นซากปรักหักพัง เงาร่างในสนามรบได้กลายเป็นเศษชิ้นส่วนของเถ้าธุลีที่ลอยไปในสายลม

มีเพียงเมิ่งฮ่าวเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ที่เบื้องหลัง

“ไม่ยอมให้ข้าขึ้นไปชั้นบน?” เมิ่งฮ่าวกระพริบตา และจากนั้นสีหน้าเขินอายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังชั้นที่สิบสอง

ชั้นสิบสอง ชั้นสิบสาม ชั้นสิบสี่…เมิ่งฮ่าวถูกห้อมล้อมด้วยแรงระเบิด ขณะที่เขามุ่งหน้าต่อไป ทุกที่ที่เขาผ่านไป สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และเต็มไปด้วยแสงของอาวุธเวทอันไร้ขอบเขต จากมุมมองของบุคคลที่อยู่ในโลกด้านนอกเหล่านั้น…เริ่มมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้อย่างชัดเจน

ศิษย์ทั้งหมดของสำนักเซียนอสูร มองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ จุดแสงก็พุ่งจากชั้นสิบเอ็ดไปยังชั้นสิบห้า ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแสงของพลังนั้นปรากฏขึ้นที่บริเวณรอบๆ จุดนั้น ตามมาด้วยพลังที่กระจายออกเป็นระลอกคลื่นที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนของอาวุธเวท

“คนผู้นั้น…มีอาวุธเวทมากมายเท่าใดกันแน่?”

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!