Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 774

ตอนที่ 774

กำจัดค้นหาเต๋า!

จุดแสงระยิบระยับกลายเป็นสายน้ำที่ยืดยาวออกไปในความมืดมิดยามราตรี แม่น้ำแห่งแสงดูเปล่งปลั่งเป็นประกาย ขณะที่มันลอยสูงขึ้นไป สูงขึ้นไปมากขึ้นเรื่อยๆ

กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบน หมุนวนไปมาอย่างเงียบๆ ราวกับว่าตัวท้องฟ้าเองกำลังถูกแยกออกจากกัน เพื่อเผยให้เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่อยู่ด้านบนของมันอีกที ที่นั่นไกลออกไปในหมู่ดาว มองเห็นแม่น้ำสายอื่นอีก มีขนาดกว้างใหญ่ไร้จุดสิ้นสุดอย่างที่ไม่อาจจะเทียบกันได้ น้ำแห่งแม่น้ำนั้นดูเหมือนจะแห้งเหี่ยวและเป็นสีเหลือง เต็มไปด้วย…วิญญาณไร้ร่างที่นับไม่ถ้วน!

ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านล่าง มองขึ้นไปด้วยความตื่นตระหนก

“แม่น้ำแห่งการลืมเลือน!!”

“สวรรค์! นั่นก็คือแม่น้ำแห่งการลืมเลือนในตำนาน!”

สิ่งที่ผู้คนด้านล่างสามารถมองเห็น เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของแม่น้ำ ซึ่งไหลผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ไหลเข้าไปในกระแสน้ำวนนั้น

ตอนนี้สวี่ชิงกลายเป็นจุดแสงจำนวนมากมาย กำลังจะไหลเข้าไปในกระแสน้ำวน และหลอมรวมเข้าไปในแม่น้ำแห่งการลืมเลือน จากนั้นก็จะผ่านเข้าไปในปรโลกแห่งขุนเขาที่สี่

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่กลางอากาศ จ้องมองไปยังภาพที่เห็นด้วยความว่างเปล่า หยดน้ำตาไหลลงมาบนใบหน้า และจิตใจก็ทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกแทงด้วยคมมีด ด้านบนขึ้นไป จุดแสงดูเหมือนจะก่อตัวเป็นรูปร่างของใบหน้า ขณะที่พวกมันผ่านเข้าไปในกระแสน้ำวน นั่นก็คือใบหน้าของสวี่ชิง

ดูคล้ายกับเป็นใบหน้าที่เมิ่งฮ่าวได้เห็นภายใต้แสงจันทร์ ตอนที่อยู่ในสำนักเอกะเทวะ จิตใจเขาสั่นสะท้าน

ใบหน้าของสวี่ชิงดูเหมือนกำลังยิ้มให้กับเขา นางมองมายังเขาชั่วขณะ จากนั้นก็กลับเข้าไปในสายน้ำที่ไหลตรงขึ้นไปในกระแสน้ำวนต่อไป

ท่ามกลางเจ็ดผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าแห่งดินแดนทางเหนือ เด็กชายในชุดสีแดงพร้อมกับแววตาอันชั่วร้าย ร่างมันแวบขึ้นขณะที่พุ่งตรงไปยังจุดแสง

เสียงของมันแหลมเล็กขณะที่ร้องตะโกนขึ้น “อยากจะเข้าไปในวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่…? เจ้ากำลังฝันไป! ถ้าเจ้าต้องตายไป วิญญาณของเจ้าก็จะต้องกระจายหายไปจนไม่หลงเหลืออะไรอีก!”

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นเด็กชายกำลังเข้าไปใกล้กับจุดแสงซึ่งก็คือสวี่ชิง เขาเริ่มสั่นสะท้าน จิตมาร ตามมาด้วยความต้องการเข่นฆ่าระเบิดออกมาในจิตใจ ทั้งสองอย่างนี้ยากที่จะสะกดข่มไว้ได้อีกต่อไป

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ขณะที่เด็กชายในชุดสีแดงกำลังจะเข้าไปถึงจุดแสง มันก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา พลังลึกลับได้โอบล้อมมันไว้ ทำให้ร่างมันสั่นสะท้านลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก มันมองขึ้นไปยังกระแสน้ำวนด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก

ก่อนหน้านี้มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ในตอนที่ต่อสู้กับการระเบิดตนเอง ของปรมาจารย์รุ่นสามตระกูลหลี่ไปแล้ว ถ้าไม่มีพื้นฐานฝึกตนอันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อคอยเกื้อหนุน มันก็คงจะต้องตายไปนานแล้ว

ตอนนี้พลังที่ม้วนกวาดออกมาจากภายในกระแสน้ำวน เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันน่าตกใจ เป็นบางสิ่งที่ทำให้มันต้องตกใจกลัว ยิ่งไปกว่านั้น ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่คำตักเตือนเท่านั้น

กระแสน้ำวนยังคงหมุนวนต่อไป ขณะที่สวี่ชิงหายเข้าไปด้านใน หลอมรวมเข้าไปในแม่น้ำอันยิ่งใหญ่ ตอนนี้นางได้กลายเป็นหนึ่งในวิญญาณมากมายที่กำลังลอยไปในแม่น้ำ

อย่างไรก็ตาม ก็มีบางสิ่งที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับสวี่ชิง นางมีแสงสีแดงห่อหุ้มอยู่รอบๆ เพื่อคอยปกป้องคุ้มครองนาง ทำให้วิญญาณไร้ร่างอื่นๆ ไม่อาจจะเข้ามาใกล้นางได้แม้แต่วิญญาณเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวนางเงียบสงบ…ขณะที่ลอยไปในแม่น้ำจนห่างไกลออกไป

กระแสน้ำวนหายไป และท้องฟ้าก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

เมิ่งฮ่าวนิ่งเงียบ วิหารหายไป และเทียนก็ดับลง โคมไฟและทิวธงกลายเป็นเถ้าธุลี และบรรยากาศแห่งความสุขก็หายไป มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือสนามรบ

เมิ่งฮ่าวค่อยๆ ลอยลงไปบนพื้นอย่างช้าๆ มองลงไปยังสองมือของตนเอง และในตอนนี้เองที่รู้สึกราวกับว่าเขายังคงโอบกอดสวี่ชิงอยู่ แต่…ไม่มีนางอีกต่อไปแล้ว

“ไม่มีแล้ว…” เขาพึมพำด้วยเสียงแหบแห้ง “พวกเราสัญญากันว่าจะใช้เวลาหนึ่งร้อยปีด้วยกัน…แต่ตอนนี้ท่านก็จากไปแล้ว…” ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว และเส้นผมสีขาวก็เริ่มพริ้วขึ้นไป ขณะที่กลิ่นอายการฆ่าฟันอย่างเข้มข้นพุ่งขึ้นมา

กลิ่นอายการฆ่าฟันนั้นเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นกลุ่มหมอกสีดำแห่งนรกโลกันต์ที่ม้วนตัวไปมาอยู่รอบๆ ร่าง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวเขาถูกแช่แข็งไว้ และกลิ่นอายแห่งความตายก็กระจายออกไป กลุ่มหมอกสีดำพุ่งขึ้นกลายเป็นใบหน้าขนาดใหญ่อยู่สูงขึ้นไปในกลางอากาศ

ใบหน้านั้นไม่ใช่ใบหน้าใครอื่นนอกจากเป็นใบหน้าของเมิ่งฮ่าว!

ดวงตาเขาไม่ได้เป็นสีแดงอีกต่อไป แต่เป็นสีดำ ไม่มีม่านตา ราวกับว่าเขาไม่อาจจะมองเห็นสิ่งใดๆ นอกจากความมืดมิดอันไร้จุดสิ้นสุด

ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น ก็เงยหน้าขึ้นและเริ่มหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา เมื่อเสียงหัวเราะนั้นผ่านเข้าไปในหูของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือ จิตใจและวิญญาณพวกมันก็เริ่มสั่นสะท้าน

ทันใดนั้น เสียงแตกร้าวก็ดังเต็มอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว แต่มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้ มันเป็นเสียงของการทำลายโซ่ตรวน ภายในร่างเขา…จิตมารกำลังถูกปลดปล่อยออกมา เป็นสิ่งที่คงอยู่ภายในร่างเขา ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในทะเลเทียนเหอมาแล้ว

ในตอนนี้ เขาไม่ต้องการจะควบคุมมันไว้อีกต่อไป เขาไม่ต้องการจะสะกดมัน เขาต้องการเพียงแค่…

สังหารผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนือ ที่มารุกรานดินแดนด้านใต้ไปทั้งหมด! สังหารผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าไปทุกคน สังหารพวกมัน! สังหารพวกมันให้หมดสิ้น!!

เขาพร้อมที่จะจ่ายค่าตอบแทนใดๆ เพื่อการกระทำเช่นนั้น!

ถ้าไม่อาจจะกลายเป็นเซียน ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอันใดที่จะกลายเป็นมาร!

ขณะที่เขาหัวเราะอย่างขมขื่นอยู่นั้น ร่างกายก็สั่นสะท้าน และกลุ่มหมอกสีดำก็ไหลออกมาจากภายในร่าง เส้นผมในตอนนี้เป็นสีขาวโพลนไปทั้งหมด แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้แก่ชราลงไป ความเยาว์วัยของเขาได้ฟื้นฟูกลับคืนมา และใบหน้าก็เย็นเยียบราวกับน้ำแข็งอย่างน่าตกใจ

เขาดูคล้ายกับเป็นพญามารที่กระหายเลือด ซึ่งมองเห็นแต่โลหิตและการสังหารเท่านั้น

เสียงแตกร้าวดังขึ้นมาจากพื้นดิน ขณะที่น้ำแข็งสีโลหิตได้กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ความเย็นเยียบอย่างรุนแรงกระจายออกไปรอบๆ ร่าง ราวกับว่าจู่ๆ ฤดูกาลก็เปลี่ยนไป เกล็ดหิมะสีดำเริ่มลอยพลิ้วไปมาอยู่ในอากาศ

เมิ่งฮ่าวปลดปล่อยจิตมารที่อยู่ภายในใจออกมาจนหมดสิ้น และได้ยกเลิกการสะกดข่มใดๆ ออกไปเพื่อความต้องการสังหาร ตอนนี้เขาเย็นชาและโหดเหี้ยมโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่กับศัตรูเท่านั้น แม้แต่ตัวเองก็เช่นกัน

วันวิวาห์ของเขาได้กลายเป็นโศกนาฏกรรม และมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาพอจะทำได้ในตอนนี้ก็คือกลายเป็นมาร!

ในทันทีที่จิตมารเขาถูกปลดปล่อยออกมา เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตในที่สุดก็เริ่มย้ายจากระดับสี่ตรงไปยังระดับห้า

สายตาเมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปในท้องฟ้าตรงไปยัง…เด็กชายชุดแดง

“เจ้าสมควรตาย!”

ทันใดนั้น ร่างจริงที่สองก็มองมาพร้อมกับสายตาที่แวบขึ้น

ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็หายตัวไป จากนั้นก็ไปปรากฏตัวขึ้นใหม่ในกลางอากาศอย่างน่าตกใจยิ่ง ร่างกายเขากระจายกลุ่มหมอกสีดำและเปลวไฟที่เดือดพล่าน พร้อมกับร่างจริงที่สอง พุ่งตรงไปยังเด็กชายชุดแดง

“ร่างจำแลงของเจ้าไม่เลว แต่สำหรับร่างจริงของเจ้า, ไสหัวไป!” เด็กชายกล่าวพร้อมกับแค่นเสียง ในช่วงที่มันพูดออกมา การต่อสู้ในสนามรบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าที่ด้านบน หรือความคลุ้มคลั่งในการต่อสู้ของดินแดนด้านใต้และดินแดนทางเหนือที่ด้านล่าง ต่างก็สู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน โหดเหี้ยมดุร้ายมากกว่าการต่อสู้ที่ด้านนอกของสำนักเซี่ยเยาเมื่อตอนแรกเริ่มมากนัก

ร่างจริงที่สองพุ่งตรงไปยังเด็กชายชุดแดงด้วยความรวดเร็วสูงสุด ทันทีที่คนทั้งสองปะทะกัน สายลมระเบิดออก สายฟ้าปะทุขึ้น เสียงระเบิดดังก้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ภายในช่วงเวลาสั้นๆ พวกมันก็ต่อสู้กันไปมานับพันครั้ง

สำหรับเมิ่งฮ่าว ทันทีที่เขาบินออกไป ชายชราในชุดหนังสัตว์ก็เคลื่อนที่มาขัดขวาง พร้อมกับรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม มันต่อยหมัดตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างรุนแรง

“ภรรยาเจ้าตายไปแล้ว! แล้วเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร? ทำไมยังไม่ไปอยู่ร่วมกับนางอีก!”

ขณะที่หมัดพุ่งตรงมา เมิ่งฮ่าวมองไปด้วยความเย็นชา ยกมือขวาขึ้น และกระถางสายฟ้าก็ปรากฏออกมา ทำให้สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปในทันที

ในตอนนั้นเองที่สายฟ้าได้ปะทุขึ้นมาจากภายในกระถาง ไปปกคลุมอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว แสงเจิดจ้ากระจายไปทั่วทั้งสนามรบ และทันใดนั้นเขาก็หายตัวไป เช่นเดียวกับชายชราผู้นั้น!

ตำแหน่งของคนทั้งสองถูกสลับสับเปลี่ยนกัน!

เมื่อเมิ่งฮ่าวไปปรากฏกายขึ้นในตำแหน่งเดิม ของชายชราในชุดหนังสัตว์ก่อนหน้านี้ เขาไม่แม้แต่จะหันหน้ามองกลับไปที่ด้านหลัง แม้ว่าชายชราจะแผดร้องด้วยโทสะและพุ่งไล่ติดตามมาก็ตามที เมิ่งฮ่าวมุ่งหน้าต่อไป เป้าหมายของเขาก็คือ เด็กชายชุดแดง!

เป็นเพราะผลไม้สีแดงชาดของมัน จึงทำให้สวี่ชิงต้องคำสาป!

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเพิ่งจะพยายามเข้าไปขัดขวางไม่ให้สวี่ชิงผ่านเข้าไปในวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่อีกด้วย!

เมิ่งฮ่าวราวกับเป็นพญามารซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะกำจัดมันไป!

เด็กชายชุดแดงกำลังต่อสู้อยู่กับร่างจริงที่สองในตอนนี้ มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสไปแล้ว และด้วยเช่นนั้น จึงไม่อาจจะต่อสู้กับร่างจริงที่สองได้ มันล่าถอยไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเป็นสีแดงก่ำขณะที่ทำการโจมตีด้วยความไม่ประมาท เมื่อมันเห็นเมิ่งฮ่าวกำลังพุ่งมา มันก็ชี้นิ้วออกไป

“รนหาที่ตาย? ข้าจะสังหารร่างจริงของเจ้าเอง!” ทันทีที่เด็กชายชี้นิ้วออกไป เมิ่งฮ่าวก็ใช้กระถางสายฟ้าออกมาอีกครั้ง ในชั่วพริบตา เขาก็ย้ายตำแหน่งกับร่างจริงที่สอง

เสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่ร่างจริงที่สองไปปรากฏกายขึ้นในจุดที่เขาอยู่ในตอนแรก สำหรับเมิ่งฮ่าว ตอนนี้เขา…ไปอยู่ใกล้กับเด็กชายมากกว่าผู้ใดในสนามรบ!

การใช้กระถางสายฟ้าของเมิ่งฮ่าว ได้บรรลุถึงความสมบูรณ์แบบ!

จิตใจของเด็กชายชุดแดงสั่นสะท้าน การโจมตีของนิ้วมันเมื่อครู่นี้ ไม่อาจจะทำอะไรกับร่างจริงที่สองได้ มันเคลื่อนตัวไปรอบๆ และกำลังจะโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างรุนแรง แต่ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ อย่างน่าตกใจ สัญลักษณ์เวทได้ปรากฏขึ้นอยู่ในฝ่ามือ!

เป็นตัวอักษรแค่ตัวเดียวเท่านั้น!

枯! (คู = แห้งเหี่ยว)

นี่คือเวทตัวอักษรแห้งเหี่ยว ซึ่งปรากฏขึ้นหลังจากที่เขาดูดซับพลังคำสาปแช่งแปดในสิบส่วนเข้าไป! เวทนี้สามารถใช้เป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะคงอยู่ได้นานตลอดไป เมื่อไหร่ที่พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวเพิ่มสูงขึ้น พลังแห่งเวทแห้งเหี่ยวนี้ก็จะยิ่งมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น พลังอำนาจของมันก็จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาสามารถจะรวบรวบพลังเข้าไปในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวได้ด้วยเช่นกัน แต่ก็จะทำให้ต้องสิ้นเปลืองสัญลักษณ์เวท และทำให้มันสลัวเลือนลางลงไป จำเป็นต้องดูดซับพลังแห้งเหี่ยวเข้ามาเพิ่ม ก่อนที่จะสามารถใช้มันได้อีกครั้ง

“ข้าไม่เคยสังหารผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดค้นหาเต๋ามาก่อน” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นอย่างเงียบๆ “เจ้ากำลังจะเป็นคนแรก ความเจ็บปวดที่ภรรยาข้ารู้สึกก่อนที่นางจะตายไป เป็นสิ่งที่เจ้า…จะได้พบกับมันแล้วในตอนนี้!”

น้ำเสียงเมิ่งฮ่าวสงบนิ่ง เป็นความสงบนิ่งที่ทำให้จิตใจของเด็กชายชุดแดงเต้นรัว ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงได้ปรากฏขึ้นในจิตใจมันอย่างลึกล้ำ

ตัวอักษร ‘แห้งเหี่ยว’ ทำให้เด็กชายชุดแดงเริ่มหอบหายใจออกมา หนังศีรษะมันด้านชาขนลุกตั้งชี้ชัน มันพยายามจะหลบหนีไปในทันที

ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวที่มีสายตาอันเย็นชาก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ “ตัวอักษรแห้งเหี่ยวระเบิด!”

ทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปาก แสงเจิดจ้าสีเทา ก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือเขา เต็มอยู่ในท้องฟ้าอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้ฝึกตนนับแสนที่ด้านล่าง มองขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ พวกมันรับรู้ได้ถึงพลังคำสาปแช่งแห่งการแห้งเหี่ยว ระเบิดขึ้นที่ด้านบน

ชายชราในชุดหนังสัตว์อ้าปากค้าง จากนั้นก็เริ่มถอยไปทางด้านหลังในทันที

“ไม่!!” เด็กชายชุดแดงแผดร้อง พลังพื้นฐานฝึกตนของมันระเบิดออก และหยิบเอาอาวุธเวทจำนวนมากออกมา พยายามที่จะต่อสู้กลับไปยังพลังคำสาปโลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรมของมันเอง

แต่ไม่ว่ามันจะทำอย่างไร เมื่อพลังแห้งเหี่ยวนี้ระเบิดออกมา มันก็คล้ายกับเป็นตั๊กแตนที่พยายามจะหยุดล้อรถ ในชั่วพริบตามันก็จมอยู่ในโลกสีเทาที่ปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดิน

มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ก็คือ เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนที่ดังก้องออกไปทั่วในบริเวณนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!