Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1381

ตอนที่ 1381

สังหารอย่างโหดเหี้ยม

ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ยังคงตกอยู่ภายในเครื่องหมายผนึกรูปสามเหลี่ยม เมื่อนางมองออกไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “อาณาจักรขุนเขาทะเลถึงวาระที่…สายโลหิตทั้งหมดจะถูกกวาดล้างไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกต่อไป การที่พวกเจ้าสามารถต่อสู้ได้จนถึงตอนนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าสามสิบสามสวรรค์ประเมินพวกเจ้าต่ำมากเกินไปจริงๆ”

“อย่างไรก็ตาม…ด้วยพลังอันแข็งแกร่งเช่นพวกข้า พวกเจ้าก็จะต้องหายไปตามกาลเวลา ความรุ่งเรืองของโลกแห่งเซียนในตอนนั้นจะกลายเป็นเถ้าธุลีไป ลมหายใจที่เหลืออยู่จนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็แค่ทำให้เซียนเช่นพวกเจ้าถูกผู้คนดูถูกเหยียดหยามเท่านั้น”

เมื่อคำพูดของนางดังก้องออกไป ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็ได้ยินกันถ้วนทั่วทุกตัวคน

“ข้ารู้สึกประหลาดใจนัก ทำไมพวกเจ้าถึงคิดว่าจะยังมีความหวังหลงเหลืออยู่อีก? หลังจากสามสิบสามสวรรค์ก็เป็นอีกสองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ หนึ่งเป็นอาณาจักรมารและอีกหนึ่งเป็นอาณาจักรเทพ กองกำลังจากสองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว…”

“อะไรที่ทำให้ขุนเขาทะเลอันกระจ้อยร่อยนี้คิดว่าจะต่อสู้กับพวกมันได้? สายโลหิตของพวกเจ้าจะต้องถูกกวาดล้างไป จิตวิญญาณของพวกเจ้าจะถูกกำจัดสิ้น ไม่มีใคร…รอดชีวิตไปได้”

เมื่อผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้มองออกไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็ไม่มีอะไรที่จะมีค่าในสายตาของนาง แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ตามที แต่นางกลับเพ่งมองไปยังตำแหน่งระหว่างขุนเขาที่แปดและขุนเขาที่เก้า

ในที่แห่งนั้นผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อีกคนกำลังต่อสู้กับใครบางคน ที่แม้แต่นางก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้จิตใจนางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

สำหรับผู้แข็งแกร่งลึกลับอื่นๆ ไม่มีใครต้องการจะมาต่อสู้กับนาง หรืออาจจะมีเหตุผลอื่นที่ต้องการสังเกตดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เท่านั้น

“สุ่ยตงหลิว…เจ้าก็เป็นแค่ผู้ที่ถูกวิญญาณไร้ร่างยึดครองเท่านั้น ถ้าเช่นนั้น…เจ้ากำลังพยายามทำอะไรกันแน่? เห็นได้ชัดว่าสงครามนี้ถูกลิขิตมาให้เป็นเช่นนี้แล้ว” ผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ขมวดคิ้ว การที่นางไม่อาจจะเปิดเผยความลับนี้ได้ ทำให้เกิดเป็นความสงสัยขึ้นมาในจิตใจ

สงครามแห่งขุนเขาทะเลดำเนินต่อไป ขุนเขาที่แปดสั่นสะเทือนขณะที่กองกำลังกลุ่มคนนอกคอกต่อสู้อย่างดุร้ายกับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแตกกระจายไป แม้แต่ขุนเขาที่แปดเองก็เริ่มจะแตกร้าวและกำลังจะพังทลายลงไป

ไห่เมิ่งจื้อจุนและผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดยังคงต่อสู้อยู่กับผู้แข็งแกร่งศีรษะใหญ่ ซึ่งต่อสู้กลับมาด้วยความแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง เชี่ยวชาญในการใช้วิชากายเนื้อ และสามารถใช้มือเดียวต่อสู้กับคนทั้งสอง ทั้งยังป้องกันไม่ให้คนทั้งสองปลีกตัวไปยังที่อื่นได้อีกด้วย

ในสถานที่อื่นๆ กลุ่มคนนอกคอกต่างก็ต่อสู้กันอย่างดุร้ายกับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล

เมิ่งฮ่าวตกอยู่ในอันตรายอันร้ายแรงด้วยเช่นกัน ถูกห้อมล้อมด้วยศัตรูสิบกว่าคน รวมทั้งยักษ์อีกหลายตน เสียงแผดร้องคำรามดังเต็มอยู่ในอากาศ และแสงของวิชาเวทก็พุ่งขึ้นไป เส้นผมเมิ่งฮ่าวยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง และกำลังทุ่มออกมาจนสุดตัว ทำทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กลับไป หมัดทำลายล้างชีวิต, หมัดกลายเป็นปีศาจ และหมัดสังหารเทพทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน ในที่สุดก็สามารถกำจัดคู่ต่อสู้ไปได้หนึ่งคน ขณะที่มันกระอักโลหิตออกมา ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวกำลังหอบหายใจออกมา ขณะที่หมุนตัวแยกท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยอาวุธสงคราม แสงอันเจิดจ้าแวบตรงไปยังศัตรูสองคน ซึ่งตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิงเมื่อศีรษะของพวกมันลอยออกมาจากร่างกาย

มือของเมิ่งฮ่าวกำลังสั่นระรัว ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไปเพื่อให้สามารถสังหารศัตรูทั้งสามไปได้อย่างต่อเนื่องรวดเร็วก็คือ ถูกความสามารถศักดิ์สิทธิ์จากกลุ่มคนที่เหลือโจมตีมา ที่เลวร้ายมากไปกว่านั้นก็คือ เขาถูกต่อยด้วยหมัดของยักษ์

ตูมมมมมมม!

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว แต่ด้วยการช่วยเหลือจากผีโต้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสนัก และด้วยเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ทำให้เริ่มฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความโหดเหี้ยม และยกมือซ้ายขึ้นมา ปลดปล่อยเวทปลิดดาวออกไปคว้าจับศัตรูได้หนึ่งคน เมื่อกำลังจะบดขยี้ลำคอของมัน ศัตรูที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นจำนวนมาก

ในช่วงเวลาจุดประกายหินเหล็กไฟ เมิ่งฮ่าวก็หัวเราะขึ้นมาอย่างดุร้ายและไม่ยอมหลบเลี่ยง หยุดความพยายามที่จะลากผู้ฝึกตนนั้นมาใกล้ตัว แต่กลับพุ่งตรงไปเอาศีรษะกระแทกไปตรงหน้าผากของมันแทน

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ตามมาด้วยเสียงแผดร้องอย่างน่าขนลุก เมื่อศีรษะของบุรุษผู้นั้นระเบิดไป ร่างเมิ่งฮ่าวเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตและชิ้นเนื้อโดยสิ้นเชิง ทำให้ดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ศัตรูที่อยู่รอบๆ ตัวสบตากันไปมา จากนั้นก็บินขึ้นไปในอากาศอย่างฉับพลัน และเริ่มรวมตัวเข้าด้วยกันอย่างคาดไม่ถึง!

เห็นได้ชัดว่าร่างกายของพวกมันก่อตัวกันขึ้นมาด้วยพลังที่แปลกประหลาด และหลอมรวมเข้าด้วยกันจากร่างของคนอื่นๆ ในตอนนี้เมื่อพวกมันเริ่มรวมตัวกัน แม้แต่ยักษ์ก็มาเข้าร่วมด้วย ในชั่วพริบตาพวกมันทั้งหมดก็กลายเป็นร่างใหม่หนึ่งร่าง!

เป็นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตร่างหนึ่ง มีความสูงถึงหนึ่งพันจ้างเต็ม และเริ่มกระจายเป็นแรงกดดันที่บดขยี้ออกมาในทันที ที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือยักษ์ตนนั้นมีแปดหน้า อยู่ตรงส่วนต่างๆ บนร่างกายของมัน

ใบหน้าทั้งแปดเหล่านั้นเป็นของแปดคนที่ก่อตัวกันเป็นร่างนี้ หกคนเป็นผู้ฝึกตน และสองเป็นยักษ์แห่งเผ่าเทพ

ยักษ์ตนนั้นแผดร้องคำราม เริ่มพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

มือขวาหมุนควงอยู่ในอากาศด้วยความรวดเร็ว จนแทบจะปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าในทันที ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น และเรียกสุดยอดสะพานออกมาเพื่อป้องกันตัวอย่างฉับพลัน

เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวถอยโซเซไปทางด้านหลังสองสามก้าว ยักษ์ตนนั้นก็ถอยหลังไปด้วยเช่นกัน ด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน ใบหน้าทั้งแปดส่งเสียงแผดร้องคำรามออกมา

เมิ่งฮ่าวกวาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก และดวงตาก็แวบประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร

“พลังระดับผู้ยิ่งใหญ่?”

ยักษ์หยุดชะงักนิ่งและจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวชั่วขณะ ก่อนที่จะพุ่งตรงมาอีกครั้ง ขณะที่ใกล้เข้ามา มันก็อ้าปากขึ้นในทันที และเสียงแผดร้องคำรามอันทรงพลังก็ดังก้องออกไป

เสียงคำรามแห่งเทพ!

คลื่นเสียงระเบิดออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้เกิดเป็นรอยฉีกขาดขึ้น เวลาเดียวกันนั้น คลื่นเสียงที่ดังออกมาจากปากยักษ์ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมื่อคลื่นเสียงนั้นกระแทกมาโดนร่าง โลหิตก็ไหลซึมออกมาจากดวงตา หู จมูกและปาก ชุดเกราะผีโต้งเริ่มแตกร้าวและพังทลายลงไป แต่มันก็ยังคงยืนหยัดคอยปกป้องเมิ่งฮ่าวต่อไป

มือขวาเมิ่งฮ่าวสั่นระรัว ขณะที่ถูกผลักไปทางด้านหลัง เสียงนั้นเต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะผีโต้ง อวัยวะภายในของเมิ่งฮ่าวก็คงจะถูกบดขยี้จนกลายเป็นก้อนเนื้อเลอะเลือนไปแล้ว

จากนั้นยักษ์ก็ก้าวเดินตรงมา ฟาดฝ่ามือออกไป เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ ถูกฟาดไปโดยตรง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ร่างลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งชุดเกราะผีโต้งมากขึ้น แต่มันก็ยังคงยืนหยัดต่อไป เมิ่งฮ่าวรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้ แต่ในช่วงวิกฤตความเป็นตายนี้ เขาต้องเพ่งสมาธิไปยังยักษ์ตนนั้น

“ข้าเคยเห็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นมาก่อน…” เมิ่งฮ่าวคิดดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร

เสียงแผดร้องคำรามนั้นคงอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ในทันทีที่มันจางหายไป ยักษ์ก็แผดร้องคำรามออกมาอีกครั้ง และคลื่นเสียงก็ระเบิดออก เข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าวอีกครั้ง

ขณะที่คลื่นเสียงครั้งที่สองใกล้เข้ามา ศิลาดวงดาวในดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบประกายขึ้น กระจายออกไปปกคลุมทั่วทั้งร่าง เมื่อเสียงคำรามนั้นกระแทกลงมา

เมิ่งฮ่าวก็กลายร่างเป็นก้อนอุกกาบาต พุ่งไปปะทะกับเสียงนั้น และเริ่มเคลื่อนที่ตรงไปยังยักษ์ตนนั้น

ภายใต้พลังของคลื่นเสียง อุกกาบาตเริ่มกลายเป็นเถ้าธุลีไป หดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตอนที่อยู่ห่างจากยักษ์สิบจ้าง อุกกาบาตก็พังทลายลงไป และเมิ่งฮ่าวก็ปรากฏตัวขึ้น แต่ก็กลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีฟ้าอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ

ในชั่วพริบตาวิหคยักษ์สีฟ้าก็กลายเป็นเศษชิ้นเนื้อและโลหิต แต่ก็ยังคงพุ่งต่อไป ถึงแม้ว่ายักษ์จะพุ่งหลบหนีไปทางด้านหลัง แต่ตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็อยู่ห่างจากมันไม่ถึงสามจ้าง!

แค่สามจ้าง…ก็พอแล้ว!

แม้ในขณะที่วิหคยักษ์สีฟ้าพังทลายลงไป ม่านตายักษ์ก็หดเล็กลงด้วยความหวาดกลัว ในตอนนี้เองที่ร่างมนุษย์ของเมิ่งฮ่าวก้าวเดินออกมาจากเศษชิ้นส่วนของวิหคยักษ์ กลิ่นอายอันน่ากลัวพุ่งกระจายออกไป ขณะที่กวัดแกว่งอาวุธสงคราม และกรีดเฉือนลงไปอย่างดุร้ายยังร่างยักษ์ที่กำลังหลบหนีตนนั้น!

ภายในประกายแสงของใบมีด มองเห็นภาพของนกแก้วอยู่ในนั้น ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น, โศกเศร้า หรือแม้แต่บ้าคลั่ง เป็นครั้งแรกที่เมิ่งฮ่าวได้เห็นนกแก้วในสภาวะเช่นนี้ เสียงหวีดหวิวของใบมีด ทำให้ดวงตายักษ์เบิกโพลงขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และจากนั้นใบมีดก็กรีดเฉือนลงมาบนร่างมัน

ตูม!!

ยักษ์โซเซถอยไปทางด้านหลัง เวลาเดียวกันนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนมากมายได้ยินมา ขณะที่ห้าในแปดร่างที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นร่างยักษ์กลายเป็นเถ้าธุลีไป เวลาเดียวกันนั้นเสียงแผดร้องด้วยความไม่อยากจะเชื่อก็ดังก้องออกมาจากหนึ่งในดินแดนอันกว้างใหญ่ ที่พุ่งตรงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล ตรงด้านนอกในความว่างเปล่าที่ยืดยาวออกไป

ช่วงเวลาเดียวกันนั้น สามคนที่ไม่ถูกสังหารไป ก็จ้องมองมายังใบมีดของเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัวอยู่ในตอนนี้ โดยไม่ลังเลใดๆ พวกมันเริ่มหลบหนีจากไป

เมิ่งฮ่าวมีใบหน้าซีดขาวขณะที่ไล่ตามไปในทันที ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ และติดตามไปทันหนึ่งในพวกมันแทบจะในทันที

คว้าจับบุรุษผู้นั้นไว้อย่างไม่ลังเล และปลดปล่อยเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตออกไป ทันใดนั้นก็เริ่มดูดซับปราณและโลหิต รวมทั้งวิญญาณของมัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้

ผู้ฝึกตนนั้นแผดร้องและแห้งเหี่ยวลงไปแทบจะในทันที ในชั่วพริบตาก็กลายเป็นซากศพที่แห้งกรัง เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็เริ่มฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็ไล่ตามผู้ฝึกตนอีกสองคนไป

แต่ละคนแผดร้องออกมาเหมือนกัน “ช่วยด้วย!”

พวกมันบินไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด ด้วยสีหน้าตกใจเป็นอย่างยิ่ง คนทั้งสองไม่ใช่ผู้ฝึกตนจากสามสิบสามสวรรค์ พวกมันยึดครองร่างกายเพื่อมายังที่แห่งนี้ และไม่ใช่คนที่จะถูกสังหารไปได้อย่างง่ายดาย ถ้าพวกมันตายไป ก็จะฟื้นคืนชีพกลับไปยังบ้านเกิดของพวกมัน นอกจากนี้สิ่งที่มายังที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่วิญญาณที่สมบูรณ์ของพวกมัน

แต่พวกมันก็เพิ่งจะมองเห็นว่าคนแปลกหน้าผู้นี้ใช้ใบมีดที่แปลกประหลาดสังหารสหายร่วมรบของพวกมันไปห้าคน ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือไม่เพียงแต่เศษชิ้นส่วนวิญญาณของพวกมันจะถูกกำจัดไปในที่แห่งนี้เท่านั้น แม้แต่ร่างจริงของพวกมันก็ถูกกำจัดไปด้วยเช่นกัน!

ที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นก็คือ คนผู้นี้สามารถจะดูดซับปราณ, โลหิต และวิญญาณของพวกมันได้ ทำให้ต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวไปโดยสิ้นเชิง

“มันสามารถจะสังหารพวกเราไปได้จริงๆ!!”

“เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร!?!?”

ในท่ามกลางความหวาดกลัว พวกมันหลบหนีไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด เมิ่งฮ่าวกำลังจะไล่ล่าติดตามไป แต่ทันใดนั้นสีหน้าก็ต้องเปลี่ยนไป และมองขึ้นไปยังทิศทางของขุนเขาที่หกซึ่งแตกกระจายไป

ที่แห่งนั้นสามบรรพจารย์ที่กำลังตรึงผนึกผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ ตอนนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะที่แห้งเหี่ยวไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ่านเทียนจุนเจ่อ (บรรพจารย์ตัดสวรรค์) ที่เห็นได้ชัดว่าพลังชีวิตของท่านเหือดแห้งหายไปเรียบร้อยแล้ว

“พวกเจ้าไม่อาจจะผนึกเปิ่นจุนได้อีกต่อไปแล้ว” ผู้ยิ่งใหญ่สตรีกล่าวเสียงราบเรียบ จากนั้นก็ยื่นมือตรงไปยังเครื่องหมายผนึกอย่างช้าๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!