Skip to content

สะดุดรักยัยกะล่อน 14

ตอนที่ 14

ยอมหรือไม่? (ไม่ยอม…)

“เจ้าโกรธข้าจริงๆรึ” หลี่เซียวเหยาเริ่มขมวดคิ้วมุ่นก่อนเอ่ยถามเจินเจินด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอยู่ทางด้านหลังของหญิงสาวที่ยังคงนอนยาวเหยียดเคียงคู่กับเขาด้วยร่างเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอน

“เจ้าเองที่เป็นฝ่ายทำให้ข้าหยุดอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ไม่ใช่หรือไร” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยขึ้นด้วยประโยคตัดพ้อตามวิสัยไปทางเจินเจิน ลมหายใจที่ยังคงกรุ่นร้อนและฝ่ามือที่คล้ายกับจะลวกผิวนวลเนียนของเจินเจินให้มอดไหม้ยังคงลูบคลำเค้นคลึงไปตามส่วนต่างๆของหญิงสาวอย่างเอาแต่ใจ

เจินเจินทำได้เพียงนอนหันหลังให้เขาพลางเอื้อมมือขึ้นเกาผนังห้องที่ติดกับเตียงนอนดัง แกร่ก แกร่ก

นางพลาดจริงๆ พลาดอย่างมหันต์…

ฮือ… ฮือ…

เมื่อวานยามที่นางได้รับสารจากฮองเฮาหงเหม่ยหลงว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อไปแอบอารักขาคุ้มกันองค์ชายหลี่หงจินหยางที่จะไปออกรบกับกลุ่มกำลังของพวกต้าไห่อะไรนั่น หลี่เซียวเหยาก็เกิดโกรธเกรี้ยวนางอย่างไม่มีเหตุผล และไม่ยอมให้นางได้ออกเดินทาง

 

เขาฉุดกระชากนางให้เข้ามาในตำหนักของเขาโดยไม่สนใจสายตาผู้ใด ทั้งเหล่าสตรีของเขาและเหล่าสมุนของนาง

แต่ไหนแต่ไรมา นางไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับบุรุษคนใดต่อหน้าสมุนของนางเลย

แต่กับหลี่เซียวเหยานั้น เขาแค่ฉุดข้อมือของนาง นางก็เดินตามเขามาอย่างง่ายดาย

ทั้งๆที่นางพยายามขัดขืนเขาแล้วเชียว แต่ขาของนางกลับเดินตามเขาเข้ามาจนถึงภายในห้องนอนแห่งนี้อย่างง่ายดาย

หึ! ถ้าเป็นบุรุษคนอื่นนางคงจะหักแขนหักขาจนเสียรูปไปแล้ว

และพอเขาพานางเข้ามาในห้องนอน

เขาก็จับนางกดลงบนเตียงนอน

อันที่จริงนางควรจะเป็นฝ่ายจับเขากดมากกว่านะ

แต่…

แต่…

แค่นางเห็นแผงอกที่เคลื่อนเข้ามา

ริมฝีปากที่โน้มลงมา

เพียงเท่านั้น

เท่านั้นจริงๆ

นางพญาจิ้งจอกเจินเจินก็คล้ายสาวน้อยไร้พิษสงไปโดยปริยาย

เขาขืนใจนาง…

นางพญาจิ้งจอกเจินเจินถูกขืนใจ

ฮือ…ฮือ…

ทั้งๆที่นางเห็นกับตาแล้วเชียว ว่าเขามิได้ต่างจากบุรุษคนอื่น เขามีสตรีมากหน้าหลายตามารออยู่ที่ด้านนอกนั้นอีกเป็นขบวน…

เรื่องนี้ช้ำใจยิ่งกว่าถูกขืนใจอีกนะ

ฮือ….

เจินเจินยังคงครุ่นคิดอย่างหมกมุ่นพลางหลับหูหลับตาเกาผนังอยู่อย่างนั้น

“เจ้าทำเหมือนกับว่าถูกข้าขืนใจอย่างนั้น” หลี่เซียวเหยาเอ่ยขึ้นในขณะที่ขยับกายของตนขึ้นก่อนจะจับร่างเปล่าเปลือยของเจินเจินให้พลิกตัวหันหน้าเข้ามาหาเขา

“ก็ท่านขืนใจข้าจริงๆนี่” เจินเจินพลิกกายหันมาหาหลี่เซียวเหยาอย่างว่าง่าย แต่ยังคงเอ่ยตัดพ้ออย่างไม่ยอมจำนน

“เจ้าอยู่บนตัวข้าด้วยลีลาเยี่ยงนั้น ยังหาว่าข้าขืนใจเนี่ยนะ” หลี่เซียวเหยากล่าวออกไปอย่างไม่เข้าใจในตัวของเจินเจินเลยสักนิด

“ข้าหมายถึงตอนเริ่มต้นต่างหาก” เจินเจินเถียงออกไปอย่างไม่ยอมเขาเลยสักนิดเช่นกัน

“ข้าจับเจ้ากดลงให้นอนราบกับเตียงก่อนจะก้มหน้าลงจูบเจ้าอย่างหนักหน่วงจริง แต่เป็นเจ้าที่ปลดสาบเสื้อของข้า แล้วโยนออกไปเสียไกล” หลี่เซียวเหยาที่อยู่ในท่าขึ้นคร่อมเจินเจินอยู่เอ่ยขึ้นพลางโบ้ยสายตาไปทางชุดของเขาที่ลอยไปเกี่ยวอยู่กับโต๊ะไม่ไกลกับเตียงนอน

“จริงรึ?” เจินเจินตีหน้ามึน กระพริบตาปริบๆ

“แต่มันก็ยังไม่ถูกต้องอยู่ดี” หญิงสาวยังคงเอ่ยตัดพ้ออยู่อย่างนั้น พลางคิดในใจ ครั้งแรกของนางควรจะดีกว่านี้สิ ฮึ!

“แต่ไหนแต่ไรมา เป็นเจ้าที่แอบกินเต้าหู้ข้าก่อนมาโดยตลอด ถูกเอาคืนเยี่ยงนี้ย่อมสมควรแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวพลางก้มหน้าลงซุกไซ้ตรงซอกคอที่มีรอยจ้าสีแดงตลอดแนวจากกิจกรรมของรอบก่อนๆหน้า

“ท่านแค่ถูกข้าลวนลามเพียงนิด อ๊ะ…” เจินเจินเอ่ยได้แค่นั้นกลับต้องสะดุดเพราะใครบางคนที่อยู่เหนือร่างของนางขณะนี้กำลังรุกล้ำหนักขึ้น

“เจ้า…เป็นของข้า…” หลี่เซียวเหยากระซิบเสียงแหบต่ำขณะก้มหน้าลงตรงซอกคอของหญิงสาวพร้อมทั้งเริ่มขยับ

บางอย่างก่อนจะโยกกลางลำตัวเชื่องช้าเนิบนาบเพื่อเปิดศึกรอบใหม่กับเจินเจิน

“อืม… อา…มะ…ไม่ ข้าไม่…ยอม” เจินเจินแหงนหน้าขึ้นขณะร่างบางของนางกำลังโยกตามร่างกำยำของเขาพลางยกมือขึ้นจิกเล็บลงตรงกลางแผ่นหลังกว้างใหญ่ที่ยังคงเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเม็ดโต

นางยังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “ท่าน…ต่างหาก…เป็นของข้า…อื้อ!”

“พูดมาก…” ชายหนุ่มเอ่ยแค่นั้นก่อนจะใช้ริมฝีปากของเขาประกบปิดริมฝีปากของสตรีที่เขาดุออกไป ขณะเริ่มเพิ่มจังหวะเร่งเร้าให้กระชั้นถี่จนสตรีนางนี้กล่าวสิ่งใดไม่ออกอีกเลย

เพียงไม่นานต่อมาเสียงตัดพ้อต่างๆจึงกลับกลายเป็นเสียงบางอย่างที่คล้ายกันระหว่างบุคคลทั้งสอง

หลังจากที่หลี่เซียวเหยาพลาดท่าเสียทีให้กับสตรีนามว่าเจินเจินอยู่หลายครั้งหลายคราด้วยการถูกกระตุ้นอารมณ์บุรุษเพศจนแทบจะเป็นไข้ป่านั้น เขาก็คิดมาตลอดว่าควรจะเอาคืนนางอย่างสาสม

และเขาก็ทำสำเร็จในที่สุด

ตั้งแต่เมื่อวานต่อด้วยทั้งคืนและจนกระทั่งยามนี้

เขานับความคับแค้นเอาไว้ในใจตั้งแต่เจอกันกับนางในคราแรกเลยก็ว่าได้

ยามนี้…

นางไม่มีทางหลุดมือของเขาไปได้อย่างแน่นอน

คิดจะไปจากเขารึ!

ไม่มีทาง…

“เจ้าห้ามคิดถึงใครอื่น…นอกจากข้า…” ชายหนุ่มกระซิบกระซาบเสียงกร้าวอยู่ข้างใบหูที่กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อของเจินเจิน

ชายหนุ่มถามออกไปขณะยกกระชับร่างบางให้เคลื่อนไหวบางอย่างตามจังหวะของเขา “เข้าใจ…หรือไม่” เขาจะจัดการกับนางอย่างสาสม โทษฐานที่มาปั่นป่วนชีวิตอันสงบสุขของเขาจนสิ้น

“มะ…ไม่…อื้ม…” นางจะไม่ยอมเขาอีกแล้ว เขามีสตรีมากมายออกปานนั้น

แม้ใจเจินเจินจะคิดอย่างนั้น แต่ร่างกายของนางกลับพ่ายแพ้ให้แก่เขาอย่างราบคาบ ฮือ…

“ไม่ยอมรึ!?” ชายหนุ่มได้ยินแค่คานั้น จึงจัดการกับเจินเจินหนักยิ่งขึ้น สตรีนางนี้ร้ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ฮึ่ม…

“โอ๊ะ…” เจินเจินถึงกับหลุดอุทานเมื่อหลี่เซียวเหยากระทำการบางอย่างบนเรือนร่างของนาง

“ยอมหรือไม่…” เขายังคงกระซิบถามเสียงแหบพร่าขณะขบกัดไปเรื่อยๆบนร่างเปล่าเปลือยของหญิงสาว

“ไม่…อ๊ะ!”

“ไม่รึ…”

“อา…”

เสียงต่อสู้ฟาดฟันกันของสองชายหนุ่มหญิงสาวยังคงดำเนินต่อไปอย่างหนักหน่วงคล้ายแค้นเคืองกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอาวุธเช่นดาบหรือคมหอกใดๆในมือของแต่ละฝ่าย

แต่การต่อสู้ของพวกเขากลับดุเดือดเลือดพล่านยากแก่การควบคุม…

ณ ลานกว้างของตำหนักหลี่เซียวเหยา

ภายในอาณาเขตกว้างขวางของลานกว้างแห่งนี้ยังคงมีบุคคลต่างๆนั่งจับกลุ่มออกันอยู่อย่างหนาแน่น

“แล้วพวกเราจะได้ไปเตรียมตัวเพื่อปฏิบัติงานกันเมื่อไหร่ล่ะเนี่ย ในเมื่อหัวหน้าเจินเจินของพวกเราหายเข้าไปในนั้นตั้งแต่เมื่อวาน” เสียงของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นขณะนั่งรอเจินเจินผู้เป็นนายสาวอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

แต่ไม่ว่าจะถามไปกี่รอบ ก็ยังได้รับคำตอบเป็นความเงียบงันดังเดิม

เหล่าสตรีที่มารอรายงานตัวเพื่อเป็นอนุชายาของหลี่เซียวเหยาก็เช่นเดียวกัน

พวกนางยังคงนวยนาดไปมาเพื่อรอโอกาสที่จะได้เข้าหาองค์ชายสี่หลี่เซียวเหยาอยู่อย่างกระวนกระวาย

โดยหารู้ไม่ว่าได้สร้างความปั่นป่วนพลุ่งพล่านให้กับบรรดาบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ที่นั่งเกาะกลุ่มกันอยู่ไม่ไกลกันอีกมุมหนึ่งนั้นอยู่อย่างมากมาย…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!