Skip to content

A Will Eternal 1011

บทที่ 1011 ปราณเลือดพวยพุ่งเทียมฟ้า

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก มีหรือที่เทียนจุนจะไม่รู้ ทว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการผสานรวมครั้งนี้ เขาจึงไม่สามารถเสียสมาธิได้ อีกอย่างสำหรับเขาแล้ว อย่าว่าแต่เกาะทงเทียนจะพังทลายเลย ต่อให้โลกทั้งใบพังพินาศ คนทั้งโลกตายกันหมดก็ยังไม่สำคัญเท่ากับเรื่องที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้!

“จงผสานรวม!” เมื่อเห็นว่ารอบด้านมีเปลวเพลิงเยื้องกรายลงมา เทียนจุนที่ร้องคำรามก็ระเบิดตบะออกทุกด้านเพื่อขัดขวางไม่ให้ทะเลเพลิงเข้ามาใกล้ ขณะเดียวกันมือทั้งสองของเขาก็ระเบิดตบะออกเช่นกัน เพื่อให้การผสานรวมระหว่างป๋ายเสี่ยวฉุนกับตู้หลิงเฟยดำเนินไปเร็วมากขึ้น

“อาจารย์!!” ในเปลวเพลิงที่พุ่งดิ่งลงมามีเสียงร้องคำรามด้วยความร้าวรานใจจากป๋ายฮ่าวดังขึ้น

ตอนนี้ป๋ายฮ่าวก็อยู่ในเปลวเพลิงผืนนี้ เมื่อเยื้องกรายลงมาเขาจึงเห็นทันทีว่าอาจารย์ของตนสูญเสียสติสัมปชัญญะทั้งหมดไปแล้ว และกำลังถูกเทียนจุนกดร่างเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ร่างของเขาได้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับ…ตู้หลิงเฟยแล้ว…

ภาพนี้ทำให้ป๋ายฮ่าวคลุ้มคลั่งสุดขีด เสียงคำรามของเขาดังสะท้านฟ้า ไฟยี่สิบสองสีจึงได้รับผลกระทบทันที มันพลันระเบิดแล้วกระแทกโจมตีไปยังผนังหินรอบด้านด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม ทั้งยังหลอมละลายเพดานด้านบนเพื่อพุ่งลงมาอย่างเต็มที่

ตรงดิ่งเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุนจากสี่ทิศ!

มองไกลๆ ทะเลเพลิงที่รายล้อมนี้โหมกระหน่ำดุเดือดอย่างถึงที่สุด มันซัดครืนครั่นเข้ามาพร้อมกับปราณบางอย่างที่ขนาดเทียนจุนก็ยังหน้าเปลี่ยนสี!

การป้องกันจากตบะของเทียนจุนกลับถูกทะเลเพลิงที่พุ่งดิ่งลงมานี้มองเมิน

“นี่มันไฟอะไรกัน!!” เทียนจุนหน้าเปลี่ยนสี ในใจสั่นสะเทือนรุนแรง นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเปลวไฟนี้อยู่เหนือจากการวิเคราะห์ของเขา

และเวลาแค่พริบตาเดียว ทะเลเพลิงผืนนี้ก็ลอดทะลวงการป้องกันของเทียนจุน ข้ามผ่านร่างของตู้หลิงเฟย มาปรากฏตัว…อยู่ข้างกายป๋ายเสี่ยวฉุน!

จากนั้น…ก็กระแทกพลังออกไปข้างนอกอย่างแรง!!

ตูมๆๆ!

พละกำลังมหาศาลเกินบรรยายขุมหนึ่งระเบิดออกมาจากทะเลเพลิงยี่สิบสองสีที่เหนือกว่าขีดจำกัดของโลกใบนี้ ครั้นจึงกลายมาเป็นกำแพงไฟยิ่งใหญ่มโหฬารที่ผลักร่างของเทียนจุนให้กระเด็นออกไปอย่างแรง!

เทียนจุนสีหน้าบูดเบี้ยว ดวงตาฉายความอำมหิตและบ้าคลั่ง

“ป๋ายฮ่าว เจ้ารนหาที่ตาย!!” เทียนจุนคำรามกร้าว แผ่ตบะทั้งร่างออกมา พลังอำนาจของว่าที่เทียนจุนระเบิดออกโดยตรง หมายจะดับทะเลเพลิงผืนนี้ ทว่าอุณหภูมิร้อนสูงที่อยู่ในทะเลเพลิงกลับซัดระอุออกมา ทำเอาเทียนจุนใจหายวาบ ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงวิกฤตความเป็นความตายเสี้ยวหนึ่ง!

“นี่…นี่มันไฟอะไรกันแน่!” เมื่ออยู่ภายใต้เปลวเพลิงนี้ ต่อให้เป็นเทียนจุนเองก็ยังจำต้องถอยหนี และคนที่ถูกผลักออกไปพร้อมกัน…ยังมีตู้หลิงเฟยอีกคน!

ตู้หลิงเฟยหมดสติไปนานแล้ว ยามนี้ถูกป๋ายฮ่าวแยกออกจากป๋ายเสี่ยวฉุน สภาวะผสานรวมจึงถูกตัดขาดไปกลางคัน ร่างของนางถูกผลักออกไปไกลมาก!

และกำแพงไฟนี้ก็ยังคงขยายออกไปไม่หยุดยั้ง เสียงอึกทึกยังคงดังกึกก้อง เป็นเหตุให้เทียนจุนจำต้องถอยห่างออกไปอีกครั้ง ทุกอย่างนี้พูดแล้วยาว แต่ในความเป็นจริงกลับเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น!

หลังจากผลักตู้หลิงเฟยและเทียนจุนออกไป เปลวเพลิงก็มารวมตัวกันอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของกำแพงไฟ เรือนกายของป๋ายฮ่าวจำแลงขึ้นมาในเปลวเพลิง มายืนอยู่เบื้องหน้า…ป๋ายเสี่ยวฉุนที่หมดสติ!

เมื่อการผสานรวมถูกขัดจังหวะกลางคันจึงทำให้เรือนกายของป๋ายเสี่ยวฉุนกลับคืนมาเป็นของตัวเอง และเมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิร้อนสูงจากรอบด้านนี้

ป๋ายเสี่ยวฉุนที่เดิมทีหมดสติจึงรู้สึกตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย

เขาฝืนลืมตาขึ้นมา ในดวงตาที่ขุ่นมัวไร้ประกายสดใสฉายความมึนงง หลังจากมองเห็นเปลวเพลิงและป๋ายฮ่าวอย่างชัดเจน ป๋ายเสี่ยวฉุนก็พึมพำด้วยเสียงอ่อนระโหย

“ฮ่าวเอ๋อร์…”

เสียงเรียกฮ่าวเอ๋อร์นี้ทำให้ป๋ายฮ่าวตัวสั่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจไร้คำบรรยาย พลังชีวิตของป๋ายเสี่ยวฉุนใกล้จะมอดดับเต็มทีแล้ว ดวงตาทั้งคู่จึงปิดลงอีกครั้ง ภาพนี้ทิ่มแทงหัวใจของป๋ายฮ่าวให้เจ็บปวดอย่างถึงที่สุด

“อาจารย์ ทุกอย่างมอบให้ข้าจัดการเอง!” ป๋ายฮ่าวกัดฟันกรอด เขาสัมผัสได้ว่าวิญญาณของตนกำลังสลายหายไปอย่างรวดเร็ว เข้าใจดีว่าไฟยี่สิบสองสีนี้มิอาจดำรงอยู่ได้นานนัก

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือช่วยอาจารย์ออกไป เพราะเขารู้สึกว่าตอนนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนบาดเจ็บสาหัสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…พลังชีวิตของอีกฝ่ายมอดดับไปถึงเก้าส่วนหรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

ที่หลงเหลืออยู่มีเพียงลมหายใจเสี้ยวสุดท้ายเท่านั้น…

หากล่าช้ากว่านี้อีกสักนิด กายและจิตของเขาย่อมมอดม้วย ร่างกายมลายเต๋าสลาย!

ป๋ายฮ่าวรู้ดีว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เขาจึงไม่มัวลังเล พลันแผดเสียงคำรามกร้าว ทันใดนั้นผนังเปลวเพลิงที่อยู่รอบด้านก็หดสวบเข้ามาหากัน อีกทั้งขณะที่หดเข้ามานี้ยังมีพลังนำส่งก่อตัวขึ้นมาด้วย ราวกับว่าจะใช้ไฟยี่สิบสองสีที่เหนือขีดจำกัดของโลกใบนี้ฝืนพาร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนจากไป!

“ป๋ายฮ่าว เจ้ากล้ารึ!!” เมื่อเห็นว่าป๋ายฮ่าวกำลังจะช่วยป๋ายเสี่ยวฉุนออกไปต่อหน้าต่อตาตัวเอง ความรู้สึกโกรธแค้นและความบ้าคลั่งที่เกิดจากการที่ความหวังอยู่เบื้องหน้า แต่กลับถูกคนทำลายทิ้ง ทั้งยังจะช่วงชิงความหวังนั้นไป ทำให้เทียนจุนที่สติวิปลาสจนไม่แยแสลูก ไม่ยี่หระทุกสิ่งระเบิดอารมณ์ออกมาทันที

เขาไม่มีทางยอม ไม่มีทางปล่อยให้ป๋ายฮ่าว…ช่วยป๋ายเสี่ยวฉุนออกไปได้เด็ดขาด!

“กะอีแค่ทะเลเพลิงกระจอกๆ จงสลายให้ข้า!”

ภายใต้แรงโทสะนี้ เทียนจุนจึงบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์แบบ ต่อให้ผนังไฟจะทำให้เขาหวาดหวั่น ทว่าเขากลับยังคงระเบิดพลานุภาพสยบเทียมฟ้าออกมา! ความแข็งแกร่งของพลานุภาพสยบนี้ก่อให้เกิดแรงกดดันมหาศาล เป็นเหตุให้ความว่างเปล่ารอบด้านปริแตก ท้องฟ้าสั่นสะเทือน มหาสมุทรทงเทียนรวมไปถึงแผ่นดินทงเทียนโยกคลอน ราวกับว่าบัดนี้บนร่างของเขามีพลังของโลกทั้งใบมารวมตัวกัน และความเดือดดาลของเขาก็คือความเดือดดาลของโลก!

พลังอำนาจของเขาพวยพุ่งอย่างไม่หยุดยั้ง พริบตาเดียวก็ระเบิดขีดสูงสุดของพลังออกมา มหาสมุทรด้านนอกร้องคำราม เทือกเขาทุกแห่งบนแผ่นดินทงเทียนสะท้านไหว แม้แต่บนท้องฟ้าก็ยังมีรอยปริแตกปรากฏให้เห็น!

ปราณทั้งหมด ตบะทั้งหมด พลานุภาพสยบทั้งหมดล้วนระเบิดออกมาไม่มีเหลือในเสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะยกเท้าขวาขึ้นแล้วเตะไปด้านหน้าอย่างแรง!

เมื่อเท้านี้ร่วงลง ปราณของเขา ตบะของเขา พลานุภาพสยบของเขาคล้ายกลายมาเป็นของจริงที่ก่อตัวกันขึ้นมาเป็นร่างกายธรรมขนาดมหึมาที่พุ่งเข้ากระแทกใส่เปลวเพลิงเบื้องหน้าอย่างแรง!

กายธรรมนี้แผ่แสงห้าสี แฝงเร้นพลังของลมฝนและสายฟ้า ทั้งยังมีปณิธานแห่งโลกรวมตัวกันอยู่ข้างใน เมื่อบุกตะลุยออกไปก็คล้ายดึงเอาพลังของโลกมาใช้กำราบไฟยี่สิบสองสี!

พลังอำนาจเช่นนี้มากพอจะถล่มฟ้าทลายดิน!

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว!

ทะเลเพลิงที่อยู่เหนือขีดจำกัดของโลกเมื่ออยู่ต่อหน้าเขากลับส่ายไหวอย่างรุนแรง

ร่างเปลวเพลิงของป๋ายฮ่าวที่อยู่ด้านในก็สั่นเทิ้ม รู้สึกเหมือนมีมือใหญ่ข้างหนึ่งที่มองไม่เห็นกำลังเงื้อออกมาหมายจะตบให้เปลวเพลิงผืนนี้รวมไปถึงตัวของป๋ายฮ่าวที่อยู่ข้างในดับสลายไปพร้อมๆ กัน!

วิญญาณของป๋ายฮ่าวเผาไหม้อย่างรุนแรง พยายามจะหยัดประคองตัวเองให้อยู่ ทว่าพลานุภาพสยบที่มาจากเทียนจุนนั้นแข็งแกร่งเกินไป เทียนจุนในเวลานี้กำลังเดินเข้ามาทีละก้าว ทุกก้าวของเขาที่เหยียบลงล้วนทำให้ไฟยี่สิบสองสีถอยร่นออกห่าง ราวกับว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ไฟยี่สิบสองสีที่เหนือขีดจำกัดของโลกก็ยังต้องถูกกำราบเช่นเดียวกัน!

“ไม่มีใครขัดขวางไม่ให้ข้าช่วยอาจารย์ได้!”

“นักพรตทงเทียน…เจ้าเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน!!”

เมื่อเทียนจุนเดินเข้ามา เมื่อพลังอำนาจของเขาระเบิดออกอย่างไม่หยุดยั้ง ป๋ายฮ่าวก็แผดเสียงคำรามแหบแห้งด้วยความเศร้าอาลัย ท่ามกลางเสียงคำรามนี้ มือทั้งคู่ของเขากางออก หันไปมองป๋ายเสี่ยวฉุนด้วยสายตาลึกล้ำ ประกายสายตาของเขาหม่นหมอง ทั้งยังอาลัยอาวรณ์ไม่ยากแยกจาก ทว่าพอหันกลับมาดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว ครั้นจึงโบกมือทั้งคู่ออกไปรอบด้านอย่างแรง!!

“มอดไหม้เถิด วิญญาณของข้า ทุกสิ่งทุกอย่างของข้า!!” ป๋ายฮ่าวหัวเราะดังลั่น ก่อนจะเผาวิญญาณของตนที่เหลืออีกสี่ส่วน…ให้ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงในชั่วพริบตา!

ไม่เสียดายค่าตอบแทน ไม่เสียดายสิ่งใด ทุ่มหมดตัวอย่างไม่มีเหลือกักเก็บไว้!!

เมื่อเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ไฟยี่สิบสองสีที่ถูกเทียนจุนกำราบก็เหมือนได้รับเชื้อเพลิงกรอกเทเข้าไป นาทีนั้นมันจึงระเบิดพวยพุ่งอย่างดุเดือดและบ้าคลั่งยิ่งกว่าที่เคยเป็น ทำเอาเทียนจุนที่รวบรวมพลังแห่งโลกขึ้นมาหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรงอีกครั้ง

“ไม่!!” เทียนจุนสีหน้าบิดเบี้ยว ก่อนหน้านี้มองดูเหมือนว่าเขาแข็งแกร่ง ทว่าไฟยี่สิบสองนี้กลับทำให้เขากริ่งเกรงอย่างมาก เขาก็แค่ฝืนกำราบมันไว้เท่านั้น ตอนนี้พอป๋ายฮ่าวเผาไหม้ตัวเอง ทะเลเพลิงจึงพลันระเบิดปะทุ ซึ่งต่อให้เป็นเขาเองก็ยังจำต้องก้าวถอยหลังไปอีกครั้ง

แต่เขาไม่ยอมแพ้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยแสงสีเลือด ท่ามกลางความบ้าคลั่งนี้ เขามองเห็นว่าพลังการนำส่งในทะเลเพลิงเริ่มแผ่กระจายออกไป เสียงร้องคำรามคลั่งแค้นของเทียนจุนก็ดังกระหึ่มจนเหมือนจะได้ยินกันไปทั้งโลก

“กระดูกสวรรค์สี่สาย!” เทียนจุนตะเบ็งเสียงดังสนั่น ครั้นแผ่นดินทงเทียนอันเป็นที่ตั้งของแม่น้ำใหญ่สี่สายก็พากันสั่นสะเทือน ก่อนที่จะมีเงาทับซ้อนพวยพุ่งขึ้นมาจากแผ่นดินใหญ่ของแม่น้ำสี่สาย ปานประหนึ่งดวงวิญญาณของแผ่นดิน!

“ทะเลทองคือเนื้อ!” หน้าผากของเทียนจุนมีเส้นเอ็นปูดโปน ขณะที่ร้องคำรามเสียงแหบเครือ มือทั้งคู่ก็โบกออก ทันใดนั้นน้ำทั้งหมดของมหาสมุทรทงเทียนที่อยู่ข้างนอกก็พากันลอยตัวขึ้นมากลางอากาศ พริบตาเดียวน้ำของมหาสมุทรก็พุ่งเข้ามารวมตัวกัน และหลังจากผสานรวมกับวิญญาณของแผ่นดินสี่ทิศแล้ว วิญญาณของแผ่นดินทั้งสี่ทิศก็กลายมาเป็นกระดูก น้ำมหาสมุทรคือเนื้อที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นมือใหญ่สีทองข้างหนึ่ง!

การปรากฏตัวของมือใหญ่นี้มาพร้อมกับปราณที่ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตบนแผ่นดินทงเทียนตัวสั่นด้วยความหวั่นผวา นี่ก็คือ…มือแห่งโลกที่แท้จริง!!

มือแห่งโลกที่คว้าจับมายังเกาะทงเทียน!

มือใหญ่นั้นพุ่งมาอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงดังอึกทึก เข้ามาแทนที่ท้องนภา

เอื้อมคว้าไปยังเกาะทงเทียน คว้าไปยังทะเลเพลิงที่เกิดจากการเผาไหม้ตัวเองของป๋ายฮ่าวซึ่งด้านในกำลังทำการนำส่ง…อย่างแรง!!

ป๋ายฮ่าวสิ้นหวังแล้ว เขาได้แต่หัวเราะขื่น แม้ไฟยี่สิบสองสีจากการเผาไหม้ดวงวิญญาณของเขาจะยังพอต้านทานมือแห่งโลกนี้ได้…แต่กลับไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ การนำส่งย่อมต้องถูกขัดขวาง และวิญญาณของเขาที่กำลังมอดไหม้ก็…ได้ถูกกำหนดมาแล้วว่าจะไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ยืนหยัดในการนำส่งครั้งต่อไป…

ทว่าเวลานี้เอง…ทางทิศตะวันออกของแผ่นดินทงเทียน หรือจะพูดให้ชัดยิ่งกว่านั้นก็คือในที่ตั้งของสำนักสยบธาร ได้มีเลือดลมเทียมฟ้าขุมหนึ่งที่อาบย้อมให้นภากาศเป็นสีเลือด…

ระเบิด พวยพุ่งขึ้นมา!!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!