Skip to content

A Will Eternal 828

บทที่ 828 ท่านพ่อตาช่วยข้าด้วย

ชั่วขณะที่กงซุนหว่านเอ๋อร์หันไปมองทิศทางที่ป๋ายเสี่ยวฉุนจากไป จุดที่ห่างพื้นที่นั้นไกลนับหมื่นลี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่บนเรือสวรรค์พลันสะดุ้งโหยง หันขวับกลับไปมองข้างหลัง ต่อให้เขาจะมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง แต่ในใจกลับบังเกิดความหนาวเยือกขึ้นมาจนเขาถึงกับตัวสั่น ราวกับว่าบัดนี้เขากำลังมองสบตากับกงซุนหว่านเอ๋อร์ผ่านความว่างเปล่านับหมื่นลี้

“นางไล่ตามมาแล้ว!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนหน้าเปลี่ยนสี ตอนนี้สตรีธุลีแดงยังคงหมดสติ ป๋ายเสี่ยวฉุนลุกลี้ลุกลนรีบหยิบเอาแผ่นหยกส่งข้อความเสียงออกมา ทว่าแผ่นหยกนี้กลับไร้คลื่นเคลื่อนไหวใดๆ

นี่จึงทำให้ป๋ายเสี่ยวฉุนลนลาน ลมหายใจเปลี่ยนมาเป็นหอบถี่

สำหรับกงซุนหว่านเอ๋อร์ผู้นี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนกลัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในหุบเหวกระบี่อุกกาบาต หรือว่าในเขาวงกตใต้ดิน อีกฝ่ายก็ล้วนสร้างเงาดำมืดที่ยิ่งใหญ่ไว้ในใจของเขา

ที่สำคัญที่สุดก็คือตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยังมองไม่ออกว่าเด็กหญิงนั่นมีตบะอะไรกันแน่ ดูเหมือนว่าแรกเริ่มนางจะไม่ได้แข็งแกร่งมากเท่าไหร่นัก แต่ยิ่งกลืนกินวิญญาณผู้คนไปตามระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ระดับความแข็งแกร่งของนางก็เหนือเกินขอบเขตของคำว่าปกติไปแล้ว

นางในเวลานี้กลับทำให้สตรีธุลีแดงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ขนาดตราผนึกอันเป็นท่าไม้ตายก็ยังมิอาจกักตัวนางไว้ได้นานนัก ป๋ายเสี่ยวฉุนสามารถจินตนาการได้เลยว่ายิ่งอีกฝ่ายได้กลืนกินวิญญาณไปมากเท่าไหร่ เกรงว่าระดับความน่ากลัวของนางคงยิ่งน่าตะลึงมากขึ้นเท่านั้น!

“นังหนูนี่มีที่มาอย่างไรกันแน่ แรกเริ่มที่ปรากฏตัวในหุบเหวกระบี่อุกกาบาตก็ดูไม่ต่างอะไรจากวิญญาณร้ายทั่วไปเท่าไหร่นัก นางแค่กินยาของข้าไปเม็ดเดียวเท่านั้น”

ป๋ายเสี่ยวฉุนคิดมาถึงตรงนี้ก็ให้รู้สึกเสียใจจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ยามนี้เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ ไม่หยุด ระเบิดพลังตบะทุกด้าน ทำให้เรือสวรรค์ที่ดังสะเทือนเลือนลั่นทะยานเผ่นหนีไปด้วยความเร็วที่มากขึ้นกว่าเดิม

แต่ไม่นานเขาก็สูดลมเย็นๆ เข้าปากดังเฮือก เพราะรู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงหัวเราะจากข้างหลังดังแว่วมาที่ข้างหู แรกเริ่มเสียงหัวเราะนี้ยังดังมาจากจุดที่ไกลมากๆ ทว่าไม่นานก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้

ป๋ายเสี่ยวฉุนใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ตอนที่หันกลับไปมองอีกครั้งก็เห็นทันทีว่าบนท้องฟ้าที่ห่างไปไกลมีควันสีดำกลุ่มหนึ่งกำลังกลิ้งหลุนๆ เข้ามาใกล้ และส่วนหัวของควันดำนี้ก็ได้ล้อมวนเกาะตัวเป็นใบหน้าหนึ่ง ใบหน้านั้น…

ก็คือหน้าตาของป๋ายเสี่ยวฉุนเอง

เพียงแต่ว่าหน้าตาของเขาในเวลานี้แปลกพิกล ทั้งยังดูดุร้ายมาก ใบหน้านั้นพุ่งมาเหมือนผีร้ายตัวหนึ่งที่กำลังทะยานเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

“พี่ชายน้อย ที่แท้เจ้าก็มาซ่อนตัวอยู่ที่นี่นี่เอง” น้ำเสียงแปร่งหูคลอด้วยเสียงหัวเราะชวนขนลุกที่เดี๋ยวๆ ก็ดังอยู่ไกล เดี๋ยวๆ ก็ขยับเข้ามาใกล้พลันดังก้องขึ้นมาในชั่วขณะที่ป๋ายเสี่ยวฉุนหันไปมอง

“ข้าไม่ใช่พี่ชายน้อยของเจ้า คือว่า…เจ้าจำผิดคนแล้วล่ะนะ” ป๋ายเสี่ยวฉุนละล่ำละลักตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาน้อยๆ ต่อให้ตอนนี้เขาจะมีพลังการต่อสู้ที่สามารถกำราบคนฟ้าช่วงต้นได้ แต่ลางสังหรณ์บอกกับเขาว่าเมื่อเผชิญหน้ากับกงซุนหว่านเอ๋อร์จอมพิลึกพิลั่นผิดธรรมชาติผู้นี้ ตนไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้เลย

“จะจำผิดคนได้อย่างไร พี่ชายน้อย ข้าตามหาเจ้าลำบากมาเลยนะ แถมเจ้ายังทำหมีน้อยของข้าแตกแล้วด้วย เจ้าต้องชดใช้ให้ข้า” ในใบหน้าที่รวมขึ้นมาจากควันดำมีเสียงหัวเราะคิกคักดังลอยมา ใบหน้านั้นเพิ่มความเร็วอีกครั้ง พริบตาเดียวก็ห่างจากเรือสวรรค์ไม่ถึงร้อยจั้ง!

ระยะทางที่ใกล้ขนาดนี้ทำให้ป๋ายเสี่ยวฉุนตกใจจนเกือบจะสะดุ้งโหยง ขวัญเขาบินหนีกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็รู้สึกชาไปทั้งหนังหัวเหมือนขนหัวจะลุกชันขึ้นมา ทั้งร่างยังสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง

“เจ้าจำผิดแล้วจริงๆ นะ อ๋า ใช่แล้ว ตรงไปตามทิศทางนี้ก็จะไปถึงนครจักรพรรดิขุยแล้วล่ะ ที่นั่นมีคนหนึ่งชื่อเฉินฮ่าวซง ข้าว่าคนที่เจ้าตามหาน่าจะเป็นเขามากกว่า…ยังมีอีกคนหนึ่งชื่อ จ้าวสงหลิน ร่างกายใหญ่โตบึกบึน แค่มองก็รู้แล้วว่าเหมาะสมให้เอามาทำเป็นหมีน้อยของเจ้า เจ้ารีบไปเถอะ เขาต้องยังอยู่แน่นอน”

ป๋ายเสี่ยวฉุนพูดจาปนกันมั่วซั่วไปหมด แถมยังรีบยกนิ้วที่สั่นระริกชี้ไปยังจุดที่ห่างไกล

กงซุนหว่านเอ๋อร์หัวเราะคิกขึ้นมาทันใด เพียงแต่ว่าเสียงหัวเราะนี้เต็มไปด้วยความอึมครึมน่าสะพรึงกลัว ชั่วขณะที่สมองของป๋ายเสี่ยวฉุนเกิดคลื่นลูกใหญ่ถาโถม ใบหน้านั้นก็พลันอ้าปากกว้าง ระเบิดความเร็ว ควันดำก็ยิ่งขยายใหญ่ ทำให้ใบหน้ายิ่งใหญ่โตอย่างไร้ที่สิ้นสุด พริบตาเดียวก็มีขนาดหลายพันจั้ง เมื่อขยับเข้ามาใกล้ ปากที่อ้ากว้างก็ใหญ่พอๆ กับระดับที่สามารถกลืนกินภูเขาใหญ่ได้ลูกหนึ่ง ซึ่งตอนนี้มันกำลังจะเขมือบกลืนเรือสวรรค์!

ป๋ายเสี่ยวฉุนกรีดร้องเสียงแหลม พอเห็นใบหน้าของตัวเองแสยะปากอ้ากว้างจนเหมือนจะแทนที่ฟ้าดิน ทั้งยังตรงเข้ามากลืนกินเรือสวรรค์ เขาก็รีบถอยกรูดหนีห่าง มือเอื้อมคว้าสตรีธุลีแดงที่ยังหมดสติเอาไว้แล้วกระโจนพรวดออกไปในชั่วขณะที่เรือสวรรค์ถูกเขมือบ

มองไกลๆ เมื่อเทียบกับใบหน้ามหึมานี้แล้ว เรือสวรรค์ก็เหมือนหดเล็กลงกลายมาเป็นขนมชิ้นเล็กๆ พอดีคำที่ถูกใบหน้านั้นขม้ำกลืนเข้าไปในปาก เสียงเคี้ยวแจ่บๆๆ ที่ดังมาจากในปากใหญ่หมายความว่าเรือสวรรค์ได้…ถูกกัดกินจนแหลกละเอียดไปแล้ว!

ส่วนป๋ายเสี่ยวฉุนเวลานี้ที่กำลังโอบร่างของสตรีธุลีแดงเอาไว้ก็กำลังเผ่นกระเจิง โกยแน่บสุดชีวิต

“พี่ชายน้อย ทำไมเจ้าชอบเกเร เอาแต่จะเล่นซ่อนหาแบบนี้อยู่เรื่อยเลย…”

กงซุนหว่านเอ๋อร์ปิดปากหัวเราะ พอเสียงหัวเราะนั้นดังเข้าหูป๋ายเสี่ยวฉุนก็ทำให้เขาขนลุกเยือกไปทั้งร่าง ขณะที่จะเพิ่มความเร็วหนีไป ใบหน้าขนาดใหญ่ยักษ์ด้านหลังที่พอกลืนเรือสวรรค์ไปแล้วกลับขยายใหญ่อีกครั้ง คราวนี้ใหญ่เป็นหมื่นจั้ง!!

หมื่นจั้ง พูดแล้วเหมือนธรรมดา แต่ภาพที่ปรากฏในความเป็นจริงกลับสะท้านฟ้าสะเทือนดิน มองไปก็เหมือนใบหน้านี้ได้เข้ามาแทนที่โลกทั้งใบ ปกคลุมทุกสิ่งอย่าง ยามนี้ใบหน้ากำลังอ้าปากใหญ่มโหฬารชวนผวา และเตรียมจะเขมือบกินป๋ายเสี่ยวฉุนอีกครั้ง

อีกทั้งตอนที่อ้าปากก็ยังมีแรงดึงดูดน่าตะลึงแผ่ออกมาจากข้างใน ทำให้ความว่างเปล่ารอบด้านหรือแม้แต่เทือกเขาที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็สั่นสะเทือนเหมือนจะถูกมันดูดให้หายสวบเข้าไปในปากนั้น!

ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ชะงักกึกเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะเพิ่มความเร็วอย่างไรก็ไม่สามารถหนีไปพ้นแรงดึงดูดจากปากใหญ่ของใบหน้านับหมื่นจั้งที่พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วได้

ป๋ายเสี่ยวฉุนอยากจะร้องไห้โฮดังๆ จริงๆ ยิ่งใบหน้านั้นเป็นใบหน้าของตน การมองเห็นเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองจะโดนตัวเองกิน นี่ทำให้เขาอกสั่นขวัญผวาอย่างรุนแรง

“รังแกกันเกินไปแล้วนะ!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนที่เห็นว่ามิอาจหนีไปได้อีก ดวงตาของเขาก็พลันแดงก่ำ อุ้มสตรีธุลีแดงที่หมดสติหันขวับกลับมาพร้อมตะโกนดังลั่น อีกฝ่ายบีบเขาจนถึงขีดสุดความอดทนแล้วจริงๆ วิกฤตความเป็นความตายที่รุนแรงเช่นนี้ทำให้ป๋ายเสี่ยวฉุนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าจะมามัวหวังให้โชคช่วยหรือมัวลังเลอะไรอีกไม่ได้ หากไม่สู้สุดชีวิต ชีวิตน้อยๆ ของตนก็จะถูกกำเล่นอยู่ในมือของคนอื่น

“กงซุนหว่านเอ๋อร์ เจ้านึกว่านายท่านป๋ายกลัวเจ้าจริงๆ หรือไง!!”

ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามดังลั่น แม้ร่างกายจะสั่นเทาน้อยๆ แต่ปณิธานแห่งเลือดเหล็กแกร่งกล้ากลับระเบิดออกมาจากร่างของเขา ขอบเขตกระดูกกำลังของกระดูกคงกระพันทำให้กระดูกทั้งร่างของเขาแข็งแกร่งทนทานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ขณะเดียวกันพลังกล้ามเนื้อของเขาก็กำลังโคจรอย่างบ้าคลั่ง ตบะของก่อกำเนิดช่วงท้ายของป๋ายเสี่ยวฉุน บัดนี้ก็ทำให้ดาวและเดือนดับแสง ฟ้าดินซีดเซียว ก้อนเมฆย้ายตำแหน่ง ลมกระหน่ำพัดหอบเอาทรายและหินให้ปลิวว่อนอยู่ในอากาศ แม้จะไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นคนฟ้า ทว่าบัดนี้พลังอำนาจของเขากำลังรบกวนปณิธานของนภากาศในแถบนี้!

ขณะเดียวกันมือขวาของเขาก็กำเป็นหมัด ทันใดนั้นน้ำวนสีดำลูกหนึ่งก็ปรากฏอยู่นอกหมัดของเขา หลังจากที่ดูดซับปราณทั้งหมดบนร่างของเขาไป เงาจักรพรรดิด้านหลังของป๋ายเสี่ยวฉุนก็เยื้องกรายลงมาอีกครั้ง

เสียงตูมๆๆๆ ดังสนั่นหวั่นไหว เงาร่างนี้คล้ายจะค้ำยันฟ้าดินแดน วินาทีที่ปรากฏตัวก็ระเบิดเจตจำนงที่คล้ายคลึงกับคนฟ้า ผสานรวมเข้าไปในนภากาศ เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์แห่งฟ้าดิน ทุกอย่างนี้พูดแล้วยาว ทว่าในความเป็นจริงแล้วล้วนเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีที่ป๋ายเสี่ยวฉุนหมุนตัวกลับ

ป๋ายเสี่ยวฉุนที่พอแผดเสียงคำรามก็บินพรวดเข้าไปหาใบหน้าหมื่นจั้งที่ขยับเข้ามาใกล้อย่างไร้ซึ่งความลังเลใด ก่อนที่มือขวาซึ่งกำเป็นหมัดจะยกขึ้นแล้วเหวี่ยงหมัด…ที่เขย่าคลอนฟ้าดิน พลิกภูเขาตลบมหาสมุทรออกไป!!

หมัดจักรพรรดิไม่ดับสูญ!!

พลังกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!!

ชั่วขณะที่หมัดนั้นเหวี่ยงไปข้างหน้า เงาจักรพรรดิด้านหลังเขาก็เหวี่ยงหมัดออกไปเช่นกัน ความเผด็จการที่สั่นคลอนท้องฟ้าทำให้พลังของหมัดนี้มากมหาศาลจนร่างของจักรพรรดิพร่าเลือน ราวกับว่าทุกอย่างล้วนผสานรวมอยู่ในหมัดนั้น ผสานรวมอยู่ที่ป๋ายเสี่ยวฉุนซึ่งตะบันต่อยไปที่ใบหน้าหมื่นจั้งนั้นอย่างเหี้ยมหาญ

เสียงดังกัมปนาทราวแก้วหูจะดับกึกก้องไปแปดทิศ พายุก่อตัวจากพื้นดินแล้วหมุนคว้างครืนๆๆ ไปทั่วสี่ทิศ รอบด้านยุบยวบพังถล่มและแผ่ลามออกไปอย่างต่อเนื่องเหมือนมีมังกรพลิกตัวอยู่บนแผ่นดิน

เลือดสดพุ่งเป็นสายออกมาจากปากของป๋ายเสี่ยวฉุน ร่างถอยร่นไปไกลหลายร้อยจั้ง ทว่าเขากลับไม่มัวลีลา ขณะที่ถอยก็อาศัยแรงผลักนี้ห้อตะบึงเผ่นหนีต่อไป

ส่วนใบหน้าหมื่นจั้งนั้นก็เกิดเป็นรอยปริร้าว เมื่อเจอกับหมัดที่ออกแรงเต็มพลังซึ่งมาพร้อมกับความบ้าคลั่งของป๋ายเสี่ยวฉุน ใบหน้านั้นก็ระเบิดโพล๊ะ แล้วแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ …

เมื่อมันพังทลาย เศษซากของใบหน้านั้นก็กลายมาเป็นควันดำที่พอรวมตัวเข้าด้วยกันก็เผยให้เห็นเป็น…ใบหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุนที่กงซุนหว่านเอ๋อร์ปลอมตัวมาอีกครั้ง!

ดวงตาของนางเผยประกายดำมืด มุมปากยกยิ้มแปลกแปร่ง

“ข้าดมกลิ่นไม่ผิดจริงๆ บนร่างของเจ้า…มีร่องรอยของตัวหมากที่ตาแก่นั่นทิ้งไว้จริงๆ ด้วย…” กงซุนหว่านเอ๋อร์หัวเราะและทำท่าจะไล่ตามไป

ขณะเดียวกันป๋ายเสี่ยวฉุนที่หน้าซีดขาวก็ร้อนใจราวกับมีไฟลน

ทว่าเวลานี้เอง…ทันใดนั้นกงซุนหว่านเอ๋อร์กลับนิ่วหน้า เงยหน้ามองทิศไกล และไม่นานนางก็เห็นว่าบนท้องฟ้าที่ห่างไปไกลมีเงาร่างหนึ่งซึ่งคล้ายจะแหวกอากาศมาพร้อมกับเสียงคำรามเดือดดาลสะท้านฟ้า

“ใครกล้าทำลายธิดาที่รักและลูกเขยคนดีของราชาอย่างข้า!!”

คนผู้นั้นก็คือราชาผียักษ์!

ป๋ายเสี่ยวฉุนได้ยินประโยคนี้ก็เบิกตากว้างทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความตื่นเต้นเลยอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไปเสียงดัง

“ท่านพ่อตาช่วยข้าด้วย!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!