Skip to content

A World Worth Protecting 133

บทที่ 133 อ่อนไหวง่ายนัก

ในห้วงอารมณ์นั้น หวังเป่าเล่อวางกระบี่หยกควบแน่นลง ก่อนเริ่มหลอม        วัตถุเวทสมบูรณ์แบบอันที่สองต่อ โดยระหว่างการหลอมนั้น เขาไม่ได้หยุดฝึก        วิชาเมฆาศักดิ์สิทธิ์ไปเสียเลย ชายหนุ่มยังคงนั่งสมาธิและฝึกฝนอยู่ทุกวัน ทำให้เขาสามารถหลอมปราณวิญญาณ และพักผ่อนไปพร้อมกันได้

ทุกการโคจรวิญญาณจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทำให้รู้สึกว่ากระแสวิญญาณในร่างกายแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาเขาหลอมศิลาวิญญาณมาใช้งาน เมื่อเมล็ดแห่งการดูดกลืนปั่นป่วน ทำให้การซึมซับปราณวิญญาณนั้นรวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หมอกรอบตัวชายหนุ่มผสานเข้ากับเส้นปราณวิญญาณได้รับการใช้งานเต็มร้อย ทำให้ความเร็วในการฝึกตนของชายผู้นี้ก้าวหน้ากว่าคนอื่นๆ

หวังเป่าเล่อทราบว่าไม่ควรละเลยการฝึกตนและการหลอมวัตถุเวท เพราะในตำราวิชาแปรสภาพอาวุธไร้ขอบเขตนั้นระบุว่า ระดับการหลอมวัตถุเวทที่มากขึ้น    จะช่วยให้การฝึกตนของผู้นั้นเพิ่มตามไปด้วย

นอกจากนี้ สหพันธรัฐมีการแยกรายการวัตถุเวทไว้ถึงเก้าระดับ โดยสองระดับแรก รู้จักกันในนามของวัตถุเวท และระดับสามคือสมบัติเวท ส่วนอาวุธเวทนั้นอยู่ใน   ระดับเจ็ด แต่หากเหนือกว่าระดับเก้าไป จะเป็นอาวุธเทพนั่นเอง!

ซึ่งเป็นความต้องการอย่างมากสำหรับการฝึกตนของเหล่านักหลอมอาวุธเวท!

เมื่อชายหนุ่มคิดถึงวิชาแปรสภาพอาวุธไร้ขอบเขต จู่ๆ ข้อความจากบทเกริ่นนำก็ผุดขึ้นมาในหัว

“สำหรับนักหลอมอาวุธเวทแล้ว มักจะเห็นทุกสิ่งเป็นศิลาวิญญาณ อักขราจารึกได้รับการสลักไว้ไม่รู้จบ กลั่นออกมาเป็น…แก่นวิญญาณขั้นสุดยอด!

“ใช้กฎเกณฑ์เป็นวัตถุดิบในการหลอม และใช้พลังจักรวาลเป็นเตาหลอม        เพื่อหลอมอาวุธเทพระดับทลายเทพสวรรค์ชั้นฟ้าให้จงได้!”

หวังเป่าเล่อตัวสั่นระริกเมื่อคิดถึงคำเหล่านี้ พลางสงสัยว่าเมื่อไหร่จะถึงจุดที่ตนเองสามารถหลอมวัตถุอะไรก็ได้บนโลกใบนี้ได้บ้าง

เมื่อนั้นข้าจะหลอมอาวุธเทพและขึ้นเป็นผู้นำสหพันธรัฐ! แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจทำสำเร็จได้ในวันเดียว ใครจะกล้าเถียงว่า ‘ไม่ใช่’ กันเล่า ชายร่างอ้วนรู้สึกมุ่งหวัง ขณะกำลังคิด

วันเวลาผ่านไปด้วยความรู้สึกคาดหวัง วัตถุเวทระดับหนึ่งอันสมบูรณ์แบบที่เขาหลอมเพิ่มจำนวนมากขึ้น หวังเป่าเล่อเก็บตัวอย่างสันโดษอยู่สองอาทิตย์ มุ่งมั่นหลอมวัตถุเวทระดับหนึ่งอันสมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกครั้งที่หลอมสำเร็จ จะทำให้เขาเข้าใกล้การเป็นศิษย์เอกอาวุธเวทมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับศิษย์ทั่วไปที่เพิ่งเข้าสู่เกาะมหาปราชญ์ชั้นสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับชายผู้นี้กลับคิดว่ามันเป็นเรื่องของเวลา สองอาทิตย์ต่อมา ศิษย์ทั่วไปชุดที่สองก็เดินทางมายังเกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงในที่สุด

กลุ่มนี้ประกอบด้วยบรรดาศิษย์รุ่นพี่ที่ไม่ได้เข้าไปเก็บเกี่ยวรากฐานวิญญาณในหมู่บ้านลมปราณวิญญาณ และบางคนที่ไม่บรรลุปราณตอนที่เข้าไปยังหมู่บ้านแห่งนั้น ทุกคนต่างผ่านมาจากการสอบมิติเวทภายในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ก่อนได้รับอนุมัติให้เข้ามาสู่เกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงแห่งนี้

การมาถึงของพวกเขาทำให้เกาะแห่งนี้ครึกครื้นขึ้น ขณะเดียวกัน เรือบินจากตำหนักอาวุธเวทซึ่งเป็นของขวัญแด่หวังเป่าเล่อ ในฐานะเป็นยอดฝีมือระดับลมหายใจเที่ยงแท้รากฐานวิญญาณแปดนิ้วก็สร้างเสร็จพอดี ผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินคนหนึ่งจาก     ฝ่ายปกครองตำหนักถึงกับเข้ามาส่งมอบให้กับชายหนุ่มเป็นการส่วนตัว

ผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินคนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ติดตามข่าวการต่อสู้ระหว่างหวังเป่าเล่อและหลินเทียนหาว ทำให้รู้ว่าหวังเป่าเล่อนั้นไม่ธรรมดา และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงในเกาะมหาปราชญ์ชั้นรองซึ่งเกี่ยวข้องกับชายผู้นี้            จนอยากจะเป็นเพื่อนด้วยอย่างมาก

หวังเป่าเล่อชอบสร้างมิตรภาพใหม่ๆ เช่นกัน และไม่หงุดหงิดจากการถูกรบกวนโดยผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินที่เข้ามาหา แม้ว่าตอนนั้นจะกำลังหลอมวัตถุเวทอยู่ก็ตาม     หนำซ้ำยังต้อนรับอย่างดี ทั้งทักทายและส่งชายผู้นั้นกลับ จากนั้นชายร่างอ้วนจึงมองเรือบินลำเล็กซึ่งจอดอยู่ด้านนอกถ้ำที่พักของตนด้วยความตื่นตาตื่นใจ

มันคือเรือบินจริงๆ ชายหนุ่มเดินออกมาดูเรือบินสีเขียวไร้ปีกใกล้ๆ ขนาดมัน     ไม่ใหญ่มาก กว้างประมาณสิบเมตร รูปทรงยาวรีและมีรอยเว้าตรงกลาง ราวกับมีพลังลึกลับไหลเวียนอยู่ภายในนี้

เนื่องจากมีเกราะป้องกัน ทำให้แสนสะดวกสบาย ไม่ว่าผู้ใช้งานจะยืนหรือ        นั่งระหว่างการเดินทางระยะสั้น หากเดินทางระยะไกล ยังสามารถนอนเอนได้อีกด้วย ประเภทการบินมีหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่รูปแบบอัตโนมัติ ซึ่งปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทางได้ ไปจนถึงรูปแบบบังคับด้วยตนเอง หากพลังวิญญาณรวมกับร่างกายอย่างสมบูรณ์แล้ว

น่าเสียดายที่ไม่มีรูปแบบการสู้รบ แต่ถึงกระนั้นข้ายังผสานวัตถุเวทกับเรือบินได้ เพียงเท่านี้ ก็พร้อมสู้แล้ว! หวังเป่าเล่อเดินวนรอบเรือบิน ยิ่งพินิจดู ยิ่งรู้สึกถูกใจ    อาจเพราะเป็นเรือบินส่วนตัวลำแรกของเขา อีกทั้งชายหนุ่มไม่มีปัญหาในการ    ควบคุมนัก เนื่องจากมันคือ วัตถุเวทชนิดหนึ่งนั่นเอง

เมื่อมองดูอย่างรวดเร็ว ชายร่างอ้วนจึงเข้าไปนั่งด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะปลดปล่อยพลังวิญญาณจากร่างกายทันที และผสานกับเรือบิน ทำให้มันสั่นเบาๆ ก่อนลอยขึ้นในอากาศช้าๆ

เขารู้สึกสนุกเพลิดเพลิน ขณะควบคุมพลังวิญญาณด้วยจิตใจ แล้วเรือบินจึงเริ่มเพิ่มความเร็วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

หวังเป่าเล่อร้องอย่างมีความสุข ก่อนจะแล่นเรือบินทั่วนภาเหนือเกาะ           มหาปราชญ์ชั้นสูง แม้ในช่วงแรกจะไม่คุ้นชินนัก แต่ทักษะนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางท้องนภานั้น มีศิษย์เอกจากตำหนักอื่นๆ กำลังแล่นเรือบินอยู่เช่นกัน หลังจากตระเวนสักพัก ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนตะโกนร้อง ขณะลมพัดโกรกผม

นี่คือสิ่งที่ผู้ฝึกตนควรมี การย่างก้าวสู่ท้องนภาเพื่อท่องสำรวจดินแดนระหว่างสวรรค์และพื้นโลก! หวังเป่าเล่อหัวเราะลั่น ก่อนนึกถึงวิชาเมฆาศักดิ์สิทธิ์ที่เคยเขียนไว้ว่ายอดฝีมือระดับลมหายใจเที่ยงแท้ขั้นที่ห้า จะสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ขณะยืนอยู่บนกระบี่

เมื่อถึงตอนนั้น แม้จะยังคงเดินทางไกลโดยใช้เรือบินเป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อให้มีอันตรายเกิดขึ้นระหว่างทาง ผู้ฝึกตนก็สามารถขี่กระบี่หลบหนีและต่อกรกับศัตรูได้

ข้าต้องรีบเร่งเพิ่มระดับไปสู่จุดสุดยอดของลมหายใจเที่ยงแท้ให้ได้! หวังเป่าเล่อเริงร่า และบังคับเรือบินตัวเอง พลางตื่นเต้นสุดขีดเมื่อคิดถึงอนาคตของตน ก่อนเร่งความเร็วเรือบินขึ้นอีก

เนื่องด้วยเกราะป้องกันซึ่งช่วยบังลม ทำให้ชายหนุ่มไม่รู้สึกถึงแรงลมปะทะเข้าใบหน้า นอกจากนี้ ตัวเรือบินยังออกแบบเพื่อลดแรงต้านลมอีกด้วย ท่ามกลางความสนุกสนานนั้น เขาหัวเราะขณะแล่นเรือบินผ่าก้อนเมฆขึ้นไปในชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้น

ในบริเวณนี้ ไม่มีเรือบินลำอื่นปรากฏให้เห็นเลยสักลำ

ในสายตาของชายหนุ่ม ทุกอย่างข้างล่างหดเล็กไปหมด เมื่อมองออกไป ชั้นเมฆรอบข้างเสมือนเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่และไม่สิ้นสุด พอแหงนหน้าขึ้น ก็พบกับ      ดวงอาทิตย์สุกสว่างและร้อนแรงอยู่ตรงขอบฟ้า กับกระบี่สำริดเขียวโบราณอัน      โดดเด่น

โห ดวงอาทิตย์ปักกระบี่นั่น แค่ดวงอาทิตย์ก็ใหญ่กว่าโลกหลายเท่านัก เพราะฉะนั้นเจ้ากระบี่สำริดโบราณก็คงมีขนาดมหึมายิ่งกว่าโลกใบนี้หลายเท่าเช่นกันเป็นแน่

ตัวกระบี่อันมโหฬารนั้นราวกับเป็นดินแดนหรือโลกอีกใบอันยิ่งใหญ่!

หลังจากบรรลุปราณระดับลมหายใจเที่ยงแท้ ชายหนุ่มเริ่มคุ้นเคยและเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนสมัยอยู่ในระดับการฝึกตนโบราณผ่านทางเครือข่ายวิญญาณ

ตัวอย่างเช่น การลงจอดบนกระบี่สำริดปักดวงอาทิตย์คือสิ่งที่กองกำลังทั้งหมดภายในสหพันธรัฐต่างพยายามจะทำให้สำเร็จ ช่วงสามสิบปีก่อน ตระกูลนภาห้าสมัยเป็นคนกลุ่มแรกที่สามารถลงจอดบนนั้นได้ โดยใช้กรรมวิธีลับเฉพาะบางอย่าง จนเป็นการสืบทอดต่อๆ กัน ราวกับเป็นมรดกรูปแบบหนึ่ง

น่าเสียดายที่รายละเอียดต่างๆ ถูกปิดเป็นความลับ ซึ่งคนภายนอกไม่อาจล่วงรู้

ยังมีดวงจันทร์อีกนี่นา…หวังเป่าเล่อเปลี่ยนความคิด ขณะนั้นเป็นช่วงเย็น ทำให้ดวงจันทร์ปรากฏให้เห็นบนท้องนภาคู่กับดวงอาทิตย์ ตั้งแต่โบราณกาลนั้น มีตำนานและเรื่องเล่าลึกลับมากมายเกี่ยวกับดวงจันทร์

บางอย่างมีการพิสูจน์แล้ว แต่มีหลายเรื่องราวที่แม้แต่สหพันธรัฐปัจจุบันยังไม่อาจหาหลักฐานมายืนยันได้ ทั้งยังเป็นที่รู้กันว่ามีชิ้นส่วนจากกระบี่สำริดเขียวโบราณแตกหัก กระเด็นไปหล่นลงบนดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน

ดวงจันทร์เป็นอาณานิคมขุมทรัพย์ภายใต้การดูแลของสหพันธรัฐมาเป็นเวลานาน!

มีบางคนในเครือข่ายวิญญาณเคยบอกว่าสำหรับผู้บรรลุระดับลมหายใจเที่ยงแท้แล้ว โอกาสการก้าวหน้าขึ้นสู่ระดับต่อไป อยู่บนดวงจันทร์นั่นเอง!

ดวงตาของหวังเป่าเล่อฉายประกายความหวัง แต่ทันใดนั้นกลับต้องเบิกตากว้าง เมื่อสังเกตเห็นจุดสีดำบนดวงจันทร์เข้า

จุดสีดำนั้นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ราวกับพุ่งตรงเข้ามาทางเขา

“นั่นมันอะไรน่ะ” ชายอ้วนผงะ ก่อนพยายามควบคุมเรือบินให้ลงจอดทันที จังหวะกำลังแล่นไปยังตำหนักอาวุธเวท ชายหนุ่มหันหลังไปเห็นกลุ่มก้อนเมฆด้านหลัง เผยวัตถุขนาดใหญ่บางอย่างใต้ทะเลแห่งเมฆานั่น

คลื่นจากก้อนเมฆพัดกระจายไปรอบๆ จนเกิดเสียงดังสนั่น จากนั้นร่างยักษ์ขนสีดำ และกว้างประมาณหกสิบเมตร ก็ปรากฏตัวออกมาจากก้อนเมฆ มันแยกเขี้ยวก่อนพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อ

อสูรตนนี้คือ วานรมีปีกร่างยักษ์ แรงกดดันของมันทรงพลังยิ่งกว่าระดับ          ลมหายใจเที่ยงแท้ ชายหนุ่มหายใจติดขัด เพียงแค่เห็นมันแวบๆ หัวใจนั้นสั่นระรัว และรู้ตัวว่าไม่อาจต้านทานพลังไหว

นอกจากพลังมหาศาลแล้ว อสูรวานรยังดูดุร้าย และรวดเร็วยิ่งกว่าตัวเขามาก สายตานั้นจับจ้องมาอย่างน่ากลัว หนำซ้ำเมื่อมันกระพือปีก ความเร็วกลับยิ่งเพิ่มทวี และแล้วมันก็เข้ามาใกล้ ก่อนตบเรือบินลำนั้นอย่างแรงด้วยมือขวา

เมื่อเทียบขนาดตัวมหึมาของมันแล้ว เรือบินของหวังเป่าเล่อราวกับเป็นเพียงของเล่น ชายอ้วนซึ่งยังอยู่ในเรือบินรู้สึกหวาดกลัวจับใจจนหลบไม่ทัน วานรฟาดมือใส่เรือบินจนกระเด็นไปอย่างเสียศูนย์ ก่อนตกกระแทกอย่างแรงบนพื้นของตำหนักอาวุธเวทพร้อมเสียงดังลั่น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย มีอสูรอยู่บนเกาะมหาปราชญ์ชั้นสูง และไม่มีใครควบคุมมันเลยหรือ”

หวังเป่าเล่อสั่นเทิ้มและโหยหวนทันที แต่เจ้าวานรยังหยิบเรือบินขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว พลางแยกเขี้ยว มันดูเพลิดเพลินเมื่อฟาดมือใส่เรือบินจนพลิกคว่ำไปมา เสียงดังสนั่น

ชายอ้วนตกใจ ตัวแข็งทื่ออยู่ในนั้น เสียงร้องนั้นน่าสงสารมากขึ้น ตอนนี้อาการมึนหัวรุนแรงกว่าเก่า ด้วยความเร็วเหลือเชื่อซึ่งไร้ทิศทางการควบคุม ทำเอาหัวใจของเขาแทบกระโดดออกมาจากอก

“บ้าบอสิ้นดี! ข้าไม่ได้ไปแหย่อะไรมันเลยด้วยซ้ำ!”

ท่ามกลางความสิ้นหวังและความโกรธเคืองของชายหนุ่ม เจ้าวานรกระโจนขึ้นกลางอากาศอีกครั้งก่อนเข้ามาใกล้เรือบินและฟาดมันอย่างแรง เมื่อเห็นว่าเรือบินตกกระแทกอีกครั้ง มันทุบอกตัวเองอย่างตื่นเต้น และคำรามร้องอย่างมีความสุข

เจ้าวานรยังคงกระโดดไปรอบๆ และโยนเรือบินราวกับเป็นของเล่น ดูเหมือนมันจะควบคุมพละกำลังได้เป็นอย่างดี เพราะเรือบินนั้นไม่ได้เสียหายมากกว่าเดิม

ถึงอย่างนั้น หวังเป่าเล่อยังทุกข์ทรมานอยู่ภายใน เสียงร้องอันปวดร้าวดังอย่างไม่รู้จบ ทั้งมึนงงสับสน ราวกับโลกนั้นถูกซัดเหวี่ยงไปทุกทิศทาง

ผู้คนในเกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงหลายคนเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่แปลกใจกันนัก พวกเขาเพียงส่ายหน้าขณะครุ่นคิด

“เรือบินนั่นเป็นของใครกัน คงเป็นของเด็กใหม่ล่ะสิท่า…”

“มีแต่พวกมือใหม่เท่านั้นที่กล้าบินฝ่าก้อนเมฆขึ้นไปยังอาณาเขตของพวกวานรเพชร พวกมันน่ะ โจมตีทุกคนที่พบเห็นนั่นแหละ”

หลังจากจับโยนขึ้นท้องฟ้า และตกกระแทกมากกว่าสิบครั้ง เจ้าวานรเริ่มเบื่อ และไม่สนใจเรือบินบนพื้นของตำหนักอาวุธเวทอีกต่อไป โชคดีที่เรือบินนี้แข็งแรง    แม้สภาพจะเสียหายอย่างหนักจนมีควันเขียวออกมาเป็นคลื่น แต่ชายอ้วนในนั้นกลับไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก หลังจากจอดนิ่ง หวังเป่าเล่อค่อยๆ ตะกายตัวออกมาด้วยความรู้สึกเวียนหัว ก่อนจะอาเจียนเต็มพื้นทันทีเมื่อออกมาสำเร็จ

ร่างของเขาสั่นเทิ้ม ก่อนยกศีรษะขึ้นอย่างอ่อนแรง จ้องวานรซึ่งอยู่บนท้องฟ้าอย่างโกรธแค้น ชายหนุ่มชี้นิ้วก่อนจะเริ่มร่ายคำด่า แต่ศิษย์เอกท่าทางใจดีคนหนึ่งใกล้ๆ นั้น รีบเข้ามาห้ามด้วยสีหน้าซีดเซียวตกใจ

“ศิษย์น้อง เงียบก่อน! อย่าไปดุด่ามันเลย เจ้านั่นน่ะอ่อนไหวง่ายนัก หากโดนต่อว่า มันจะเผยด้านชั่วร้ายสุดๆ ออกมา ซึ่งน่ากลัวเอาการเลยทีเดียว!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!