บทที่ 1332 ร่างแห่งปรารถนา
ยามค่ำวันนั้น ในร้านของหวังเป่าเล่อบรรยากาศเคร่งเครียด
ผู้จัดการร้านหญิงเจ้าเสน่ห์กับพวกคนแคระจดจ้องไปยังเกล็ดหนึ่งชิ้นที่วางอยู่ บนโต๊ะ ดวงตาฉายแววหวั่นวิตกขึ้นมา ตรงข้ามพวกเขามีคนอยู่สี่คน
ในหมู่คนสี่คนนี้มีสองคนรูปร่างกำยำเป็นพิเศษ และยังมีเด็กหนุ่มแต่งตัวแบบพนักงานกับชายชราหนึ่งคน ตอนนี้พวกเขาล้วนมีสีหน้าขมขื่น พลางเหลือบมองไปที่ชั้นสองเป็นบางคราว
คนเหล่านี้ก็คือคนที่เดิมมาจากร้านข้างๆ เป็นเพราะพังร้านเข้ามาในวันนี้ จนถูกหวังเป่าเล่อเจรจาอย่างเป็นมิตรไปรอบหนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับครอบครัวนี้อย่างซาบซึ้งใจ และมอบร้านของตนให้ด้วยความเต็มใจ เพื่อให้กิจการ น้ำเย็นหล่อวิญญาณแพร่หลาย พวกเขาจึงทุ่มเทแรงใจของตนออกมา
แต่ตอนนี้สายตาของพวกเขากลับหวั่นวิตก เห็นได้ชัดว่าเกล็ดบนโต๊ะชิ้นนั้น มีความหมายแตกต่างกันมากสำหรับพวกเขา
“ถูกเกล็ดโลหิตเพ่งเล็งแล้ว…”
“เกล็ดโลหิตอยู่เหนือผู้อิ่มท้องอย่างพวกเรา เขาเป็นถึงผู้มีกิน เหตุใดจะต้อง จดจ้องร้านเล็กๆ ของพวกเราด้วย”
“ลำพังเกล็ดโลหิตก็ทำให้คนหนังศีรษะชาได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเบื้องหลังของเขายังมีสาวกเนื้ออยู่คนหนึ่งด้วย!”
ทุกคนปรึกษากันเสียงเบา สายตาที่มองไปยังชั้นสองก็บ่อยขึ้น จนกระทั่งผ่านไปพักหนึ่ง ขณะที่พวกเขาวิตกกังวลอยู่ตรงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ประตูห้องพักชั้นสอง ก็เปิดออก หวังเป่าเล่อเดินออกมาจากข้างใน
ชั่วพริบตาที่มองเห็นร่างของหวังเป่าเล่อ ทุกคนที่อยู่ชั้นล่างก็ก้มหน้าลงพร้อมกัน และโค้งคำนับให้กับหวังเป่าเล่อ
“คารวะนายท่าน”
หวังเป่าเล่อใบหน้าปราศจากอารมณ์ ก้าวลงจากบันไดทีละขั้นๆ กลิ่นอายบนร่างแผ่ออกมาเดี๋ยวจริงเดี๋ยวเลือนราง ทำให้คนทั้งแปดใจสั่นสะท้าน ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น มองเห็นเพียงเท้าของหวังเป่าเล่อเท่านั้น เมื่อเขาเดินลงมาจากบันได ก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของพวกเขาแล้ว
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเกรงกลัวส่วนหนึ่ง และยังมีอีกส่วนมาจากอานุภาพกดดันบนตัวของหวังเป่าเล่อซึ่งรุนแรงเกินไป ทำให้ตอนนี้แม้อยู่ใกล้ก็ยังรู้สึกหายใจลำบาก พลังฝึกตนในร่างคล้ายถูกสยบเอาไว้
ทั้งหมดนี้ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาหลังจากหวังเป่าเล่อดูดซับคำแนะนำของร้านแห่งที่สอง ควบคู่ไปกับการขายน้ำเย็นหล่อวิญญาณ รวมถึงคนที่อยากมาซื้อข้างนอกก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขาเดินมาอยู่ตรงหน้าทุกคน หวังเป่าเล่อไม่เอ่ยอะไร ทำเพียงหยิบเกล็ดบนโต๊ะชิ้นนั้นขึ้นมาแล้วเดินไปที่ประตูร้าน กระทั่งตอนที่ผลักประตูออก เขาถึงเอ่ยพูดเสียงราบเรียบออกมาหนึ่งประโยค
“พวกเขา…จะไม่ได้เห็นท้องฟ้าวันพรุ่งนี้” กล่าวจบ หวังเป่าเล่อก็ก้าวเท้าออกจากร้าน จนเขาจากไปแล้ว ทุกคนในร้านถึงได้กล้าเงยหน้าขึ้น ทั่วกายเปียกโชกด้วยเหงื่อเย็น แต่ละคนมองหน้ากัน ล้วนแต่มองเห็นความเกรงกลัวในแววตาของอีกฝ่าย
“นายท่านเขา…ตอนนี้ระดับฝึกตนเขาคืออะไร เขามีที่มาอย่างไรกันแน่”
“น่ากลัวเหลือเกิน เวลาแค่ไม่กี่เดือน แต่เหตุใดตอนที่ข้าพบหน้านายท่านถึงได้รู้สึกเหมือนเจอกับเจ้าสวาปามล่ะ”
“ทุกคน ที่มาของเจ้านายไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะรู้ได้ แต่ครั้งนี้ บางทีอาจจะเป็นโอกาสดีที่พวกเราจะได้รุ่งโรจน์ในเมืองปรารถนารสก็ได้นะ! หากเจ้านายกำจัด เกล็ดโลหิตได้แล้ว พวกเราจะต้องได้เข้าตาเจ้าสวาปามแน่…” ผู้จัดการร้านหญิง เลียริมฝีปาก แววตาฉายประกายประหลาด นางในตอนนี้ยอมจำนนอย่างสมบูรณ์แล้ว
คนอื่นเมื่อได้ยินคำพูดของนางก็เงียบเสียงลง แววตาค่อยๆ เผยประกายทะเยอทะยานออกมาตามๆ กัน
ไม่มีใครพูดต่อ ในร้านเงียบสงัด ทุกคนล้วนรอคอยผลลัพธ์
เรื่องทุกอย่างในร้าน หวังเป่าเล่อไม่สนใจ ตอนนี้เขาเดินอยู่บนถนนของเมืองปรารถนารส ท้องฟ้ามืดมิด ภายในอาคารรอบๆ มีเสียงกลืนกินดังออกมาเป็น บางคราว แต่ยามที่หวังเป่าเล่อเดินผ่าน เสียงเหล่านี้ก็จะหยุดลงกะทันหัน คล้ายกับติดอยู่ที่คอ ไม่กล้าส่งเสียงออกไปแม้แต่น้อย
บางครั้งบางคราวก็มีสายตาหลายสายเปิดขึ้นมาในความมืด หลังกวาดมองมาที่หวังเป่าเล่อ สายตาเหล่านั้นก็คลายออกทันที แล้วรีบถอนสายตากลับมาก่อนถอยห่างอย่างรวดเร็ว คล้ายกลัวว่าถ้าหนีช้าจะถูกกลืนลงไป
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะบนร่างของหวังเป่าเล่อแผ่กลิ่นอายน่าสะพรึงออกมา เหมือนกับวังน้ำวน มันดึงดูดความกระหายอยากที่ลอยอย่างอิสระทั้งแปดทิศมาหา
การผสานรวมกับร้านที่สองทำให้เมล็ดพันธุ์ปรารถนารสในตัวของหวังเป่าเล่อกลายเป็นวังน้ำวนกว้างใหญ่ไพศาลมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันการดูดซับกลิ่นอายแห่งปรารถนารสในช่วงหลายเดือนมานี้ก็ทำให้วังน้ำวนแห่งนี้ขยายใหญ่ พร้อมกับให้กำเนิดผลึกแก้วสีดำก้อนหนึ่ง
ของสิ่งนี้กำเนิดมาจากกฎเกณฑ์จริงๆ ชั่วขณะที่มันก่อตัวขึ้นก็ทำให้กฎเกณฑ์ของโลกภายนอกทั้งหมดในตัวของหวังเป่าเล่อกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถใช้ออกมาได้ในขณะนี้
“ข้าเรียกสภาวะในตอนนี้ว่า ร่างแห่งปรารถนา” หวังเป่าเล่อพึมพำเสียงเบา ไม่ยินดียินร้าย เขาเดินช้าๆ ถ้าหากตอนนี้มองลงมาจากฟ้าสูงก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายของหวังเป่าเล่อหายไป แล้วแทนที่ด้วยวังน้ำวนสีดำสนิทขนาดมหึมา
ราวกับร่างแห่งปรารถนาเติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ชาวเมืองทุกคนรอบด้านก้มหน้าตัวสั่นเทากันหมด จนเกิดเป็นความเงียบสงัด ราวกับเผชิญหน้ากับ วิญญาณเทพเจ้า น้อมส่งให้เขาเดินจากไปไกล
เป็นเช่นนี้ หวังเป่าเล่อยิ่งเดินยิ่งไกล กลิ่นอายบนร่างก็ยิ่งแรงกล้ามากขึ้น วังน้ำวนสีดำที่ปรากฏขึ้นมาก็ยังใหญ่โตมหาศาลเข้าไปใหญ่ ส่วนเป้าหมายของเขา ตลอดมาล้วนไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ…ร้านอาหารระดับสี่ที่เปล่งประกายวาววับหรูหราอลังการอย่างยิ่งซึ่งตั้งอยู่ ณ ปลายสุดของถนนสายนี้
ขณะเดียวกัน ชั้นสามของร้านอาหารระดับสี่แห่งนี้ ผู้ฝึกตนวัยกลางคนที่นั่งสมาธิอยู่ตรงนั้นลืมตาโพลง ผู้ฝึกตนผู้นี้มีผมสีเลือด ทั่วร่างเต็มไปด้วยเกล็ด คนทั้งคนดูแล้วเหมือนกับอสูรร้าย แต่นัยน์ตากลับเปล่งประกาย ตอนนี้กำลังจ้องมองไปนอกหน้าต่าง
ด้วยระดับฝึกตนของเขาแล้ว ตอนนี้แค่มองปราดเดียวก็เห็นวังน้ำวนสีดำ น่าสะพรึงกลุ่มนั้นค่อยๆ เข้ามาใกล้ วังน้ำวนแห่งนี้ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ดวงตาหดเกร็งทันที ลมหายใจถี่รัวเล็กน้อย กำลังจะผุดลุกขึ้น แต่พริบตาต่อมา จู่ๆ ภายในวังน้ำวนสีดำที่เขามองเห็นก็…มีดวงตาคู่หนึ่งปรากฏขึ้น
นัยน์ตาคู่นั้นไม่มีอารมณ์แม้แต่น้อย คล้ายกับห้วงนรก มันจ้องมองเขามาแต่ไกล และการจ้องมองนี้ก็มอบเสียงกู่ร้องขึ้นในหัวและทำให้โลกของผู้ฝึกตนคนนี้พร่ามัว คนทั้งคนราวกับเสียสติ ตกอยู่ในสภาวะสับสน
จนเขาไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าวังน้ำวนกลุ่มนั้นที่เขาเห็น เดิมทียังอยู่ห่างไกล แต่ในชั่วอึดใจก็คล้ายหายวาบมาปรากฏอยู่ด้านนอกประตูร้านอาหารแห่งนี้แล้ว
เมื่อมันเข้ามาใกล้ ร้านอาหารเปล่งประกายวาววับหรูหราอลังการแห่งนี้ พลันถูกปราณมืดที่แผ่ออกมาจากวังน้ำวนสีดำปกคลุม ยิ่งกว่านั้นขณะที่มันเข้า ปกคลุม เสียงประตูร้านอาหารก็ดังสนั่นแล้วแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ จนกระทั่งพังทลายและปลิวออกไป
เงาร่างที่ก่อตัวจากทะเลแห่งความมืดอย่างสมบูรณ์แบบคล้ายกับฝันร้ายจาก ขุมนรกกำลังยกขาก้าวเข้าไปในร้าน เมื่อเท้าเหยียบลงไป ปราณมืดที่พันอยู่บน เท้าข้างนี้ก็สลายหายไปกับพื้นอย่างรวดเร็ว ผ่านไปที่ใด ทุกสิ่งล้วนแต่แห้งเหี่ยว ขณะเดียวกันปราณมืดเหล่านี้ก็คล้ายกับผีปีศาจ มันกลายเป็นเกลียว พริบตาก็พันรัดร่างของพนักงานหลายสิบคนที่กำลังหน้าเปลี่ยนสีรุนแรงในชั้นที่หนึ่งของร้านอาหารทันที
จากนั้นมันก็ยกพวกเขาขึ้นสูง ไม่ว่าจะดิ้นรนหรือร้องขอความช่วยเหลืออย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ ขณะที่เงาร่างจากทะเลแห่งความมืดเดินมา ยามที่พวกเขากำลัง กรีดร้องน่าเวทนาจนเสียงดังออกไปนอกร้าน พวกเขาก็ถูกแผดเผาในแบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จนกระทั่งกลายเป็นเถ้าถ่าน…
คล้ายกับว่าความปรารถนาในร่างกายติดไฟ!
มีเพียงเสียงน่าสังเวชดังแผ่ออกไปนอกร้านเท่านั้น เนิ่นนานก็ยังไม่หยุด สั่นสะเทือน ชาวเมืองที่ตัวสั่นเทาอยู่รอบๆ ทุกคน ทำให้พวกเขาพากันก้มหน้า ทำความเคารพ