Skip to content

A World Worth Protecting 272

บทที่ 272 หนทางล้างแค้น

หวังเป่าเล่อไม่ได้เคลื่อนไหวรวดเร็วเหมือนเมื่ออยู่ในป่า แต่กระนั้นความเร็วของเขาก็ยังน่าทึ่ง เพราะว่าแขนเขาเริ่มจะล้า บรรดาสมุนยุงทั้งหลายจึงกระจายกันไปในพื้นที่โดยรอบเพื่อเพิ่มมุมมองให้กว้างขึ้น แต่เมื่อหวังเป่าเล่อลองสำรวจฝักกระบี่ในกายตน เขาก็รู้สึกได้ว่ามียุงอีกสองตัวที่ยังไม่ได้บินออกมา

ตัวหนึ่งเป็นสีดำ อีกตัวหนึ่งเป็นสีม่วง

ยุงทั้งสองดูราวกับเป็นหัวโจกผู้เย่อหยิ่ง พวกมันยังคงอยู่ในฝักกระบี่โดย           ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งของหวังเป่าเล่อ ระดับของฝักกระบี่ดูจะต่ำเกินไปที่จะบีบให้พวกมันออกมาภายนอก

พวกมันอย่างนั้นหรือ

ยุงที่เพิ่มขึ้นอีกสองตัวพาให้หวังเป่าเล่อนึกไปถึงพลังอันยุ่งเหยิงสองพลังที่เคยอาศัยอยู่ในร่างกายเขา เมื่อเห็นว่าขณะนี้พวกมันได้ย้ายเข้ามาอาศัยในฝักกระบี่ในฐานะยุงทำให้เขาคิดอะไรได้บางอย่าง เปลวไฟแห่งความมุ่งมั่นเริ่มจุดติดขึ้นในจิตใจของชายหนุ่ม

หวังเป่าเล่อรู้ดีว่ายุงทั้งสองต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ ชายหนุ่มไม่อาจสั่งการพวกมันได้ในตอนนี้ แต่เขาคิดว่าหากตั้งใจหลอมฝักกระบี่ต่อไป เขาจะมีอำนาจพอจะควบคุมพวกมันได้ไม่ช้าก็เร็ว!

หวังเป่าเล่อมั่นใจในพลังและผลประโยชน์ที่พวกมันจะมอบให้กับเขาในอนาคต ยุงสีดำนั้นคือสายฟ้าสีดำที่จู่ๆ ก็มาปรากฏในร่างกายเขา ขณะที่ทะเลสีม่วงนั้น       หวังเป่าเล่อพอจะเดาได้ว่า มาจากแสงสีม่วงที่พยายามจะสังหารเขาเมื่อครั้งพบกัน    ณ หมู่บ้านลมปราณวิญญาณ

จะดูถูกเจ้าสองตัวนี้ไม่ได้เป็นอันขาด หวังเป่าเล่อตื่นเต้นขึ้นมาในบัดดล หัวใจเขาที่ตอนแรกเปี่ยมล้นไปด้วยความเกลียดชังตอนนี้ก็ผ่อนคลายลงเมื่อรู้ดังนั้น อย่างไรก็ดีความโหดร้ายที่เขาพบเจอมาก็ยอมให้หัวใจเขาผ่อนคลายลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความอาฆาตแค้นยังคงอัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยมเช่นเดิม

ราวกับว่าหากเขายังไม่อาจล้างแค้นจนสาแก่ใจ จิตใจก็จะคงเต็มไปด้วยความความทุกข์ที่หนักอึ้งราวกับมีศิลาทับอยู่บนอกกระนั้น!

ด้วยเหตุนี้ หวังเป่าเล่อจึงยังคงพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยอารมณ์อันยากจะบรรยาย ยังคงใช้ประโยชน์จากมุมมองกว้างไกลผ่านสายตาของเหล่ายุง ชายหนุ่มใช้แต้มต่อนี้ในการค้นหาและรอคอยคนพวกนั้น เขารอคอยการมาถึงของสำนักรุ่งสางจักรพิภพและตระกูลนภาห้าสมัยไปพลาง ค้นหาเหล่าผู้ฝึกตนจากทั้งสองกลุ่มระหว่างทางไปด้วย

เป้าหมายของเขาคือผู้ฝึกตนจากทั้งสองกลุ่มนี้

ผู้ที่กล้ากล้ำกรายเข้ามาในด้านมืดของดวงจันทร์ส่วนใหญ่นั้นจะต้องเป็นผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นหรือสูงกว่าขึ้นไป ภายในเกือบครึ่งชั่วโมง หวังเป่าเล่อก็รู้สึกได้ว่ามี    ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นสองคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ เขายังไม่แน่ใจว่าทั้งสองเพียงแค่ผ่านทางมา หรือว่ามาตามสัญญาณเสียงจากแผ่นหยกก่อนหน้านี้

ทันทีที่รู้สึกได้ถึงสองคนนั้น ดวงตาของหวังเป่าเล่อก็ฉายแววเยียบเย็นออกมาทันที   จิตสังหารในใจรุนแรงจนเกินกว่าจะควบคุมได้ เขารู้ว่าผู้ฝึกตนทั้งสองมาจาก        กลุ่มเดียวกับคนที่ไล่ล่าเขาจนเกือบถึงแก่ความตาย หวังเป่าเล่อจงเกลียดจงชังกลุ่มคนเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง!

“ตายเสียเถอะ!” ความเย็นยะเยือกอันเกินจะกล่าวผุดขึ้นในหัวใจของหวังเป่าเล่อ เขาพุ่งไปหาทั้งสองด้วยความเร็วราวกับวิญญาณในป่าทึบอย่างไร้สุ้มเสียง

แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นร่างของเขาอย่างชัดเจน หากไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่มีระดับสูงกว่าเขามากก็เป็นเรื่องยากที่จะรับรู้ว่าเขาผ่านหน้าไปแล้ว!

ภายในพริบตาเดียว หวังเป่าเล่อก็เข้าประชิดตัวหนึ่งในสองคนได้สำเร็จ           เขากระโจนขึ้นไปบนฟ้าราวกับสายลมเย็นยะเยือก ก่อนปรากฏตัวอยู่ข้างกายศัตรู ศัตรูของเขานั้นกำลังสำรวจสิ่งแวดล้อมอย่างระแวดระวัง จึงพลันตกตะลึงจนล่าถอยเมื่อหวังเป่าเล่อโผล่มาจากที่ใดก็ไม่รู้เช่นนั้น ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะตามสัญญาณเสียงของแผ่นหยกมา และรับรู้แล้วว่าบัดนี้หวังเป่าเล่อเลือดเย็นเพียงใด

“มันมาแล้ว…” ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นหยิบเอาแผ่นหยกออกมาเพื่อจะ        ส่งสัญญาณเตือนออกไป แต่ไม่ทันการณ์ ชั่วเสี้ยววินาทีที่เขาล่าถอยไปหยิบแผ่นหยกออกมา หวังเป่าเล่อผู้โหดเหี้ยมเคียดแค้นก็มองจ้องเข้าไปในตาของผู้ฝึกตนคนนั้น    ราวกับว่าความดุร้ายทั้งหมดกำลังแทรกซึมและเจาะทะลวงเข้าไปถึงจิตใจ ส่งผลให้เขาตัวสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายกระหายเลือดมากกว่ามนุษย์

ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นถึงกับสายตาพร่าเลือนไป หวังเป่าเล่อปล่อยหมัดออกมาทันทีที่เข้าประชิดตัวได้ หมัดของชายหนุ่มส่งเคล็ดเวทระเบิดกำเนิดดวงดาราสว่างจ้ากึกก้องกัมปนาทออกไป ก่อให้เกิดแรงกระแทกสะเทือนไปทั่ว เป็นกระแสน้ำวนผุดขึ้นตรงกลางระหว่างหวังเป่าเล่อและผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นคนนั้น

กระแสน้ำวนนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล มันปรากฏขึ้นพร้อมกับมวลพลังที่ดูดกลืนทุกสิ่งรอบข้าง ต้นไม้โดยรอบต่างก็ถูกถอนรากถอนโคนหลุดออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความรุนแรงของมัน เมื่อมองจากที่ไกลๆ จะเห็นราวกับว่ามีหลุมดำมาปรากฏอยู่กลางป่า

หลุมดำนี้คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเคล็ดเวทระเบิดกำเนิดดวงดารานั่นเอง      การโจมตีไปยังความว่างเปล่าพร้อมสร้างพายุหมุนจะแปรสภาพเป็นน้ำวนหรือหลุมดำขึ้นอยู่กับระดับพลังของผู้ใช้ พลังที่ดูราวกับกำลังดูดกลืนทุกสิ่งที่ขวางหน้านั้นแท้จริงแล้วกำลังฉีกทึ้งทำลายสรรพสิ่ง!

ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตา การดิ้นรนขัดขืนของผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อหลุมดำจากระเบิดกำเนิดดวงดารากลืนเขาหายเข้าไปทั้งตัว

เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นของน้ำวนนั้นกลบเสียงร้องโหยหวนของเขาจนหมดสิ้น น้ำเสียงอันสงบนิ่งของหวังเป่าเล่อดังขึ้นเมื่อมีเสียงระเบิดปะทุขึ้นอีกครั้งพร้อมกันน้ำวนที่จางหายไป เหลือไว้เพียงกองโลหิตไหลนองพื้น

“คนที่สี่”

ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นอีกคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกับตา        รู้สึกราวกับว่าจิตใจจะระเบิดออกเพราะคลื่นของความสะพรึงกลัวที่ซัดสาดอยู่ภายใน เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง แม้ว่าเขาจะได้รับข้อความเสียงแจ้งเตือนมาก่อนแล้ว ก็ยังคงตัวแข็งทื่อด้วยความกลัวเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ชายผู้นั้นยืดตัวซีดขาว ไม่มีแม้แต่สีเลือดฝาดบนใบหน้า จิตใจของเขาตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือต้องหนี!

เขาหอบหายใจพลางถอยหนีอย่างรวดเร็วจนแทบสิ้นสติ ถึงกับยอมกัดลิ้น        ให้เลือดไหลเพื่อร่ายคาถาเวทเพิ่มความว่องไว แม้ขณะที่เขากำลังวิ่งหนีอย่างสุดกำลังอยู่นั้น เสียงเยียบเย็นของหวังเป่าเล่อก็มากระทบโสตประสาทของเขาราวกับเสียงจากเจ้าแห่งความตาย

“คนที่ห้า” เป็นถ้อยคำสุดท้ายที่ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นคนนั้นได้ยินในชีวิต ความหวาดกลัวและความสิ้นหวังเกาะกุมจิตใจเขา เขาอ้าปากพยายามอธิบายและร้องขอความเมตตา

“ฟังข้าก่อน หวังเป่าเล่อ ข้า…” หากการวอนขอความเมตตาใช้ได้ผลคงจะมีผู้ฝึกตนจำนวนมากมายที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ในยุคกำเนิดวิญญาณนี้ เขายังพูดไม่ทันจบประโยค ร่างกายก็สั่นเทาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สายตาเขามืดดับไปก่อนที่โลกจะหมุนวน ขณะที่สติของเขากำลังหลุดลอยไป ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นคนนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงบริเวณลำคอ สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นก่อนตายคือคมกระบี่ที่ปักทะลุคอเขา

ลมหายใจหยุดลง เขาสิ้นใจในทันที!

หวังเป่าเล่อใช้เท้ายันศพของผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นคนนั้นเพื่อดึงกระบี่ออก ก่อนจะเช็ดคราบเลือดที่เปรอะอยู่ด้วยอาภรณ์ของผู้ฝึกตนคนนั้นอย่างไร้อารมณ์    แล้วรุดหน้าต่อไปทันทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หากใครสักคนที่รู้จักคุ้นเคยกับหวังเป่าเล่อมาพบเขาในตอนนี้ จะต้องรู้สึกแปลกกับชายหนุ่มเป็นอย่างมาก หวังเป่าเล่อที่เคยร่าเริง เหลาะแหละ และมองโลกในแง่ดีไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว หากว่าบนโลกนี้ไม่มีการฝึกตน และโลกไม่ได้ก้าวเข้าสู่ยุค   กำเนิดวิญญาณ อุปนิสัยของหวังเป่าเล่อก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยจนตลอดชีวิต

แต่ทว่าโลกช่างโหดร้ายและเต็มเปี่ยมไปด้วยความขัดแย้งอันรุนแรงถึงชีวิต         ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะอยู่รอดได้ ปลุกให้ความโหดร้ายและความเด็ดขาดที่หลับใหลอยู่ภายใต้ความมองโลกในแง่ดีของหวังเป่าเล่อนั้นตื่นขึ้น ตัวตนใหม่นี้กำเนิดและเติบโตขึ้นจากทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา!

และขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ตัวตนเหล่านั้นจะแสดงตัวออกมาชัดเจนที่สุด!

หวังเป่าเล่อเดินต่อไปตามทาง มวลพลังความโหดร้ายแพร่กระจายปกคลุมในทุกที่     ที่เขาไปเยือน เขาสังหารศิษย์เอกสำนักรุ่งสางจักรพิภพทุกคนที่พยายามจะสังหารเขาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับลมหายใจเที่ยงแท้หรือขั้นรากฐานตั้งมั่น ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรีก็ไม่ไว้หน้า

หวังเป่าเล่อไม่ใจอ่อนและไม่ใส่ใจผลที่จะตามมา ในเมื่ออีกฝ่ายเองก็ไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาจากการพยายามสังหารเขา ตัวเขาเองจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจบ้างเช่นกัน

ความตั้งใจของเขาตอนนี้พุ่งเป้าไปที่ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นเท่านั้น เขาขี้คร้านจะใส่ใจกับผู้ฝึกตนระดับลมหายใจเที่ยงแท้จากสำนักรุ่งสางจักรพิภพที่เขาพบอยู่เนืองๆ แล้ว

การฆ่าล้างบางของหวังเป่าเล่อก็ถึงหูสมาชิกทุกคนของสำนักรุ่งสางจักรพิภพในเขตจันทราเวทเข้าจนได้ ในบรรดาคนเหล่านั้น มีผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในอยู่มากกว่าหนึ่งคน และแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมีธุระที่สำคัญกว่าจะต้องสะสาง แต่ครั้น      หญิงชราผู้ฉกชิงเอาหม้อหลอมเล็กสามขาของหวังเป่าเล่อไปได้ยินเรื่องราวทั้งหมด นางก็ถึงกับตกตะลึง ก่อนแค่นหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วหยุดสิ่งที่ทำ มุ่งหน้าไปหา     หวังเป่าเล่อด้วยความรวดเร็ว

เจ้าหนอนตัวกระจ้อย คราวก่อนเจ้าโชคดีเท่าใดแล้วที่หนีไปได้ กล้าหาญนักถึงได้แสดงตัวขึ้นมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังมีสมบัติวิเศษชิ้นอื่นติดตัวอยู่อีก และมันกำลังเรียกหายายแก่คนนี้ของเจ้า เชิญชวนข้าให้ไปแหวกอกเจ้าอีกครั้งหนึ่ง

ฉับพลันนางก็ส่งสัญญาณรวมพลไปยังบรรดาผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นในบริเวณใกล้เคียง ให้ออกไล่ล่าและสังหารหวังเป่าเล่อให้จงได้!

ถ้าเป็นไปได้ ครั้งนี้ข้าฆ่าจะฆ่าเจ้ากับมือตัวเองเลยทีเดียว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!