Skip to content

A World Worth Protecting 283

บทที่ 283 การสังหารด้วยสายตา

หวังเป่าเล่อหายตัวออกมาได้ไม่นาน พื้นดินก็สั่นสะเทือน โถงถ้ำในเขตหวงห้ามด้านมืดของดวงจันทร์พลันระเบิดกระจาย ดินทรายตกลงมาจากทั่วทุกทิศ เกิดเป็นรอยแยกขนาดมหึมาขึ้นมาบนพื้นดิน!

บนท้องฟ้าเหนือรอยแยกนั้น แสงสีแดงก่ำแผไพศาลอย่างรวดเร็ว ภายในมองเห็นกริชเหาะเหินสีแดงลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ!

มันคือ อาวุธเทพดวงดาราแดง อาวุธเทพเพียงหนึ่งเดียวของสหพันธรัฐนั่นเอง!

อาวุธเทพชิ้นนี้ย้อมท้องฟ้า แผ่นดิน รวมถึงผืนป่าให้กลายเป็นสีแดงก่ำ นอกจากนี้คลื่นพลังของมันยังปลดปล่อยแรงกดดันอันไม่น่าเชื่อออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

กริชเหาะเหินนั้นไม่ต่างจากภูเขาไฟอันชวนครั่นคร้าม แม้จะมีขนาดเพียงฝ่ามือ แต่ก็ทำให้ผู้คนทั่วทั้งปฐพีต่างตื่นตกใจเมื่อมันปะทุพลังขึ้นมา

เช่นกันกับคลื่นพลังอันน่าเกรงขามที่มันแผ่ออกมา ซึ่งทรงพลังจนสะเทือนไปทั้งดวงจันทร์ หากนำอาวุธเวททุกชนิดมาปะทะ คงจะต้องพ่ายแพ้แบบไม่อาจสู้ได้ เพราะว่าอาวุธเทพเล่มนี้เป็นเจ้าแห่งอาวุธเวททั้งปวง!

แม้แต่ผู้นำสหพันธรัฐเองยังปลดปล่อยพลังของมันได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และจนถึงตอนนี้ ทั่วทั้งสหพันธรัฐยังไม่มีผู้ใดสามารถ…ปลดปล่อยศักยภาพของมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์เลยด้วยซ้ำ!

เมื่อกริชเหาะเหินปรากฏตัวขึ้น ป่าแห่งนี้ก็ตกอยู่ในความเงียบงันทันที        บรรดาเผ่าพันธุ์อมตะราตรีและวิญญาณจันทราทุกตนในเขตหวงห้ามแห่งนี้ มีท่าทีราวกับพบเจอศัตรูอันน่าเกรงขามจนไม่กล้าแม้จะกระดิกตัว

ผู้ฝึกตนจำนวนมากยังคงอยู่นอกเขตหวงห้าม โดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกศิษย์จากตระกูลนภาห้าสมัยและสำนักรุ่งสางจักรพิภพ การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งโดยหมอกเวทเคลื่อนย้ายมานั้น อดเป็นกังวลไม่ได้ และพากันออกคำสั่งไปยังผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้รวมตัวกันและคอยเฝ้าระวังสถานการณ์

หนึ่งในคนกลุ่มนั้นคือเฉินหุย เมื่อรู้ว่าราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีถูกปลุกขึ้น แรงสั่นสะเทือนจากผืนดินทำเอาทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบอยากจะหนีไปให้ไกล    แต่พออาวุธเทพมหัศจรรย์นี้ปรากฏขึ้นตามมาอีก ก็ทำเอาพวกเขาถึงกับตัวแข็งทื่อ หวาดผวาจนหน้าซีด และก้าวขาไม่ออกอีกต่อไป

รอยแยกลึกลงไปใต้พสุธานั้นส่งกลิ่นอายความชั่วร้ายอบอวลแผ่กระจายออกมาทั่วทิศทาง เสียงโซ่ตรวนกระทบกันดังจนเกิดเป็นระลอกคลื่น ร่างขนาดมหึมา        คืบคลานขึ้นมาจากรอยแยกนั้นอย่างช้าๆ!

ขณะเดียวกัน หวังเป่าเล่อหายตัวมาโผล่ในป่าไม่ไกลนักจากเขตหวงห้าม เขาเองก็สังเกตเห็นทั้งอาวุธเทพบนท้องฟ้า และรู้สึกได้ถึงมวลพลังอันน่ากลัวที่แผ่ขยายออกมาจากเขตหวงห้าม

เหตุใดข้าจึงเป็นคนเดียวที่หายตัวออกมาใกล้จุดเกิดเหตุเช่นนี้เล่า หวังเป่าเล่อหัวเสีย แม้ว่าหมอกเวทเคลื่อนย้ายจะย้ายตำแหน่งได้ทั้งใกล้และไกล แต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่มีประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว จึงอดรู้สึกเป็นกังวลไม่ได้ เขานั่งลงเพื่อซ่อนตัวแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าด้านบนทันที

บนท้องฟ้าตอนนี้ นอกจากจะมีอาวุธเทพสีแดงก่ำน่าเกรงขามแผ่มวลพลังออกมา จนทำให้ทุกคนที่พบเห็นต่างตะลึงลานแล้ว ยังมีผู้คนอีกนับร้อยคนกำลังส่งเสียงดังโวยวาย ขณะพุ่งเข้ามาทางเขาอย่างรวดเร็วอีกด้วย!

คนกลุ่มนั้นส่วนใหญ่อยู่ในขั้นกำเนิดแก่นใน และเป็นชนชั้นสูงจากขุมอำนาจต่างๆ ของสหพันธรัฐ หนึ่งในนั้นก็คือท่านผู้นำสหพันธรัฐต้วนมู่ฉือ!

ทุกคนต่างให้ความสนใจแต่กับศัตรู สายตาจับจ้องไปยังรอยแยกลึกในเขตหวงห้ามนี้ ไม่มีใครพูดอะไร แต่พวกเขาก็เรียกพลังปราณขึ้นมาไว้พร้อมต่อสู้เต็มที่

ขณะที่พวกเขาพุ่งเป้าความสนใจไปยังรอยแยกลึกนั่น ฉับพลันมันก็เกิดเสียงระเบิดดังลั่น ก่อนจะมีหมอกเมฆหนาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความชั่วร้ายโชยเข้ามา แผ่กระจายออกไปทั่วทิศทางอย่างรุนแรง ร่างมหึมาร่างหนึ่งผงาดขึ้นมาจากภายในร่องดินลึกนั้น โดยมีโซ่ตรวนเหล็กกระทบกันจนเกิดเสียงดังอยู่ เมื่อมองดูจากระยะไกล จะเห็นปีกสีดำคู่ใหญ่ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องนภา!

ร่างสูงกว่าสามสิบเมตรนั้นสวมชุดเกราะสีดำสนิทกับหน้ากากผี ผิวของมันเป็น    สีดำเช่นกัน แลดูเหมือนบุรุษหัวล้านก้มหน้าก้มตาอยู่ เมื่อมันลุกขึ้นยืน โซ่ตรวนเหล็กทั้งเก้าเส้นที่พันธนาการร่างกายเอาไว้ก็ถูกยกสูงขึ้นตามแรงยืน…

เมื่อร่างสูงเผยตัวตรงขึ้นมา แรงกดดันอันยากเกินจะบรรยาย รวมถึงคลื่นพลัง  อันน่าครั่นคร้ามก็แผ่กระจายออกมาจากตัวของมันอย่างต่อเนื่อง ทำไม่ว่าใครจะเป็นอยู่ในระดับการฝึกตนใด ก็อดหวาดกลัวจับใจไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่ท่านผู้นำสหพันธรัฐ!

มวลพลังกดดันจากสิ่งมีชีวิตตนนั้นอยู่ในระดับวัฎจักรชีวิต ซึ่งแตกต่างจากระดับการฝึกตนอย่างมาก!

วิญญาณของทุกคนต่างสั่นสะท้าน ทุกอณูร่างกายราวกับกำลังกรีดร้อง ประหนึ่งว่าปุถุชนธรรมดาสามัญได้เผชิญหน้ากับเทพก็ไม่ปาน!

บุรุษหัวล้านร่างสูงคือราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีในตำนาน เป็นซากศพโบราณที่ร่วงหล่นลงมาบนดวงจันทร์ และทำให้กระบี่สำริดเขียวโบราณถือกำเนิดขึ้น!

อย่างไรก็ตาม หวังเป่าเล่อที่ยืนนิ่งอยู่นั้นกลับรู้สึกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย        ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน แต่จังหวะที่ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีเผยตัวออกมานั้น ดอกบัวสีเขียวในร่างกายของเขาเองก็เริ่มสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงเช่นกัน ราวกับว่ามันเกิดอารมณ์บางอย่าง อารมณ์นี้คล้ายกับความหดหู่และขัดขืนฝืนใจ

เสมือนว่ามันได้พบกับศัตรูในอดีตเข้าเสียแล้ว!

ขณะที่หวังเป่าเล่อรู้สึกได้ถึงอารมณ์รุนแรงจากดอกบัวสีเขียวนั้น ทุกคนบนท้องนภา รวมถึงผู้นำสหพันธรัฐต่างดูเป็นกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก แม้ระดับการฝึกตนของพวกเขาจะไม่ใช่น้อยๆ เลยก็ตาม

ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีถูกทุกคนรุมล้อมไว้ แต่ผู้ที่รุมล้อมกลับเป็นฝ่ายหวาดกลัวเสียเอง!

ร่างมหึมาสูงสามสิบเมตรในชุดเกราะกระโจนขึ้นไปบนอากาศ แต่กลับถูกโซ่ตรวนที่พันธนาการอยู่ดึงกระชากจนขึงตึง ในที่สุดมันก็ยอมจำนนและหยุดนิ่งกับที่

เมื่อมองดูจากระยะไกล ปีกซึ่งกางออกจากแผ่นหลังของมันยิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกน่าครั่นคร้าม อันที่จริงเพียงสิ่งมีชีวิตชั้นสูงร่างสีดำขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นเท่านี้ ทั้งดวงจันทร์ก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดแล้ว

ตอนนั้นเอง ผู้นำสหพันธรัฐต้วนมู่ฉือพลันสูดลมหายใจเข้าลึก มุ่งหน้าเข้าใกล้    ร่างสูงนั้นเล็กน้อย ภายใต้การอารักขาจากอาวุธเทพบนท้องฟ้า ก่อนที่เขาจะ         หลับตาลง และเริ่มสื่อสารกับราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีด้วยวิธีการเฉพาะตัวบางอย่าง

ผู้คนต่างกลั้นหายใจอย่างเป็นกังวลขณะที่มองท่านผู้นำสื่อสารกับบุรุษหัวล้านต่อไป หวังเป่าเล่อเองก็กลืนน้ำลายอย่างลำบาก ชายหนุ่มอยากเข้าใจความรู้สึกของดอกบัวสีเขียวในร่างกายของตนให้ละเอียดกว่านี้ ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาแต่ไกล

ความรู้สึกอันคุ้นเคยทำให้หวังเป่าเล่อหันหน้าไปมองตามทิศทางที่สายตานั้นจ้องมาทันที ก่อนจะเห็นใบหน้าคุ้นเคยของคนคนหนึ่ง ที่ฉายแววอาฆาตแค้นต่อเขา   อย่างแรงกล้า!

คนผู้นั้นคือ…เฉินหุยนั่นเอง!

หญิงสาวบรรลุขั้นรากฐานตั้งมั่นแล้ว หวังเป่าเล่อรู้สึกได้ว่ามวลพลังที่แผ่ไพศาลออกมาจากร่างของนางนั้นช่างคุ้นเคยอย่างยิ่ง เพราะนางหลอมรากฐานตั้งมั่นขึ้นจากหม้อหลอมสามขาขนาดเล็กชิ้นที่เขาเคยครอบครองนั่นเอง!

เมื่อทั้งสองสบสายตากัน เฉินหุยพลันกระอักกระอ่วนและรีบหลบสายตา         ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว กระนั้นดูเหมือนว่าหญิงสาวนึกอะไรบางอย่างออก จึงเหลือบมองบรรดาผู้อาวุโสจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพบนท้องฟ้า ครั้นไม่เห็นว่ามีหญิงชราอยู่บนนั้นด้วย นางก็กลับมามีท่าทีเย่อหยิ่งอีกครั้ง ก่อนหันกลับไปจ้องหวังเป่าเล่อด้วยสายตาเยือกเย็น

นางมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏสหพันธรัฐ แล้วยังจะมีหน้ามามองข้าด้วยแววตาหยิ่งผยองอีกหรือ… หวังเป่าเล่อหรี่ตา หากเป็นไปได้ ชายหนุ่มเองก็อยากจะเข้าจัดการสังหารเฉินหุยเสีย แต่เขาอยู่ไกลเกินไป แถมยังมีคนมากมายรายล้อมอยู่อีก นอกจากนี้มวลพลังกดดันจากร่างศพสีดำขนาดมหึมาและพลังจากอาวุธเทพก็      หนักหน่วงเกินกว่าจะก้าวขาออกไปได้

กระนั้นความปรารถนาที่จะปลิดชีพอีกฝ่ายก็มากขึ้นทุกขณะ ชายหนุ่มไม่อาจระงับความต้องการของตัวเองได้เลย หม้อหลอมสามขาขนาดเล็กในร่างกายของ    เฉินหุยทำให้เขาปั่นป่วนอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่หญิงชราพรากมันออกมาจากเขา

ข้าจะฆ่านาง! หวังเป่าเล่อหายใจถี่ระรัว ความปรารถนาที่จะปลิดชีพอีกฝ่ายมาถึงขีดสุด ทันใดนั้นเองดอกบัวสีเขียวในร่างกายก็เหมือนจะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจนี้      และเริ่มสั่นสะท้านอีกครั้ง

แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจลงมือจู่โจมได้ เพราะจู่ๆ ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี        ที่ก้มหน้านิ่งเงียบสื่อสารกับผู้นำสหพันธรัฐต้วนมู่ฉืออยู่บนท้องฟ้า กลับขยับร่างกายขึ้นมาเสียก่อน!

ผู้คนรอบตัวท่านผู้นำสหพันธรัฐต่างผงะถอย ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีหันมามองมาไปยังจุดที่เฉินหุยยืนอยู่!

ก่อนหน้านี้มันยังหลับตานิ่งอยู่ แต่ตอนนี้กลับเบิกโพลงขึ้นเผยให้เห็นนัยน์ตาสีดำสนิท!

เพียงแค่ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีหันไปมองเฉินหุย ร่างกายของหญิงสาว     ก็ระเบิดออกเสียงดังสนั่น โลหิตพุ่งกระฉูด เนื้อหนังขาดกระจุยเป็นชิ้นๆ โดยที่นาง    ไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเลยด้วยซ้ำ!

แม้แต่หม้อหลอมสามขาขนาดเล็กในร่างกายของเฉินหุยยังไม่อาจต้านทาน     และสลายตัวเป็นเถ้าถ่านพร้อมกับร่างกายของหญิงสาวไปด้วย…

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างฉับพลันจนทุกคนตกตะลึง เหล่าผู้ฝึกตนขั้น   กำเนิดแก่นในทั้งหลาย หรือแม้แต่ท่านผู้นำสหพันธรัฐเองต่างก็ถึงกับผงะ ก่อนจะเรียกพลังปราณของตัวเองขึ้นมาจนเต็มเปี่ยม ผู้นำสหพันธรัฐเริ่มหายใจหอบลึก     และควบคุมอาวุธเทพ ทำให้ลำแสงสีแดงก่ำของอาวุธเทพดวงดาราแดงแผ่กระจายไปทุกทิศทางอย่างน่าทึ่ง เขารีบเอ่ยขึ้นทันที

“ท่านราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรี เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่ล้ำเส้นกันและกัน!

“ไว้ข้าจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ท่านฟังเอง!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!